ทันทีที่ชายหนุ่มรู้ว่าน้องสาวอีกคนของเขาเดินทางมาจากเมืองไทย ทำให้แดนเนียล หวัง บุตรชายเพียงคนเดียวของปีเตอร์ หวัง กับคุณนายที่หนึ่ง ถึงกับรีบเดินทางกลับมาจากสำนักงานใหญ่เพื่อพบหน้าน้องสาวต่างมารดา
ใบหน้าคมสันแต้มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อคิดว่าเขามีน้องสาวเพิ่มมาอีกคนหนึ่งแล้ว
“น้องสาวฉันมาถึงคฤหาสน์หรือยัง”
“มาถึงแล้วครับนายน้อย”
ชายหนุ่มรีบตอบ สายตาเหลือบมองผู้เป็นนายอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าผู้เป็นนายจะดีใจและตื่นเต้นถึงเพียงนี้ แค่น้องสาวเดินทางมาฮ่องกง เจ้านายถึงกับหยุดงานแล้วสั่งให้เขารีบขับรถกลับมายังคฤหาสน์ประจำตระกูลทันที
“แล้วตอนนี้น้องสาวฉันอยู่ไหนล่ะหย่งเสียน”
“อยู่ที่ห้องโถงครับ” หย่งเสียนพยักหน้าตอบ
“งั้นเอารถไปเก็บเลย วันนี้ฉันไม่ออกไปไหนแล้ว”
แดนเนียลสั่งลูกน้องคนสนิท สองเท้ารีบก้าวเข้าไปในตัวตึกอย่างรวดเร็ว เขาอยากเห็นหน้าน้องสาวต่างมารดาเหลือเกิน คราวนี้แหละชีวิตเขาคงสนุกขึ้นมาอีกเยอะทีเดียว
หย่งเสียนมองเจ้านายหนุ่มไปจนลับสายตาแล้วหันมามองเพื่อนร่วมงาน เขาสงสัยในพฤติกรรมของผู้เป็นนายเหลือเกิน แค่น้องสาวเดินทางมาฮ่องกง ทำไมต้องดีใจตื่นเต้นซะขนาดนั้น
“นายว่านายน้อยแปลกไปมั้ยวะ”
“แปลกตรงไหน” เหวินถังย้อนถามหย่งเสียน
“ก็ดีใจจนเกินเหตุไง แค่น้องสาวเดินทางมาฮ่องกง นายน้อยถึงกับหยุดงานรีบกลับมาคฤหาสน์เพื่อดูหน้าน้องสาวของตัวเอง”
“ฉันไม่เห็นว่ามันแปลกตรงไหน นายน้อยไม่เคยเจอน้องสาวคนนี้เลยสักครั้ง พอน้องสาวเดินทางมาฮ่องกง นายน้อยก็ย่อมดีใจเป็นธรรมดา ฉันว่านายรีบเอารถไปเก็บเถอะ”
“อืมม์” หย่งเสียนรับคำสั้นๆ จากนั้นก็รีบนำรถไปเก็บในโรงรถ
เหวินถังส่ายหน้าไปมากับความอยากรู้อยากเห็นของหย่งเสียน ถึงแม้ความสามารถของหย่งเสียนจะมากมายแค่ไหน แต่บางครั้งก็ชอบสงสัยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเกินไป แล้วหันกายเดินขึ้นบันไดหน้ามุกเข้าไปในตัวตึก เขาเองก็อยากเห็นหน้าค่าตาของบุตรสาวของนายใหญ่เช่นกัน
แดนเนียลเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของหญิงสาวร่างเพรียวระหงที่ถูกบิดาสวมกอดอยู่ มองดูทั้งคู่อย่างสนใจ ดูก็รู้ว่าน้องสาวคนนี้ของเขาต้องสวย น่ารักแน่ๆ แม่ใหญ่บอกว่าแม่สามของเขานั้นสวยหวานและอ่อนโยน สวยชนิดที่ว่าบิดาต้องวางแผนใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้แม่สามมาครอบครอง ดังนั้นน้องสาวต่างมารดาคนนี้ก็ต้องสวยหวานและน่ารักเหมือนแม่สามอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม่ทำงานหรือไงแดนเนียล”
อดีตมาเฟียใหญ่เอ่ยถามบุคคลที่ไม่น่าจะกลับมาบ้านตอนนี้ได้เลยอย่างแปลกใจ แต่แขนทั้งสองข้างยังไม่คลายจากร่างของบุตรสาว ท่านไม่คิดว่าบุตรชายจะกลับบ้านก่อนเวลาเช่นนี้
“ไม่อยากทำครับพ่อ ผมเองก็อยากเห็นหน้าน้องสาวตัวเองเหมือนกัน”
“เหม่ยเยวี่ย นี่คือพี่ชายของลูก”
ปีเตอร์ หวัง เอ่ยกับบุตรสาวอย่างอ่อนโยน สองมือคลายออกแล้วดันร่างเพรียวระหงให้หันไปเผชิญหน้ากับบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านกับภรรยาที่หนึ่ง
ศศิกานต์หันไปตามแรงดันของผู้ให้กำเนิด ดวงตาคู่หวานซึ้งเงยขึ้นมองใบหน้าหล่อคมสันที่ส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้เธออย่างเก้อเขิน เธอไม่นึกว่าพี่ชายต่างมารดาจะแสดงอาการตื่นเต้นดีใจขนาดนี้ กับการที่เธอบินมาฮ่องกงในครั้งนี้
“นี่คือน้องสาวของผมจริงๆ หรือครับพ่อ”
แดนเนียลถามบิดาอย่างประหลาดใจ เพียงแค่สบตาหัวใจก็หวั่นไหว ใบหน้าสวยหวานกับนัยน์ตาหวานซึ้งคู่นั้นมันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก
“ใช่ นี่แหละน้องสาวของแก หนูกานต์ หรือ ศศิกานต์ นนทศักดิ์”
“ชื่อเรียกยากจังครับพ่อ”
“เรียกเหม่ยเยวี่ยก็ได้ค่ะ คุณพ่อตั้งให้กานต์เมื่อหลายเดือนก่อน”
หญิงสาวบอกอีกชื่อให้พี่ชายต่างมารดารู้ ใจจริงเธอก็ไม่อยากใช้ชื่อ ‘เหม่ยเยวี่ย’ สักเท่าไร เพราะชื่อนี้เป็นชื่อที่ปีเตอร์ หวัง ผู้เป็นบิดาเป็นคนตั้งให้เมื่อหลายเดือนก่อน ด้วยเหตุว่าชื่อศศิกานต์มันเรียกยาก ตอนนี้เธอจึงมีชื่อจีนเพิ่มมาอีกชื่อหนึ่ง
“เหม่ยเยวี่ย แปลว่า ดวงจันทร์แสนงาม เป็นชื่อที่เหมาะกับสาวน้อยหน้าหวานคนนี้มากเลย ไหนมาให้พี่ชายคนนี้กอดหน่อยสิครับ”
ชายหนุ่มส่งยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือไปหมายจะดึงร่างน้องสาวต่างมารดาเข้ามากอดอย่างเป็นกันเอง ที่จริงใช่ว่าเขาจะไม่มีน้องสาวหรอก แต่น้องสาวต่างมารดาอีกคนไม่ค่อยกินเส้นกับเขานัก อาจเพราะเขาเป็นลูกคนโตของตระกูล และกำลังจะได้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจทั้งหมดของตระกูลหวัง น้องสาวคนรองจึงไม่พอใจและพาลเกลียดขี้หน้าเขาขึ้นมา
“เอ่อ...”
คนถูกขอกอดถึงกับอึ้งไป ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แม้แต่คนเดียว ขนาดผู้ให้กำเนิดเธอก็ยังไม่อยากให้เข้าใกล้ แล้วชายหนุ่มร่างสูงกำยำ หน้าตาคมสันตรงหน้าเธอ กำลังขอในสิ่งที่เธอไม่อยากทำเอาเสียเลย
ให้เดินเข้าไปกอดเขาน่ะเหรอบ้าหรือเปล่า!
“ฉันเป็นพี่ชายของเธอนะ...เหม่ยเยวี่ย”
“ก็รู้ค่ะว่าเป็นพี่ชาย แต่มันก็...”
“คิดมากจังน้องสาวฉัน”
แดนเนียลหัวเราะเสียงดังลั่นกับกิริยาหวงเนื้อหวงตัวของน้องสาวต่างมารดา ‘นี่ขนาดเขาเป็นพี่ชาย เจ้าหล่อนยังหวงขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น แม่คุณเธอจะให้เข้าใกล้หรือเปล่าหนอ’ โดยที่เจ้าของร่างเพรียวระหงยังไม่ทันได้ตั้งตัว มือหนาก็ยื่นออกไปดึงเธอเข้ามากอดอย่างฉับพลัน
ศศิกานต์เซถลาเข้าไปซุกอยู่ในอกกว้างอย่างไม่ทันตั้งตัว สองแขนยกขึ้นรัดเอวสอบด้วยความตกใจ
เนื่องจากเธอไม่คิดว่าพี่ชายต่างมารดาจะกล้าทำถึงขนาดนี้ จู่ๆ ก็ดึงเธอเข้าไปกอด เลยขยับตัวพร้อมกับออกแรงดันร่างเขาให้ออกห่าง แต่ก็ต้องเหนื่อยเปล่า เพราะต้นแขนแกร่งโอบรัดรอบเอวเธอแน่น
ปีเตอร์ หวัง ได้แต่ยืนอึ้งกับพฤติกรรมของบุตรชาย ไม่นึกว่าจะออกมาในรูปแบบนี้ ดูก็รู้ว่าบุตรสาวของท่านหวงเนื้อหวงตัวมากแค่ไหน แต่เจ้าลูกตัวดีก็ยังกล้าดึงเข้าไปกอดหน้าตาเฉย โชคดีที่ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ไม่อย่างนั้นท่านคงลำบากใจไม่น้อย
“ฉันว่าแกปล่อยน้องได้แล้วแดนเนียล”
“โธ่...พ่อครับ ขอกอดอีกหน่อยไม่ได้หรือครับ”
“น้องเพิ่งเดินทางมาถึง แม่ว่าลูกปล่อยให้น้องไปพักผ่อนดีกว่า เอาไว้เย็นๆ ค่อยคุยกัน”
มาดามหวังบอกบุตรชายเสียงเข้ม สายตาจับจ้องท่าทางของบุตรชายและบุตรสาวของศศิประภาอย่างพิจารณา เจอกันยังไม่ถึงสิบนาทีพ่อตัวดีของนางก็ถลาไปกอดน้องสาวต่างมารดาเสียแล้ว
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับมาดามหวัง”
แดนเนียลรับคำผู้เป็นมารดาอย่างหยอกเย้า เขาก็แค่ดีใจมากไปหน่อย ที่ตนเองมีน้องสาวเพิ่มมาอีกคน แต่ไม่รู้ว่านิสัยของสาวน้อยคนนี้จะดีเหมือนคุณนายสามหรือเปล่า หากมีนิสัยแบบเหม่ยชิง เขาคงเสียดายไม่น้อย นี่ถ้ามารดาเขามีลูกอีกสักคนก็คงดี
“เย็นนี้เจอกันนะครับสาวน้อย”
“เอ่อ...ค่ะ”
ศศิกานต์รับคำอย่างเก้อเขิน เห็นทีเธอต้องศึกษานิสัยใจคอของพี่ชายต่างมารดาผู้นี้เสียหน่อย เพราะขนาดไม่สนิทกันยังถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ หากสนิทกันแล้วมันจะขนาดไหน แล้วจึงหันไปยกมือไหว้ผู้ให้กำเนิดกับแม่ใหญ่อย่างนอบน้อม จากนั้นก็เดินตามสาวใช้ที่ยืนถือกระเป๋าเดินทางของเธอรออยู่ที่บันได
////////////////////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...