10

1167 Words
“นึกว่าเรื่องอะไรที่แท้เรื่องของคุณชายนั่นเอง ฉันให้ยืมเอาไหม คิดดอกไม่แพง” เบญจวรรณพูดยิ้มๆ “ทำอย่างกับแกมีเงินเยอะอย่างนั้นแหละ อย่าทำมาเป็นพูดดีหน่อยเลย คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่” พิมพิชชารู้ดีว่าเบญจวรรณมีภาระไม่ต่างกับเธอมากนัก มีพ่อที่ป่วย มีน้องชายที่จะต้องส่งเสียให้ศึกษาต่อจนจบ แม้ว่า เบญจวรรณจะเป็นคู่ควงของตุลาการซึ่งน่าจะมีเงินใช้ไม่ขาดมือ การณ์กลับไม่เป็นอย่างนั้น เบญจวรรณไม่เคยรับเงินจากตุลาการเลยสักครั้งเดียว ไม่เคยร้องขอเลย ด้วยซ้ำทั้งๆ ที่ตัวเองก็ลำบาก เพราะคิดไว้เสมอว่าเธอรักตุลาการที่หัวใจ ไม่ใช่เงินของเขา “ไม่แหย่แล้วก็ได้ ฉันมีข่าวดีมาบอกแกด้วยนะ รับรองว่าแกต้องอึ้งแน่ๆ เลย” เบญจวรรณวกมาเรื่องที่เธอตั้งใจจะพูดกับเพื่อน เรื่องที่ทำให้เธอรีบเดินทางมาหาพิมพิชชาทันทีที่ออกจากคอนโดตุลาการ “อะไรเหรอ” พิมพิชชาหันมาถามเพื่อนด้วยความสนใจ “คุณต้อมเขามีเพื่อนที่อยากจะจ้างแกไปเป็นเมียจำเป็น คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้...” เบญจวรรณถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เธอได้รับฟังจาก ตุลาการให้พิมพิชชาฟัง คนที่ฟังอยู่ถึงกับอึ้งไปอย่างที่เบญจวรรณพูดออกมาในตอนแรกจริงๆ ตั้งแต่เธอรับงานเสริมมางานนี้เป็นงานแรกที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยิน มันท้าทายและแปลกใหม่ปะปนมากับความแปลกใจ “ว่าไงตกลงใจจะรับงานนี้หรือเปล่า” เบญจวรรณเอ่ยถามหลังจากที่เล่ารายละเอียดเบื้องต้นให้พิมพิชชาฟัง “ก็น่าสนนะ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคุณต้นที่จะจ้างฉันเป็นเมียจำเป็นเนี่ย เขาเป็นเกย์หรือเปล่าถึงไม่ยอมแต่งงาน อายุก็ตั้งสามสิบหกปีแล้ว ผู้ชายที่ทำงานฉันอายุพอๆ กับคุณต้นยังมีลูกมีเมียแล้วเลย แต่ตานี่กลับไม่มี แกไม่สงสัยบ้างเหรอ” พิมพิชชาสันนิษฐาน หญิงสาวอดคิดไม่ได้เพราะผู้ชายสมัยนี้ดูกันยากมาก ต่อหน้าเป็นผู้ชายเต็มร้อย พอลับหลังกลับเป็นเกย์เป็นกะเทยซะงั้น ยิ่งได้ฟังเบญจวรรณบอกว่าติณณพัฒน์หวงความเป็นโสดมาก ไม่ยอมผูกมัดกับผู้หญิงคนไหนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต พิมพิชาก็คิดว่าบางทีติณณพัฒน์อาจจะอยากผูกมัดกับผู้ชายเพศเดียวกันมากกว่า ถึงไม่ยอมแต่งงานเสียที เบญจวรรณหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของเพื่อนสาว ไม่คิดเลยว่าเพื่อนสนิทจะคิดไปไกลขนาดนั้น จึงต้องรีบพูดแก้ต่างให้ติณณพัฒน์ “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกพิม คุณต้นแมนเต็มร้อยจริงๆ ไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่พิมคิดหรอกนะ คุณต้อมยืนยันว่าคุณต้นเป็นผู้ชาย เต็มร้อย ไม่มีจิตเบี่ยงเบนเลย แต่ที่ไม่แต่งงานเพราะมีเหตุผลส่วนตัว” “เหตุผลส่วนตัวเหรอ เหตุผลเดียวกับที่คุณต้อมไม่ยอมแต่งงาน ไม่ยอมมองผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่าล่ะ” คำถามของ พิมพิชชาทำให้ดวงหน้าของเบญจวรรณเศร้าลงทันที น้ำตาเริ่มปริ่มขอบตา พิมพิชชาเอามือปิดปากของตัวเอง นี่เธอปากไวอีก แล้วเหรอนี่ พูดไม่คิดจนทำเพื่อนร้องไห้อีกแล้ว ก่อนจะลดมือของตัวเองลง กล่าวขอโทษเพื่อนในความปากไวของตัวเอง “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แกอย่าร้องไห้นะ” พิมพิชชาโอบกอดร่างของเบญจวรรณอย่างคนสำนึกในความผิด “ไม่เป็นไรหรอก ก็แกพูดเรื่องจริงนี่ ฉันจะไปโกรธแกได้ยังไง คุณต้นไม่ได้มีเหตุผลเดียวกับคุณต้อมหรอก มันเป็นเหตุผลส่วนตัวของเขาน่ะ ตกลงแกจะรับงานนี้ไหม” เบญจวรรณไม่ได้คิดโกรธเคืองพิมพิชชาเลยที่พูดออกมาอย่างนั้น เพราะพิมพิชชาเคยเตือนเธอหลายครั้งหลายหนว่าอย่าได้ถลำลึกไปมากกว่านี้ ในเมื่อตุลาการไม่เคยคิดที่จะรักตอบก็สมควรที่จะตีตัวออกห่าง เพราะคุณค่าในตัวของเธอมันจะลดน้อยลงไปด้วย ใช่ว่าเบญจวรรณไม่ฟังคำเตือนของเพื่อน แต่เธอถลำลึกเกินกว่าที่จะดึงรั้งร่างกายและหัวใจออกห่างจากตุลาการ ...เธอรักเขาจนหมดหัวใจ ยอมเจ็บเพื่อได้อยู่ชิดใกล้ เป็นคนโง่ในสายตาของเพื่อน และแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่มีทางหันมามองเธอ เพราะในใจเขามั่นคงกับกชรกรรักแรกของเขาเท่านั้น “รับสิ งานง่ายๆ แค่นี้เอง ว่าแต่เขาให้ค่าจ้างเท่าไหร่ล่ะ” ดวงตาของพิมพิชชาเป็นรูปเงินทันที “คุณต้อมบอกว่าถ้าแกตกลงให้ฉันโทร.ไปหาเขา จะได้นัดเจอกันเพื่อตกลงเรื่องค่าจ้าง แล้วก็รายละเอียดต่างๆ ที่ต้องเข้าใจร่วมกัน” “งั้นแกโทร.ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ โทร.ไปบอกคุณต้อมว่าฉันตกลงที่จะรับงานนี้ ให้นัดเจอกันวันนี้เลยก็ได้นะ” พิมพิชชาพูดอย่างรวดเร็ว เจรจาเรื่องเงินวันนี้เลยยิ่งดี เธอจะได้ขอเบิกเงินล่วงหน้าเพื่อนำไปจ่ายค่าสั่งซื้ออัลบั้มรูปที่เธออยากได้ แค่คิดหญิงสาวก็แทบกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ “แกรีบร้อนจังนะ อยากได้เงินไวๆ จะได้เอาไปจ่ายค่าอัลบั้มรูปใช่ไหม ฉันรู้นะ” เบญจวรรณพูดอย่างรู้ทันความคิดของเพื่อนสนิท พิมพิชชาตีเบาๆ ที่ท่อนแขนของคนที่พูด แถมส่งค้อนให้เพื่อนอีกหนึ่งวงใหญ่ “เกลียดนักคนรู้ทัน ถ้ารู้แล้วก็รีบโทร.ไปบอกคุณต้อมเลย” พิมพิชชา แกล้งทำเสียงงอนใส่ “จ้ะๆ โทร.ไปเดี๋ยวนี้แหละ หรือว่าไม่โทร.ดีนะ” “โทร.เดี๋ยวนี้เลยนะ” “เดี๋ยวค่อยโทร.ดีกว่า” “แกล้งกันเหรอ นี่แน่ะ นี่แน่ะ” พิมพิชชารู้ว่าเบญจวรรณแกล้งเธอ หญิงสาวจึงใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มไปที่เอว เพราะรู้ว่าเบญจวรรณบ้าจี้ ฝ่ายที่ถูกจี้เอวไม่ยอมแพ้ จี้ไปที่เอวของพิมพิชชาบ้าง เสียงหัวเราะของทั้งสองสาวจึงแข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เวลาผ่านไปสักพักเบญจวรรณจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมาจากกระเป๋า ต่อสายถึงตุลาการเพื่อนัดหมายเวลาและสถานที่ “เรียบร้อยแล้ว คืนนี้ตอนหนึ่งทุ่มไปเจอกันที่ผับวาเนสซ่า คุณต้อมบอกว่าไปถึงให้บอกกับพนักงานที่ผับว่า นัดกับเขาไว้ พนักงานจะพาไปที่โต๊ะเอง” “ขอบใจแกมากนะ ถ้าไม่ได้แก ฉันคงไม่ได้อัลบั้มรูปของคุณชายสุดหล่อของฉันแน่เลย” พิมพิชชาพูดถึงเดวิส นายแบบหนุ่มรูปหล่อทีไร สีหน้าและแววตาเพ้อฝันทุกที เป็นภาพที่ชินตาของเบญจวรรณไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD