“เมื่อคืนนี้กูเจอฟ้า”
“ฟ้าอะไรของมึง”
“ฟ้าประทาน ไอ้ฟ้าขี้นกอะ”
“อ่อ ไอ้ฟ้าที่นกเคยขี้ใส่หัวเลยโดนล้อว่าไอ้ฟ้าขี้นก ฟ้าประทานขี้นกอะนะ”
“อืม”
“แล้วทำไมวะ ทำไมมึงถึงพูดถึงเพื่อนคนนี้ขึ้นมา เพื่อนในงานก็มีตั้งหลายคน”
“ฟ้ามันขอกูแต่งงาน”
“แค่ก แค่ก อะไรนะ” แทบสำลักกาแฟที่ยกขึ้นดื่ม ไอ้ฟ้านี่มันจริง ๆ เลย
“ฟ้ามันขอกูแต่งงาน”
“แล้วมึง…”
“กูบอกว่ามันบ้า”
“เออ มันบ้า เพื่อนไม่เจอเกือบ 20 ปี จู่ ๆ มาขอมึงแต่งงาน อะไรเข้าสิงมันวะ”
“ได้ยินว่าครอบครัวอยากให้แต่งงานสักที แต่ฟ้ามันไม่มีแฟน”
“มันสวยไหมวะ เมื่อคืนกูมองเพื่อนไม่ครบหรอก มัวแต่เมา”
“ก็ได้” ก็สวยดี แต่คนแบบนั้นให้ชมว่าสวยคงมโนคิดไปไกล
“ก็ได้ของมึงแปลว่าปกติ ถ้าหน้าตาใช้ได้ทำไมถึงไม่มีแฟนวะ น่าแปลก”
“…กูไม่รู้” รู้สิ ยัยนั่นบอกว่าเพราะชอบเขา แล้วเรื่องที่ยัยนั่นชอบเขาสมัยเด็กเขาไม่ได้เล่าให้กลุ่มเพื่อนฟังทั้งยังบอกให้ฟ้าประทานเงียบห้ามพูด ด้วยข้อแลกเปลี่ยนพันธะสัญญาที่ให้ไปเพราะอยากให้เรื่องเงียบ ตอนนั้นในห้องเรียนถ้าเพื่อนคนไหนชอบกันไม่พ้นถูกเพื่อนในห้องแซวไม่หยุด สายลมไม่ชอบอะไรแบบนั้นจึงพยายามปิดปากฟ้าประทาน
“งั้นมึงก็แต่งงานกับไอ้ฟ้าสิวะ ทำข้อตกลงกันดี ๆ กูว่าไอ้ฟ้าน่าจะพูดรู้เรื่อง” ฟ้าประทานในสายตาไม้ทีคือผู้หญิงทรงห้าว กล้าลุยกล้าเล่น ต่างจากฟ้าประทานในสายตาสายลมที่มองฟ้าประทานว่าเป็นยัยบ้าพูดจาไม่รู้เรื่อง
“มึงจะให้กูไว้ใจคนที่ไม่ได้เจอกันมา 17 ปีอะนะ” แล้วยังเป็นคนอย่างไอ้ฟ้าอีก
“อ้าว งั้นมึงจะทำไง กูก็คิดว่ามึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะอยากตอบตกลงแต่งงานกับไอ้ฟ้า”
“มึงคิดดูนะจะมีผู้หญิงปกติที่ไหนมาขอผู้ชายแต่งงาน ทั้งที่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน”
“ไม่ค่อยมี แต่ที่เป็นแบบนี้มันอาจจะเดือดร้อนหรือเปล่าวะ ถ้าโดนครอบครัวกดดันมาก ๆ ก็ต้องหาคนมาแต่งด้วยให้ได้”
“…” แต่เมื่อคืนท่าทางของไอ้ฟ้าเหมือนเจาะจงว่าต้องเป็นเขาเท่านั้น
“มึงกำลังคิดอะไร”
“ช่วงนี้เงาะเก็บได้แล้ว”
“ไอ้ลมครับ มึงช่วยคิดอะไรที่ไม่ใช่เรื่องงานได้ไหม กูก็เผลอดีใจคิดว่ามึงจะแต่งงานอีกรอบ”
“แต่งกับไม่แต่งมันจะต่างกันจริงเหรอ”
“มันก็ต้องต่างอยู่แล้ว แต่ถ้ามึงแต่งนะมึงอย่าลืมทำข้อตกลงเรื่องบ้านให้ดี ถ้าไม่ให้เข้าไปเหยียบบ้านหลังนั้นก็พูดให้ชัดเจน เดี๋ยวเป็นเหมือนไอ้เอิ๊กกับน้องเบลจะแย่เอา” ไม้ทีกำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้พี่เอิ๊กและเบลแตกหักถึงขั้นที่เบลหนีออกจากบ้าน
“กูไม่ได้ใจร้ายแบบไอ้เอิ๊ก”
“มึงใจร้ายไม่ต่างจากไอ้เอิ๊กต่างหาก” ใจร้ายใส่คนอื่นไม่พอยังใจร้ายกับตัวเองด้วย
“ถ้ากูใจร้ายใครจะใจดี” คนงานในสวนชอบเขากันทุกคนเพราะว่าเขาน่ะใจดี
“มึงชอบใจร้ายกับตัวเอง”
“…”
“ชีวิตคนเรามันก็เท่านี้ จะตายวันไหนก็ไม่รู้ ทำไมมึงไม่หาความสุขใส่ตัวเยอะ ๆ วะ จะได้ไม่เสียดายที่ได้เกิดมาไง”
“ไอ้ที”
“ว่า” เรียกด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนี้ทำขนลุกยังไงชอบกล
“ถ้าความสุขที่กูอยากได้มันหาง่ายขนาดนั้นกูจะอยู่ตรงนี้ไหม กูไม่ได้ไม่อยากมีความสุข เพียงแต่กูไม่รู้ว่าควรทำยังไงถึงจะได้ความสุขนั้นมาครอบครอง” ดาวเหนือที่เคยเป็นความสุขมีครอบครัวไปแล้ว ต่อให้ตอนนี้เขาโสดไม่มีพันธะ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ดาวเหนือไม่มีวันกลับมาเป็นดาวเหนือของสายลม
“…” ไอ้ลมมันเล่นพูดชัดเจนขนาดนี้ คนที่เป็นเพื่อนอย่างเขาจะพูดอะไรได้ ก็รู้กันอยู่ว่าสิ่งที่ทำให้ไอ้ลมมีความสุขคืออะไร