เมื่อศษิลันทร์กลับมาที่บ้านอุณารินทร์ถามถึงกษิราแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน
"ตาลันทร์กลับมาแล้วหรือลูกเป็นยังไงบ้างทำงาน เหนื่อยไหม"
"โอเคดีครับคุณแม่กำลังค่อยๆเรียนรู้"
"แล้วหนูษิล่ะเป็นอย่างไรบ้าง"
"ษิเขาเก่งอยู่แล้วครับแต่ว่า เขาคงต้องลางานสักสองสามวันครับ คุณแม่ของษิป่วยอาการโรตหัวใจกำเริบ"
"ตายจริง แล้วเป็นอะไรมากไหมลูก"
"ผมก็ยังไม่ทราบอาการครับแต่คิดว่าคงยังไม่น่าเป็นห่วงมากแต่ษิเคยเปรยให้ฟังว่ายังไงก็ต้องให้แม่เข้ารับการทำบายพาสหัวใจ"
"บอกษินะลูกว่ามีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกมา" อุณารินทร์แสดงภาพนางฟ้าในสายตาลูกชาย
"ครับคุณแม่ ถ้าษิรู้ว่าคุณแม่ใจดีกับเขาขนาดนี้ดีใจแย่เลย"
"ลูกรักใครแม่ก็ต้องรักด้วยสิ"
.................................................................................................................
อุณารินทร์จงใจจะเข้าออฟฟิศวันที่คาดว่ากษิราน่าจะกลับมาทำงานแล้ว เธอบอกให้นิราพยายามจัดสรรงานให้กษิราและศษิลันทร์ออกไปทำงานด้วยกันบ่อยๆมีศษิลันทร์ที่ไหนต้องมีกษิราที่นั่นอย่าแยกกันเด็ดขาด
"นิราเดี๋ยวให้แม่กษิราเข้ามาพบฉันที่ห้องทำงานด้วยนะ" อุณารินทร์โทรหานิราผู้ช่วยผู้รู้ใจ
"ได้ค่ะ"
"ก็อกๆๆขออนุญาตค่ะ" เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนกษิราก้าวเข้ามา
"สวัสดีค่ะคุณแม่" กษิรายกมือไหว้
"นั่งสิ" อุณารินทร์ลืมตัวเสียงแข็ง
"ขอบคุณค่ะ"
"ได้ข่าวว่าคุณแม่หนูไม่สบายหรือจ๊ะ"
"ค่ะ ท่านเป็นโรคหัวใจค่ะ"
"เป็นอะไรมากไหม"
"ตอนนี้ดีขึ้นค่ะแต่ษิกำลังเตรียมหาโรงพยายาบาลให้คุณแม่เข้ารับการรักษาอยู่ค่ะ"
"แล้วได้หรือยังโรงพยาบาล"
"ยังเลยค่ะ ราคาค่อนข้างสูงษิก็กำลังเก็บเงินอยู่ด้วยค่ะ"
"ให้แม่ช่วยอะไรไหมจ๊ะ เอ...หรือจะช่วยดีลกับทางโรงพยาบาลให้เรื่องค่ารักษาคุยกันได้จะทยอยจ่ายก็ได้แม่รู้จักหมอเก่งๆเจ้าของโรงพยาบาลก็พรรคพวกแม่ทั้งนั้น"
"จริงหรือคะคุณแม่ ขอบพระคุณมากเลยค่ะ"
"ยังไงก็แจ้งชื่อนามสกุลของแม่หนูไว้กับนิรานะเดี๋ยวแม่จะให้นิราช่วยประสานงานให้เบื้องต้นอาจจะไปตรวจอาการและคุยกับหมอก่อน" อุณารินทร์ขุดหลุมล่อเหยื่อ
"ได้ค่ะ ขอบพระคุณคุณแม่อีกครั้งนะคะ"
"หนูษิกลับไปทำงานเถอะแม่มีเรื่องอยากถามเพียงแค่นี้"
กษิราเดินยิ้มออกไปนึกซาบซึ้งใจที่แม่ของคนรักเอ็นดูตนมากขนาดนี้
"นิรา เดี๋ยวแม่กษิราจะเอาชื่อนามสกุลของแม่เขาที่เป็นโรคหัวใจไปให้เธอนะ ช่วยดีลกับโรงพยาบาลให้ฉันด้วยนัดแนะไปตรวจอาการและประเมิณการผ่าตัดได้เลย อ่อแจ้งให้ฉันรู้ด้วยนะว่าค่าใช้จ่ายเท่าไร ฉันขอหมอที่เก่งที่สุด" อุณารินทร์โทรไปสั่งผู้ช่วยสาวทันที
.....................................................................................................
"คุณษิคะ นิติดต่อเรื่องโรงพยาบาลให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณษิพาคุณแม่ไปพบคุณหมอได้เลยนะคะ นี่ค่ะใบนัด" นิราเดินเข้ามาบอกเธอพร้อมยื่นเอกสารใบนัดให้เธอ
เมื่อกษิรารับเอกสารมาจากนิรากับนิราเรียบร้อยแล้วเธอก็เล่าให้ศษิลันทร์ฟังด้วยความปลื้มใจ
"คุณแม่ลันทร์ท่านเมตตาษิมากเลยนะคะ"
"เห็นไหมษิผมบอกแล้วว่าคุณแม่ต้องรักคุณเหมือนที่ผมรัก" ศษิลันทร์หยอดสาวคนรัก
"ค่ะลันทร์"
ทั้งสองยิ้มปลื้มมีความสุขที่ช่างโชคดีในความรักเสียนี่กระไร
และเมื่อกลับบ้านเธอก็รีบนำข่าวดีนี้ไปบอกพ่อกับแม่ของเธอ
"จริงหรือลูก แต่แม่ว่าเกรงใจคุณแม่ของลันทร์เขานะ" ภัทรทิมาดีใจแต่ก็ลำบากใจนิดๆ
"แม่ไม่ต้องคิดมากนะคะคุณแม่ลันทร์ท่านใจดีกับษิมากค่ะแล้วอีกอย่างเราไม่ได้รักษาฟรีนะคะแต่ษิจะผ่อนชำระให้เขา" ลูกสาวอธิบาย
"ใช่คุณเราไม่ได้รักษาฟรีเพียงแค่เขาเมตตาอนุญาตให้เราผ่อนชำระได้ พ่อว่าก็ดีนะ" ธนาวัฒน์สนับสนุน
"งั้นก็ได้จ้ะลูก" ภัทรทิมายอมตามใจลูกและสามี
............................................................................................................
"เป็นอย่างไรบ้างหนูษิ พาคุณแม่ไปตรวจร่างกายกับคุณหมอแล้วใช่ไหม" อุณารินทร์เอ่ยถามเมื่อเจอหน้ากันอีกครั้งที่ออฟฟิศ
"ใช่ค่ะคุณแม่ษิเอาใบนัดให้คุณพ่อพาคุณแม่ไป ษิจะพาไปเองแต่คุณพ่อไม่ยอม ตายายเขาอยากจะดูแลกันค่ะ" กษิราพูดไปไม่ได้คิดอะไรแต่แทงใจคนฟังเหลือเกิน
"รักกันดีนักนะ" อุณารินทร์ได้ยินดังนั้นก็กราดเกรี้ยวอยู่ในใจไม่สามารถแสดงออกได้ ดังไฟสุมอยู่ในอก ได้แค่กำหมัดแน่น
"ดีแล้วจ้ะ" อุณารินทร์จำใจพูดและเดินออกไป
..........................................................................................................
"พ่อคะ ไปหาหมอมาเป็นอย่างไรบ้าง" เมื่อพักเบรคกษิราก็รีบโทรหาผู้เป็นพ่อเพื่อถามไถ่อาการ
"คุณหมอเขาก็ให้คำปรึกษาและแนะนำดีนะ แล้วก็ยังบอกอีกว่าแม่ควรจะต้องรีบทำบายพาสหัวใจเพราะเส้นเลือดมันค่อนข้างตีบเป็นสาเหตุที่แม่เขาอาการกำเริบถี่ขึ้นในระยะหลังๆมานี้" ธนาวัฒน์สาธยาย
"คุณหมอนัดวันให้แล้วหรือเปล่าคะ"
"ยังไม่ได้วันที่แน่นอนแต่ทางโรงพยาบาลจะพยายามหาคิวให้เร็วที่สุดลูก"
กษิราเป็นห่วงแม่ขึ้นมาทันทีแต่อย่างน้อยก็ใจชื้นตรงที่ได้หมอและที่รักษาแล้ว
เธอนึกขอบคุณอุณารินทร์ขึ้นมาที่ช่วยแม่ของเธอเอาไว้
อุณารินทร์ต้องการช่วยแม่ของเธอจริงๆ หรือเธอกำลังตกหลุมพรางอยู่นะกษิรา!
.....................................................
เมื่ออุณารินทร์ใช้เส้นสายของตัวเองในการบล็อคโรงพยาบาลต่างๆว่าหากมีคนชื่อ ภัทรทิมา ไพศาลเดชกิจ เข้ามาขอการรักษาขอให้ปฏิเสธไป
และหลังจากที่แน่ใจว่ากษิราพาแม่ของตนไปรับการตรวจวินิจฉัยและรอการนัดเข้าผ่าตัดแล้วเธอก็เริ่มเผยธาตุแท้ทันที
"นิรา ตามกษิรามาพบฉันที่ห้องทำงานด้วย ไม่ต้องให้ตาลันทร์รู้นะ" อุณารินทร์สั่งผู้ช่วยสาว
"งั้นต้องหาจังหวะหน่อยนะคะ เพราะคุณษิกับคุณลันทร์อยู่ด้วยกันตลอด" นิราอธิบาย
"ก็ไปหาทางมาสิ!" อุณารินทร์ขึ้นเสียงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
"ค่ะได้ค่ะ"
นิราต้องออกอุบายว่าพาเธอไปดูงานกษิราถึงได้ปลีกตัวออกมาโดยที่ศษิลันทร์ไม่มีคำถามว่าจะพาเธอไปไหน
"คุณษิคะ นิราอยากให้คุณไปดูงานเพื่อที่จะเอามาเตรียมข้อมูลใช้ในการประชุมครั้งถัดไปค่ะ"
"ให้ผมไปดูด้วยไหมครับ" ศษิลันทร์อยากตามไปดู
"ไม่ต้องดีกว่าค่ะ คุณษิเป็นผู้ช่วยควรจะเรียนรู้และสามารถเตรียมข้อมูลให้คุณได้เองโดยไม่ต้องมีใครสอน คุณลันทร์เป็นผู้บริหารงานส่วนนี้ค่อยฟังการสรุปจากคุณษิก็พอค่ะ" นิรารีบตัดบท
"อืม ก็จริงนะ เอาเป็นว่าถ้าษิติดตรงไหนค่อยมาปรึกษาผมแล้วกัน" ศษิลันทร์หันไปบอกคนรัก
"ได้ค่ะลันทร์ไม่ต้องเป็นห่วงษิทำได้" กษิราหันกลับไปตอบเสียงสดใส
นิรารีบพาเธอตรงไปที่ห้องอุณารินทร์ทันที
"เอ๊ะนี่มันทางไปห้องทำงานคุณอุณารินทร์นี่คะ" กษิราสงสัย
"ใช่ค่ะต้องเรียนรู้งานกับคุณอุณารินทร์ก่อนค่ะ" พูดเสร็จและถึงหน้าห้องพอดีนิราก็เปิดประตูให้กษิราเดินเข้าไป
"สวัสดีค่ะคุณแม่ เห็นคุณนิราบอกว่าให้ษิมาเรียนรู้งานกับคุณแม่ค่ะ" กษิรายังงงๆอยู่ว่าทำไมต้องเป็นอุณารินทร์
"นั่งก่อนสิแม่ษิ ใช่ฉันสั่งนิราเอง" อุณารินทร์มองเธอแบบเฉยเมยและสรรพนามเริ่มห่างเหิน
"เธอคบกับตาลันทร์มานานแค่ไหน"
"ก็...ตั้งแต่ลันทร์อยู่ปีหนึ่งค่ะษิอยู่ปี4"
"อืม ก็ประมาณ 4- 5 ปีได้ แล้วช่วงที่เธอเรียนจบออกไปก่อนเธอไปทำอะไร"
"ษิช่วยคุณพ่อคุณแม่ดูแลร้านน่ะค่ะ"
"อ่อ รอให้ตาลันทร์ชวนเข้ามาทำงานที่นี่สินะไม่คิดจะดิ้นรนอะไรเอง รอผู้ชายช่วยว่างั้นเถอะ" อุณารินทร์ค่อนขอดเธอ
กษิราถึงกับนิ่งเงียบไปกับคำพูดของว่าที่แม่สามีเธอในอนาคต
"เธอคิดว่าไอ้เวลา 4-5 ปีที่เธอคบกับตาลันทร์มามันนานมากพอที่เธอจะแน่ใจได้ไหมว่าเธอรักศษิลินทร์จริง"
"หมายความว่ายังไงคะคุณแม่" กษิรายังคงไม่เข้าใจสิ่งที่อุณารินทร์ต้องการจะสื่อ
"เธอมีหน้าที่ตอบไม่ใช่ถามกลับ" อุณารินทร์น้ำเสียงเริ่มไม่เป็นมิตรอย่างที่เคย
"ษิมั่นใจค่ะว่ารักลันทร์ไม่น้อยไปกว่ารักตัวเอง หรืออาจจะมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำไป" กษิราคิดว่านี่อาจจะเป็นคำถามลองใจ
"ดี ถ้าอย่างนั้นต้องพิสูจน์"
"ษิยินดีจะพิสูจน์ความรักความจริงใจที่ษิมีต่อลันทร์ค่ะ" เธอตกหลุมเข้าเต็มตัวเพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบทพิสูจน์มันคืออะไร
"แปะๆๆๆๆ" อุณารินทร์ปรบมือให้แทนคำพูดแต่ดูเหมือนมันเป็นการประชดประชันกันเสียมากกว่า
"ดี! งั้นฉันไม่อ้อมค้อมนะ ไม่ว่าเธอจะรักตาลันทร์มากแค่ไหนแต่ฉันจะขอให้เธอทำให้ตาลันทร์หมดรักเธอให้ได้"
"อะไรนะคะ!" กษิราตกใจไม่เชื่อสิ่งที่หูเธอได้ยิน
"เธอฟังไม่ผิด ฉันขอสั่งให้เธอทำให้ตาลันทร์หมดรักเธอ"
"ษิทำไม่ได้ค่ะแล้วทำไมษิต้องทำษิไม่เข้าใจ"
"ฉันว่าเธอต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดและต้องทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับรองนะว่าแม่ของเธอจะได้รับการรักษาโรคหัวใจหรือเปล่า เท่าที่ฉันรู้มาถ้าแม่เธอไม่รีบรักษาหรือทำบายพาสหัวใจให้เร็วที่สุด ไอ้อาการเส้นเลือดหัวใจตีบนี่มันตายได้ดื้อๆตลอดเวลาเลยนะ"
"ษิไม่ยอมทำแบบนั้นแน่ อย่างมากษิก็แค่เปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่" กษิรายืนขึ้นกำมือแน่นเหมือนจะต่อต้านอุณารินทร์
"ก็ลองดูเธอคิดว่าเธอกำลังสู้อยู่กับใครแม่กษิรา" อุณารินทร์ถลึงตาโตใส่เธอ
"คุณต้องการอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้" กษิราเสียงแข็งโต้กลับบ้าง
"เธอได้รู้แน่ว่าเพราะอะไรแต่ไม่ใช่ตอนนี้ เธอไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อรองฉันได้" อุณารินทร์มั่นใจเกินร้อยว่าเธอถือไพ่เหนือกว่า
"อ่ออีกอย่างเรื่องระหว่างเราในวันนี้ถ้าเธอไปบอกตาลันทร์ล่ะก็ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของพ่อแม่เธอ แต่จะว่าไป ต่อให้เธอพูดตาลันทร์ก็ไม่มีวันเชื่อเธอหรอก" อุณารินทร์ทั้งข่มทั้งขู่
"ษิขอตัวก่อนนะคะ แล้วษิจะถือว่าเราไม่เคยคุยเรื่องนี้กันเลย" กษิรายกมือไหว้ลาพร้อมเดินออกไป
"ฉันรอเธอเดินกลับมาขอร้องฉันอยู่นะกษิรา" อุณารินทร์พูดเสียงเบาอย่างใจเย็นหรือจะเลือดเย็นก็ไม่ปาน
.................................................................................................................