ตอน...โลกสีเทา
เป็นอีกหนึ่งวันที่ทับทิมมุ่งหน้ากลับเข้าห้องพักเลย ไม่ได้ไปสังสรรค์ต่อที่ไหนกับแก๊งเพื่อนสนิท แต่ก็หนีไม่พ้นพ่อหนุ่มรูปหล่อหน้าตาโซนเกาหลี ช่วงนี้มักตามเทียวไล้เทียวขื่อเธอหนักขึ้นทุกวัน
“โธ่! พี่ทับทิมครับ เมื่อไหร่พี่ถึงจะยอมใจอ่อนแล้วไปดินเน่อร์กับผมสักทีล่ะ”
หลิวซุนเดินตามหลังทับทิมมาต้อยๆ ใบหน้าหล่อใสยิ้มทะเล้น ชายหนุ่มคอยเดินดักหน้าดักหลังมาตั้งแต่ทั้งเธอและเขาก้าวขาพ้นรั้วมหาวิทยาลัย
ทับทิมตวัดดวงตากลมโตขึ้นมองคนตัวโตกว่า พร้อมส่ายหน้า...
“พี่ยังไม่มีอารมณ์ ไปขอนอนกับคนอื่นก่อนเถอะไป”
ทับทิมบอกปัดง่ายๆ แล้วเดินมุ่งหน้าต่อ ใบหน้าสวยไร้อารมณ์อย่างปากเธอว่าไว้จริงๆ อาจเป็นเพราะช่วงอาทิตย์ที่ผ่านนี้ เธออยู่ในช่วงอกหัก เพราะเมื่อเช้าพ่อยิ้มโทรมาบอกข่าวดีของไร่ขวัญตา สั่งย้ำให้เธอกลับบ้าน เพราะนายฉัตรกำลังจะจัดงานแต่งงานใหญ่โตขึ้นเร็วๆนี้ พ่อยิ้มอยากให้เธอมาคอยช่วยเหลืองานท่านอีกแรง
ด้วยว่างานนี้ถือเป็นงานช้างระดับจังหวัด เพราะนายสั่งปิดทั้งไร่เพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพร้อมรับขวัญคุณหนูตัวเล็กถึงสามวันสามคืน อีกอย่างคงต้องการเปิดตัวแม่เลี้ยงแห่งไร่ขวัญตาอย่างเป็นทางการไปในตัวด้วยนั่นเอง
“ไม่เอาครับ ผมอยากนอนกับพี่มากกว่า ผู้หญิงคนอื่นกินจนเลี่ยนหมดแล้ว ไม่เห็นอร่อยเลย” หลิวซุนยังคงดึงดัน ตื๊อขอนอนกับรุ่นพี่สุดฮอต ด้วยว่าสาวๆคนอื่นไม่เคยมีใครเล่นตัวกับเขาเหมือนกับเจ้าหล่อนคนนี้ ด้วยส่วนใหญ่นั้นยอมนอนกับเขาอย่างง่ายดาย เพียงแค่เขาหยอดคำหวานนิดๆหน่อยๆแค่นั้นเอง หรือบางคน แทบไม่ต้องใช้ไม้ตายไม้เด็ดอะไรด้วยซ้ำ เจ้าหล่อนคนนั้นก็วิ่งตามเขาขึ้นเตียง นอนแบอ้าขาให้เขาเอาแก้คัน
“ไม่กลัวโมนามาแหกอกเอาหรือไง ถึงกล้ามาขอเอากับพี่แบบนี้” ทับทิมเอ่ยถามเสียงเย็น พร้อมสบแววตาออดอ้อนของรุ่นน้องหนุ่ม เธอเชื่อว่าหลิวซุนนั้นคงต้องพอรู้เรื่องขัดแย้งระหว่างเธอกับโมนามาบ้าง
“พี่โมนาไม่มีสิทธิ์มาว่าผมได้ พวกเราต่างรู้กฎข้อนี้ดีกันทุกคน” หลิวซุนอ้างกฎกติกา
“อย่ายกเอากฎมาอ้างไปหน่อยเลย เมื่อวานนี้พี่เห็นเราวิ่งตามแม่นั่นขึ้นรถไปต้อยๆ เพียงแค่แม่นั่นทำตาเขียวใส่ พี่เห็นนะตอนนั้น” หลิวซุนไหวไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรกับเขา โมนาชวนเขาไปค้างคอนโด เขาเบื่อๆเลยตามเจ้าหล่อนขึ้นรถไปหลังจากตามตื๊อรุ่นพี่คนสวยคนนี้ไม่สำเร็จ
“พี่เป็นคนไล่ผมให้วิ่งตามพี่โมนาไปเองไม่ใช่หรือไง ผมทำตามคำสั่งพี่ต่างหาก ใช่อยากจะไปกลับพี่โมนาด้วยสักหน่อย”
“หึ...ข้ออ้างของผู้ชายมักมาก มากกว่า” ทับทิมสะบัดเสียงหมั่นไส้แล้วเดินต่อ เธอไม่ใช่ไก่อ่อน พอได้ยินคำหวานแล้วจะหลงปลื้มดีใจแล้วยอมอ้าขาให้เสียงได้ง่ายๆ
ทางเข้าหอมีทางลัดตรงซอยข้างหน้า ทับทิมจึงเร่งฝีเท้าเดินหนีคนตามตื๊อไม่เลิก เธอเลี้ยวเข้าซอยหลิวซุนจึงเลี้ยวตาม
“ทำไมพี่ถึงได้ชอบเล่นตัวกับผมจังนะ หรือเป็นเคล็ดลับวิธีเรียกแขก ทั้งที่พี่ไม่น่าจะมีอะไรให้เหลือพอเล่นตัวได้เลย เหมือนอย่างที่พี่โมนาบอกเอาไว้ไม่มีผิด...”
“ก็แล้วแต่เธอจะคิด”
หลิวซุนตั้งคำถามจนน่ายกฝ่ามือขึ้นตบสักฉาด ทับทิมตอบเพียงสั้นๆแล้วเม้มปากปิดสนิท ก่อนเร่งฝีเท้าเดินให้เร็วขึ้น เธอไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เถียงไปก็รั้งแต่จะทำให้รุ่นน้องตามตอแยไม่เลิก อีกทั้งเธอก็ไม่ได้โง่จนรู้ไม่เท่าทันแผนยั่วยุของรุ่นน้องคนนี้ หลิวซุนยกเอาชื่อโมนาขึ้นมาบรัฟเธอเพื่อหวังให้เธอโมโหแล้วยอมนอนกับเขาในที่สุดนั่นเอง
หลิวซุนเลิกคิ้วเข้ม นึกสนุกกับท่าทีปั้นปึ่ง สาวเจ้าคงอยากให้เขาเล่นบทโหดตบจูบสินะ ถึงได้ทำเป็นเล่นตัวนัก ทำเหมือนเขาเป็นเด็กแบเบาะไม่รู้ประสีประสา ก็ไม่เห็นจะยากอะไรสักนิดนี่นา จะบทหวาน บทโหด เขาเคยใช้ล่อล่วงเอากับพวกสาวเล็กสาวใหญ่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน นับประสาอะไรกับบทหื่นโหด เขาไม่ถนัดแต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหากเจ้าหล่อนต้องการ
ชายหนุ่มจึงฉุดกระชากเรียวแขนเล็กให้เดินตาม ทับทิมขืนร่างไว้ ตวัดสายตาดุจัดจ้องใบหน้ารุ่นน้อง เพื่อให้เขาปล่อยแขนเธอ แต่คนสวมบทโหดไม่คิดสนใจ
ทับทิมเริ่มไม่ชอบใจในการกระทำไร้ซึ่งการให้เกียรติกัน อยู่ดีๆคิดจะฉุดก็ฉุดกันอย่างหน้าตาเฉย ทำไมต้องใช้กำลังข่มขู่กับเธอ ทั้งที่เธอบอกไม่ต้องการก็คือไม่ เรื่องเซ็กส์บางทีถ้าอารมณ์ไม่มา ใช่จะนอนกับใครก็ได้เสียเมื่อไหร่ หญิงสาวคิดเดือดดาลสะบัดลำแขนเร่าๆเพื่อให้หลุดพ้น
“เอ๊ะ!จะทำอะไร ปล่อยแขนพี่เดี๋ยวนี้เลยนะหลิวซุน” ทับทิมกัดฟันกรอดส่งสายตาไม่พอใจ
“จะพาไปหาความสุข เดินตามมาดีๆแล้วอย่าดื้อ ไม่งั้นได้เจ็บตัวแน่”
หลิวซุนหรี่ตาเรียวเล็กข่มขู่ เขาลงแรงบีบลำแขนจนเกิดรอยช้ำ ทับทิมรู้สึกหวาดหวั่น แต่ไม่กลัวจนตัวสั่น เนื่องจากตัวเองนั้นเคยถูกฉุดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และครั้งล่าสุดที่เธอจำเหตุการณ์ได้ดี ก็คือไอ้หมาชดคนงานในไร่ ตอนนี้มันถูกตามจับจากทางการ ได้ข่าวมาว่ามันเสือกไปดักฉุดข่มขืนลูกสาวเจ้าถิ่นเข้าให้ ดีสม หน้ามืดไม่ดูตาม้าตาเรือ เจอของแข็งเข้าให้มันจะได้หลาบจำ
“ดื้อหรือไม่ดื้อ ยังไงพี่ก็ต้องเจ็บตัวอยู่ดีไม่ใช่หรือไง” ทับทิมค้านเสียงดุพยายามดึงแขนตนเองให้พ้นจากพันธนาการแน่นหนา
“เจ็บปนเสียวถึงใจดีออก ผมอยากฟัดรูหอยพี่จนเอ็นมันแข็งโด่อยู่แล้วรู้ไหม...” หลิวซุนเสริมคำพูดสัปดน แล้วก้มมองเป้าตนเอง พลอยทำให้เนื้อสาวของรุ่นพี่อย่างทับทิมเริ่มเต้นระริก ของคุ้นเคยพอได้เห็นใจมันเริ่มแกว่ง จากก่อนปฏิเสธหัวชนฝ่า เพราะรู้สึกไร้อารมณ์มาหลายวัน พอได้ฟังคำสยิวจากปากรุ่นน้อง ทับทิมชักเริ่มจะเกิดอารมณ์อยากขึ้นมาตงิดๆแล้วเหมือนกัน
“พูดจาสัปดน แล้วนี่จะพาพี่ไปเอาที่ไหนล่ะ อย่าบอกนะว่าซอกตึกร้างนั่น”
ทับทิมเริ่มใจคอไม่ดี เมื่อหวนนึกถึงตอนเรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่ง หลังจากเรียนเลิกเรียนเธอต้องเดินผ่านเข้าซอยลัดแห่งนี้ แต่วันนั้นคงถึงคราวซวย เธอถูกวินมอเตอร์ไซค์ห้าคัน ลากเธอมารุมโทรมตรงใต้ตึกร้างนั่น มันเวียนกันเอาเธอทีละคน จนครบทั้งห้า ก่อนครั้งสุดท้าย มันรุมเธอทีเดียว ยัดเอ็นเหม็นคาวน่าสะอิดสะเอียนสอดใส่ทุกรูบนตัวเธอ น้ำรักขาวข้นเปรอะเปื้อนเต็มเนื้อตัว เธอรู้สึกเวียนหัว เหม็นกลิ่นคาวน้ำรักของพวกมัน จนเธอแทบอ้วก ดีที่เธอยังพอเหลือเรี่ยวแรง พยุงร่างบอบช้ำขึ้นไปนอนซมด้วยพิษไข้บนห้องพัก วันรุ่งขึ้นเธอจำต้องหยุดเรียนเพื่อพักรักษาตัวอยู่หลายวัน กว่าจะลุกขึ้นไปเรียนหนังสือได้ตามปรกติ
“ใช่ครับ...มันตื่นเต้นดี ผมอยากมานาน ได้แต่เดินผ่าน แต่ยังไม่เคยลอง วันนี้เลยอยากลองกับพี่ดู คงจะมันส์ไม่เบา”
หลิวซุนพยักหน้า เขาเริ่มจินตนาการตอนร่วมรักกับรุ่นพี่สาวสวยกลางที่แจ้ง คงตื่นเต้นสนุกสุดมันส์ไม่หยอก จนอดใจแทบไม่ไหวอยู่แล้วตอนนี้ เลยเปลี่ยนจากบีบลำแขน ดึงร่างอวบเข้ามาในอ้อมอก ขยำสะโพกเนื้อหนั่นแน่น เลื่อนฝ่ามือสากระคายขึ้นบีบเคล้นเต้าใหญ่ผ่านชุดนักศึกษาปีสาม
“อืมมมม...มือเธอก็อย่าซนนักสิ อดใจไม่ได้หรือไง อีกแค่นิดเดียวก็จะถึงแล้ว พี่รับรอง เธอได้ซดน้ำหอยแสนอร่อยจนอิ่มแปล้แน่วันนี้” ทับทิมเชิดหน้าห่อปากส่งเสียงครางกระเส่า ใบหน้าสวยหวานบิดเบ้เพราะความเสียวปนเจ็บจากการถูกบีบหน้าอกไม่เบาแรงจากรุ่นน้องหนุ่ม
ในเมื่อหนีไม่พ้น นั้นก็ขอแบบจัดหนักหน่อยแล้วกันนะ เผื่อบางที เธออาจพอทุเลาลืมเรื่องหัวปวดใจลงได้บ้าง
“ลองมือนิดหน่อย นุ่มหยุ่นมือดี ถ้าได้ดูดคงจะหวานลิ้นไม่เบา” หลิวซุนพูดเหมือนกำลังทดลองสินค้าสักชิ้น ของดีสมดังคำบอกปากต่อปากหรือเปล่า อันนี้คงต้องลองพิสูจน์ นึกแล้วน้ำลายสอ กะขนาดรูปทรงองเอวของรุ่นพี่ด้วยสายตาภายนอก แค่นี้ดุ้นเอ็นเขาก็สั่นจนกระทุ้งซิบกางเกงออกมา ถ้าได้ลิ้มลองของจริงเต็มคำ หวังว่าน้ำเขาคงไม่แตกก่อนได้อึบเจ้าหล่อนจริงจังหลอกนะ คงขายหน้าแย่ถ้าเป็นแบบนั้น
เขาถูกใจทับทิมตั้งแต่แรกเห็นเจ้าหล่อนเดินเคียงข้างอยู่กับรุ่นพี่จักร ใจได้แต่แอบหวัง สักวันเขาจะขอนอนกับรุ่นพี่คนนี้ ได้ข่าวมาจากปากเพื่อนๆ รูปร่างลีลานั้นเด็ดจนหลายๆคนติดใจ แต่ใช่ว่าจะได้แอ้มเจ้าหล่อนง่ายๆ ถ้าของไม่ดีจริงอย่าคิดนำเสนอ เพราะจะถูกรุ่นพี่สาวสวยคนนี้เชิดหน้าพร้อมโบกมือบ้ายบายให้เท่านั้นเอง
“ของแบบนี้ต้องลองด้วยตัวเอง ไม่อยากโม้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เด็ดจริง” ทับทิมที่ถูกก่ออารมณ์จนรู้สึกคล้อยตามแอ่นหน้าอกทรงโตของตนขึ้นท้าทาย
“อู่...พี่นี่เด็ดสมคำร่ำลือใช่ได้ เอ็กส์ เด็ด ลีลาถึงใจ” หลิวซุนรัดร่างอวบเสียดสีไปกับกายแข็งแรงของตนเอง ทับทิมให้ความร่วมมือโดยการปล่อยลำแขนให้ลู่ลง แล้วตวัดฝ่ามือขยำเป้ากางเกงที่เริ่มโป่งพอง วัดจากขนาดคร่าวๆ น่าจะใหญ่ใช่เล่น
“ผมเคยเอากับพี่ตรีมาแล้วเหมือนกัน พี่เขาไม่ได้บอกพี่ทับทิมเหรอ ผมมันเด็ดแค่ไหน” หลิวซุนหยั่งเชิงถาม
“ไม่ได้บอก ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าตรี คงถูกไอ้พี่ยศมันจับไปเล่นรักกันที่ต่างจังหวัดอีกตามเคย งานนี้คงจัดหนักจนท้องโย้กลับมานั่นแหละ ไอ้รุ่นพี่มันถึงจะยอมเลิกตามรังควานยัยตรีเสียที” ทับทิมพูดขึ้นขำๆ เมื่อนึกถึงสองคนนั้น จะเลิกก็เลิกไม่ขาด จะกี่ปีกี่ชาติ ไอ้พี่ยศจอมเจ้าชู้นั่นก็ไม่เคยปล่อยมือออกจากเพื่อนสาวของเธอได้จริงจังสักที
ยงยศคืออดีตคนรักของสาวิตรี เป็นรุ่นพี่เรียนคณะเดียวกันกับพี่จักร ทั้งสองเคยรักกันมาก โดยมีการวางแผนอนาคตไว้อย่างดิบดี ถ้าเรียนจบทั้งสองจะแต่งงานกัน ทว่าตัณหาความมักมากไม่เคยเข้าใครออกใคร พอถูกโมนายั่วเสน่ห์เข้าหน่อย พี่ยศยอมหักหลังสาวิตรี โดยการนอนกับโมนา ตอนนั้นพวกเธอทั้งสามคนยังอยู่แก๊งเดียวกัน เป็นกลุ่มเพื่อนสนิทที่รักกันมาก จนเมื่อสาวิตรีเริ่มผิดสังเกต พี่ยศดูมีอาการเปลี่ยนไป รวมทั้งโมนาด้วย ทั้งสองมักจะหายตัวไปพร้อมๆกัน บ่อยครั้งจนสาวิตรีทนไม่ได้ เริ่มสืบหาความจริง แล้ววันโลกาวินาศของสาวิตรีก็มาถึง เพื่อนสาวของเธอผลักบานประตูห้องพักของเพื่อนรักอย่างโมนาเข้าไป
บนเตียงนอนของเพื่อนสาว ปรากฏกายกำยำแสนคุ้นตาของชายหนุ่มคนรัก สองคนนั้นกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงร่วมรักกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน จนเมื่อพี่ยศเงยหน้าขึ้นมาเห็นสาวคนรักกำลังยืนตัวสั่นเทาด้วยความเสียใจ น้ำตาสาวิตรีไหลพราก เขาถึงได้ผละห่างออกจากร่างเย้ายวนที่กำลังส่งเสียงครางระงม
“อ๊าห์...พี่ยศขา หยุดทำไมคะ โมนากำลังจะเสร็จพอดี” พี่ยศหน้าซีด อ้ำอึ้งเพราะพูดไม่ออก ได้แต่รีบขยับตัวถอยห่างร่างยั่วกิเลศ ดวงตาสลดวูบรู้สึกสงสารคนรักจับใจ
และวันนั้นจึงเป็นวันอวสานสำหรับหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากสถานะเพื่อนรักกลายมาเป็นศัตรูกันอย่างถาวร สาวิตรีร้องไห้สะอึกสะอื้น ทว่าโมนากลับยิ้มร่าเริง เธอทนดูไม่ได้ ไม่คิดว่าเพื่อนจะทำร้ายเพื่อนได้ลงคอ วันนั้นเธอจึงตบสั่งสอนโมนาจนปวดมือไปหมด ก่อนจะประกาศตัดขาดกันอย่างเป็นทางการ
ส่วนสาวิตรีตัดขาดกับพี่ยศโดยสิ้นเชิง เพื่อนสาวของเธอขอสาปส่งไม่แม้แต่จะมองหน้ากันได้อีกต่อไป จากหญิงสาวเรียบร้อยอ่อนหวาน วันๆก้มหน้าก้มตากับตำราเรียนเพียงอย่างเดียว พออกหักรักคุด แม่เพื่อนตัวแซบของเธอกลับลุกขึ้นสลัดลุคสาวหวานจืดชืดเผาไฟทิ้ง จนไม่เหลือสาวิตรีคนเดิมให้เห็น
สาวิตรีลุกขึ้นมาทำตัวเองเสียใหม่ ดูเปรี้ยวเข็ดฟัน ฟรีเซ็กส์เที่ยวนอนกับชายหนุ่มไปทั่ว อย่าบอกให้เธอเตือนใคร ในเมื่อตัวเธอเองนั้น ก็เลวร้ายไม่ได้ต่างจากสาวิตรีเลยสักนิดนี่นา...
******************
สองร่างที่พากันนัวเนียตลอดทางเดินตกอยู่ในสายตาคมกล้าของชายหนุ่มคนหนึ่ง ใช่เขาจงใจอยากมองเสียเมื่อไหร่กัน ท่วาไอ้สายตาเจ้ากรรมของเขา มันละออกห่างไม่ได้มากกว่า เขาเดินตามสองคนนั้นมาตั้งแต่ทางเดินตรงหน้ามหาวิทยาลัย เมื่อเขารู้สึกเบื่อกับการรอคอย เพราะนั่งรอโมนาในรถตั้งนานเป็นชั่วโมง เจ้าหล่อนกลับไม่ยอมลงมาจากตึกเรียนเสียที
ครั้งสุดท้ายที่เขาโทรเข้าไปหา แม่น้องน้อยของเขาขอเวลาอีกครึ่งชั่วโมง ตอนนี้กำลังติวหนังสือให้เพื่อนสนิทและใกล้จบบทเรียนแล้ว เขาจึงไม่กล้าขัดยอมรออยู่ในรถต่อไป
ทว่าพอเดินมาถึงทางเปลี่ยว สองนักศึกษานั่นทำเอาเขาแข้งขาอ่อน รบิลเห็นหน้าหญิงสาวไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะถูกฝ่ายชายที่ตัวโตกว่าบดบังเอาไว้ ชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหนามองภาพสองคนนั้นกำลังเล่นหนังสด ผัวพันจนแทบจะสิงร่างกันได้ เขานึกหดหู่ใจไม่น้อย สังคมไทยสมัยนี้มันเป็นอะไรไปแล้วหนอ ถึงได้ดูเสื่อมลงทุกวันแบบนี้
ชายหนุ่มที่เคยไปร่ำเรียนอยู่ที่เมืองนอกเมืองนา ถึงกับส่ายหัวดิก นึกถึงคู่หมั้นสาวสวยของตนเอง โมนาของเขาออกจะเรียบร้อย อ่อนหวาน เจ้าหล่อนเป็นหญิงสาวที่เขาอยากแต่งงานและใช้ชีวิตครอบครัวด้วยที่สุด เขารักเธอมานาน นับตั้งแต่เขาได้พบหน้าเธอที่บ้านของคุณอาผู้หญิงเพื่อนสนิทของมารดาเขานั่นเอง
โดยที่ก่อนเขาไปเรียนต่อยังต่างประเทศ เขาเลยขอหมั้นโมนาเอาไว้เพื่อทำการตรีตราจองหญิงสาว เขากลัวใครจะมาแย่งของรักของหวง เมื่อแม่น้องน้อยของเขาทั้งสวยเพียบพร้อม ชายใดได้เข้าใกล้ มีอันต้องตกหลุมรักกันทั้งนั้น เขานึกหวงเลยขอร้องให้ผู้ใหญ่ ให้ช่วยไปพูดจาสู่ขอโมนาให้ พวกท่านดีใจ ที่กำลังจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันในอนาคต
และได้แต่หวังเอาไว้ในใจ โมนาคงไม่มีพฤติกรรมปล่อยตัวมั่วผู้ชายเหมือนกันกับผู้หญิงคนเมื่อตะกี้นี้ มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง โมนาของเขารักนวลสงวนตัวออกจะตาย ขนาดเขาเป็นคนรักของเจ้าหล่อนแท้ๆ อย่างมากก็ได้แค่จับมือมาหอมเท่านั้นเอง
ถึงเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นชายหนุ่มหัวสมัยใหม่ เรียนจบมาจากประเทศฟรีสไตล์ ไม่ถือสาเรื่องความบริสุทธิ์ผุดผ่องมากไปกว่าเรื่องความรู้สึก ทว่ากับเรื่องฟรีเซ็กส์สำหรับหญิงสาว เขากลับไม่ชอบเอาเสียเลย ถึงขั้นขยะแขยงรังเกียจเอาเสียด้วยซ้ำไป ให้ถึงอย่างไรเขาก็ชอบผู้หญิงรักนวลสงวนตัวมากกว่า ...
รบิลเคยคิด สำหรับผู้หญิงนั้น พวกหล่อนจะเรียกร้องหาความทัดเทียมกับผู้ชายในเรื่องใดก็ได้ เขาถือเป็นเรื่องดี พร้อมสนับสนุนเต็มที แต่เรื่องนั้นต้องไม่ใช่เรื่องการมีเซ็กส์อิสระ เพื่อต้องการเท่าเทียมกับผู้ชายในยุคปัจจุบัน
ชายหนุ่มหยุดความคิด แล้วชักเท้าหันหลังเดินกลับไปที่รถตนเองที่จอดเอาไว้ตรงด้านหน้ารั้วมหาวิทยาลัย เมื่อพอจะเดาปลายทางของสองคนนั้นได้ออก จุดจบคงไม่พ้นเรื่องฟรีเซ็กส์ เล่นกอดจูบควักล้วงกันโจ่งครึ่ม ทำไมถึงไม่หัดอดใจรอจนกว่าจะถึงห้องหับที่มันมิดชิดมากกว่านี้ก็ไม่รู้ เล่นมาแสดงความรักกันในที่สาธารณะ โจ่งแจ้ง ไม่ละอายใจตนเอง ก็น่าจะหัดละอายใจไปถึงบุพการีผู้ให้กำเนิดกับบ้างสิ แต่เป็นเขาเสียอีกที่นึกละอายใจแทนทั้งสองคนนั้น...
ฟากหญิงชายที่ระบิลส่ายหัวให้กับพฤติกรรมน่ารังเกียจ เมื่อห้วงอารมณ์กำหนัดกำลังตกอยู่ในเพลิงราคะร้อนเร่า ทั้งสองปล่อยหัวใจล่องลอย มือไม้ปัดป่ายเดินกอดรัดกันไปตลอดเส้นทางลัด มุ่งหน้าเข้าตึกร้าง พอไฟเริ่มจุดติด คนร้อนง่ายอย่างทับทิมนั้นแทบจะทนไม่ไหว เจ้าหล่อนโน้มศีรษะรุ่นน้องลงหา พร้อมประกบปากอิ่มเข้าใส่ ส่งลิ้นร้อนตวัดพัวพันดูดดึงจนไม่รู้ลิ้นใครเป็นลิ้นใครแลกน้ำลายกันอย่างช่ำชอง
“อ๊าห์...พี่นี่แม่งโคตรร้อนแรงถึงใจผมเป็นบ้า”
หลิวซุนดึงใบหน้าออกห่าง พร้อมยิ้มใส่ดวงตาหวานเยิ้มด้วยความพออกพอใจ จากนั้นจึงก้มหน้าแนบปากระอุเข้าหากลีบปากบวมเจ่อ มอบจูบกระสันซ่านจนทับทิมหายใจไม่ทัน
กระดุมชุดนักศึกษาหลุดออกจากรังไปจนเกือบสุดแทบ เปิดเผยผิวขาวเนื้อละเอียดนุ่มมือ จะลูบไล้ไปตรงจุดไหนให้ความรู้สึกดีเป็นบ้า อีกทั้งทรวดทรงองเอวของเจ้าหล่อนนั้นช่างกระแทกใจเขาอย่างจัง มันทำให้อาวุธร้ายของเขาพุ่งทะยานจนเกือบจะทะลุเป้ากางเกงออกมาฟาดฟัน บดขยี้เข้าใส่ให้แหลกลาญกันไปข้าง
“อู้ว์...อ๊าห์...ใจเย็นๆสิพ่อหนุ่ม อย่าเพิ่งรุนแรงกับพี่นักสิ”
ทับทิมปรือตาหวานเยิ้มขึ้นส่งเสียงห้าม เมื่อเธอถูกฝ่ามือหยาบหนาบีบขยำเต้างามรุนแรง ดิบเถื่อน รุ่นน้องหนุ่มถลกเสื้อในตัวจิ๋วขึ้นไปค้างไว้เหนือก้อนนุ่มหยุ่น พร้อมผลักร่างระหงของเธอเข้าอัดกับต้นเสาปูน แผ่นหลังเธอแนบเข้าหาความเย็นจนสะดุ้ง เมื่อหลิวซุนกดใบหน้าหล่อเข้าหาเม็ดเชอร์รี่สีสวยอย่างไร้ความปรานี เขาจัดการดูดดึงมันพร้อมกับบีบเคล้นอีกเต้าจนเนื้อขาวอวบปลิ้นออกตามหง่ามนิ้วมือทั้งห้า ให้ความรู้สึกเสียวปราดไปตลอดทั้งกาย เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บ ทว่ากลับรู้สึกสะใจไปกับความรุนแรงนี้มากกว่า เซ็กส์ดิบเถื่อน เปรียบเสมือนอาหารรสชาติเผ็ดร้อนถึงใจ
เพราะยิ่งกลืนกินเข้าไป ความร้อนของมันยิ่งทำให้เธอร้องซูดซาด เสียวกระสัน จนต้องร้องขอน้ำจากกายชายเพื่อแก้ความเผ็ดแซ่บ
ทับทิมร้องอู้เมื่อเธอถูกความเสียวเข้าเล่นงานอีกระลอก เธอแอ่นอกทรงโตเข้าสู้อย่างท้าทาย เคยกลัวที่ไหนกับเรื่องแบบนี้ หลิวซุนกำลังหน้ามืดไปกับความหวานของเต้าอะร้าอร่าม ทั้งกัดทั้งเลียเพลินลิ้นดีเหลือเกิน
“อ๊าห์...อืมมมม” ริมฝีปากบวมเผยอส่งเสียงครางต่ำ ก่อนจะกัดเอาไว้แน่นพร้อมกับหลับตาลง เพื่อต้องการซึมซับเอาความสุขนั้นแผ่เข้ามาไว้ในผิวกาย ช่องท้องเธอขมวดตัวแกร่ง เสียวสยิวรุนแรง เลยต้องปล่อยน้ำหวานไหลปิ่มชื้นแฉะเป้ากางเกงในตัวจิ๋ว เธอไม่สนใจ เมื่อช่วงบนของเธอกำลังถูกความเสียวกระสันเล่นงานจนมึนหัวไปหมด
หลิวซุนช่างรู้ใจเธอเสียจริง เขาเม้มปากเข้าหากันเพื่อกัดเน้นตรงเม็ดไตโย้เข้าโย้ออก ก่อนจะปล่อยออกเป็นอิสระ ไม่ถึงชั่วอึดใจต่อมาเขากลับเข้าไปครอบครองมันใหม่อีกครั้ง ไม่ยอมปล่อยให้เนื้อหยุ่นห่างหายไปนาน ทำสลับกันทั้งสองเต้าทรวงงามอยู่หลายนาที
ทับทิมสะดุ้งร่างเฮือกหลุดเสียงร้องครางระโหย แข่งขาสั่นผับๆจนต้องเกาะร่างทรงพลังเอาไว้แน่น ทุกครั้งยามถูกรวบเต้าแล้วเขากัดเม็ดงามความเสียวที่เกิดขึ้นเกือบส่งเธอขึ้นสวรรค์ชั้นไหนๆก็ว่าได้ เธอดึงศีรษะสวยได้รูปของชายหนุ่มเข้าอัดแนบชิด เปิดหน้าขาออกกว้าง แล้วแทรกลำขาเข้ากลางลำตัว เพื่อให้ความร้อนตรงกึ่งกลางสัมผัสกันและกันจนเกิดเป็นเปลวไฟ
“โอ้วววว...เสียว ทั้งเสียวทั้งหวานลิ้นอะไรอย่างนี้พี่ทับทิม” หลิวซุนรำพันชิดหน้าอกอวบ เนื้อเต่งตรึงทั้งหวานทั้งสู้ลิ้น ให้ความรู้สึกพิเศษ จนสมองเขาพร่ามัว
“ถ้าหวานมากนัก นั้นหลิวซุนก็กินเข้าไปเยอะๆสิจ๊ะของดีแต่มีให้กินอีกเพียบ”
เจ้าของเต้าใจกว้างคอยแอ่นอกป้อนเนื้อนุ่มเข้าปากชายหนุ่มเสียเอง เหล่าซุนไม่คิดปฏิเสธ เขาอ้าปากรอรับนมหวานจากเต้า พร้อมส่งมือสั่นเทาอ้อมหลังแล้วปลดตะขอเสื้อใน ปล่อยมันให้กองหล่นร่วงสู่พื้นดินพร้อมเสื้อเชิ้ตนักศึกษา ร่างกึ่งเปลือยปรากฏแก่สายตาคมกริบ เขากวาดตาร้อนแรงสำรวจร่างงาม ไล้สายตาหื่นกระหายอย่างตื่นตะลึงมอง พร้อมกับแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จดจ้องมองความขาวลออโดยมีปานสีเทาอ่อนล่อลวงริมฝีปากเขาให้ครอบหา เพราะอดใจไม่ไหวกับสิ่งยั่วสายตา แม่เจ้าประคุณเอ่ย สวยน่ากินอะไรอย่างนี้โว้ย
ไม่เสียแรงที่เขาเฝ้าตามตื๊อเจ้าหล่อนอยู่หลายวัน จนวันนี้สำเร็จ ฝันเขาเป็นจริงสักที ไม่ต้องเอาร่างกายนี้ไปนอนฝันเปียกยามค่ำคืนอีกต่อไป คอยดูนะ พ่อจะจับฟัดเสียให้เนื้อแหลกลาญคามือ เล่นตัวกับเขาดีนัก มันต้องเจอเขาจับกระแทกจนฟ้าเหลืองถึงจะสาสม พี่ทับทิมคนสวยจ๋า มาเป็นเมียของไอ้หลิวซุนคนนี้เถอะ พ่อจะบำรุงบำเรอปรนเปรอให้หนำใจแบบติดหนับ...
“เป็นไงถูกใจหลิวซุนบ้างไหมจ๊ะ...”
ทับทิมช้อนสายตาขึ้นถาม ทั้งที่เธอพอจะรู้คำตอบของมันดี หญิงสาวกัดปากส่งสายตาเซ็กซี่ วางมือแหมะลงบนไหล่กว้าง ลูบไล้ร่างหนาผ่านเนื้อผ้า ร่างกายรุ่นน้อยสมบูรณ์อุดมไปด้วยมัดกล้ามไม่แพ้ใครช่างเร่าใจเธอเหลือเกิน
“ทั้งใหญ่ ทั้งหอม ดูดกินก็ช่างเต็มคำ หัวนมพี่ก็เม็ดใหญ่ น่าละเลงลิ้นเล่นสิ้นดี” เหล่าซุนไม่ได้ตอบเอาใจ เขาคิดแบบนั้นตามความรู้สึก สมกับคำร่ำลือ ปากต่อปาก รุ่นพี่คนนี้มีดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ยิ่งมองยิ่งร้อน ยิ่งทำเอาดุ้นเอ็นเขาร้อนฉ่า อยากจะแทรกกายเข้าหา จับกระแทกเอ็นเข้าใส่แรงๆ แล้วปล่อยน้ำเ****นเข้าโพรงสวรรค์ของเจ้าหล่อนก่อนสักน้ำในตอนนี้...
เมื่อคิดได้ดังนั้น เหล่าซุนจึงไม่รอช้า เขาเลียริมฝีปาก ก่อนกระชากกระโปรงนักศึกษาตัวสั้น ปล่อยหลุดออกไปพร้อมๆกับปราการด่านสำคัญ หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงลงมือจัดการปฏิบัติทำรักร้อนแรง เรียกเสียงครางอื้ออ้า ถูกใจ ให้ดังลั่นไปทั่วใต้ตึกร้าง...
*********************