bc

ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)

book_age4+
780
FOLLOW
3.9K
READ
HE
time-travel
stepfather
sweet
kicking
lucky dog
like
intro-logo
Blurb

อยู่ดี ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ของบ้านหลี่ที่ใครต่างก็เบือนหน้าหนีเพราะเธอนั้นสุดแสนจะร้ายกาจ นิสัยยังเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ ทำให้นีรชาแทบอยากจะตายอีกครั้งหากไม่มีสองแฝดที่น่ารักน่าเอ็นดูคอยยิ้มให้!!

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวง
ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกลางเมืองหลวง ภาพบรรยากาศในร้านเวลานี้กำลังวุ่นวายเนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ทำให้พนักงานและคนที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณนี้ต่างก็มาใช้บริการร้านนี้กัน เนื่องจากคุณภาพอาหารที่ดีแล้ว ราคานั้นเจ้าของร้านยังคิดไม่แพง เป็นราคาที่ทุกคนจับต้องได้ แม้ร้านจะดูหรูหราเหมือนเป็นร้านของคนร่ำรวยก็ตาม “ทั้งหมดห้าร้อยเก้าสิบบาทค่ะ รับมาหนึ่งพันบาท เงินทอนสี่ร้อยสิบบาท ขอบคุณมากคุณลูกค้านะคะที่มาอุดหนุน” นีรชา เจ้าของร้านแสนสวยกำลังสาละวนทอนเงินให้กับลูกค้าที่ต่อแถวจ่ายเงินกันอยู่ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่หญิงสาวกลับมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าเสมอ ความวุ่นวายแบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน จวบจนถึงเวลาบ่ายสาม วัตถุดิบและข้าวของที่ร้านก็หมด นี่จึงเป็นเวลาพักของหญิงสาวและพนักงานทุกคน “เฮ้อ...เหนื่อยจังเลย” หญิงสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอนหลังไปกับพนักพิงเก้าอี้ แต่แล้วอยู่ ๆ เธอก็เกิดเจ็บหน้าอกขึ้นมา “ซี๊ด...ทำไมช่วงนี้เจ็บหน้าอกบ่อยจัง คงต้องหาเวลาว่างไปหาหมอสักหน่อยแล้ว” เธอพูดขึ้นมาตามลำพัง ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า โดยไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว “ที่นี่ที่ไหนกัน ทำไมมีแต่หมอกควันแบบนี้ล่ะ!!” นีรชาเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่มีแต่หมอกควันหนาที่แทบจะไม่เห็นอะไรเลย จึงพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ ทันใดนั้นกลับมีเสียงทรงพลังดังขึ้นมา พร้อมกับภาพบรรยากาศโดยรอบที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ที่นี่คือสถานที่สำหรับคนตายแล้ว และเจ้าเองก็หมดลมหายใจไปแล้ว เรามาดูกันเถิดว่าระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่วเจ้ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน นางสาวนีรชา...” ในขณะที่กำลังอ่านชื่ออยู่นั้น ยมทูตท่านนี้พลันหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีแล้วก็อุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด “นี่มันอะไรกัน!!” ที่ยมทูตตกใจขนาดนั้นเป็นเพราะรายชื่อที่มีนั้นกลับไม่ใช่หญิงสาวตรงหน้า ‘แล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดีล่ะ เวลาของที่นี่กับโลกมนุษย์ต่างกันมากเหลือเกิน แล้วหากวิญญาณของนีรชาคนนี้ยังไม่ถึงที่ตายเราจะ ทำยังไงดี...’ ยมทูตได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจด้วยความหวาดหวั่น เพราะนี่คือการทำงานพลาดอย่างมากที่สุดในชีวิตการเป็นยมทูตของเขา หญิงสาวรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงที่เย็นชา และภาวนาว่าคงไม่เหมือนในละครหรือนิยายที่เคยอ่านว่าเอาวิญญาณมาผิดดวงหรอกนะ “หมายความว่ายังไงคะท่าน หรือว่าท่านเอาวิญญาณมาผิดดวงเหมือนในละคร” “....” ยมทูตทำหน้านิ่ง ๆ อย่างพยายามคิดหาวิธีแก้ไขอยู่ “ว่ายังไงคะท่าน” ยิ่งไม่มีคำตอบกลับมา หญิงสาวยิ่งมั่นใจว่าเธอนั้นคาดเดาถูกต้อง จึงถามจี้ออกไปอีกเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ “เอ่อ...เจ้าใจเย็น ๆ ก่อนนะ ข้าอธิบายได้ คะ คือว่า.. ข้าเอาวิญญาณมาผิดดวงน่ะ” ยมทูตที่โดนจ้องถามมาก็พยายามยกมือให้หญิงสาวใจเย็น ๆ และอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ห๊ะ..เอาวิญาณมาผิดดวง” หญิงสาวทวนคำพูดของยมทูตอย่างตกใจ และพยายามตั้งสติก่อนจะถามออกไปอีกครั้ง “แล้วท่านจะอธิบายฉันอย่างไรคะ เรื่องที่ท่านเอาวิญญาณมาผิดดวง” นีรชาโกรธแทบควันออกหู การเอาวิญญาณมาผิดดวงนี่คืออะไร “เอ่อ...ข้าขอโทษ เอาเป็นว่าข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่ในที่ดี ๆ ก็แล้วกันนะ” ยมทูตเห็นอาการของหญิงสาวว่ากำลังโกรธก็รีบพูดขึ้นมา “เหอะ ท่านก็พูดง่ายนะคะ แม้ว่าฉันจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ฉันก็มีชีวิตที่ดีมาตลอด ฉันมีทรัพย์สินมากมายที่ยังไม่ได้ใช้ แล้วท่านจะจะให้ฉันทำอย่างไร พินัยกรรมก็ไม่ได้ทำไว้ สามีก็ยังไม่เคยมี แต่กลายเป็นว่าฉันใช้ชีวิตยังไม่คุ้มเลย แต่ต้องมาตายเพราะยมทูตรับวิญญาณมาผิดดวงนี่นะ” หญิงสาวยืนกอดอกสวนกลับคำพูดของอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ เพราะคิดว่าตนเองนั้นยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยก็มาตายเสียแล้ว แถมตายแบบผิดธรรมชาติอีกด้วย “แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า เวลานี้ร่างกายของเจ้าคงทำพิธีเผาจนเหลือแต่เถ้ากระดูกแล้ว หากไม่ให้ข้าส่งเจ้าไปเกิดใหม่ เจ้าจะยอมเป็นวิญญาณเร่ร่อนอย่างนี้หรือไง” ยมทูตเอ่ยขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่ทำงานมานี่เป็นครั้งแรกที่รับวิญญาณมาผิดดวง หากท่านพญายมรู้เข้า มีหวังเขาถูกทำโทษจนไม่ได้ไปเกิดแน่นอน “เอาเป็นว่า ฉันขอพรวิเศษได้หรือเปล่าล่ะ ในเมื่อต้องไปเกิดใหม่เป็นใครไม่รู้” หญิงสาวพูดถึงข้อแลกเปลี่ยนขึ้นมา เพราะถ้าหากยมทูตตนนี้ส่งเธอไปเกิดผิดพลาดอีก อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวอดตาย และที่สำคัญเธอเคยอ่านนิยายมาบ้าง อย่างไรก็ต้องได้ของวิเศษเหมือนในนิยายสิ ยมทูตรู้สึกคล้ายกับกินยาขม เพราะเวลานี้ไม่ต่างกับการถูกกรรโชกทรัพย์อย่างไรก็ไม่รู้ แต่เพราะความผิดพลาดของตนเองจึงยินยอมที่จะให้พรแก่หญิงสาว จึงถามออกไปเพื่อหยั่งเชิง “เจ้าอยากได้อะไรไหนลอง บอกมาสิ” “ข้อแรก ฉันต้องการมิติ ในนั้นต้องมีร้านอาหารและที่พักเดิมรวมถึงทรัพย์สินของฉันก่อนที่จะตาย เพราะถ้าเกิดเป็นลูกคนจนหรือเป็นเด็กกำพร้า อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ฉันอดตาย ข้อสอง ฉันต้องการตาทิพย์ที่มองทะลุข้าวของที่ปิดทึบ และที่สำคัญฉันจะต้องสามารถมองทะลุก้อนหินทุกก้อนได้ เพราะหากสามารถมองทะลุหินที่เป็นหยกและพวกอัญมณีราคาแพงได้ นั่นจะทำให้ฉันสามารถสร้างเม็ดเงินและกิจการได้โดยไม่ต้องกลัวว่าต่อไปจะลำบาก ข้อสาม ฉันต้องการปัจจัยสี่ทั้งหมดเพื่อดำรงชีวิตทุกอย่าง ทั้งของเด็กและคนโต เพราะถ้าท่านส่งฉันไปในยุคยากลำบากเหมือนในนิยายที่มีให้อ่านตามเวปต่าง ๆ ฉันจะแย่เอาน่ะสิหากไม่มีของกินของใช้ที่ต้องดำรงชีวิต” นีรชาบอกถึงความต้องการของตนเองพร้อมกับบอกเหตุผลว่าเพราะอะไร ในเมื่อยมทูตตนนี้ยังรับวิญญาณของเธอมาผิดดวง การที่จะส่งเธอไปเกิดใหม่นั้นจะไม่ผิดพลาดหรือยังไง อย่างไรก็กันไว้ก่อนดีกว่า “ข้อแรกและข้อสองฉันให้ได้ เพราะมันเป็นความผิดฉัน มีของสองสิ่งนี้ติดตัวก็ไม่ทำให้เธอลำบากแล้วไม่ว่าจะไปเกิดที่ไหน แต่ข้อสาม ปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต มันเยอะมาก หากเธอไม่ระบุว่าต้องการอะไรบ้างฉันคงทำให้ไม่ได้...” ทันทีที่พูดจบก็หันไปมองนีรชา ทว่าสายตาที่เธอส่งมานั้นทำให้เขารู้ได้ว่าความซวยกำลังจะมาเยือนถ้าไม่ทำตามที่เธอต้องการ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นอีกครั้ง “เอาแบบนี้ไหม ฉันจะใส่ห้างสรรพสินค้าไว้ให้ในมิติก็แล้วกัน เธอต้องการอะไรก็เลือกเอาเองเถอะ” ว่าแล้วยมทูตตนนี้ก็ใช้นิ้วตวัดไปมาคล้ายกำลังวาดภาพ ไม่นานก็ปรากฏสร้อยหยกเส้นหนึ่งให้ที่คอของหญิงสาว จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “นั่นคือสร้อยมิติ มันจะอยู่กับตัวเธอโดยไม่มีใครเห็น เดินตามฉันมาเถอะ ฉันจะพาไปเกิดใหม่” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวใช้มือจับสร้อยหยกแล้วยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอ่ยขอบคุณ จากนั้นนีรชาจึงเดินตามยมทูตท่านนี้ไปทันที ทว่าจู่ ๆ กลับมีใครก็ ไม่รู้มากระแทกจากทางด้านหลังจนหญิงสาวตกบ่อน้ำดัง ตู้ม!! “ซวยแล้ว นีรชาจะแช่งฉันไหมเนี่ย แต่อย่างไรของที่ให้ไปคงทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากนะ” ยมทูตกล่าวด้วยเสียงเบา และหวังว่าจะไม่ต้องเจอกับหญิงสาวอีก และขอให้หญิงสาวมีความสุขกับชีวิตใหม่ หมู่บ้านชิงหวง ห้องเล็ก ๆ ที่อยู่หลังบ้านข้างครัว มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งมองร่างของพี่สะใภ้ด้วยสายตาหวาดกลัว พร้อมกับโอบอุ้มหลานวัยเจ็ดเดือนไว้ใน อ้อมกอด โดยมีร่างของหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ไม่ไกลกัน “แม่คะ พี่สะใภ้จะเป็นอะไรไหมคะ” เด็กสาวเอ่ยถามแม่ตนเองเมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้ยังไม่ยอมฟื้น “เจียวเหมยไม่เป็นอะไรหรอก แม่กลัวว่าหากฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าใครกลั่นแกล้งจนจมน้ำ แล้วจะลุกมาอาละวาดอีกน่ะสิ แม่ไม่อยากจะมีเรื่องกับบ้านใหญ่” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาพร้อมกับมีสีหน้าหนักใจ หล่อนมีชื่อว่า ‘หนิงหงชุน’ แม่ของเด็กสาวที่ชื่อ ‘หลี่เหว่ยเหลียน’ และยังเป็น แม่สามีของ หญิงสาวที่นอนสลบอยู่นั่นเอง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.2K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
7.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook