1

1109 Words
“ปรางค์ วันนี้รายงานตัวเข้าฝึกงานไม่ใช่เหรอลูก รีบแต่งตัวสิ เดี๋ยวรถจะติดไปไม่ทันกันพอดี” สดศรีมารดาของปรางค์รวีเอิ่นบอกลูกสาวที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง เมื่อมองดูนาฬิกาบนฝาบ้านที่บอกเวลาหกโมงครึ่ง นางกลัวว่าการจราจรอันแสนคับคั่งจะทำให้เธอไปสายในวันแรกของการฝึกงาน “ค่ะแม่ ปรางค์เสร็จแล้วค่ะ” เจ้าของเสียงเดินออกมาจากห้องพร้อมรอยยิ้มแสนหวาน “แม่ไม่อยากให้ปรางค์ไปสาย ไปทำงานวันแรกเราก็ต้องตรงต่อเวลา ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การฝึกงานก็เถอะ” สดศรีเป็นคนตรงต่อเวลา นางจะไปไหนมาไหนต้องเผื่อเวลารถติดเสมอ หากไปถึงก่อนเวลาก็ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ถ้าไปถึงหลังเวลานัดอาจจะถูกมองในแง่ไม่ดีได้ และส่งผลตรงถึงหน้าที่การงาน “ปรางค์รู้ค่ะแม่ ปรางค์ถึงรีบออกจากบ้านเร็วไงคะ กว่าจะฝ่าดงรถยนต์ไปถึงที่ทำงานได้ก็คงใช้เวลาชั่วโมงนึง แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ปรางค์จะขึ้นวินมอ’ ไซค์ค่ะ รับรองไปทันแน่ๆ ค่ะ” ปรางค์รวีเตรียมแผนการเดินทางของตนไว้เรียบร้อย เนื่องจากระยะทางระหว่างบ้านหลังนี้ไปที่ทำงานไม่ไกลเท่าไหร่มากนัก แต่ทว่ารถติดเหลือกำลัง จึงต้องเผื่อเวลาไว้เรื่องนี้ด้วย “แม่ไปซื้อโจ๊กกับปาท่องโก๋มาให้ปรางค์ด้วย กินก่อนแล้วค่อยไปนะลูก มีอะไรรองท้องบ้างเพราะกว่าจะได้กินอีกทีก็เที่ยง” พูดจบก็เดินไปหยิบอาหารที่เตรียมไว้ให้หลานสาวมาว่งไว้บนโต๊ะตัวเล็กที่นั่งประจำของปรางค์รวี “ขอบคุณค่ะแม่” ปรางค์รวีลงมือทานอาหารเช้าที่มารดาเตรียมไว้ให้ เธอใช้เวลาทานประมาณสิบนาทีโจ๊กในชามก็เกลี้ยง “ปรางค์ไปก่อนนะคะแม่ สวัสดีค่ะ” “โชคดีนะลูก ขอให้ลูกแม่เจอแต่คนดีๆ ให้ความเมตตานะลูก” “ขอบคุณค่ะแม่” ปรางค์รวีไหว้และกล่าวขอบคุณในคำอวยพรของผู้เป็นแม่ แล้วเดินทางออกจากบ้านทันที สดศรีมองตามร่างของปรางค์รวีด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยกมือท่วมหัว ภาวนาขอให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายของลูกสาวเป็นคนดี มีจิตใจเมตตา มีความเอื้อเฟื้อต่อปรางค์รวี นางคิดว่าหากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานดี การทำงานก็ราบรื่น แต่นางจะรู้หรือไม่ว่า กำลังมีเสือร้ายรอเขมือบร่างของปรางค์รวี ที่ไม่เพียงแค่นั้นยังเป็นคนที่สร้างความเสียใจให้กับเธออย่างมากมายด้วย ตึกสูงระฟ้าตรงหน้าทำให้ปรางค์รวีต้องรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากยิ่งขึ้น อีกสิบห้านาทีเธอจะต้องเข้าไปรายงานตัวกับแผนกบุคคล เป็นนักศึกษาฝึกงานคนแรกของบริษัททีทีอาร์ กรุ๊ป เธอถูกคัดเลือกจากหนึ่งในร้อยของนักศึกษาที่ยื่นความจำนงขอฝึกงานด้วย “ทำไมมาช้าจังยัยปรางค์ นี่ได้เวลาแล้วนะ” ภัทราหันมาต่อว่าเพื่อนสนิท ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในตัวอาคาร “รถติดมากเลย นี่ก็รีบสุดๆ แล้วนะ” ปรางค์รวีพูดเสียงปนเหนื่อยหอบ “ไปเถอะ กว่าจะรอลิฟต์อีกเดี๋ยวสายกันพอดี” ภัทราบ่นอุบ วันนี้ทั้งสองสาวต้องมารายงานตัวเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่ หากแต่คนละบริษัท ภัทราฝึกงานในบริษัทประกันชีวิต ที่เช่าสำนักงานในอาคารแห่งนี้ ส่วนปรางค์รวีโชคดีได้ฝึกงานกับบริษัทเจ้าของตึก เพื่อนรักทั้งสองจึงนัดหมายเจอกันที่นี่ สองสาวยืนรอลิฟต์อยู่เกือบห้านาที หากแต่ลิฟต์ยังไม่เดินทางมาถึงชั้นล่าง ปรางค์รวีก้มมองดูนาฬิกาข้อมือหลายครั้ง ด้วยความกระวนกระวายใจ เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้นก้จะถึงเวลานัดหมายเข้ารายงานตัว เวลาที่เหลือน้อยนิด เธอจึงภาวนาขอให้ลิฟต์มาจอดถึงชั้นล่างเร็วๆ ขณะเดียวกันประธานหนุ่มไฟแรงของบริษัททีทีอาร์ กรุ๊ป บุรุษที่มากด้วยเสน่ห์และเจ้าชู้อย่างร้ายกาจ เดินมายังลิฟต์โดยสารของอาคาร โดยมีลูกน้องคนสนิทที่เป็นทั้งคนไทยและอิตาลี เดินขนาบเจ้านายหนุ่ม ก่อนที่ทั้งหมดจะมาหยุดยืนหน้าลิฟต์สำหรับเจ้าของบริษัทดังกล่าวใช้งานได้เพียงคนเดียว รังสรรค์เสียบการ์ดลงไปในช่องหน้าลิฟต์ ก่อนจะกดปุ่มเปิดลิฟต์ เมื่อลิฟต์เปิดออกทั้งหมดก็ก้าวเข้าไปภายใน ในช่วงจังหวะนั้นเอง ภัทราหันมามองทางด้านหลังเมื่อเห็นว่าลิฟต์อีกตัวเปิดอยู่ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนอยู่ภายใน เธอจับข้อมือของเพื่อนสาว ลากเดินเข้าไปในลิฟต์ ไม่ทันได้อ่านป้ายที่เขียนว่า “สำหรับผู้บริหารเท่านั้น” คนที่อยู่ภายในลิฟต์จะบอกก็บอกไม่ทัน เพราะประตูลิฟต์ปิดเสียก่อน “โชคดีนะเนี่ยที่ลิฟต์ตัวนี้มาเสียก่อน ไม่งั้นไม่ทันแน่เลย” ภัทราบ่นอีกตามเคย เอื้อมมือไปกดปุ่มชั้นที่เธอต้องการ หากแต่ไม่มีตัวเลขชั้นที่เธอต้องการ เพราะมีอยู่สามหมายเลขเท่านั้นคือ 46, 47, 48 “อ้าวแล้วเธอจะไปชั้นที่ยี่สิบสองได้ยังไงล่ะ มันไม่มีหมายเลขชั้นนั้นนี่” ปรางค์รวีเอ่ยถามเพื่อนรัก เมื่อนิ้วเรียวยาวเอื้อมมือไปกดปุ่มหมายเลขชั้นที่ต้องการ แต่ไม่มีหมายเลขชั้นที่ภัทราฝึกงานอยู่ “สงสัยเมื่อกี้รีบร้อนเลยเข้าลิฟต์ผิด ไม่เป็นไร.ถือว่าภัทรมาส่งปรางค์ก็แล้วกัน” ภัทราพูดด้วยรอยยิ้ม ลิฟต์บางอาคารแยกเป็นสัดส่วนชั้นคี่กับชั้นคู่ เธอจึงไม่ติดใจอะไรกับลิฟต์ตัวนี้ ปรางค์รวีมองไปรอบๆ ตัวลิฟต์ บุคคลที่อยู่ในลิฟต์ตัวนี้ดูน่าเกรงขาม แต่ละคนใบหน้านิ่งราวกับเป็นหุ่นยนต์ มีจุดเด่นอยู่คนเดียว ใบหน้าของเขาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล หล่อเหลาผิวขาว เส้นผมของเขาสีน้ำตาลประกายทองถูกจัดแต่งทรงอย่างสวยงาม หนวดเคราขึ้นบางๆ ที่สันแก้มทั้งสองข้าง โดดเด่นมากที่สุดคงเป็นดวงตาสีเขียว เขาช่างหล่อบาดใจเธอยิ่งนัก หัวใจของปรางค์รวีเต้นรัวเมื่อได้ที่สบสายตาแสนเสน่ห์นั้น เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาล ยิ่งมองยิ่งร้อนวูบวาบ จนเธอต้องเบนหน้าหนีก่อนที่ร่างกายของเธอจะละลาย สติของเธอถูกดึงกลับมาเมื่อเพื่อนสาวเอ่ยถามคำถามบางอย่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD