ศษิลันทร์พากษิราออกมาข้างนอกแต่ไม่บอกจุดหมายปลายทาง เหมือนขับรถเล่นไปเรื่อยๆ ชมวิวกินลม
"ตกลงเราจะไปดูงานกันที่ไหนคะ" กษิราถามเมื่อยังไม่รู้จุดหมายปลายทางเสียที
"ขับรถเล่น" ศษิลันทร์กวนลอยหน้าลอยตา
"อะไรนะ? ที่ลันทร์ให้ษิเสียมารยาทกับคุณป้องภพที่แท้คือโกหกหรือคะ"
"อะไรก็ป้องภพนะเดี๋ยวนี้" ศษิลันทร์ไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินชื่อนั้น
"ลันทร์ทำแบบนี้ทำไม มันเสียมารยาทและเสียเวลางานนะคะ พอษิทำงานให้ไม่ทันลันทร์ก็จะมาว่าษิอีก" เธอโมโหที่โดนแกล้ง
"แล้วษิล่ะทำแบบนี้ทำไม" เขาย้อนบ้าง
"ษิทำอะไรคะ"
"ก็ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ หลบหน้าผมแบบไม่มีสาเหตุ ถามอะไรก็ไม่ตอบ อยู่ดีๆก็เอาใจไปให้นายป้องภพ ษิมีเหตุผลอะไร"
"ใจมันห่างไปแล้วต้องมีเหตุผลด้วยหรือคะ" กษิรากัดฟันตอบ
"ผมไม่น่าถาม รู้ทั้งรู้!" เขาประชดกระแทกเสียง
"งั้นต่อไปกรุณาอย่าถามคำถามนี้อีกนะคะ" ที่บอกแบบนี้คือเธอไม่อยากฝืนใจเจ็บอีก
"ได้ ต่อไปนี้จะเชื่อมั่นในสิ่งที่เห็น ไม่ต้องถามอีก" ต่อให้เขาจะหึงจนหน้ามืดและปักใจเชื่อไปแล้วว่ากษิราปันใจไปให้คนอื่นแต่เขาก็ยังมีสิ่งที่ค้างคาใจเพราะมันช่างรวดเร็วเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้นที่กษิราเปลี่ยนใจ โดยนิสัยที่เขารู้จัก เธอไม่น่าจะใช่คนแบบนั้นเลย
"ขอบคุณนะคะที่กรุณา" เธอประชดกลับบ้าง
"เอี๊ยด" เสียงเขาเบรครถกระทันหันอย่างแรง
"โอ้ย" หน้าของเธอแทบจะกระแทกกับคอนโซลหน้ารถ เธอหันหน้าไปมองค้อนเขาอย่างแรง
"ขอโทษที ขับรถเลย" เขาจงใจแกล้ง แล้วศษิลันทร์ก็ถอยรถและเลี้ยวเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
คนอะไรทำอะไรเขาไม่ได้ก็แกล้งกวน แกล้งทำให้เขาเจ็บตัวเล่นเสียอย่างนั้น
"พักก่อน ผมหิว"
"หิว?ตกลงคือไม่ต้องกลับไปทำงานแล้วใช่ไหมคะ" กษิราเริ่มหัวเสียว่าเขาเล่นอะไรอยู่
"ไม่ เป็นเลขามีหน้าที่ทำตามนายก็ทำ" เขาตอบหน้าตาเฉยไม่สนไม่แคร์โลกวันนี้อารมณ์ล้วนๆ
กับคนเป็นแม่ก็บังคับจิตใจราวกับนางมารร้ายส่วนลูกก็กวนประสาท โอ้ย...กษิราเวรกรรมอะไรกันนะ
...........................................................................................................
"อีกสองสัปดาห์ อุณารินทร์ สยามเอสเตทจะมีงานขอบคุณลูกค้า ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่" อุณารินทร์เปรยกับลูกชาย
"ครับคุณแม่"
"แม่เองก็จะมาร่วมในงานนี้ด้วยแต่ลันทร์คงต้องเป็นหัวเรือใหญ่ ไปสั่งการดีๆล่ะแม่จะให้นิรามาคอยช่วยด้วย"
"ได้ครับ ว่าแต่คุณแม่จะเชิญใครมาบ้างครับ"
"ก็คงจะมีแต่ลูกค้าระดับแนวหน้าของเรานั่นแหล่ะ โดยเฉพาะคุณป้องภพถ้าไม่ชวนคงไม่ได้" อุณารินทร์หยอดความกดดันให้ลูกชาย
ศษิลันทร์ได้ยินชื่อนี้แล้วแทบจะกลืนแม้กระทั่งน้ำลายตัวเองไม่ลงคล้ายมีวัตถุก้อนใหญ่จุกอยู่ที่คอหอย
"ครับ" นาทีเขาพูดเป็นอยู่แค่คำเดียว
"คุณแม่ครับไร่ชาที่ทางเหนือของเราตอนนี้ใครดูแลอยุู่ครับ" ศษิลันทร์เปลี่ยนเรื่องคุย
"ก็สมชายลูกน้องเก่าของคุณพ่อแล้วก็คนงานหลักๆไม่กี่คน ไร่เล็กๆไม่ใหญ่มากหรอกลูก จ้างคนในพื้นที่ทำ นานแล้วสินะที่ลันทร์ไม่เคยได้ไป ครั้งสุดท้ายแม่จำได้ว่า
ลันทร์ไปวิ่งเล่นตอนเด็กๆ ถามทำไมหรือจ๊ะ" อุณารินทร์เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีก่อนตบท้ายด้วยคำถาม
"ไม่มีอะไรครับผมก็แค่นึกขึ้นมาได้" ศษิลันทร์ยิ้มบางแล้วหลบตามารดา
"แต่ถึงจะเป็นไร่เล็กๆแต่ก็ให้ผลผลิตดีไม่น้อยนะลูก แต่จะให้แม่ไปอีกตอนนี้คงไม่ไหว ไกลเหลือเกิน พ่อแกก็ช่างไปซื้อที่บนเขาบนดอย" อุณารินทร์นึกถึงวันวาน
"ไร่เล็กๆไกลๆอย่างนั้นหรือ" ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวศษิลันทร์
...........................................................................................................................
"คุณษิเดี๋ยวทางบริษัทเราจะมีงานอีเว้นท์ขอบคุณลูกค้า นิราอยากให้คุณษิคอยต้อนรับลูกค้าวีไอพีโดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่อย่างคุณป้องภพนะคะ แขกท่านนี้สำคัญกับเรามาก" นิราแจ้งข่าวเรื่องงานให้กษิราเตรียมตัว แต่ก็เหมือนช่วยยัดเยียดกันเป็นการล่วงหน้าว่าห้ามหนีจากป้องภพไปไหน
"ค่ะ แล้วต้องดุแลท่านอื่นด้วยไหมคะ"
"ก็ด้วยเหมือนกันค่ะแต่สำหรับคุณป้องภพอยากให้ประกบเป็นพิเศษ คุณษิไม่ติดอะไรใช่ไหมคะ" นิราแกล้งย้อนถามดูเชิง
"ไม่ค่ะ แล้วษิต้องทำอะไรบ้างคะ" ปากบอกไม่ติดแต่ใจก็คิดถึงความลำบากใจที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่ทุกขณะ เธอคงต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับศษิลันทร์ที่พร้อมจะกระทบกระทั่งเธอ
"ดูแลตั้งแต่เวลางานเริ่มเลยค่ะ พาไปลงทะเบียนที่งาน รวมไปถึงเทคแคร์ตลอดจนจบงานเพราะเรามีจัดอาหารและเครื่องดื่มไว้ต้อนรับลูกค้าทุกท่านด้วยคุณษิน่าจะถนัด"
พูดรวมๆแต่ก็จิกเหน็บในที
"ค่ะ ษิทำได้ค่ะ" กษิราสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็สูดลมหายใจเข้าแล้วตอบไปแค่ว่าค่ะเพียงเท่านั้น
"เรื่องสถานที่นิติดต่อออแกไนซ์ให้มาจัดการ คุณษิแค่ประสานงานและดูความเรียบร้อยภายในงานนะคะถ้ามีปัญหาอะไรสอบถามนิได้ค่ะ" นิราบรีฟงานให้เป็นรายการสุดท้ายก่อนเดินจากไป
"รับทราบค่ะ ขอบคุณค่ะ"
"เฮ้ออ อย่ามีเรื่องอะไรเลยนะกษิรา" หลังจากที่นิราเดินออกไปเธอก็ถอนหายใจนั่งลงเก้าอี้เหมือนหวั่นใจว่าอนาคตจะเจออะไรอีกบ้าง
"ปัง! มัวใจลอยคิดถึงใคร" เสียงตบโต๊ะทำกษิราสะดุ้งอย่างแรง
"อะไรกันคะ?" กษิราเงยหน้ามองต้นเสียง
"ทำงานครับอย่ามัวแต่นั่งเหม่อ ยินดีด้วยนะที่จะได้ประกบคุณก้องภพสุดที่รัก" จะเป็นใครได้ที่จะประชดเธอแบบนี้นอกจากศษิลันทร์ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเรียกเขาว่าเป็นคนรักหรืออดีตดี
"ค่ะ ษิทำแน่ ขอบคุณนะคะทีเข้าใจว่าใครคือที่รักของษิ" กษิราโดนเขาเหน็บแนมอยู่ฝ่ายเดียวมานานตอนนี้เธอเริ่มหมั่นไส้เขาและอยากที่จะสู้กลับบ้าง
"ดี! เก่งให้ตลอดแล้วกัน" เขาเจ็บใจที่เธอตอกกลับเขาด้วยคำพูดแทงใจ เขาเดินกลับไปที่ห้องทำงานตัวเองแบบดื้อๆเสียอย่างนั้น
..........................................................................................................
"คุณนิครับ ผมได้สรุปงานที่คงค้างอยู่อยากให้คุณนิช่วยสานต่อให้ผมหน่อย" ศษิลันทร์เดินไปหานิราเองถึงโต๊ะทำงานและแจ้งเรื่องกับเธอ
"ได้ค่ะ แต่...โอ้โหทำทิ้งไว้เสียละเอียดแบบนี้คุณลันทร์จะไปไหนคะ" นิราดูรู้ว่าส่งงานเหมือนจะไม่มาทำงาน
"หลังจากจบงานขอบคุณลูกค้าของคุณแม่ผมอยากไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างประเทศหน่อยครับ รู้สึกเหนื่อยๆ" ศษิลันทร์พูดไม่หมด
"ไปกับคุณษิหรือคะ" นิราแกล้งถาม
"ไปคนเดียวครับ ไม่ก็อาจจะไปกับเพื่อนผู้ชายสมัยเรียนมหาวิทยาลัยน่ะครับ ษิเขาคงไม่อยากไปกับผมหรอก" เขาแกล้งปูทางเอาไว้แบบนั้น
"แล้วคุณลันทร์กะว่าจะไปนานสักแค่ไหนคะ"
"ไม่มีกำหนดครับไปพักหัวใจหน่อย" เขาตอบไม่ลงรายละเอียดแล้วเดินจากไป
ศษิลันทร์แกล้งตีหน้าเศร้าเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างแต่พอหันหลังกลับแล้วเขาก็ยิ้มมุมปาก
......................................................................................................