แอบคิด2

1483 Words
"จะขึ้นมาดีๆ หรือจะให้ฉันลงไปอุ้ม อยากลองดูใช่ไหมกันยาเห็นหรือเปล่าว่าฝนเริ่มตกลงมาแล้วเดี๋ยวก็ไม่สบาย จะเล่นตัวทำไมเนี่ยรีบขึ้นมาเลยนะ" ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว เพราะเด็กดื้ออยากกันยาคงพูดอีกด้วยไม่ได้แล้ว ในขณะที่รถคันข้างหลังก็เริ่มจะบีบแตรไล่ "นายนี่มัน..." ฉันไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาด่าเขาดี แต่ในสถานการณ์แบบนี้ฉันคงนั่งรถเมล์กลับไม่ได้แล้ว ในที่สุดฉันก็จำใจขึ้นรถไปกับสิงโตจนได้ "หนาวไหม เอาเสื้อแจ็คเก็ตของฉันไปใส่ทับไว้จะได้หายหนาว" คราวนี้น้ำเสียงของผมได้เปลี่ยนไปจากเดิม เพราะผมอยากพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากกว่าเดิม "ขอบใจ แล้วมองอะไร หันหน้าไปมองถนนเลยนะ... โรคจิตชัดๆ " ฉันพูดออกมาพร้อมกับรีบใส่แจ็คเก็ตคลุมเอาไว้ เพราะไอ้สิงโตมองมาที่หน้าอกของฉันด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เขาคงเห็นหมดไส้หมดพุงแล้วมั้ง ถึงได้มีท่าทางอมยิ้มออกมาแบบนั้น "อ้าว! ก็นึกว่าตั้งใจไปยืนอ่อย วันนี้ใส่สีแดงเหรอ" "ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต นี่แน่ะ! นี่เน่ะ! นายนี่มันจริงๆ เลย" ฉันพูดพร้อมกับใช้กำปั้นทุบลงไปที่ต้นแขนของเขารัวๆ "โอ๊ย! ฉันเจ็บนะกันยาเธอเล่นอะไรเนี่ย เห็นหรือเปล่าว่าฉันกำลังขับรถอยู่" ผมพูดพร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวหลบจากกำปั้นของเธอ แต่กันยาก็ไม่ได้ลดละความพยายามที่จะแกล้งผมเลยสักนิด หรือเธอตั้งใจก็ไม่รู้ถึงได้ทุบลงมารัวๆ แบบนี้ "ก็นายพูดจาทะลึ่งตึงตังออกมาเองนี่นา ไอ้สิงโตบ้า นี่แน่ะ!" หมับ!! "ว้าย! ปล่อยมือฉันเลยนะ" "จุ๊บ! มือหอมจัง" ผมไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุด ลอยไป ผมรีบจุมพิตที่หลังมือของเธอด้วยความรู้สึกที่คิดถึงสุดหัวใจ ผมเกลียดผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้เธอ อย่างเช่นวันนี้ที่จิงโจ้เข้าหากันยาหลังเลิกเรียน ผมแอบดูอยู่พักใหญ่ จนเกือบเผลอเดินเข้าไป แต่ดีที่กัญญาเดินออกมาจากห้องเสียก่อน "สิงโต! นายนี่มัน! " ฉันเอ็ดเขาออกไป พร้อมกับ ถึงมือออกมา ในเวลานี้ใบหน้าของฉันเริ่มร้อนผ่าวมันคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว ยิ่งอยู่ใกล้เขาหัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นแรง ฉันไม่รู้ว่าจะสามารถเก็บอาการเหล่านี้ไว้ได้อีกนานแค่ไหนกัน หลังจากนั้นภายในรถก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน เพราะต่างคนต่างก็กำลังคิดไปเองว่าอีกคนคงไม่มีใจ ทั้งสองจะรู้หรือไม่ว่ากำลังใจตรงกัน เมื่อรถยนต์คันหรูวิ่งขึ้นมาที่ถนนใหญ่ สิงโตได้เปลี่ยนทิศทาง จนกันยารู้สึกแปลกใจ เพราะนี่ไม่ใช่ทางไปบ้านของเธออยากแน่นอน "นี่นายจะพาฉันไปไหน" เสียงของฉันดังขึ้นหลังจากที่ภายในรถเงียบไปหลายนาที แม้ว่าฉันจะรู้สึกดีกับเขามากแค่ไหนก็ตามที แต่ก็ไม่มีทางที่จะทำให้บิดามารดาต้องเสียใจ เพราะในเวลานี้ฉันเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจสิ่งโต แววตาและรอยยิ้มที่เขามองมาอย่างฉันนั้นเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล "ใครบอกว่าฉันจะพาเธอกลับบ้านกันล่ะ" ผมตอบเธอกลับไป ในขณะที่เหลือบหางตามองไปที่เธอ ก่อนจะรีบโฟกัสไปที่ถนนตรงหน้า เพราะไม่อยากเห็นแววตาที่เธอกำลังมองค้อนมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง "ฉันต้องรีบกลับบ้าน เพราะพ่อกับแม่รออยู่ ถ้าฉันกลับไม่ตรงเวลา พ่อกับแม่ของฉันต้องเป็นห่วงและออกตามหาอย่างแน่นอน นายรีบกลับรถเดี๋ยวนี้เลยนะสิงโต" ฉันรีบโวยวายออกมา พร้อมกับยกเอาบิดามารดาขึ้นมาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้สิงโตกลัวแล้วรีบกลับไปส่งฉันที่บ้าน "ฉันโทรบอกตุลาแล้วให้มารับเธอที่บ้านของฉัน ประมาณยี่สิบนาฬิกา และได้กำชับตุลาไว้แล้วด้วยให้บอกพ่อกับแม่ของเธอว่าวันนี้มีงานที่มหา'ลัย เลยต้องกลับค่ำ หรืออาจจะดึก" ผมตอบกลับไปพร้อมกับรีบเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ผมอุตส่าห์คิดหาวิธีทั้งวัน ว่าจะทำยังไงถึงจะได้อยู่กับกันยาเพียงลำพัง ต้องขอบคุณตุลาที่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นใจ อยากได้ผมเป็นน้องเขย แต่มันก็กำชับห้ามผมทำอะไรกันยามากไปกว่าการนั่งมอง จนผมอยากจะหัวเราะออกไปดังๆ ถ้าผมจะพาเธอมานั่งมอง แล้วผมจะพากันยากลับมาที่บ้านทำไมกัน "นายพูดเองเออเองทั้งนั้น ทำไมถึงไม่ถามสักคำว่าฉันอยากไปกับนายไหม ฉันจะกลับบ้าน ถ้าไม่ไปส่งก็จอดฉันจะลง" ฉันเริ่มรู้สึกว่านายนี่เอาแต่ใจตัวเองเต็มที เขาคิดจะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันก่อน ถึงเขาจะบอกให้ตุลามารับก็เถอะ ยังไงพ่อกับแม่ก็ต้องเป็นห่วงฉันอยู่ดี "จะจอดได้ยังไงนี่มันทางด่วน และอีกอย่างฝนก็ตกปรอยๆ ลงมาแบบนี้ เป็นปอดบวมตายพอดี หรือเธอยังคิดที่จะนั่งรถเมล์กลับบ้านอีก" เมื่อผมขับรถขึ้นมาบนทางด่วน จึงรีบหาข้ออ้างแย้งกันยาออกไปทันที "ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลยนะ ลงทางด่วนนายก็ยูเทิร์นกลับได้นี่ ฉันต้องรีบกลับไปทำมื้อเย็นให้แม่ทาน นายหยุดแกล้งฉันสักทีได้ไหมสิงโต" คราวนี้ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ทว่าปนไปด้วยการขอร้องออกมาแทน เพราะฉันหวังว่าเขาจะพาฉันกลับ ทำไมต้องให้ตุลามารับ ถ้าพ่อฉันรู้เดี๋ยวก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาจนได้ "ใครบอกว่าฉันแกล้งเธอ วันนี้ฉันตั้งใจจะพาเธอกลับไปที่บ้านด้วย ดูสภาพเธอสิอย่างกับลูกแมวตกน้ำ ถ้ากลับบ้านไปในสภาพนี้แม่ฮันน่าต้องรู้แน่ว่าเธอ นั่งรถเมล์มาเรียน" ผมอยากจะบอกกันยาเหลือเกิน ต่อให้เธอหาข้ออ้างขึ้นมาเป็นร้อย ก็คงไม่มีประโยชน์ เมื่อเหตุผลเพียงข้อเดียวที่ผมอยากจะอยู่กับเธอ มันคือความรู้สึกลึกๆ ภายในใจ ที่ผมเริ่มจะรู้สึกได้ว่ามันคือความรัก และมันก็ไม่ผิดถ้าหากว่าผมจะรักเธอ ในเมื่อเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กความผูกพันที่มีอยู่นั้น ผมก็ได้แต่หวังว่าเธอจะมีความรู้สึกดีๆ และมีใจที่ตรงกันกับผมบ้างสักนิดก็ยังดี "สรุปแล้วฉันก็ต้องกลับบ้านกับนายสินะ เอาแต่ใจตัวเองชะมัดเลย" ฉันพูดออกมาพร้อมกับทำหน้างอ เพราะรู้สึกไม่พอใจสิงโตเป็นอย่างมาก เขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ในเมื่อมีแฟนอยู่แล้วทำไมต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับฉันด้วย "เป็นเด็กดีพูดง่ายๆ แบบนี้น่ารักที่สุดเลย" ผมพูดพร้อมกับแอบอมยิ้ม แล้วมองไปที่ใบหน้าของเธอด้วยแววตากรุ้มกริ่ม แต่เธอกลับรีบหลบสายตาคมของผม แล้วมองไปที่ข้างทาง ซึ่งใบหน้าของเธอที่เริ่มแดงขึ้น ผมพอจะเดาได้ว่าเธอกำลังเขินอย่างแน่นอน "ฉันคงเป็นเด็กดีให้ใครไม่ได้หรอกนะ และอีกอย่างนายก็มีแฟนอยู่แล้ว เลิกยุ่งกับฉันสักที เดี๋ยวเธอก็เข้าใจผิด ฉันไม่อยากมีเรื่องกับใคร" คำพูดของฉันกับทำให้สิงโตฉีกยิ้มกว้างออกมาจนเห็นฟันขาวแทบทุกซี่ สรุปแล้วเขาจะไม่แคร์ความรู้สึกของแฟนบ้างเลยหรือไง ทำไมถึงเห็นความรักเป็นเรื่องล้อเล่นแบบนี้นะ "หึง...หรา...หืม" เขาพูดออกมาอย่างหน้าตายแถมยังยักคิ้วให้ฉันอย่างกวนๆ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี นอกจากเขาจะหน้าตาดีขึ้นมาเป็นกอง แล้วยังชอบทำอะไรกวนประสาทฉันอีกด้วย เขาเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ "อย่าสำคัญตัวเองให้มันมาก นายกับตุลาวางแผนกันไว้หรือเปล่า หรือว่านายให้พี่ชายของฉันเป็นไส้ศึกเทียวคาบข่าวไปรายงานนายตลอด ฮันแน่... นายมาเรียนที่นี่ตามฉันมาล่ะสิ...ใช่ม๊าาา" คราวนี้ฉันพูดออกมา พร้อมกับจ้องหน้าเขาอย่างไม่วางตา ดูซิเขาจะพูดความจริงกับฉันยังไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD