เด็กงอแง

1238 Words
        เด็กสาวยิ้มกว้างออกมาทั้งน้ำตาแล้วโผเข้ากอดอาพลางหอมแก้มเสียฟอดใหญ่ ชายหนุ่มหัวเราะลั่น         “ เฮ้ย ขี้มูกขี้ตาเปื้อนแก้มอาหมดแล้ว ”         “ ไม่มีสักหน่อย ” เธอว่าแล้วพลางหัวเราะไปด้วย แล้วบรรยากาศอันตึงเครียดก็คลี่คลายลงเมื่อสองอาหลานเข้าใจกันดี         “ ไปหาอะไรกินข้างนอกกัน เดี๋ยวอาเลี้ยงเอง มีเมนูอะไรแนะนำอาบ้าง ”         “ โอ้โฮ มีเยอะเลยค่ะ หมูกระทะบุฟเฟต์ตรงข้ามอำเภอ นอกจากหมู่แล้วยังมีทั้งกุ้งหอยปูหมึกไม่อั้น ยำ ส้มตำ สเต็ก ของทอด ไอติม หนมหวาน.. ”         “ พอ ๆ เชื่อแล้วว่าเยอะจริง ” อาใหญ่เบรกคนที่กำลังสาธยายรายการของกินก่อนจะออกไปด้วยกัน         สองอาหลานสนทนาแลกเปลี่ยนชีวิตของตัวเองอย่างออกรสสนุกสนาน อาใหญ่สั่งเบียร์มาดื่มสองขวดและอนุญาตให้หลานสาวดื่มได้หนึ่งแก้ว         กลับมาถึงบ้าน อาใหญ่จัดการอาบน้ำอาบท่า แยมก็เช่นกัน เธออาบอีกครั้งเพราะกลิ่นควันจากร้านหมูกระทะ ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วพึ่งนึกได้ว่าแล้วอาใหญ่จะนอนที่ไหน จึงลงไปข้างล่าง พบว่าอาใหญ่นอนอยู่บนโซฟาที่ห้องรับแขก         “ อาจะนอนตรงนี้เหรอคะ ”         “ อืมใช่ เออ อาว่าจะขอผ้าห่มสักผืนน่ะ ”         “ มันไม่สบาย ไปนอนในห้องกับหนูก็ได้ค่ะ เตียงหนูเบ้อเริ่ม ” คำพูดใสซื่อของหลานกลับทำให้คนเป็นอาชะงัก         “ ไม่ดีกว่า อาขอนอนตรงนี้แหละ ”         “ ทำไมล่ะคะ ตอนเด็ก ๆ อาก็มานอนกับหนูออกจะบ่อย ”         “ ก็ตอนนี้หนูตัวโตแล้ว เดี๋ยวนอนดิ้นมาทับอาขี้แตก ” เขาพูดขำ ๆ เธอทำปากยื่น         “ โห่ หนูตัวนิดเดียว อานั่นแหละ ตัวบิ๊กเบิ้ม ”         “ งั้นก็ยิ่งไม่ดีใหญ่ เพราะเดี๋ยวอาทับหนูขี้แตก ”         “ อาใหญ่อย่าเรื่องมากสิคะ น้า ไปนอนกับหนูน้าเล่านิทานให้หนูฟังด้วย ” หลานสาวเร้าหรือพลางไปดึงแขนกำยำของคนเป็นอา จนกระทั่งเขาใจอ่อนเดินตามเธอขึ้นไปบนห้อง         เมื่อเข้าไปในห้อง ทั้งคู่นอนบนเตียงกว้างแล้ว เธอก็เข้าไปนอนหนุนแขนเขาเหมือนสมัยเด็ก ๆ         “ เอาเรื่องบ้านหนมปัง ” คนเป็นอาหัวเราะลั่น         “ นี่ เป็นสาวแล้วยังจะอยากฟังนิทานอีก ”         “ น้าค้าาา ” เธอออดอ้อนพลางเงยหน้าทำตาเว้าวอน แน่นอนว่าอาใหญ่ก็ทนลูกอ้อนแบบนั้นไม่ไหว จึงเล่านิทานให้ฟังตามที่เธอต้องการ         “ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ”         จนกระทั่งจบ เธอก็ถอนใจยาวหากแต่เป็นการถอนใจอย่างมีความสุข         “ ดีจังเลยค่า ในที่สุดพ่อก็รู้ความจริงเรื่องแม่เลี้ยงใจร้าย สงสารสองพี่น้องจังนะคะ ” คำพูดของหลานทำให้อาใหญ่ฉุกคิด         “ น้องแยม น้าเพ็ญเมียใหม่พ่อเขาดีกับหนูหรือเปล่า ” เธอเงียบไปพักหนึ่ง         “ ก็ดีนะคะ แต่หนูไม่ค่อยคุยกับเขาหรอก ”         “ เพราะว่าหนูหวงพ่อใช่ไหม ” คราวนี้เธอเงียบ ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น         “ อารู้ดีว่าพี่ยศน่ะรักน้องแยมมาก แต่ด้วยความที่เป็นผู้ชายอาจจะไม่ละเอียดอ่อนได้เท่าผู้หญิง บางสิ่งบางอย่างเขาอาจไม่เข้าใจหนูที่กำลังเป็นวัยรุ่น ถ้ามีอะไรก็ค่อย ๆ  ปรับความเข้าใจกัน อย่าเอาแต่คิดไปเองและน้อยใจอยู่ฝ่ายเดียว รู้ไหม ”         “ พ่อเค้าไม่มีเวลาให้หนูแล้วล่ะค่ะ อีกหน่อยน้องออกมาก็คงต้องทุ่มเวลาให้น้องอีก ”         “ ไม่เอาสิ ไม่คิดแบบนี้ นี่เคยคุยกับพ่อบ้างหรือเปล่าว่าแอบน้อยใจเค้าเนี่ย ” เธอส่ายศีรษะ         “ แล้วกัน ไม่พูดแล้วจะรู้ได้ยังไง เอางี้ ไว้มีเวลาเดี๋ยวอาจะคุยกับพ่อให้นะ ”         “ ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูไม่ได้สำคัญอะไรนัก ”         “ พูดแบบนี้ได้ยังไง หนูสำคัญที่สุดสำหรับพ่อนะ และสำหรับอาด้วย ” คำพูดของอาทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง         “ จริงนะคะ ”         “ จริงสิคะ ”         “ อาอย่าทิ้งหนูนะ ”         “ ไม่ทิ้งค่ะ ”         “ อาจะมาอยู่ข้างบ้านหนูเหมือนเคยใช่ไหมคะ ” คำถามของเธอทำให้อาใหญ่หัวเราะ         “ อยู่ไม่ได้แล้ว เพราะว่าแม่อาขายที่ไปแล้วไง ”         “ อ้าว ” เธอหน้าม่อย         “ งั้นอามาอยู่กับหนูที่บ้านนี้เลยสิคะ ”         “ ได้ยังไงเล่า ”         “ แล้วยังไงล่ะคะ ไหนว่าอาจะอยู่เคียงข้างหนู แบบนี้ก็โกหกชัด ๆ ” เด็กสาวหน้าง้ำ ขยับลงจากการหนุนแขนแข็งแรงไปนอนชิดริมเตียง คนเป็นอาหัวเราะแล้วขยับเข้าไปรวบเธอเข้ามากอดแน่น         “ ไม่ต้องมากอดเลย ”         “ ขี้งอนจังเลย เด็กงอแง ”         “ ก็ไหนอาบอกว่าจะอยู่กับหนูไงคะ ”         “ อาหมายถึงอาจะกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ไม่ได้ความว่าจะมาอยู่กับหนูที่บ้านได้ พ่อหนูก็มีน้าเพ็ญ มีน้อง มีหนูอยู่แล้ว ”         “ งั้นอาก็ไม่ควรพูดว่าจะกลับมาอยู่กับหนูหรอกค่ะ ” เธอกระเง้ากระงอด เขารัดเธอเข้ามาแนบอก         “ แม่ของอาซื้อที่ไว้แถวเมืองเหนือ อาว่าจะไปอยู่ที่โน่น ทำรีสอร์ทหรือร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็ก ๆ แล้วอาก็จะได้มาหาหนูได้บ่อย ๆ ไง ”         “ ให้หนูไปอยู่กับอาด้วยได้ไหมคะ ” เธอหันมาจ้องเขาแล้วพูดจริงจัง ทำให้อาใหญ่ตอบไม่ถูก         “ เออ จะเอางั้นเหรอ แต่หนูต้องเรียนนี่ ”         “ หนูจะจบมอหกแล้ว ปีหน้าก็เรียนมหาลัย หนูเรียนมหาลัยเปิดก็ได้ ระหว่างนี้หนูจะไปเรียนทำอาหาร ทำกาแฟ จะไปเป็นลูกจ้างร้านอาใหญ่ค่ะ ” คำพูดของหลานทำให้อาใหญ่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู         “ ได้สิ เด็กดีของอา ”         “ อามีเมียหรือยังคะ ” คำถามนั้นแทบจะทำให้เขาแทบสำลักก่อนส่ายหน้า         “ อามัวแต่ทำงาน ไม่มีเวลาไปรักใครหรอก ”         “ ดีเลย หนูไม่อยากให้อามีเมียหรอกค่ะ เดี๋ยวจะลืมหนูเหมือนพ่ออีก ” เขาก้มลงหอมหน้าผากเธอเบา ๆ         “ อาไม่มีวันลืมหนู พ่อก็เหมือนกันนะ หนูนั่นแหละที่จะลืมอาเวลามีคนอื่น ”         “ หนูไม่มีใคร ”         “ มีสิ ก็ไอ้หมอนั่นที่อยู่กับหนู มันชื่ออะไรนะ ”         “ อ๋อ เก่งค่ะ ก็แค่ชอบ ๆ กันตามประสาวัยรุ่นล่ะมั้งคะ มันก็ดีกว่าไม่มีใคร อันที่จริงเก่งก็ไม่ใช่แบบที่หนูชอบเลย ”         “ หืม ทำไมล่ะ ”         “ หนูชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่ ปกป้องหนูได้ อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น แต่เก่งมักจะเอาแต่ใจ ทะเลาะกันก็บ่อยแต่ก็ไม่เคยง้อ ”         “ ถ้ามันไม่ใช่ก็อย่าปล่อยให้เขามีสิทธิ์เหนือร่างกายเราอีก เข้าใจไหม ”         “ เข้าใจค่ะ หนูขอโทษ จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วค่ะ ”         “ สัญญานะ ” อาใหญ่ว่าพลางยื่นนิ้วก้อยให้ เธอยื่นมาแตะ         “ สัญญาค่ะ ”         “ เด็กดี ”         “ อาต้องจ่ายค่าเด็กดีด้วย ”         “ หืม จ่ายอะไรอีก ”         “ นิทานอีกเรื่องไงคะ ” เธอพูดพลางขยับซุกไปหนุนบนท่อนแขนเขาอีกครั้ง อาใหญ่ยิ้มอ่อนโยนแล้วเริ่มเล่านิทานอีกเรื่อง         “ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD