หน่วง

3304 Words
สมรนั่งมองแก้วเหล้าในมือ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่เธอได้ออกจากบ้าน ส่วนหนึ่งก็เพราะเรื่องรบกวนใจทำให้ไม่กล้าเจอหน้าใคร และกลัวจะเจอมินตรา หลังจากเรื่องคืนนั้น มินตราพยายามติดต่อเธอมาในทุกช่องทาง แต่เธอดันตัดความสัมพันธ์ทุกทางเช่นกัน รวมถึงคืนนี้ด้วย ซึ่งสถานบันเทิงยามค่ำคืนแห่งนี้ คือที่ปลดปล่อยความเครียด 'ครืด ครืด ครืดดด' สัญญาณเรียกเข้าโทรศัพท์ของสมรสั่นหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเธอเองก็เริ่มจะชินกับมัน เพราะปลายสายเล่นโทรมาแทบทุกวัน แบบเป็นสิบๆ รอบ และที่เหมือนกันทุกๆ วันคือ สมรมักจะเมินเฉยและปล่อยให้ดังอยู่แบบนั้นจนปลายสายถอดใจไปเอง "มีอะไร มองอยู่ได้" ก็รู้สึกถึงสายตาของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ที่เหล่มองเธอตลอด "ไม่มีอะไรครับ" เขาลนลานตอบออกมา ซึ่งสมรไม่มีทางเชื่อ เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก็เขาโกหกไม่เนียน มีหรือที่เธอจะไม่รู้ "บอกมา! มีอะไร" เนื่องจากสมรเป็นลูกค้าประจำ และเขาก็มักจะอยู่คอยบริการเธอตลอด เขาและเธอจึงคุ้นเคยกันดี "คือว่า.. มีคุณนางเอกที่เคยมากับคุณ มาตามหาคุณเกือบทุกคืน" เขาบอกตะกุกตะกัก เพราะปกติเขาไม่ค่อยสุงสิงหรือให้ความสนิทสนมกับลูกค้าเท่าไหร่ "งั้นเหรอ" สมรบอกออกไปแบบนั้น พร้อมลอบมองมือถือ ตอนนี้สัญญาณเรียกเงียบลง "เอามาอีกแก้วสิ" เธอไม่อยากให้เรื่องของมินตรามาทำลายสมาธิอีกในเวลานี้ จึงต้องใช้วิธีเดิม คือการดื่มเหล้าย้อมใจ หลายต่อหลายแก้วไม่หยุดราวกับกระดกน้ำเปล่า แต่แม้จะรู้สึกเมามายเพียงใด เธอก็ยังประคองสติได้บ้าง และคงถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว สมรเดินโซเซออกจากบาร์ ซึ่งภาพนี้ก็เป็นที่เห็นจนชินตาของเหล่าพนักงานและรวมถึงแขกประจำบางคน 'ครืด ครืด ครืดด' โทรศัพท์ในมือของสมรที่เงียบไปหลายชั่วโมงกลับมาสั่นอีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็กดรับแบบไม่ลังเล 'ฮัลโหล' 'คุณป้าอยู่ไหนคะ' 'โอ้วว' สมรร้องออกมาเพียงนิด ก่อนจะเอามือถือออกห่างจากหูเพื่อดูชื่อคนโทรเข้า 'คุณป้าเมาเหรอคะ' 'แน่นอน คนอย่างสมรไม่เมาสิแปลก' บอกกลั้วหัวเราะ 'งั้นมิ้นท์จะไปหานะคะ รออยู่ตรงนั้น' 'หืมม ล้อเล่นน่า" คงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลจึงทำให้สมรหลงลืมเหตุการณ์ที่ทำให้ลำบากใจระหว่างเธอและมินตรา จนเผลอพูกจาหยอกล้อเหมือนก่อนหน้า 'หันมาสิคะ' สมรโซเซกลับหลังหันอย่างว่าง่าย 'หนูมิ้นท์! ' เธอแว้ดออกมาเสียงดังทันทีที่เห็นหน้ามินตรา ทั้งที่ยังถือหูโทรศัพท์อยู่ "หืม.. เสียงดังจังเลยนะคะ" มินตราบ่นออกมาทีเล่นทีจริง เพราะเสียงที่สมรตะโกนใส่โทรศัพท์มาในสาย สมรหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด "ทะ ทำไม ถึง.." "ให้มิ้นท์ไปส่งนะคะ เมาแบบนี้ไม่อยากให้ขับรถเองเลย" สมรเข้ามานั่งข้างคนขับอย่างจำยอม "ช่วยบอกทางด้วยนะคะ" แม้มินตราจะชวนสมรพูดคุยหลายต่อหลายเรื่อง แต่สมรก็ทำเพียงเงียบ และตั้งหน้าตั้งตาบอกทางกลับบ้านตัวเองอย่างเดียว จนมินตราเองก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ "ถึงแล้ว ส่งป้าที่หน้ารั้วบ้านก็พอ" ชั่วโมงอันแสนอึดอัดใจของสมรจบลงเสียที เธอรีบตัดบททันทีที่รถจอดสนิทหน้าบ้าน ก่อนจะจัดการปลกเข็มขัดนิรภัยออก "เดี๋ยวสิคะ" มินตรารีบคว้ามือสมรไว้ทันที "ขอเข้าไปดื่มโกโก้ร้อนสักแก้ว ไม่ได้เหรอคะ" "ตอนนี้แม่บ้านหลับหมดแล้ว ไม่สะดวกน่ะ" บอกแค่นั้น และพยายามชักมือตัวเองกลับ "งั้นมิ้นท์ขอเข้าห้องน้ำได้มั้ยคะ คุณป้าคงไม่ใจดำให้มิ้นท์ขับรถกลับบ้านทั้งที่ปวดฉี่มาก" สมรจำต้องยอมให้มินตราเข้ามาภายในบ้าน แม้จะรู้ดีว่าคนด้านหลังแค่หาข้ออ้างเพื่อตามเธอเข้ามาก็ตาม ไฟในบ้านส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ ด้วยฝีมือเจ้าบ้าน "คุณป้าอยู่คนเดียวเหรอคะ" มินตราถามออกมาอย่างต้องการจะชวนคุย สมรหยุดเดินและหันมาหามินตรา "จ้ะ" นั่นเพราะพวกเธอกำลังหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ตามที่มินตราต้องการ แต่ความต้องการอีกอย่างหนึ่งของมินตรากลับไม่ใช่แค่นั้น แผ่นหลังของสมรกระแทกติดกับผนัง ทั้งข้อมือทั้งสองข้างยังถูกรวบไว้ด้วยมือของมินตรา สมรตาเบิกโพลง ใจเต้นแรงทั้งเจ็บที่หลังและตกใจที่มินตราจู่โจมเธอแบบนี้ "มิ้นท์คิดถึงคุณป้าค่ะ" ใบหน้าทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ สมรเพียงเม้มปากนิ่ง ไม่โต้ตอบ เอาแต่จ้องมองริมฝีปากมินตรา ที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้เรื่อยๆ แต่เป็นสมรเองที่บ่ายเบี่ยง เธอจงใจหลบรสจูบแสนหวานของคนตรงหน้า "หยุดเถอะ" ปฏิเสธออกมาโดยไม่มองหน้ามินตราสักนิด "ทำไมคะ" สมรจึงจำต้องหันมาสบตา "จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ" เธอบอออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ถ้าเรียบร้อยแล้ว ปิดไฟแล้วก็ล็อคประตูให้ด้วยนะ" สมรตัดบทแบบไร้เยื่อใย ก่อนจะพยายามสลัดจากการเกาะกุมของมินตรา และเดินห่างออกไป คืนนั้น มินตราจำต้องกลับออกมาจากบ้านของสมรด้วยความน้อยใจ ก็สมรไม่เคยเย็นชาใส่เธอขนาดนั้น แถมยังจงใจไล่กันแบบไร้เยื่อใยอีก "ขอบคุณนะคะที่มา" ตรีประดับกระซิบบอกสมรที่กำลังยืนให้เหล่านักข่าวรุมถ่ายรูป "แหม.. งานสำคัญของลูก แม่จะพลาดได้ยังไง" เธอบอกอย่างภูมิใจ วันนี้มีงานเลี้ยงที่โรงแรมสยาม และถือโอกาสเปิดตัวโครงการสำคัญ ระหว่างดิโอเชี่ยนวันและสยาม และแน่นอน คืนนี้สมรเตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเจอกับมินตรา ก็หล่อนเป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรมสยาม ยังไงคงหลบไม่พ้น "สวัสดีค่ะพี่ตรี สวัสดีค่ะคุณป้า" เสียงใสๆ ของมินตราเอ่ยทักทายสองแม่ลูกอย่างเป็นมิตร ซึ่งสมรก็ฉีกยิ้มให้ทันทีเหมือนอย่างที่เคยทำ "สวัสดีจ้ะหนูมิ้นท์ ไม่เจอกันตั้งนาน ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ"  "ขอบคุณค่ะ คุณป้าก็ยังสวยไม่เปลี่ยน" บอกแค่นั้นก็หันไปหาตรีประดับ "เราไปคุยกันตรงนั้นดีมั้ยคะ คุณพ่ออยากเจอพี่ตรีน่ะค่ะ" ตรีประดับจึงไม่ลังเลที่จะตามมินตราออกไป โดยทิ้งให้สมรอยู่ลำพัง "อะไรกัน.. ทำอย่างกับฉันเป็นส่วนเกิน" สมรทำได้เพียงบ่นกับตัวเอง ทั้งท่าทางการทักทายของมินตราก็เหมือนทำไปเพราะมารยาทก็เท่านั้น "อารมณ์เสีย!" แต่มีหรือที่สมรจะยอมหยุดตัวเอง เธอแสร้งทำทีเดินเลียบๆ เคียงๆ ไปทางลูกสาว ที่มีมินตรานั่งประกบไม่ห่าง ก็เพียงอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ "พี่ตรีอยากทานอะไรเพิ่มมั้ยคะ ไม่เห็นหยิบจับอาหารเลยสักอย่าง" บอกออกไปทั้งที่ในมือยังมีชิ้นเค้กก้อนเล็กๆ "ช่วงนี้พี่ทานอะไรไม่ค่อยลงน่ะ ขอโทษด้วยนะ" "ของหวานล่ะคะ ไม่ทานของคาว ก็น่าจะลองชิมสักนิด" บอกก่อนจะจิ้มชิ้นเค้กในจานตัวเองและส่งให้ตรีประดับ "ชิมหน่อยนะคะ  สมรที่แอบมองอยู่คิ้วขมวดทันที ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ "ไม่มีทาง ยัยตรีไม่ทางทานของที่ผู้หญิงอื่นป้อนให้แน่ๆ โดยเฉพาะหนูมิ้นท์" เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะลูกสาวหัวดื้ออย่างตรีประดับไม่ได้ชอบมินตรา ทั้งยังมีแฟนอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะมาให้ความหวังมินตราแน่นอน แต่ที่คิดไว้ดันผิดคาดทั้งหมด สมรตาเบิกโพลง เธอเห็นว่าตรีประดับยอมทานเค้กที่มินตราป้อน และมันก็ทำให้สมรนั่งไม่ติด หุนหันลุกออกจากที่นั่ง ทันทีที่เข้ามาหยุดภายในห้องน้ำของโรงแรม "ไหนบอกว่าชอบฉันมากไง" เธอเอาแต่บ่นกับตัวเองหน้ากระจกเงา ก่อนจะเดินไปเดินมาไม่หยุดอย่างใช้ความคิด ซึ่งแน่นอนว่าเธอจงใจต่อว่ามินตรา "พี่ตรีคะ พี่ตรีขา แหวะ จะอ้วก! " เผลอตะโกนออกมาเสียงดัง จนคนเข้าใหม่ถึงกับสะดุ้ง ก็แน่ล่ะเพราะนี่คือห้องน้ำสาธารณะ ไม่แปลกที่จะมีคนเข้าๆ ออกๆ แต่เพราะเรื่องในหัวที่แสนจะรบกวนจิตใจ ทำให้เธอเผลอลืมมัน "เอ่อ.. พี่แค่ซ้อมบทละครน่ะจ้ะ ไม่มีอะไรมากหรอก เป็นดาราดังก็แบบนี้แหละ ทุกที่คือเวทีแสดง" เธอได้แต่แก้ตัวแบบขอไปทีเพื่อไม่ให้ทุกคนแตกตื่น "เข้าห้องน้ำก่อนนะ วิญญานนักแสดงบอกให้พี่ไปซ้อมต่อในส้วม" ทั้งยังตัดบทเดินหนีเข้าห้องน้ำไป ก็เพื่อลดความอายและเพื่อตั้งสติ "บ้าไปแล้ว" ได้แต่บ่นกับตัวเองหลายต่อหลายครั้งไม่หยุด ทั้งที่ควรจะยินดีที่ลูกสาวและมินตรากำลังจะไปได้ดี แต่เธอดันมีอาการหึงหวงออกมาเสียอย่างงั้น นั่งทำสมาธิอยู่พักใหญ่ ก็ผลุดลุกและออกจากห้องน้ำ มาหยุดอยู่หน้ากระจกอีกครั้ง "เด็กบ้า" เหมือนอารมณ์ฉุนเฉียวยังไม่หายไปง่ายๆ แต่เธอก็เลือกที่จะดับอารมณ์ร้อนๆ ด้วยการก้มหน้าก้มตาล้างมืออย่างไม่ลืมหูลืมตา ราวกับเด็ก "มือเลอะขนาดนั้นเลยเหรอคะ" เสียงคุ้นหูจากทางด้านหลังทำให้สมรต้องเงยหน้ามองกระจก "หนูมิ้นท์! " ภาพมินตราอยู่ในกระจกเงา เธอรีบหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าทันที "ค่ะ มิ้นท์เอง" บอกออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย "เห็นคุณป้าหายเข้ามาในห้องน้ำนานแล้ว พี่ตรีเป็นห่วงน่ะค่ะ" "อ้อ.. พอดี ป้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย" อ้อมแอ้มตอบออกไป "แล้ว.. หนูมิ้นท์มานานแล้วเหรอ" "เพิ่งจะเข้ามาค่ะ" ได้ยินคำตอบแบบนั้นแล้วสมรจึงโล่งใจ "เราออกไปข้างนอกกันเถอะค่ะ ในนี้อากาศไม่ถ่ายเท เกรงว่าคุณป้าจะเป็นลม" "คุณแม่! " เสียงตรีประดับดังเข้ามาตั้งแต่ทางเข้า ทั้งยังเดินมาหาคนทั้งคู่ "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าซีดแบบนั้น" "คุณป้ารู้สึกไม่สบายน่ะค่ะ ทางที่ดีควรส่งเธอกลับบ้านหรือถ้าไม่รังเกียจก็พักที่นี่ก็ได้นะคะ" มินตรารีบตอบแทน และยื่นข้อเสนอ "จริงสิ ขึ้นไปพักข้างบนก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวตรีให้เลขาจัดการเรื่องห้องพักให้" "ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ว่า แม่กลับบ้านดีกว่า" ตอนนี้สมองของสมรอื้ออึงไปหมด แถมยังรู้สึกเหมือนจะเป็นลมขึ้นมาแล้วจริงๆ "มิ้นท์ว่าพาคุณป้าไปข้างนอกก่อนดีกว่าค่ะ" เพราะเริ่มสังเกตเห็นเหงื่อผุดขึ้นที่ใบหน้าของสมรด้วยความเป็นห่วง จึงอยากจะพาหล่อนออกจากตรงนี้ "ไม่ต้องห่วงค่ะ มิ้นท์จะส่งให้ถึงบ้านเลย รับรองปลอดภัยแน่นอน" เสียงมินตราตะโกนลอดผ่านกระจก เพื่อบอกให้ตรีประดับสบายใจ ก่อนจะกดปิดและขับออกจากงานเลี้ยงในเวลาที่ควรจะสนุกสุดเหวี่ยงกับวงดนตรีชื่อดังภายในงาน มินตราแอบลอบมองสมรผ่านกระจก หล่อนนอนราบลงไปกับเบาะ และมั่นใจว่าคนอายุมากคงจะไม่ปริปากพูดกับเธอแน่ ปลายทางของคืนนี้ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ของสมรตามที่รับปากไว้กับตรีประดับ มินตราเลือกที่จะพาคนป่วยมาที่พักของตนเอง รถคันงามขับขึ้นมาบนลานจอดรถ และเลี้ยวเข้าที่ประจำของตนเอง เธอปลดเข็มขัดนิรภัย ก่อนจะหันไปหาคนด้านหลังที่ทำเหมือนเธอเป็นคนขับรถเสียอย่างงั้น มินตรายื่นมือไปสัมผัสที่หัวไหล่ของสมรเพื่อต้องการจะปลุก "คุณป้าคะ ถึงแล้วค่ะ" จากที่แกล้งหลับในทีแรกก็ดันหลับจริงขึ้นมา แต่ตอนนี้สมรจำต้องตื่นเพราะเสียงเรียกของมินตรา ก่อนจะงัวเงียลุกขึ้นนั่ง ทั้งยังหันมองไปนอกรถ "เอ๊ะ! นี่ไม่ใช่บ้านป้านี่นา" "นี่คอนโดมิ้นท์เอง" "ไหนว่าจะไปส่งที่บ้าน" ก็อุส่าหลีกเลี่ยงการเจอหน้ามินตรามาได้เกือบเดือน แต่จำต้องมาพบกันวันนี้ แถมตอนนี้ยังต้องมาอยู่ในสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจแบบนี้อีก "มิ้นท์ลืมทางค่ะ แต่ไม่กล้าปลุก เพราะเห็นว่าคุณป้ากำลังหลับสบาย" มินตราตอบหน้าตาย ซึ่งมันทำให้สมรกัดฟันกรอด เธอรู้ดีว่ามินตราโกหก "งั้น.. ป้าจะไปเรียกแท็กซี่" บอกแค่นั้นก็เปิดประตูและก้าวลงจากรถ มินตราเองก็รีบตามลงไปทันทีและมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าสมรที่กำลังทุลักทุเลกับชุดราตรียาวลากพื้น "คุณป้าไม่สบายนี่คะ กลับไปก็อยู่คนเดียว มิ้นท์ทิ้งคุณป้าไม่ได้หรอกค่ะ" สมรกลืนน้ำลายอึกใหญ่ นั่นเพราะเธอปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้ป่วยเหมือนที่ใครๆ เข้าใจ แต่ก็บอกความจริงไม่ได้ "แล้วอีกอย่างหนึ่ง ถ้ามีมิ้นท์อยู่ด้วย พี่ตรีเองก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงคุณป้า" "ที่ทำแบบนี้ เพราะยัยตรีขอไว้งั้นเหรอ" "ค่ะ" สีหน้าสมรดูเจื่อนลง แต่ก็ต้องรีบปรับให้เป็นปกติ "งั้น.. ก็ได้" มินตรายกยิ้มทันทีที่สมรเดินห่างออกไป ก็เพราะเธอตั้งใจเอาชื่อตรีประดับมาอ้าง เพื่อให้สมรไม่กล้าปฏิเสธ "มิ้นท์ช่วยนะคะ" แถมยังถือวิสาสะรวบเอวสมรให้มาใกล้จนตัวติดกัน "หน้าคุณป้าซีดมาก กลัวจะเป็นลม" มินตราเป็นแบบนี้เสมอ ชอบแสดงสีหน้าจริงจังใส่ จนสมรต้องยอมง่ายๆ ไม่กล้าโต้แย้ง ราวกับกลัวว่าจะทำให้มินตราไม่พอใจเสียอย่างงั้น สมรก้าวขึ้นเตียงช้าๆ ก่อนจะนอนหันหลังให้มินตรา คืนนี้เป็นอีกคืนที่พวกเธอต้องร่วมเตียงเดียวกัน "ว้าย! " สมรร้องเสียงหลงเพราะจู่ๆ ก็ถูกคนด้านหลังเหวี่ยงมือมากอดเธอ "หนูมิ้นท์ เอามือออกไป ป้าอึดอัด" สมรดุออกมาเสียงดัง แต่มันไม่เป็นผล เพราะมินตราดันใช้ขาเกี่ยวตัวเธอไว้อีก ราวกับต้องการจะแกล้ง "อื้ออ..ปล่อย" สมรจึงจำต้องช่วยเหลือตัวเอง ด้วยการดิ้นหนี ทั้งยังจงใจผลักมินตราให้ออกห่าง แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ทั้งแขนและขาก็ยิ่งเกี่ยวแน่นกว่าเก่า จนตอนนี้เกิดสงครามย่อยๆ บนเตียง 'ตุ้บ' "โอ้ยย.." เสียงมินตราร้องดังด้วยความเจ็บ เพราะร่างตัวเองตอนนี้ลงไปอยู่ข้างเตียง ก่อนที่โคมไฟหัวเตียงจะส่องสว่างขึ้นด้วยฝีมือสมรที่ตอนนี้นั่งพับเพียบอยู่บนเตียง มองดูมินตราที่กำลังโอดครวญไม่หยุด "หมดกัน สภาพนางเอก" สมรส่ายหัวบ่นออกมา กลายเป็นว่าคืนนี้พวกเธอยังนอนไม่ได้ง่ายๆ "หลังหักหรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ" มินตราบ่นกระปอดกระแปด ระหว่างที่สมรช่วยทายาให้ด้านหลัง "ก็ใครใช้ให้เล่นพิเรนล่ะ" แม้จะรู้สึกโกรธคนตรงหน้าในทีแรก แต่เมื่อเห็นรอยช้ำที่แผ่นหลังก็รู้สึกสงสารไม่ได้ "พรุ่งนี้ก็อย่าลืมไปหาหมอด้วยล่ะ" ทั้งยังกำชับ "มิ้นท์แค่กลัวว่าคุณป้าจะหนาวนี่คะ ครั้งก่อนที่เรานอนด้วยกัน คุณป้าก็ตัวสั่น" สมรหน้าแดงกร่ำขึ้นมาทันที ก็มินตราพูดมันออกมาได้อย่างไม่อาย ต่างจากคนฟัง ก็เพราะครั้งที่พวกเธอเคยนอนร่วมเตียงกัน มีกิจกรรมอื่นบนเตียงด้วย ทั้งที่พยายามจะไม่นึกถึงแล้วก็ตาม แต่มินตราดันรื้อฟื้น "โอ้ยย.." มินตราร้องออกมาอีกครั้งเพราะสมรจงใจกดไปที่รอยช้ำนั้นอย่างหมั่นไส้ "อยู่เฉยๆ สิ อย่าดุ๊กดิ๊ก" ทั้งยังแสร้งดุอีก "อื้ม เสร็จแล้วล่ะ" บอกแค่นั้นก่อนจะหันกลับไปเก็บกล่องยา "คุณป้าคะ" "ว่าไง" เธอถามออกไปโดยไม่มองหน้าคนเรียกเพราะยังสนใจกับกล่องยาในมือ "มิ้นท์คิดถึงคุณป้านะคะ" มือสมรหยุดนิ่งทันที "ป้าว่า.. หนูมิ้นท์นอนพักเถอะนะ" เธอพยายามจะเบี่ยงประเด็น โดยการทำเป็นไม่สนใจและเดินหนี แต่ก็ถูกมินตราตามไปสวมกอดจากทางด้านหลัง "อย่าหนีมิ้นท์เลยนะคะ มิ้นท์ชอบคุณป้าจริงๆ " "ไว้คุยเรื่องนี้วันหลังเถอะนะ ดึกมากแล้ว ป้าอยากพัก" ไม่บอกเปล่า ยังแกะมือมินตราที่กอดรัดเอวเธอออก และหันไปหา ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของมินตราอย่างแผ่วเบา ก่อนจะขยับไปใกล้และประทับรอยจูบไว้ที่หน้าผากของดาราสาวอย่างอ้อยอิ่ง "ฝันดีนะ" บอกแค่นั้นก็เดินออกจากห้องนอนไป ทิ้งให้มินตรายืนน้ำตาตกใน สมรเลือกที่จะหนีออกมานอนนอกห้อง บนโซฟาตัวเล็กภายในห้องรับแขก แต่ถึงแม้จะเล็ก มันก็ดีกว่าต้องทนนอนร่วมเตียงมินตราบนเตียงกว้างด้วยความอึดอัดใจ จะให้เธอยอมตามใจมินตราในเรื่องนี้คงไม่ถูก ระหว่างเธอกับมินตราไม่ควรถลำลึกไปมากกว่านี้ เธอกำลังทำผิดต่อตัวเอง ต่อลูกสาว และต่อมินตรา หากยังพยายามเอาตัวไปใกล้มินตราอีก ความรู้สึกของตัวเองคงจะแย่กว่านี้ ยิ่งเห็นภาพมินตราอยู่กับตรีประดับ มันยิ่งชัดเจนว่ามินตรายังมีเยื่อใย และยังคงมีหวังที่จะได้รักกับลูกสาวเธอ สมรนอนขดอยู่บนโซฟาจนหลับไป จึงไม่รู้ตัวว่ามีใครคนหนึ่งแอบมานั่งอยู่ข้างๆ ที่พื้น "ทำแบบนี้แล้วคิดว่ามิ้นท์จะนอนหลับลงเหรอคะ" มินตราบอกออกมาเสียงแผ่วเบา ก็เล่นมาบอกฝันดีแถมที่สำคัญยังแอบขโมยจูบเธออีก มินตราตัดสินใจล้มตัวลงนอนข้างสมรบ้าง ทั้งคู่เบียดชิดกันจนแทบจะไม่มีช่องว่าง และสมรที่นอนขดอยู่ก็ดูเหมือนเริ่มจะพลิกกลับมาหามินตรา และวาดมือมากอดไว้แน่น มินตราในทีแรกก็ตกใจเพราะกลัวว่าสมรจะตื่น แต่เมื่อแน่ใจแล้วว่าหล่อนหลับสนิท จึงโอบรัดสมรไว้บ้าง แต่สักพักก็ต้องสะดุ้งเพราะรู้สึกถึงจมูกซนๆ ของคนในอ้อมกอดที่คลอเคลียอยู่บริเวณซอกคอ จนต้องข่มใจดันหน้าสมรออก เพราะการที่สมรทำแบบนี้เท่ากับว่ากำลังปลุกอารมณ์ความต้องการในตัว ทั้งที่หล่อนไม่ตั้งใจก็ตาม "แม่ขอโทษ" เสียงงึมงำออกจากปากสมร นั่นจึงทำให้มินตราชะงักไปทันที มินตราเริ่มรู้สึกผิดกับตัวเอง ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้สมรรู้สึกแย่ และสมรคงโทษตัวเองเป็นแน่เรื่องความสัมพันธ์ที่เลยเถิดระหว่างพวกเธอ มินตรา คนเห็นแก่ตัว ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางสมหวังกับตรีประดับแต่ก็ขอลองสักตั้ง ก็ตรีประดับคือรักแรก เมื่อโอกาสที่ได้ใกล้ชิดคนพี่มาถึงแล้ว จึงต้องรีบคว้าไว้ แต่เธอปล่อยสมรไปไม่ได้เช่นกัน ... อาทิตย์นี้ลงให้อ่านเพลินๆ สามตอนนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD