"คุณลันทร์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" นิราถามเมื่อเห็นเขาหน้าเครียดถามเพราะอยากมีเรื่องไปรายงานนายไม่ใช่เพราะเป็นห่วง
"คุณป้องภพเขามาที่นี่บ่อยหรือครับ" ศษิลันทร์ถามนิราที่น่าจะได้เจอกับป้องภพบ่อย หรือเห็นเหตุการณ์ที่เขาอาจยังไม่รู้
"หลังๆก็มาบ่อยอยู่นะคะ มาหากษิรา" นิรายุยงส่งเสริม
"มาหาทำไมครับ เรื่องงานยังไม่ถึงรอบดีลที่เรานัดกันทำไมถึงมาบ่อย"
"ก็ไม่รู้สินะคะ นิราเห็นว่ามารับไปทานข้าวบ้าง มารอรับกลับบ้านบ้าง" นิราพูจริงบ้างไม่จริงบ้าง
"คุณป้องภพนี่เขาคุณสมบัติครบนะคะ นิรายังปลื้มเลย" นิราเติมสีเติมไข่ต่อ
"คุณลันทร์ดูแลคุณษิดีๆนะคะ คุณป้องภพดูท่าทางจะสนในตัวเธอเอามากๆ นิราล่ะเป็นห๊วงเป็นห่วง ผู้หญิงด้วยกันดูกันออกค่ะ"
"คุณนิราหมายความว่ายังไงครับ"
"ก็หมายความว่า ถึงคุณลันทร์ของนิราจะดีพร้อมแค่ไหนแต่ถ้ามีคนใหม่ที่น่าสนใจกว่าของแบบนี้ก็ไม่แน่นะคะว่า คนเราอาจจะเปลี่ยนใจกันได้ คุณลันทร์ยังไงก็ยังเป็นลูกของคุณอุณารินทร์ แต่คุณป้องภพเนี่ยเป็นถึงเจ้าของ ทุกอย่างมีเป็นของตัวเองหมดแล้ว ใครได้ไปก็สบายไปตลอดชีวิต"นิราเสี้ยมเป็นตุเป็นตะ แต่แปลกที่ศษิลันทร์เชื่อเพราะความหึงหวงจนหน้ามืดตามัว
"ษิ!" เขากำหมัดแน่นทุบที่โต๊ะ โมโหทั้งที่งยังไม่รู้ความจริงทั้งหมดด้วยซ้ำ บ่างช่างยุช่างเติมเชื่อไฟได้ผลดีเสียจริง
........................................................................................................................
ความจริงจะโทษป้องภพทั้งหมดก็ไม่ถูกเพราะไม่มีใครบอกว่ากษิราเป็นคนรักของศษิลันทร์ แถมเหตุการณ์มันช่างเป็นใจให้เขาเข้าใจว่ากษิราก็มีใจ
"อร่อยมากไหมอาหารมื้อนี้" ศษิลันทร์เดินมากระแทกกระทั้นใส่กษิราเมื่อเธอกลับมาทำงานแล้ว
"ค่ะ" กษิราตอบสั้นพูดไม่ถูก
"ถ้าคุณใจเริ่มเปลี่ยนผมเองก็จะเปลี่ยน และจะเปลี่ยนแบบไม่คิดจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ผมไม่ปล่อยให้คุณไปมีความสุขง่ายๆหรอกนะ ถ้าผมเจ็บคุณก็ควรจะต้องเจ็บ" ศษิลันทร์มาในโหมดความโหด ตอนนี้เขาหึงจนเลือดขึ้นหน้ายิ่งกษิราไม่พูดไม่อธิบายปล่อยให้เขาคิดเอง นับวันเรื่องก็ยิ่งบานปลาย
..........................................................................................................
"กริ๊งงงงงง" เสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของกษิราดังขึ้นพร้อมมีเสียงที่เธอเองก็รู้ว่าใคร
"เธอทำได้ดีนี่กษิรา"
"คุณอุณารินทร์!"
"ไม่ต้องทวนชื่อฉันบ่อยก็ได้ เธอไม่ต้องกลัวว่าจะลืมชื่อฉัน ยังต้องจำไปอีกนาน" อุณารินทร์ยียวนกวนเธอด้วยน้ำเสียงเรียบแต่เหี้ยมเกรียม
"คุณต้องการอะไรคะ"
"ไม่มีอะไรแค่จะโทรมาชมเชยว่าทำผลงานได้ดี ทำต่อไปนะถ้าอยากให้แม่เธอรอด" ไม่มีครั้งไหนที่อุณารินทร์จะไม่ขู่เธอ
กษิราไม่อยู่ในสถานะที่จะต่อกร ได้แค่สกัดกลั้นน้ำตาจนน้ำตาตกใน
"ฉันไปทำอะไรให้คุณนะ คุณอุณารินทร์" คำถามที่เธอยังไม่เคยได้คำตอบ
............................................................................................................
สถานการณ์กำลังร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ แต่คนที่พอใจกับความร้อนรุ่มนี้คงหนีไม่พ้นอุณารินทร์ ผู้อยู่เบื้องหลังทุกๆอย่าง
"ลันทร์ลูก งานที่ดีลกับคุณป้องภพไว้เป็นยังไงบ้างลูกเขาตัดสินใจกับโครงการใหม่เราแล้วหรือยัง" อุณารินทร์ไม่ได้อยากรู้เรื่องงานเท่าไรแต่จงใจที่จะสะกิดลูกชายด้วยชื่อป้องภพ
"ยังครับ ผมอยากได้ผู้ช่วยอื่นมาคุยเรื่องนี้กับคุณป้องภพแทนผม" ศษิลันทร์ทำหน้าลำบากใจ
"อ้าวทำไมล่ะลูก ลันทร์เป็นคนเจรจาพรีเซนต์งานกับเขาตั้งแต่ทีแรก แล้วอีกอย่างลูกเป็นผู้บริหารนะลูก งานบางอย่างก็ให้หนูษิเป็นคนประสานงานก็ได้นะลูก แล้วลันทร์ค่อยปิดท้ายงาน"อุรารินทร์พูดหน้าตาเฉย
"ถึงไม่ใช่เรื่องงานเขาสองคนก็น่าจะคุยกันอยู่นะครับ" น้ำเสียงศษิลันทร์เริ่มแข็งขึ้น
"ลูกหมายความว่าไงจ๊ะ"
"ผมว่าษิกำลังเปลี่ยนใจเหมือนที่คุณแม่สงสัย"
"ตายจริง หนูษิเห็นเรียบร้อยนี่ร้ายลึกนะ แต่แม่ว่าดูไปก่อนนะลูกอย่าเพิ่งใจร้อนเดี๋ยวจะเสียงานใหญ่" อุณารินทร์กึ่งปลอบใจแต่ก็ลองใส่ไข่ลงไปเพิ่ม
"ผมจะพยายามแต่ไม่รับปากนะครับว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน ผมขอตัวก่อนนะครับ" ศษิลันทร์ลุกออกไปจากห้องรับแขกขึ้นห้องนอนของตัวเองไป
อุณารินทร์ยิ้มพอใจในผลที่เกิดเป็นอย่างมาก คืนนี้เธอคงนอนหลับฝันดี
.......................................................................................................................
ตอนนี้บรรยากาศระหว่างศษิลันทร์กับกษิราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
"โครมมม!" เสียงศษิลันทร์โยนแฟ้มลงบนโต๊ะกษิรา
"ผมของานภายในวันนี้ ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับบ้าน ด่วนมาก!" ศษิลันทร์ แกล้งเร่งเอางานจากเธอ คำพูดใส่อารมณ์เต็มที่เหมือนได้ระบายทั้งหมดที่มีในวันนี้
กษิรามองหน้าเขากึ่งรู้และกึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ศษิลันทร์กลายร่างจากสุภาพบุรุษเป็นซาตาน แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรเธอก็พูดไม่ได้อยู่ดี ต่อให้อยากแก้ตัวขนาดไหนก็ไม่สามารถทำได้
"ค่ะ" เธอก้มหน้ารับคำ
งานที่ศษิลันทร์สั่งให้เธอทำ เขาแกล้งมาเร่งเอาทีละงานเป็นระยะๆเลยทำให้กษิราไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย จนเวลาล่วงเข้า4โมงเย็น ป้องภพก็แวะเวียนมาที่ออฟฟิศที่เธอทำงานอยู่อีก หวังจะรอรับเธอกลับบ้านตอนเย็นด้วยกัน
"คุณษิครับ พอดีผมผ่านมาคุยงานแถวนี้ เสร็จธุระไวก็เลยขอมานั่งรอนะครับ ยังไงทางไปบ้านผมต้องผ่านแถวบ้านคุณอยู่ดีเดี๋ยวผมรอรับคุณไปด้วยกันเลยนะครับ" น่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญร้อยเปอร์เซ็นอย่างที่ป้องภพอ้างหรอก
"คุณป้องภพไม่ต่อรอษิก็ได้ค่ะษิเกรงใจ งานษิยังมีอีกเยอะค่ะ" เธอปฏิเสธเขาด้วยความจริง
"ษิ เสร็จหรือยังจ๊ะ คุณลันทร์ขอแฟ้มที่ต้องใช้วันพรุ่งนี้ตอนนี้เลยจ้ะ" นิราเดินมาเร่งงานตามคำสั่งของศษิลันทร์
"ได้ๆแล้วค่ะ"
"งั้นเอาไปให้คุณลันทร์ด้วยค่ะ" นิราสั่งแล้วก็เดินกลับไป
กษิราลุกขึ้นและขนแฟ้มงานไปเต็มสองมือ แต่ด้วยความที่เธอไม่ได้ทานข้าวกลางวันเธอจึงวูบเป็นลมไป ป้องภพซึ่งอยู่ตรงนั้นจึงรีบลุกมาประครอง
"คุุณษิเป็นอะไรไปครับ น่าซีดเชียว" เขาประคองเธอไปนั่งที่โซฟารับแขกด้านข้าง
โชคไม่เข้าข้างกษิราเลย ศษิลันทร์เห็นว่าเธอไม่เอางานเข้าไปให้เสียทีจึงเดินออกมาดูเองที่โต๊ะ ก็พบว่าเธออยู่ในอ้อมกอดของป้องภพที่โซฟารับแขก
นิราที่เดินมาดูด้วยจึงพัดให้เพลิงโหมกระหน่ำเข้าไปอีก
"ตายแล้วคุณษิ มานั่งจู่จี๋อะไรกันที่ออฟฟิศเนี่ย งานก็ยังไม่เสร็จ นี่คงจะเห็นคุณป้องภพมาเลยอู้งานล่ะสิไม่ไหวเลยเด็กคนนี้"
คงไม่ต้องบอกว่าศษิลันทร์ควันออกหูขนาดไหน แต่ด้วยป้องภพคือลูกค้าคนสำคัญของอุณารินทร์ถ้าเป็นคนอื่นคงได้มีลงไม้ลงมือต่อกันเป็นแน่
"คุณนิรา ไปจัดการเอาแฟ้มงานมาให้ผมที!" ศษิลันทร์พูดแล้วกระฟัดประเฟียดกลับห้องทำงานตัวเองไป
นิรายิ้มปลื้มที่ตัวเองยุยงสำเร็จงานนี้คงได้รับคำชมหรือเงินเดือนขึ้นแบบงามๆจากอุณารินทร์แน่นอน
..................................................................................................................
"โธ่เว้ย!" ศษิลันทร์ขว้างปาข้าวของลง ปัดเอกสารกระจัดกระจาย โมโหหึงอย่างแรงที่ถูกหยามถึงที่ เขาเข้าใจผิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องการคำอธิบายใดๆเพราะเชื่อในสิ่งที่เห็น และอันที่จริงก็เป็นเพราะกษิราเองหลีกเลี่ยงไม่พูดจากับเขา นี่คือต้นเหตุที่จะทำให้เขาคิดเป็นอื่นไม่เชื่อใจเธอ
"เพราะเงิน ความทะเยอทะยานใช่ไหมษิ ถ้าคุณทำกับผมได้ขนาดนี้ ผมจะไม่ยอมให้คุณไปมีความสุขเด็ดขาด คุณจะต้องเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้" ศษิลันทร์กล่าวอาฆาตคนรักไว้ หรือตอนนี้อาจเริ่มกลายเป็นแค่คนเคยรักแล้วก็ได้
บทเขาจะรักก็รักหมดใจแต่ถ้าบทจะร้ายก็ร้ายสุดตัว!
..........................................................................................................