ตอนที่ 12

1347 Words
“ม่วงมาเยี่ยม” ช้องม่วงวางตะกร้าผลไม้และเครื่องดื่มบำรุงร่างกายที่หล่อนต้องการนำกระเช้าเหล่านี้มาเป็นของขวัญสำหรับเยี่ยมคนป่วย คุณหมายจันทร์ผงกศีรษะขึ้น รับรู้ ทำท่าจะยันกายลุกขึ้นนั่ง “พักผ่อนเถอะค่ะ คุณป้าไม่สบาย” กวาดตามองดู คุณหมายจันทร์ยิ้มให้เซียวๆบนใบหน้าที่ซีด “นี่ขยันจนเกินไปหรือเปล่าคะ ถึงได้ล้มป่วยอย่างนี้” หล่อนรู้ว่าคุณหมายจันทร์ป้าของหล่อนบ้าทำงานนัก อย่างอื่นนางไม่สนใจ การสนใจเรื่องงานน่ะดี แต่สุขภาพต้องสนใจด้วย หล่อนเคยบอกคุณหมายจันทร์เช่นนั้น “มากับใครดึกแล้ว” “คนเดียวค่ะ” “อ้าว แล้วน้องแกล่ะ”น้ำเสียงนั้นแหบและติดหอบ “ติดงานปาร์ตี้ของเพื่อน คงจะกลับดึก” “หมู่นี้ฝนตกบ่อย ป้าก็เลยติดหวัด แต่ค่อยยังชั่วแล้ว” นางเอ่ยตอบ อันที่จริงจะพาเพียงดาหวันมาด้วย ไม่อยากมาคนเดียว แต่ก็รู้ว่าพี่สาวติดภาระดูแลครอบครัวและลูก แต่หล่อนจะไปเยี่ยมแน่ จะหาขนมซื้อไปหาฝาก แต่คงต้องเป็นวันอื่น เรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตของหล่อน ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ชีวิตของช้องม่วงไม่เคยคิดว่าจะตกล่วงมาถึงจุดนี้ หล่อนหมายถึงความรักต่างหาก ความรักที่หล่อนถูกห้อมล้อมเอาใจใส่จากคนรักอย่างดี ใครจะคิดว่าอนาคินทร์จะกลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้ เขาทำในสิ่งที่หล่อนเกลียดที่สุด ช้องม่วงจะมองเห็นเขาเป็นอากาศธาตุว่างเปล่า หล่อนเคยบอกกับเขาว่าความโกรธแค้นสุดขีดของหล่อนคือการนอกใจ อนาคินทร์ทำไปแล้วยากที่จะคืน หล่อนไม่แยแสเขาต่อไปอีกแล้ว “หน้าตาไม่สบายเลยคิดเรื่องอะไร” คนป่วยกลับถามคนปกติ ช้องม่วงมาอยู่ที่บ้านคุณหมายจันทร์นานกว่าชั่วโมง กลับน่ะไม่เป็นไรหรอกหล่อนขับกลับ ตั้งใจจะอยู่ให้นาน เพราะว่านานๆถึงจะแวะมาที “มีเรื่องส่วนตัว กับเรื่องที่จัดการแล้วแก้ไม่ได้ ของยายทิชาค่ะ” เมื่อหลานสาวคนรองเอ่ยถึงคนเล็ก “ได้ข่าวว่าท้อง แล้วแฟนเขาล่ะ” ช้องม่วงเงียบ หล่อนไม่อยากซ้ำเติมน้องสาว จึงเข้าใจคุณหมายจันทร์ที่ลุกนั่งได้แล้วหันมาทางหลานสาว “แล้วของเราล่ะ แต่งเมื่อไหร่ ระวังเถอะอย่าให้ไปเหมือนน้องก็แล้วกัน ไอ้เรื่องแบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่” “ไม่มีการแต่งแล้วค่ะ การแต่งงานระหว่างม่วงกับอนาคินทร์จะไม่มีวันเกิดขึ้น” ช้องม่วงประกาศกล้ากับคุณหมายจันทร์ เสียงหล่อนเข้ม จนคุณหมายจันทร์ตกใจ ยกมือทาบอก “เป็นไรล่ะ” “คุณป้าอย่าถามดีกว่า ม่วงต้องการให้มันจบไปพร้อมกับความรู้สึกของม่วง ม่วงจะไม่มีการจดจำชื่อผู้ชายคนนี้อีกแล้ว” หล่อนไม่อยากให้คุณหมายจันทร์มาแบกเรื่องทุกข์ของหล่อนซ้ำไปอีก เลยทำให้คนป่วยนิ่ง “น้องล่ะ ป้าน่ะห่วงไปที่ทิชามากกว่า ม่วงน่ะป้าไม่ห่วงเท่าไหร่” คุณหมายจันทร์คิดว่า หากหลานสาวคนรองไม่เก่งจริง คงไม่เลี้ยงคนในบ้านทั้งพี่สาวกับน้องสาวได้ “ป้าน่ะถือว่า ม่วงน่ะเป็นพ่อแม่ของทั้งสองมานานแล้วนะ” ช้องม่วงเลี้ยงดูพี่สาวและน้องสาวมานาน ด้วยอาชีพในวงการ พอเพียงดาหวันแต่งงานไปได้ หล่อนก็โล่งอก “แล้วแม่เพียงเป็นยังไงบ้าง ป้าไม่ค่อยได้ข่าวคราวเท่าไหร่ ก็มัวแต่วุ่นกับงาน” หล่อนรู้ดีว่าคุณป้าของหล่อนก็เป็นประเภทแต่งกับงาน และคุณหมายจันทร์ทราบด้วยว่าหลานสาวคนรองเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พี่สาวได้ออกเรือนกับนุดลหลานเขย “มีแน่ค่ะ ม่วงต้องจัดการอีกคน เพื่อนไม่รักษาสัญญาและเห็นแก่ตัว ถ้าเขาไม่เชื่อที่ม่วงเตือน” คุณหมายจันทร์แค่รับฟัง ************** ทิชาสนุกสนานไม่ได้เจอแบบนี้มานานแล้ว หล่อนปิดกั้นตัวเอง ตั้งแต่ที่คบหาสิรามเรศก็ เช่นกัน เขาไม่ปล่อยหล่อนเป็นอิสระ เพราะเขาคอยหึงและหวง บางครั้งหล่อนคิดว่า สิ่งเหล่านี้เป็นการดี เพราะการันตีได้ว่าเขารักหล่อน แต่เอาเข้าจริงแล้วมันกลับผิดคาด เพราะมันแรงเกินไป ครั้นนั้น คือ ภาพที่นึกไม่ถึง เขาตกใจแกมดีใจปนกัน มันประหลาดอย่างครามครัน สิรามเรศมาที่นี่เขาเห็นภาพนั้นแล้ว ที่รู้เพราะโทร.หาเพื่อนของเขาที่สนิทกับทิชา จนได้รู้ เขาสีหน้าตึง ทำไมทิชามาขลุกอยู่กับผู้หญิงด้วยกันอย่างนี้ ผู้หญิงที่เขาเห็นว่า ส่อออกไปทางผู้ชาย ทั้งๆที่หน้าตาก็ผู้หญิง หน้าออกหวาน แต่ ท่าทางดูทะมัดทะแมง เขาไม่ชอบ ทิชาสิ้นคิดแล้วหรือ ถึงทำตัวแบบนี้ เขาเดินไปที่โต๊ะดึงแขนเบาๆ ทิชาที่นั่งอยู่ดีๆหล่อนกำลังเพลินกับเสียงเพลงที่เปิด ในกลุ่มบางคนออกไปเต้นแดนซ์ตรงหน้า ที่นี่เป็นผับกึ่งดนตรีและมีแดนซ์บนฟลอร์ สำหรับคนที่ต้องการและอยากปลอดปล่อยความเครียดผ่านเสียงดนตรี ตกใจ เมื่อมองหน้า “นี่ปล่อยนะ” “ทำไมมาที่นี่” เขาถาม “ฉันเจ็บ”ทิชาบอก “ออกมานี่ ตามพี่มา” “ไม่ไป” ทิชาตอบสะบัด นวลนิจเดินเข้ามา “ทำอะไร” สิรามเรศมองตา รู้สึกเคืองที่สุด “ไม่ต้องมาเสือก ผัวเมียจะคุยกัน” นวลนิจก็รู้ว่าฐานะของสิรามเรศเป็นใคร ทิชามองตาหล่อนอย่างหวาดกลัว “แต่ทิชาไม่ต้องการจะไปด้วย” นวลนิจเอ่ย ทิชาพยักหน้า เขาหันไปมอง “นี่หลงใหลเครื่องดนตรีไทยแบบเดียวกันจนลืมผัวไปแล้วหรือ” เสียงของสิรามเรศดัง เหมือนโวยวาย มองไปที่หล่อนท้องเริ่มโต “นี่ท้องด้วยใช่ไหม ท้องเริ่มโตอย่างนี้ ยังออกมาเที่ยว ใครเป็นพ่อ” สิรามเรศเอ่ยท่าทางตกใจตื่นเต้น เขาไม่เคยทราบเรื่องนี้ ทราบแต่ว่าเคยมีอะไรกันหลายครั้ง ตามความปรารถนาและยินยอมจากหล่อน ทิชานิ่งเงียบก่อนตอบ “กับหมาข้างถนนมั้ง ที่มันเยี่ยวทิ้งเรี่ยราด” เขาอึ้งทำอะไรไม่ถูก ถ้าไม่มานี่คงไม่เห็นกับตา “ท้อง ที่ท้องนี่ แสดงว่าเป็นลูกของพี่” “ไม่หรอก หมามากกว่า ฉันเที่ยวนอนกับหมามันไปทั่ว จนไม่รู้ว่าหมาตัวไหนมันเป็นพ่อของลูก” ทิชาเสียงเข้มโดยไม่รู้ตัว และหล่อนเจ็บแค้น สิรามเรศยอมออกไปก่อน เมื่อมาเจอสิ่งที่เขาไม่คาดคิด ทิชาท้องคนที่เป็นพ่อของลูก เป็นใครไม่ได้นอกจากเขา นวลนิจประคองทิชา ที่เหมือนจะเป็นลมหลังจากที่ชายหนุ่มที่ประกาศตัวว่าเป็นสามีของหญิงสาวก้าวจากไป “ทิชาไม่ต้องกลัว นวลอยู่นี่” ทิชายังมีสติอยู่หล่อนบีบจับแขนของนวลนิจ ก่อนที่จะเป็นลมไปจริงๆในเวลานั้น เป็นเรื่องที่เขาไม่คาดฝัน ทิชาท้อง ทิชาท้อง ดีใจอย่างมาก ระหว่างขับรถกลับลิงโลดในใจ คำเหล่านี้เวียนก้องในสมองตลอดเวลา เขาขับรถเพื่อจะกลับบ้าน จะบอกข่าวนี้กับมารดาของเขาอย่างไรดี ที่ทราบคือแม่ของเขาไม่ปลื้มแน่นอน เพราะท่านไม่เคยชอบทิชา ไม่เรียกว่าทิชาเป็นแฟนของเขาด้วยซ้ำไป สิริดาราล่ะ นั่นก็อีกคนที่เข้ามาในชีวิตของเขา เพลย์บอยหนุ่มมากรัก เขาจะจัดสรรชีวิตตัวเองอย่างไรดี ************ ในขณะนี้นั้น ศิลารัณย์นั่งคุยกับนักสิทธิ์ เพื่อนสนิทที่ไม่เจอนาน ในบรรยากาศเงียบๆบ้านสวน ไม่ได้สั่งเครื่องดื่ม แต่ทานอาหารกัน ศิลารัณย์ไม่ทานเขาอิ่มอาหารแล้ว ขอเป็นน้ำเปล่า เพราะเบียร์น้ำผสมแอลกอฮอล์เขาไม่ทาน “ฉันอิ่มแล้ว นายทานไปเถอะ” ช้องม่วงได้ยินคำนั้นถือว่าดึกพอสมควรหลังจากที่หล่อนร่ำลาคุณหมายจันทร์โดยมีเด็กสมหญิงเป็นคนดูแลท่านแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD