อาซ้อ

1327 Words
เช้าวันต่อมา เทียนหยูตื่นตั้งแต่เช้า เพราะว่าวันนี้มีประชุมที่ห้างการค้าเรื่องสินค้าใหม่ที่จะนำเข้ามาขายที่เซี่ยงไฮ้ และนานกิง รวมถึงเรื่องการที่จะต้องไปหาทำเลสร้างห้างการค้าที่ปักกิ่งด้วย ตอนนี้ท่านฟู่ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้ดูแลที่มีอำนาจรองจากท่านฟู่แล้ว ความรับผิดชอบของเขาจึงต้องเพิ่มมากหน่อย หลินฮวาเองก็ตื่นแต่เช้าเช่นกัน หน้าที่ของนางในตอนเช้าของทุก ๆ วัน ก็คือ การจัดเตรียมเสื้อให้สามีใส่ไปทำงาน อีกทั้งวันนี้นางต้องตระเตรียมของตนเองด้วย เนื่องจากท่านฟู่จะให้นางไปเปิดหูเปิดตาที่ห้างการค้า นางเลือกแต่งตัวในชุดกี่เพ้าสีแดงพิมพ์ลายดอกโบตั๋น ชุดกี่เพ้ารัดรูปขับให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของนางอย่างชัดเจน หุ่นที่อวบอั๋นน่าเคล้นคลึงนั้น ใครเห็นก็เป็นต้องมองตามเป็นแน่ ทรงผมทำเป็นแบบมวยต่ำตามยุคสมัยนิยม ปักปิ่นประดับไว้บนผมหนึ่งอันเป็นว่าเรียบร้อย ส่วนใบหน้าก็ทาแป้งแค่พองามเผยให้เห็นผิวที่เนียนละเอียดดั่งสาวแรกรุ่น และที่ขาดไม่ได้คือลิปสติกสีแดงตามแบบของฝรั่งที่ทำให้ดูเป็นสาวสวยและมั่นใจขึ้นมา เมื่อทุกคนพร้อมกันแล้วก็พากันออกเดินทางไปยังห้างการค้า บ้านตระกูลฟู่เป็นบ้านที่ร่ำรวยก็จริง แต่ทว่าพวกเขามีรถไว้ใช้เพียงคันเดียวเท่านั้น แถมยังเป็นรุ่นที่ค่อนข้างเก่า เนื่องจากท่านฟู่ไม่ได้มีนิสัยฟุ่มเฟือยจึงใช้งานของทุกอย่างอย่างคุ้มค่า และเหตุผลที่ไม่ได้ซื้อรถให้ลูกชายก็เพราะว่าเวลาไปทำงาน ก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว จะซื้ออีกทำไมให้สิ้นเปลือง แต่ถ้าลูกชายของเขาอยากจะไปไหนเขาก็อนุญาตให้ใช้รถของเขาได้ ส่วนตัวเขาเองชอบที่จะใช้รถรางสาธารณะมากกว่า เพราะอย่างไรเซี่ยงไฮ้ก็เป็นเมืองที่ค่อนข้างเดินทางสะดวกอยู่แล้ว ทั้งสามคนขึ้นไปนั่งบนรถโดยที่สารถีของวันนี้ก็คือเทียนหยู ส่วนท่านฟู่กับหลินฮวานั้นนั่งด้วยกันที่เบาะหลัง รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวช้า ๆ มุ่งหน้าไปยังห้างการค้าตระกูลฟู่ “เมื่อข้าพบกับทุกคน ข้าต้องพูดว่าอย่างไรหรือคะ” หลินฮวาที่ดูไม่ค่อยมั่นใจเอ่ยถามขึ้น ท่านฟู่ที่นั่งอยู่ด้านข้างก็หันไปมองนางและพบว่าสีหน้าของนางดูเป็นกังวลอยู่จริง ๆ “เจ้าก็แค่ทำตัวตามสบาย ถ้าพวกเขาถามก็ตอบไป ถ้าไม่สะดวกตอบ เจ้า... เทียนหยูก็ตอบแทนแล้วกัน” พูดจบก็พยักพเยิดไปทางลูกชายที่กำลังขับรถอยู่ “ขอรับ” เทียนหยูรับคำ ท่านฟู่อยากให้ทุกคนที่ห้างการค้ารู้จักกับหลินฮวาในฐานะภรรยาของเทียนหยู พอได้เห็นหลินฮวาทุกคนต่างก็ชมเป็นเสียงเดียวกันว่านางช่างงดงามจริง ๆ สมแล้วที่ได้เป็นสะใภ้ของตระกูลฟู่ เวลาที่นางเดินผ่านพนักงานในห้างการค้าต่างก็ผงกศีรษะให้พร้อมพูดว่าอาซ้อ ๆ ห้างการค้าตระกูลฟู่ ถือว่าเป็นห้างการค้าที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาจากห้างการค้าของรัฐบาลที่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ถ้าเทียบกันถึงเรื่องคุณภาพของสินค้าแล้วสินค้าของห้างการค้าตระกูลฟู่ย่อมเป็นที่หนึ่ง ผู้คนที่พอจะมีเงินในยุคนั้นต่างก็มาซื้อสินค้าที่นี่กันทั้งนั้น เว้นก็แต่พวกคนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ที่ต้องซื้อของจากห้างการค้าของรัฐบาลเนื่องจากราคาถูกกว่า เมื่อก่อนห้างการค้าตระกูลฟู่ยังเป็นเพียงแค่ร้านค้าเล็ก ๆ ที่เปิดตามซอกมุมต่าง ๆ ของเซี่ยงไฮ้ จุดประสงค์ก็เพียงแค่อยากจะหาสินค้าที่พอจะมีคุณภาพหน่อยมาขายในราคาถูกให้กับชาวบ้านที่ไม่ค่อยมีกำลังซื้อ เพราะฟู่เทียนเฉินอดที่จะสงสารผู้คนที่ต้องทนใช้ของห่วย ๆ กินอาหารแย่ ๆ ไม่ไหว แต่พอยุคของสงครามหมดลง ผู้คนต่างก็มีชีวิตที่ดีขึ้นถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะยังยากจนอยู่ก็ตาม แต่ก็ยังพอมีกำลังซื้อมากขึ้น ร้านค้าตระกูลฟู่จึงได้ขยับขยายจนมาเป็นห้างการค้าตระกูลฟู่ในทุกวันนี้ “เทียนหยู เจ้าพาหลินเอ๋อร์ไปเลือกดูของเถอะ เดี๋ยวพ่อจะไปคุยงานกับท่านอาเจียงสักหน่อย” ฟู่เทียนเฉินกล่าวกับลูกชายของตนก่อนที่จะหมุนตัวเดินจากไป “ขอรับ” เทียนหยูรับคำ ตั้งแต่ออกจากบ้านมาหลินฮวาก็ไม่ได้ยินคำพูดไหนออกจากปากเทียนหยูเลยนอกจากคำว่าขอรับ จนนางคิดสงสัยขึ้นมาว่าผู้ชายคนนี้จะพูดคำอื่นไม่เป็นเลยหรืออย่างไร ที่บ้านเขาก็ไม่ค่อยพูดอะไร นางแทบจะไม่ได้ยินเสียงของเขาเลยด้วยซ้ำ นางเองก็ชักจะอยากรู้ขึ้นมาแล้วว่าเวลาเขาทำงานเขาพูดกับเพื่อนร่วมงานบ้างหรือไม่ “ตามข้ามา” เทียนหยูบอกพร้อมทั้งทำท่ากวักมือ นี่คือคำที่สองที่เขาพูดในวันนี้นอกเหนือจากคำว่าขอรับ หลินฮวารู้สึกโล่งอกนิด ๆ ที่เขายังรู้จักพูดคำอื่นกับนาง ไม่ใช่แค่นั้นสินางดีใจที่เขาพูดกับนางต่างหาก ที่ห้างการค้าตระกูลฟู่มีสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ข้าวของเครื่องใช้ เมื่อก่อนเคยมีพวกข้าวสารอาหารแห้งแต่ว่าในตอนนี้ไม่มีแล้ว พวกอาหารจะถูกนำไปขายที่ร้านสำหรับขายอาหารต่างหาก เทียนหยูพานางเดินไปยังมุมที่จัดวางเครื่องใช้สำหรับสตรี ตรงนั้นมีสบู่ น้ำมันทาผิว แป้ง ลิปสติกแล้วก็น้ำหอม หลินฮวาเห็นก็ถึงกับตื่นเต้นขึ้นมา ทั้งชีวิตของนางไม่เคยใช้สิ่งของพวกนี้มาก่อน เมื่อก่อนตอนที่ถูกขายให้ไปเป็นเด็กรับใช้ในหอนางโลมนั้นนางเพียงแต่เห็นพวกพี่สาวใช้กัน แต่ว่าพวกพี่สาวเหล่านั้นมีเงินถึงได้สามารถใช้ของพวกนี้ได้ นางเองมักจะได้กลิ่นหอมจากน้ำมันทาผิวแล้วก็น้ำหอมจากตัวของพวกพี่สาวบ่อย ๆ จนบางครั้งก็แอบเข้าไปดมใกล้ ๆ กลิ่นอะไรถึงได้หอมขนาดนี้ก็ไม่รู้ นางชอบมันยิ่งนัก ส่วนนางเองเป็นแค่เด็กรับใช้ไม่มีเงินซื้อหรอก เทียนหยูเห็นนางยืนนิ่ง ๆ ไม่กล้าจับต้องอะไร จึงได้บอกกับนางว่า “เลือกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ” หลังจากนั้นจึงหันไปบอกพนักงาน “จดไว้ในบัญชีตระกูลฟู่” “เจ้าค่ะ” พนักงานตอบรับ หลินฮวาเลือกของมาได้จำนวนหนึ่งก็ส่งให้พนักงานนำไปใส่ห่อกระดาษให้ นางรับห่อกระดาษนั้นไว้ในมือแล้วกล่าวขอบคุณพนักงานเสียยกใหญ่จนพนักงานเองก็รู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย หลังจากนั้นเทียนอยู่ก็พานางเดินดูเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ นางได้ชุดกระโปรงแบบฝรั่งมาสองชุด หมวกประดับดอกไม้อีกหนึ่งใบ เสื้อคลุมอีกหนึ่งตัว เทียนหยูต้องกลับไปทำงานจึงปล่อยให้นางเดินเล่นอย่างสบายใจก่อน เขาบอกกับนางว่าถ้าอยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกก็ได้ตามสบาย แต่ต้องกลับมาก่อนเที่ยง เพราะว่าตอนเที่ยงจะพาไปทานข้าวแล้วก็ทำธุระต่อ พูดจบเขาก็หยิบเงินให้นางปึกหนึ่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD