02
= Learn hardship =
Rrr
เสียงปลายสายเรียกเข้าทำให้ฉันที่นอนคลุมโปงอยู่ในห้องนอนในวันหยุดแสนสบาย เป็นอันต้องจบลงเมื่อเสียงมือถือยังคงดังต่อเนื่องและไม่มีท่าทีที่หยุดจึงสะบัดผ้าห่มผืนใหญ่ออกและหรี่สายตามองไปยังนาฬิกาหัวเตียงซึ่งตอนนี้บ่งบอกว่าเป็นเวลาเกือบสิบโมงกว่าแล้ว ปกติวันหยุดฉันนอนตื่นบ่ายโมงเลยนะ ใครกันโทรมากวนแต่เช้าเนี่ย!
“ฮา... โหล” กดรับสายทั้งที่ไม่ได้ดูหน้าจอเลยสักนิด
(“ยังไม่ตื่นเหรอครับ?”) น้ำเสียงเข้มทำเอาคิ้วขมวดเข้าหากันทันทีทั้งที่ดวงตายังไม่ลืมขึ้น (“คุณเจ้าเอย”)
ฉันลุกขึ้นนั่งหลังตรงก่อนจะดูปลายสายซึ่งเป็นเบอร์ที่คุ้นตาและน้ำเสียงก็คุ้นหูซะเหลือเกิน ยกมือเสยผมตัวเองขึ้นก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ
“คุณหินเหรอคะ?”
(“ครับ ผมจะโทรมาบอกว่ารถของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ”) ฉันอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดเลยจริงๆ ก่อนหน้านั้นดันตื่นไม่เต็มตาแถมยังไม่ดูจอมือถือให้ดีซะก่อน
“โอเคค่ะ งั้นเที่ยงฉันเข้าไปที่อู่นะคะ”
(“รับทราบครับ... คุณนอนต่อเถอะครับยังมีเวลา”)
“คุณหิน!” ตะคอกเข้าไปในปลายสายจนยกมือปิดปากตัวเอง ทว่ากลับได้ยินเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
(“แค่นี้นะครับ”)
เขากดวางสายไป ส่วนฉันน่ะเหรอก็ดิ้นและทุบที่นอนตัวเองไปมาอย่างหงุดหงิดตัวเอง ใครจะกลับไปนอนต่อได้ลงคอกันล่ะ! คิดได้แบบนั้นจึงลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูและตรงเข้าไปอาบน้ำ เมื่อเสร็จก็เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอากางเกงขาสั้นผ้าพลิ้วสีครีมกับเสื้อเปิดไหล่ระบายสีขาว มองตัวเองในกระจกก่อนจะหยิบยางรัดมารวบผมให้เป็นมวยอยู่กลางศีรษะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ฉันก็หยิบกระเป๋าสะพายไหล่สีดำยี่ห้อดีออกจากห้องลงไปยังโต๊ะอาหารที่ตอนนี้ว่างเปล่า
“คุณท่านทั้งสองออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ส่วนคุณเจ้าทรัพย์ก็ยังไม่กลับตั้งแต่เมื่อคืน” ป้าเต็มแม่บ้านเป็นคนบอกซึ่งฉันก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่หรอกนะถ้าพ่อกับแม่และพี่ชายจะไม่อยู่ “คุณเจ้าเอยจะรับประทานอะไรดีคะ ป้าจะได้เข้าครัวไปทำให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเอยจะออกไปรับรถที่อู่ค่อยไปหาทานที่ห้างก็ได้ค่ะ” บอกกลับไปแบบนั้นก็เดินออกจากบ้านและให้ลุงพลมาส่งที่อู่ซ่อมรถชัยกิจในเวลาเกือบเที่ยง ฉันเดินตรงเข้าไปด้านในก็มองหาคุณหินแต่ก็ไม่เจอเขาอยู่ดี
“มาหาพี่หินเหรอครับ?” ช่างซ่อมคนหนึ่งที่กำลังซ่อมรถอยู่เอ่ยถามขึ้น “เดี๋ยวผมไปตามให้นะครับ เวลานี้พี่หินกำลังกินข้าวอยู่แน่ๆ”
“เออ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เรียกรั้งเขาไว้ก่อน “เดี๋ยวฉันไปหาเขาเองก็ได้ค่ะ อยู่หลังอู่ใช่ไหมคะ?”
“ครับ เชิญเลยครับ... เฮ้ยพวกมึง หยุดพ่นสีให้คุณผู้หญิงเดินไปก่อน!” เขาตะโกนสั่งให้ช่างคนหนึ่งที่พ่นสีอยู่หยุดงานกระทันหัน ฉันจึงทำได้เพียงโค้งศีรษะให้เขาเป็นการขอบคุณและก็มาถึงด้านหลังอู่รถ กวาดสายตามองหาเขาก็เห็นว่าร่างสูงกำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนกับเก่งผู้ช่วยของเขา
“พี่เจ้าเอย” เก่งเป็นฝ่ายทักทายฉันก่อนจะใช้สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “ปกติเห็นแต่ใส่ชุดนักศึกษาอะพี่ วันนี้โคตรน่ารักเลยครับ”
เพิ่งเคยโดนชมแบบจริงจังก็ทำเอาไปไม่เป็นเลย และยิ่งสายตาของคุณหินที่มองมาด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ฉันรู้สึกว่าตัวเองก้าวเท้าไม่ออกใบหน้าก็ร้อนเห่อเหมือนมีคนเอาไฟมาลนที่หน้าเลย
“มารับรถใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมไปจัดการให้”
“ฉันรอได้ค่ะ คุณหินทานข้าวก่อนเถอะค่ะ” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเมื่อฉันบอกว่าจะรอ จึงผายมือให้ฉันนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อนที่เก่งคุกเข่าลงกับพื้นและใช้เสื้อของตัวเองเช็ดให้ฉันนั่ง สายตามองไปยังอาหารกลางวันของเขาก็ต้องขมวดคิ้วกับจานอาหารเพียงไม่กี่อย่างซึ่งมีไข่ต้ม น้ำปลาพริกและก็ผัดผัก หมูทอด
อาหารที่เขากินทำไมถึงได้ง่ายจนฉันรู้สึกถึงมื้ออาหารแต่ละมื้อที่ตัวเองกินเข้าไปเลย แต่ละมื้อของฉันมันมากกว่านี้ร้อยเท่าก็ว่าได้เลยนะ
“จ้องแบบนี้ อยากทานด้วยกันไหมครับพี่เจ้าเอย?” เก่งถามขณะหยิบจานจะตักข้าวให้ฉัน
“คุณเจ้าเอยทานแบบเราไม่ได้เก่ง”
“ได้ค่ะ!” ตอบพลางฉีกยิ้มกว้างให้กับเก่งก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคุณหิน “กำลังหิวพอดีเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
“แน่ใจนะครับว่าทานได้” เขาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง “ผมไปซื้อกับข้าวให้เพิ่มได้นะครับถ้าคุณจะทาน”
“ฉันทานได้ค่ะ คุณหินนั่งลงเถอะค่ะ” เพราะเขาจะลุกขึ้นไปซื้อกับข้าวมาเพิ่มฉันจึงคว้าข้อมือเขาไว้ จนสายตาคมตวัดมามองมือของฉันและเขาก็ทำแบบวันนั้นอีกครั้งคือการบิดข้อมือออกจากการกอบกุมของฉัน
ไม่ใช่รังเกียจฉันสัมผัสได้... เพียงแต่เขาไม่อยากให้ฉันแตะต้องตัวของเขาที่สกปรกไปจากการทำงานมากกว่า
“พี่หินขา น้ำมาส่งแล้วค่ะ!” ฉันที่กำลังจะตักหมูทอดมากินเป็นอันหยุดชะงักกับเสียงเล็กแหลมที่ดังขึ้นจากด้านหลัง จึงหันกลับไปมองก็พบเด็กสาวสองคนที่อายุน่าจะรุ่นเดียวกับเก่งรีบวิ่งมานั่งข้างคุณหิน เบียดเสียดหน้าอกใหญ่โตที่สวมแค่เสื้อสายเดี่ยวสีขาวกับดำ กอดแขนและยกมือแตะไปตามแก้มของเขา “มะนาวเอาน้ำมาส่งพี่หินค่ะ”
เด็กสาวผมยาวย้อมสีทองถามเขาด้วยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง ตามด้วยหน้าอกที่ยังคงถูไถไปยังท่อนแขนของเขา “พี่หินของส้มโอเหนื่อยไหมคะวันนี้... เดี๋ยวส้มโอจะนวดให้นะคะ”
ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียวพลางสบตากับเก่งที่ทำหน้าไม่ต่างจากฉัน แต่เขาคงจะชินกับการมาของทั้งสองคน
“เอ๊ะ? ยัยหน้าจืดนี่ใครอะ”
“นั่นสิ... มานั่งเจ๋ออะไรตรงนี้ไม่ทราบ”
“หมายถึงฉันเหรอคะ” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองทั้งสองคนก็พยักหน้ารับพร้อมเพรียงกัน “ฉันมารับรถที่อู่ค่ะ”
“มารับรถ แล้วมานั่งร่วมโต๊ะกับพี่หินทำไม!”