ตอนที่ 2 ข้าวใหม่ปลามัน (1)

1455 Words
แสงแดดสาดส่องผ่านม่านมู่ลี่เข้ามากระทบเปลือกตาบอบบางประท้วงให้ตื่นนอนเสียที วารยารู้สึกเมื่อยไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัวเจ็บเหมือนโดนของหนักทับมาหลายชั่วโมงจะขยับหนีก็หนีไม่ได้มันคืออะไรกัน ลมหายใจอุ่นเป่ารดดวงหน้าหล่อนอยู่หลายนาทีจนรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยความอยากรู้หล่อนจึงพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมามองว่าของหนักกับลมหายใจนี้เป็นของใคร วินาทีแรกที่ลืมตาขึ้นสายตาหล่อนพร่ามัวมองไม่ชัดนักจึงหลับลงแล้วลืมตาขึ้นใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ดวงตาหล่อนเบิกกว้างร่างกายแข็งปานหินผาเมื่อเห็นดวงหน้าของสามีแนบชิดสนิทสนม หลุบสายตาลงต่ำก็เห็นเขากอดรัดหล่อนไว้ราวกับเห็นหล่อนเป็นหมอนข้าง ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรหล่อนถึงได้มานอนบนเตียงกับเขา!’ วารยาพูดไม่ออกบอกไม่ถูกรีบงัดขาเขาออกจากต้นขาหล่อน ขยับแผ่นหลังออกจากอ้อมกอดของเขาแต่กว่าจะขยับได้สักนิดก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ “อืม...” ครางประท้วงแล้วดึงหล่อนไปกอดอีก วารยาอยากจะกรี๊ดใส่หน้าสามียิ่งนักเพราะตอนนี้ร่างกายหล่อนแนบชิดจนแทบเป็นเนื้อเดียวกับเขาแล้ว แถมเขายังรุกรานหล่อนด้วยการก่ายขามาอีกจนเจ้าโลกแนบชิดกับหล่อนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว อยากจะบ้า! วารยาคนนี้จะไม่ทน! “คุณเพลิงเช้าแล้วปล่อยวาสักทีวาอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว ปล่อยๆๆ” หล่อนเขินแก้มแดงขยับตัวแรงๆ ให้ผู้เป็นสามีรู้สึกตัวแล้วต้องตะคอกใส่หูสามีเสียงดังมากขึ้นเมื่อเห็นว่าริมฝีปากเขายกขึ้นเล็กน้อยบ่งบอกให้รู้ว่าเขารู้สึกตัวนานแล้ว “คุณเพลิงลืมตาเถอะค่ะแล้วเอาไอ้! เอ่อ... เอาขาคุณออกไปให้พ้นจากวาทีได้โปรด ได้โปรดเถอะค่ะ” “อ๊า...” เสียงห้าวครางแผ่วรีบกอดรัดภรรยาแน่นขึ้นไม่ให้หล่อนสะบัดสะเปะสะปะมาถูกจุดศูนย์รวมอารมณ์ของเขาได้อีก แค่นี้มันก็ร้องอยากปลดปล่อยจะแย่ “คุณเพลิง...” “ชูว์ ไม่มีอะไรหรอกวา อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นอย่าโวยวาย รู้ไหมว่ายิ่งดิ้นแรงมากแค่ไหนอะไรๆ ของเธอยิ่งปลุกฉันไปกันใหญ่มากแค่นั้น” กระซิบเสียงพร่าบอกภรรยาใกล้ชิด ทำเอาวารยาถึงกับขนลุกซู่ไม่กล้าขยับร่างกายแม้แต่น้อย หล่อนทนเงียบอยู่ครู่หนึ่งก็ทนไม่ไหว “แต่จะไม่ให้วา...” “เงียบไว้เดี๋ยวก็ชิน ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ทุกเช้าแหละ มันชอบ... ลุกขึ้นยืนเพราะอากาศหนาวน่ะ” เพลิงกัลป์บอกต่อด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ชนิดที่คนฟังต้องหน้าแดงเปล่งปลั่งราวกับลูกตำลึงสุก สิบนาทีผ่านไป! ผ่านไปแล้วแต่เขาก็ไม่มีทีท่าจะลดแรงกอดหล่อนลงเลยแม้แต่น้อยจนวารยาเริ่มจะโกรธหน้าดำหน้าแดง หล่อนอยากกรีดร้องใส่ทุกครั้งที่เห็นว่ามุมปากคมมีรอยยิ้ม เขายังไม่ยอมลืมตาตื่นแต่แอบยิ้มแอบหัวเราะอยู่อย่างนั้นแหละ น่าตีจริงเชียว! วารยารู้สึกมันเขี้ยวสามีเลยเอื้อมปลายนิ้วไปดึงเปลือกตาเขาให้เปิดขึ้นข้างหนึ่ง พอเขาไม่ยอมลืมตาก็ดึงเปลือกตาเขาพร้อมกันทั้งสองข้าง “คุณเพลิงจะตื่นดีๆ หรือต้องให้วาเล่นบทโหดคะ” “จัดเลย ขอแบบโหดๆ เลยนะ” “คะ?” ดวงหน้าสวยมองหน้าสามีด้วยความงุนงง ซึ่งกว่าจะเข้าใจความหมายก็ตอนที่เขาจับเอวอ้อนแอ้นของหล่อนขึ้นมานั่งบนเอวสอบเรียบร้อยแล้ว “ว้าย!!” หล่อนหวีดเสียงร้อง เขาทำเร็วจนหล่อนเสียการทรงตัวดวงหน้าเลยเลื่อนลงไปใกล้เขาแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น ริมฝีปากของวารยาเผยอค้างด้วยความที่ไม่คิดว่าเพลิงกัลป์จะเล่นอะไรแบบนี้ อย่าว่าแต่วารยาเลยที่รู้สึกอย่างนั้น... เพลิงกัลป์เองก็ตกใจที่ตัวเองกล้าเล่นแบบนี้กับภรรยาป้ายแดงที่ยังไม่เคยได้ร่วมรักเลยสักครั้ง ตึกตึก... ตึกตึก... เสียงหัวใจสองดวงดังเป็นจังหวะทว่าไม่รู้ว่าดวงไหนกันแน่ที่ดังมากกว่ากัน เพลิงกัลป์เกร็งท่อนแขนค้างเลื่อนจากเอวคอดเล็กขึ้นมาอีกเล็กน้อยแล้วประคองภรรยาให้ขยับขึ้นนั่งได้สบายมากขึ้น แก้มหล่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงเปล่งปลั่งแถมชุดที่หล่อนใส่ตอนนี้ก็บางแสนบางจนชายหนุ่มก่อเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอีกครั้งจนต้องลบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “อุ๊ย!” วารยาเพิ่งรู้สึกตัวเลยรีบปีนลงจากหน้าท้องเขามานั่งพับเพียบอยู่ข้างๆ “รู้สึกตัวช้าจังเลยนะ” หัวเราะในลำคอขบขันระคนเอ็นดู ขยับกายขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหมอนใบใหญ่แล้วหยิบหมอนของอีกใบมาปิดบังหน้าขาไว้ไม่ให้อะไรๆ มันท้าทายสายตาภรรยา “เมื่อคืนคุณเพลิงอุ้มว่ามานอนบนเตียงเหรอคะ วาจำได้ว่าวานอนหลับบนโซฟาตัวนั้นแล้ว” “ใช่ เธอเป็นเมียฉันนะ ฉันไม่ใช่พวกพระเอกใจร้ายในนิยายน้ำเน่าที่เธอชอบอ่านจะได้ปล่อยให้เธอนอนบนโซฟา ฉันจะไม่ร้ายใส่เธอถ้าฉันไม่อารมณ์เสียหรือเธอทำอะไรขัดหูขัดตาฉัน โอเค้?” เลิกคิ้วขึ้นสูงขณะจุดรอยยิ้มบนริมฝีปาก เอื้อมมือจะไขว่คว้าภรรยาทว่าหล่อนขยับหลบ “จะ... จะทำอะไรคะ” “ก็แค่จะชวนไปอาบน้ำด้วยกัน เธอจะได้ไปเตรียมอาหารเช้าแล้วฉันก็จะไปทำงานไง” เอ่ยชวนด้วยหน้าตายๆ ทำท่าจะเอาหมอนออกจากหน้าขาฝ่ายวารยารีบยกมือขึ้นปิดหน้าทว่าเขายังแอบเห็นอยู่ดีว่าหล่อนแอบแยกปลายนิ้วออกห่างเพื่อจ้องมอง โธ่ ยัยเด็กหื่นเอ๊ย! ไม่รู้ว่าอายหรืออยากดูกันแน่ มีเมียหื่นนี่เป็นบุญของเขาจริงๆ เร้าใจชะมัด “อยากอาบก็ไปอาบคนเดียวสิคะ” “เราสองคนแต่งงานกันแล้วนะวา แต่งงานและจดทะเบียนถูกต้องไม่ใช่ว่าแต่งลมๆ หลอกๆ ถึงวันนี้จะยังรอดแต่ยังไงเธอก็ต้องทำหน้าที่เมียอยู่ดี” “แต่ว่า...” “จะบอกให้นะวาว่าถ้าอยากเป็นเมียฉันให้ตลอดรอดฝั่งมีกฎไม่กี่ข้อ ถ้าไม่อยากเป็นม่ายโดนผัวขอหย่าก็จำเป็นต้องจำกฎฉันไว้ ข้อแรกต้องตามใจฉันทุกอย่างหรือเรียกอีกอย่างว่าห้ามขัดใจฉันโดยเด็ดขาด ข้อสองเธอต้องขยันปรนนิบัติเอาอกเอาใจฉันห้ามบอกว่าขี้เกียจเด็ดขาด และข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าเธอจะเหนื่อยหรือจะอยู่ในอารมณ์ไหนถ้าฉันต้องการเธอก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเสมอ โอเค้?” ร่ายกฎประจำตัวออกไปทั้งหมดมาจากการคิดสดๆ เพียงเพื่ออยากแกล้งพูดให้ภรรยาขยาดเท่านั้น แต่หากหล่อนทำได้จริงมันก็น่าสนุกไม่น้อย บางทีการแต่งงานกับวารยาอาจจะดีอย่างที่ผู้ใหญ่บอกก็ได้คงต้องลองดูใจกันไป “วามะ...ไม่” “ไม่อะไร” ปฏิเสธเสียงตะกุกตะกักแทบจะในทันทีแต่พอเห็นสายตาและได้ยินน้ำเสียงของเขาก็จำได้ว่ากฎข้อที่หนึ่งคือห้ามขัดใจ ฉับพลันหล่อนรีบหุบปากไม่พูดต่อให้จบประโยค ยอมรับตามตรงว่าตอนนี้หล่อนชักจะกลัวเขาแล้วสิ ทีแรกนึกว่าเขาจะโกรธที่ถูกบังคับให้แต่งงานจนพาลเกลียดหล่อนเข้าสายเลือดแต่ไหงแต่งงานกันไม่ทันไรก็แสดงความหื่นออกมาซะแล้ว โธ่! จะรอดถึงวันพรุ่งนี้ไหมเนี่ยยัยวา! “ปละ... เปล่าค่ะ” “แล้วไป” “เอ่อ... วันนี้คุณเพลิงจะเข้าออฟฟิตใช่ไหมคะ วาเองก็ไม่ได้ไปทำงานหลายวันแล้วว่าจะขอติดรถไปด้วย ถ้าอย่างนั้นวาไปอาบน้ำก่อนส่วนคุณเพลิงก็ออกไปใช้ห้องน้ำข้างนอกนะคะ โอเคลงตัวแล้ววาขอตัวก่อนนะคะ” วารยาสวมวิญญาณนักวิ่งทีมชาติวิ่งลงจากเตียงนอนหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งสิบคูณร้อยเมตรเข้าสู่ห้องน้ำทันที ทิ้งให้สามีป้ายแดงกลั้นหัวเราะตามหลังท้องคัดท้องแข็ง ดึงประตูปิดลงเสียงดัง ปัง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD