Ch.4

1116 Words
“ได้ค่ะคุณหนู” ปั้นกับปิ่นรับคำสั่ง ก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย “งั้นฟ้าไปทำงานก่อนแล้วกันนะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าของร้านไม่ควรออกจากร้านนานเกินไป “จะไปแล้วเหรอฟ้า” อดิราชถามเมื่อเห็นลูกสาวรีบร้อนออกจากบ้าน ฟ้าใสหันมาไหว้ “ค่ะคุณพ่อ วันนี้ฟ้ารีบ มีลูกค้าที่รอรับขนมด้วย” “ไปดีมาดีละลูกสาวพ่อ” “ค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มก่อนจะเร่งเดินไปยังรถที่น้าเดชคนขับรถเปิดประตูรออยู่แล้ว อีกอย่างวันนี้เป็นวันเร่งรีบของเธอ เพราะต้องส่งขนมเป็นร้อยชิ้นตามคำสั่งของลูกค้า โดยมีกำหนดส่งก่อนเที่ยง “เฮ้อออ...” ฟ้าใสเอนกายลงกับเบาะนั่งแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เมื่อคิดถึงภารกิจทั้งหมดในวันนี้แล้ว ก็อยากจะหนีไปจริงๆ “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ กระผมเห็นคุณหนูถอนหายใจเป็นร้อยรอบแล้วนะครับ” เดชา คนขับรถที่รับช่วงมาจากพ่อของตนที่เสียชีวิตไปแล้วถาม เมื่อเห็นคุณหนูของตนถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าจะถามเกินความจริงไปบ้าง “ถ้าถอนหายใจได้มากกว่านั้น ฟ้าคงทำไปแล้วค่ะ ช่วงนี้ฟ้ารู้สึกเหมือนกำลังปีนภูเขาน้ำแข็งเลย ถ้าเป็นไปได้ฟ้าก็อยากจะนอนกลิ้งอยู่ที่บ้านตลอดชีวิต” เสียงหวานตอบกึ่งติดตลก แต่กระนั้นก็ไม่สามารถกระทำได้ตามคำพูดอยู่ดี เพราะเธอไม่อยากทำให้อดิราชต้องผิดหวัง เธอไม่อยากเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างที่อัคนีเคยสบประมาท ไม่อยากเป็นแค่คนที่โชคดีบังเอิญได้ครอบครัวคนรวยเลี้ยงดู แม้ว่าจะโชคดีอย่างที่คนอื่นพูดไว้จริงๆ ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากใช้ชีวิตโดยพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุดอยู่ดี “สงสัยฟ้าคงต้องหาเวลาไปเรียนขับรถแล้วล่ะค่ะ” ฟ้าใสวุ่นอยู่กับการอบขนมตามที่ลูกค้าสั่ง โดยมีลูกมือช่วยอยู่สามสี่คน โชคดีที่หน้าร้านมีลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่ จึงทำให้เธอสามารถโฟกัสกับงานตรงหน้าได้ “วันนี้คุณฟ้าดูเหนื่อยๆ นะคะ ไม่สบายรึเปล่า” หนึ่งในลูกมือถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายสาวซีดลงเรื่อยๆ ราวกับอดหลับอดนอนมา “เหรอจ๊ะ สงสัยช่วงนี้กำลังยุ่งๆ ด้วยล่ะมั้ง เลยทำให้คิดเยอะไปหน่อย” ฟ้าใสตอบเสียงอ่อน ที่เธอนอนไม่หลับก็เพราะว่าใครบางคนจะเดินทางมาถึงวันนี้ต่างหาก เธอไม่อยากจะไปรับ แต่ก็ต้องไปเพราะเขาเป็นพี่ชาย ที่อาจจะจำน้องสาวอย่างเธอไม่ได้ อีกอย่างก็ไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน จะเรียกว่าเป็นพี่น้องก็เรียกได้ไม่เต็มปากอยู่ดี คิดแล้วก็เครียด และยิ่งกลัว กลัวว่าเขาจะกลับมาทำร้ายเธออีก เธอไม่อยากเจอกับความหวาดกลัวและความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจเหมือนในตอนนั้นอีกแล้ว “หนูว่าคุณฟ้าน่าจะพักผ่อนบ้างนะคะ เดี๋ยวที่เหลือพวกหนูจัดการเอง” “งั้นฝากด้วยนะจ๊ะ” เธอไม่ปฏิเสธ เพราะตอนนี้เหมือนตัวเธอจะรุมๆ ด้วย คงเป็นเพราะตากน้ำค้างเมื่อคืนมากไปหน่อย พักบ้างก็ดี ว่าแล้วร่างบางก็เดินไปยังห้องพักส่วนตัวในร้าน ซึ่งเป็นทั้งห้องทำงานและห้องนอนยามที่รู้สึกเหนื่อยล้า มือบางกระตุกปมที่ผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะเอาไปแขวนไว้ที่มุมห้อง แล้วเดินมานอนพักบนเตียง ทุกวันนี้เธอทำงานหนักและรับงานทุกอย่างเพื่อให้ร้านเบเกอร์รี่คาเฟ่นี้อยู่รอด แม้ว่าจะมีอดิราชช่วยออกทุนในการสร้างร้านให้ แต่ว่าเธอก็ต้องเป็นคนบริหารเองทุกอย่าง ไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ ร้านนี้ก็เกือบจะเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเธอ เพราะบางครั้งก็ต้องคิดสูตรขนมเอง ทำให้เธอไม่ได้กลับบ้านอยู่หลายอาทิตย์ และที่นี่ก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกไม่ต่างจากที่บ้าน เป็นสถานที่ที่เหมือนหลุมหลบภัยสำหรับเธอ ก๊อกๆๆ “คุณฟ้าคะ คุณฝันมาหาค่ะ” เสียงของพนักงานลูกจ้างดังจากด้านหลังประตู เรียกให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ลุกเดินมาเปิดประตู “ยัยฟ้า...” ปลายฝันโผเข้ากอดเพื่อนสาวอย่างไม่มีเหตุผล “เป็นอะไรฝัน” เสียงหวานถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวกอดตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย เธอจึงทำได้แค่เอื้อมมือไปปิดประตูเบาๆ ก่อนพาร่างของเพื่อนสาวมานั่งลงที่โซฟา และเทกาแฟอุ่นๆ มาให้ ปลายฝันรับกาแฟมา ก่อนจะยกซดจนหมดรวดเดียว “เมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้าน” ฟ้าใสถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าปลายฝันไม่ได้กลับมานอนบ้านเล็ก เพราะปั้นเล่าให้ฟัง “นอนค้างที่อื่นมา” เสียงใสตอบ ก่อนที่จะเบือนหน้ามองไปอีกทาง ทำให้ฟ้าใสเห็นว่าตาของเพื่อนแดงๆ เหมือนเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา “ที่ไหน ไหนว่าไปงานเลี้ยง” “ห้องเจ้านายคนใหม่” ปลายฝันตอบเสียงแผ่ว จนแทบไม่ได้ยิน “เจ้านาย! คะ คนที่เธอ...ไปเลี้ยงต้อนรับน่ะเหรอ! ละ แล้วทำไมเธอถึงไปนอนห้องเขาล่ะ!” ฟ้าถามอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ เพื่อนของตนก็ไปนอนที่ห้องของเจ้านายใหม่ ที่เพิ่งจะเจอกันแค่วันเดียว แถมเธอยังร้องไห้ด้วย หรือว่า! “เขารังแกเธอ” “เปล่าๆ เราไม่ได้ทำไรกัน ฉันแค่อาย... ที่อยู่ๆ ก็ตื่นมาในห้องของเขา ฉันจำอะไรไม่ได้แค่รู้ว่าตัวเองเมามาก เธอก็รู้ยัยฟ้า ว่าตอนฉันเมาน่ะเป็นยังไง” ฟ้าใสอึ้งในทันที เพราะเพื่อนสนิททุกคนของพวกเธอต่างก็รู้ดีว่าตอนที่ปลายฝันเมาน่ะเป็นยังไง ภายนอกถึงจะดูเป็นคนที่แข็งแกร่ง เข้มแข็ง และอดทน แต่เมื่อเหล้าเข้าปากจนครองสติไม่อยู่แล้ว เธอก็เหมือนแมวน้อยที่มักจะทำให้สติของชายหนุ่มแตกกระเจิง และมักจะโดนดึงดูดด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม จนชายหลายคนคิดว่าเธอให้ท่า แต่จริงๆ แล้วมันเป็นนิสัยตอนเมาที่แก้ไม่ได้เท่านั้น “ฉันควรจะหางานใหม่ใช่มั้ย” ปลายฝันถาม “บางทีเขาอาจจะเข้าใจ” ฟ้าใสปลอบเพื่อน “อย่างน้อยๆ เขาก็สุภาพบุรุษพอที่ไม่ทำอะไรคนเมา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD