เพลิงกัลป์จับมือภรรยากลับเข้าไปในงานดำเนินพิธีการต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาขอบคุณบิดาที่จัดการส่งวิชุดาให้แล้วตำหนิคนเฝ้าหน้างานที่ปล่อยให้บุคคลต้องห้ามเข้ามาในบริเวณงานแต่งจนเกิดเรื่องนี้ขึ้น เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งก็มาถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ เหล่าผู้ใหญ่ในเครือญาติต่างมาอวยพรแต่บุคคลที่สำคัญจริงๆ จะเป็นคุณย่าและบิดามารดาของเพลิงกัลป์
“ขอบคุณมากค่ะ/ครับคุณพ่อคุณแม่”
สองสามีภรรยาป้ายแดงก้มลงกราบแทบเท้าบิดามารดาหลังรับคำอวยพรจากท่านทั้งสองแล้วก็ขยับกายคู่มาหยุดตรงหน้าคุณย่าวิรงรองที่น้ำตาซึมตลอดเวลา ปลื้มปีติที่หลานทั้งสองได้มีวันนี้
มือเหี่ยวย่นของท่านลูบศีรษะหลานทั้งสองแล้วสอนเคล็ดลับครองเรือนให้วารยาและไม่ลืมที่จะสอนความเป็นหัวหน้าครอบครัวให้หลานชายแท้ๆ เพียงคนเดียวอย่างเพลิงกัลป์ หลานไม่แท้ที่ท่านรักมากเท่าดวงใจคือวารยา วารยานั้นเป็นเด็กกำพร้าบิดามารดาที่ท่านสงสารเลยรับวารยากับน้องสาวมาอุปการะเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนถึงชั้นปริญญาทุกคนแล้วแต่จะเรียนไหวถึงปริญญาไหน หากวารยาเลือกเรียนถึงปริญญาตรีเท่านั้นต่างจากน้องสาวอย่างวารสาที่อยากเรียนต่อปริญญาโท
“เห็นมาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอยตอนนี้หลานสองคนต่างเติบโตขึ้นมาก รู้ไหมว่าย่ารักทั้งสองคนมากแค่ไหนรักเหมือนแก้วตาดวงใจ เห็นสองคนแต่งงานกันย่าก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย ทั้งสองคนต้องเรียนรู้ข้อดีของกันและกันตราบเท่าที่ยังได้อยู่ด้วยกันอย่าลืมคำนี้ของย่าล่ะนะ” คุณวิรงรองกล่าวปิดท้ายก่อนยกปลายนิ้วขึ้นเช็ดน้ำตา วางมือลงแตะไหล่หลานยามหลานก้มลงกราบรับพร
“ขอบคุณครับ/ค่ะ คุณย่า”
รอคอยจนกระทั่งผู้ใหญ่ทุกคนออกไปจากเรือนหอรอรักเพลิงกัลป์ก็ทอดถอนใจอย่างโล่งอก ผินดวงหน้ามองภรรยาแวบเดียวหล่อนก็รีบมองเมินไปทางอื่น
ส่ายศีรษะช้าๆ รู้หรอกหล่อนคิดอะไรแต่คืนนี้เขาเหนื่อยมาก เพราะฉะนั้นอย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นแม้แต่ขาอ่อน!
ชายหนุ่มในชุดเจ้าบ่าวหล่อเหลาลุกขึ้นยืนบิดกายไปมาแก้ความเมื่อยขบเริ่มจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองเร็วจนภรรยาสาวต้องรีบยกมือเบรก
“ดะ... เดี๋ยวก่อนค่ะคุณเพลิง”
“ไม่ด๋งไม่เดี๋ยวล่ะวา คืนแต่งงานทั้งทีมันต้องรีบถอดจะใส่ไว้ทำไมมันเกะกะ!” แกล้งพูดแล้วขยิบตาให้ภรรยาเหมือนพวกเสือร้ายที่พร้อมตระครุบเหยื่อสาว ยิ่งเห็นหล่อนหน้าแดงเขาก็ยิ่งตลก อยากจะหัวเราะให้กรามค้าง
“คุณ... คุณเพลิงจะบ้าเหรอคะ”
“ไม่บ้าหรอก”
ว่าพลางสาวเท้าเข้าไปใกล้เหมือนจะรุกรานภรรยาสาวที่หลับตาปี๋ ก่อนจะเอ่ยต่อเพื่อดับความฝันของหล่อนในวินาทีถัดมา
“เธอนี่บ๋องจริง คนจะอาบน้ำที่ไหนก็ต้องถอดเสื้อผ้าทั้งนั้นแหละหรือจะให้ฉันอาบทั้งชุดเจ้าบ่าวแบบนี้ ใครรู้คงได้หาว่าฉันบ้ากันพอดี” เฉลยแล้วเดินเปลือยอกไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนโต๊ะด้านหลังภรรยา หมุนกายเดินไปยังห้องน้ำพอดี ตลอดทางเขาเกือบหลุดเสียงหัวเราะไปหลายครั้งแล้วกับนัยน์ตาตื่นกลัวอะไรไม่เข้าท่าของหล่อน
“เชอะ แล้วก็ไม่บอกแต่ทีแรก”
หล่อนมองค้อนสามีลับหลัง จะว่าเสียดายก็ไม่ใช่เพราะหล่อนออกจะเสียหน้ามากกว่า!
คืนแรกของการเข้าหอเป็นไปตามคาดคือเพลิงกัลป์แยกไปนอนอีกห้องนอนหนึ่ง หล่อนจึงครอบครองที่นี่แต่เพียงผู้เดียว ตกดึกชักเหงาๆ ไม่มีอะไรทำเลยส่งไลน์หาน้องสาวแล้วพยายามฝืนกายให้หลับสนิท
ช่วงเช้าตรู่วันถัดมา
เพลิงกัลป์ไปวิ่งออกกำลังกายแต่เช้าวารสาก็เลยแอบย่องเข้ามาหาพี่สาวได้สำเร็จ แอบดีใจไม่น้อยที่คืนแรกของการแต่งงานพี่สาวกับพี่เขยยังไม่ได้ร่วมเตียงกัน อย่างนี้ก็พอจะมีลุ้นว่าพี่เขยอาจจะไม่สนใจพี่สาวตัวเองก็ได้
แค่คิดวารสาก็มีความสุข
เพราะหล่อนไม่ชอบเพลิงกัลป์ในระดับรุนแรง!
วารสาเข้ามาหาก็พบว่าพี่สาวกำลังเก็บเตียงนอนอยู่เลยออกอาสา “มาค่ะสาช่วยเก็บ พี่วาไปอาบน้ำเร็วค่ะสาซื้อชุดสวยๆ มาให้ลองเพียบเดี๋ยววันนี้จะช่วยแต่งตัวเอง”
“พี่ก็แค่อยู่บ้านไม่ได้ไปไหนไม่ต้องแต่งหรอกสา”
“ไม่ได้ค่ะ พี่วาต้องสวยที่สุด”
“จ้ะ”
วารยายิ้มรับอย่างเถียงไม่ได้เพราะสายตาของวารสานั้นจริงจังเกินไป อาบน้ำราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเดินออกมามีผ้าขนหนูพันรอบกายนั่นนิ่งเป็นหนูทดลองให้วารสาแต่งหน้าทาปากให้ จนกระทั่งสุดท้ายวารสาหยิบสารพัดชุดที่ซื้อมาฝากออกมาให้เลือกวารยาถึงกับชะงักเพราะแต่ละชุดมันผู้ดีมากไม่เข้ากับหล่อนเลย
“ชุดพวกนี้ไม่ดีมั้งสา พี่ไม่มั่นใจใส่เลย”
“พี่วาสวย ใส่ชุดไหนก็สวยค่ะ นี่บอกตามตรงเลยนะคะว่าถ้าสาเป็นผู้ชายสาคงจะตามจีบพี่วาไปนานแล้ว คนอะไรส๊วยสวยแถมยังนิสัยดีอีก มีแต่คนตาต่ำเท่านั้นแหละค่ะถึงไม่เห็นคุณค่า” อดไม่ได้วารสาเลยเหน็บพี่เขยเข้าให้
“บ้าน่าสา พี่แต่งงานแล้วนะใครยังจะมาตามจีบพี่อีก” บอกปัดขณะเลือกชุด
“โธ่... พี่วาขานี่มันยุคไหนแล้วคะ แต่งงานได้ก็หย่าได้ หย่าได้ก็แต่งงานใหม่ได้อีกค่ะ สาไม่ได้แช่งน๊า แต่แค่เล่าให้ฟังว่าทุกวันนี้ผู้ชายบางคนเขาไม่แคร์หรอกค่ะว่าผู้หญิงจะเป็นม่ายไม่ม่าย ขอแค่รักกันสปาร์คกันก็เรียบร้อยโรงเรียนอนุบาลเชียงรายแล้ว”
วารสาเอ่ยเสียงใสเป็นนกแก้วนกขุนทองตลอดการแต่งหน้ากระทั่งเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ววารสาก็ให้พี่สาวเปลี่ยนชุดมาให้ตัวเองดู ไม่นานนักวารยาก็เดินขัดเขินออกจากห้องน้ำมองตัวเองในกระจกแล้วหลุดเสียงหัวเราะ
“สา หน้าพี่กับชุดพี่ดูตลกยังไงไม่รู้”
“โธ่... คิดไปเองทั้งนั้นค่ะ พี่วาน่ะชอบขลุกอยู่แต่ในบ้านทำงานอยู่แต่ในออฟฟิตก็เลยไม่ได้เห็นแฟชั่นของสาวๆ ในเมือง สาเก็บเงินที่พี่วาให้รายสัปดาห์ไว้ซื้อชุดมาให้พี่วาเพียบเลยอยู่ในนั้น พี่วาต้องใส่ให้ครบทุกชุดนะคะ”
“มันก็สวยดีอยู่นะสา เพียงแต่พี่ก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนก็เลยไม่รู้ว่าจะได้ใส่ไหมแต่ยังไงก็ขอบใจมากนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะสายินดี พี่วาอยากใส่อยู่บ้านก็ใส่ไปเถอะค่ะไม่มีใครว่าอะไรหรอก ดีซะอีก ใส่แล้วสวยคนมองมาก็เจริญหูเจริญตา” ยังไม่วายยุยงให้พี่สาวแต่งตัวสวยๆ ต่อ
“ไม่ไหวมั้งสา”
วารยาเบรกความคิดของน้องสาว
“ให้พี่ใส่อยู่บ้านใครมาเห็นเข้าคงได้หัวเราะพี่แน่นอน”
“ไม่ได้ค่ะ พี่วาต้องอย่าลืมสิคะว่าตอนนี้พี่วาไม่ใช่เด็กกะโปโลใต้อุปการะของคุณย่าแต่เป็นถึงภรรยาของคุณเพลิงกัลป์เจ้าของธุรกิจเป็นพันล้านรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ขืนยังแต่งตัวบ้านๆ แบบเดิมอีกมีหวังได้ถูกบรรดาสาวๆ ของอีตาคุณเพลิงกัลป์นั่นแอบหัวเราะเยาะลับหลังแน่ พี่วาอาจจะทนได้แต่สาทนไม่ได้ ได้ยินดีไรอยากจะตามตบเรียงหน้า”
สาวขาโหดพูดแล้วอารมณ์ขึ้น
คำพูดของวารสานั้นทำให้วารยาเพิ่งมาฉุกคิดได้ว่าตอนนี้สถานะของหล่อนได้เปลี่ยนไปแล้ว คงจะมีเพียงแต่หัวใจของหล่อนเท่านั้นที่ยังไม่เปลี่ยน...