หลายวันต่อมา
แพรวิภายังคงทำงานอยู่ในส่วนของบาร์ ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับงานส่วนอื่นของคาสิโน สถานที่ที่เธอทำงานเป็นตึกขนาดสิบเก้าชั้น ซึ่งเปิดเป็นโรงแรมเพื่อบังหน้า คนที่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้คือคาสิโนลับ ก็มีแต่คนที่ทำงานที่นี่และเคยมาใช้บริการเท่านั้น ที่แพรวิภารู้ว่ามันเป็นคาสิโน ก็เพราะอดีตคนรักของเธอเคยทำงานอยู่ที่นี่
“เดซี่ ช่วยยกนี่ไปห้องวีไอพีหน่อย”
แม้ราตรีจะไม่เป็นกับเธอมิตร แต่คนอื่นๆที่ทำงานในส่วนนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ชาวีที่ดูแลโซนนี้อยู่ พูดกับแพรวิภาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอจึงรีบเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า เพื่อไปทำงานในส่วนนั้นตามที่พี่ชาวีบอก
“ห้องไหนค่ะพี่วี?”
หญิงสาวถามเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ปกติเหล้าที่ต้องส่งไปห้องวีไอพี จะมีหมายเลขห้องแนบไปด้วย ถึงเธอจะเพิ่งมาทำงาน แต่คนที่นี่ก็ชมเปราะว่าเรียนรู้งานได้เร็ว ไม่เพียงแค่รายละเอียดเกี่ยวกับส่วนของบาร์ เธอยังจำได้แล้วว่าที่นี่มีห้องพักกี่ห้อง ห้องแบบไหนอยู่โซนไหน
“ห้องของคุณเขตแดน”
ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหนุ่มวัยสามสิบห้า แต่หน้าตายังอ่อนเยาว์ขัดกับอายุ ทำให้มือเล็กที่กำลังจะเอื้อมไปคว้าถาดใส่เหล้าสั่นเกินควบคุม
แม้จะอยู่ในสถานที่เดียวกันมาตลอด แต่หลังจากวันนั้น เธอก็ไม่ได้เจอกับคุณเขตแดนอีกเลย เวลามีปัญหาอะไรที่เกี่ยวกับตัวเธอเอง คนที่เข้ามาแก้ไขให้มีแค่พี่ลิลลี่
“…เดี๋ยวมานะคะ”
หญิงสาวพยายามคุมร่างกาย และสติไม่ให้หวั่นไหวไปกับชื่อนั้น เดินออกไปจากบริเวณบาร์ โดยมีถาดใส่เหล้าราคาแพงอยู่ในมือ ยืนรอลิฟต์โดยสารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด ใช้เวลาเพียงไม่นาน ลิฟต์โดยสารก็พาเธอขึ้นมาถึงชั้นบนสุด
ร่างสมส่วนในชุดเดรสสั้นสีดำ ก้าวเดินอย่างระมัดระวังพลางประคองไม่ให้ขวดเหล้าในถาดล้ม เดินผ่านห้องที่ตัวเองใช้หลับนอนไป หยุดฝีเท้าลงเมื่อถึงห้องสุดท้ายของชั้น
ประตูห้องเปิดแง้มอยู่นิดหน่อย ส่งผลให้เสียงแปลกๆด้านในดังเล็ดลอดออกมา หญิงสาวยืนตะลึงงัน ไม่กล้ายกมือขึ้นเคาะประตูส่งสัญญาณ ยืนตัวสั่นฟังเสียงร้องครางของผู้หญิง และเสียงเนื้อกระทบกันแสนสยิว เสียงที่ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าคนด้านในกำลังทำอะไรกันอยู่
ตับ ตับ ตับ!
‘อ๊ะ อ๊า! ซี๊ด อู้ว! อ๊า’
‘อืม อ่า แม่ง! อ่า’
‘อ๊า แดนขา แรงอีกค่ะ แรงอีกนะคะ อ๊ะ อ๊า’
แพรวิภาขยับร่างกายไปพิงกำแพงไว้ รู้สึกวูบไหวตามร่างกายและรู้สึกไร้เรี่ยวแรง เสียงด้านในยังคงดังอยู่เหมือนเดิม เสียงครางหวานเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับเสียงนุ่มทุ้มนั่นเลย เสียงเขาดูพอใจมาก ซึ่งฟังแล้วต่างจากคืนที่ทำกับเธอ เขาดูหงุดหงิดและไม่พอใจเลย
อ่ะ … แล้วมันใช่เวลาที่เธอต้องมาเปรียบเทียบ และยืนฟังอะไรแบบนี้ไหม
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
แพรวิภาตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตูส่งสัญญาณ ไม่ใช่ว่าเธออยากขัดจังหวะคนด้านใน แต่เวลาของเธอมันมีค่า เธอต้องทำงานให้ได้มากที่สุด เพื่อหาเงินมาปลดหนี้กับเจ้านาย จะได้ออกไปจากสถานที่แห่งนี้สักที
‘อ๊ะ อ๊า แดนคะ มีคนมา อื้อ หยุดก่อนสิคะ!’
‘ช่างเถอะ กูยังไม่เสร็จ’
อ่า… เป็นแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่เธอจะได้เอาเหล้านี้ไปวาง เมื่อคนด้านในไม่ยอมเลิกทำกิจกรรมทางเพศ หญิงสาวจึงกลั้นใจก้มหน้ามองเพียงแค่พื้น ยกเท้าผลักบานประตู เหลือบตาขึ้นเพื่อมองหาที่วาง แต่การทำแบบนั้น มันทำให้เธอเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น
“กรี๊ด! เธอเข้ามาทำไมเนี่ย! อุ๊ย! แดนขาตื่นเต้นเหรอ แข็งกว่าเดิมอีก”
แพรวิภาก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว เมื่อสติถูกดึงกลับคืนมาเพราะเสียงของเธอคนนั้นช่วย แต่ภาพเจ้านายที่กำลังสอดประสานแก่นกายอยู่กับหญิงอื่นในท่าโก้งโค้ง มันไม่ยอมลบเลือนไปจากสมองของเธอเลย
ท่อนเนื้อใหญ่โตที่ผุบเข้า ผุบออก อย่างไม่ใส่ใจเธอที่เดินเข้ามาในห้อง ไหนจะสีหน้าตอนที่มองมาของเขาอีก ทำไมมันไม่ยอมเลือนหายไปความคิด เธอไม่อยากเป็นตากุ้งยิงอะ
แก๊ก! เคร้ง!
หญิงสาวเดินเอาถาดเหล้าไปวางบนโต๊ะ แต่เพราะมือเธอสั่น เหล้าขวดนั้นจึงล้มและร่วงออกจากถาด มันแตกกระจายทันทีที่สัมผัสพื้นหินอ่อนแข็งๆ เธอมองไปยังเจ้านายด้วยท่าทางหวาดกลัว เมื่อทำผิดพลาดต่อหน้าเขาเต็มๆ
“ขะ ขอโทษค่ะ คุณเขตแดน”
“ออกไป!”
“ค่ะ ค่ะ”
แพรวิภาก้าวขาออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เธอแอบเห็นก่อนจะออกมาดูน่ากลัวมาก ร่างบอบบางแทบจะวิ่งไปขึ้นลิฟต์ หวาดกลัวเหลือเกินว่าเจ้านายจะตามออกมาด่า แต่เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครตามออกมา ก็ทิ้งตัวนั่งพิงหลังเข้ากับผนังลิฟต์
“อึก! บ้าน่า!”
ร่างกายเธอร้อนผ่าวขึ้นราวกับโดนไฟลน ภาพของเขากับเธอ ภาพของเขากับคนอื่นที่เห็นเมื่อสักครู่ ขยันผุดขึ้นมาทำร้ายความต้องการของร่างกาย มันไม่ควรเกิดความรู้สึกแบบนี้กับเธอด้วยซ้ำ เขาเป็นแค่เจ้าหนี้ ไม่ใช่คนที่ควรจะรู้สึกอะไรด้วยสักอย่าง
ติ๊ง!
“อ้าว แพร นั่งทำอะไรอะ?”
ลิลลี่ถามหญิงสาวที่นั่งพิงอยู่ในลิฟต์ ร่างสมส่วนเย้ายวนในชุดสุดเซ็กซี่ปรี่เข้าไปใกล้ ใช้มือแตะหน้าผากก่อนจะถอนใจ เมื่อไม่พบความผิดปกติอื่นๆ ดวงตาหรี่มองสาวรุ่นน้อง หัวเราะเสียงเบาเมื่อเริ่มเข้าใจสถานการณ์
“แพรไปห้องคุณแดนมาเหรอ พี่ลืมบอกพี่ชาวี ว่าคุณแดนเขาไม่ว่าง” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ปกติบอกแบบนั้น พี่ชาวีจะส่งคนที่เป็นงานไป เธอลืมกำชับเรื่องนี้ เขาเลยส่งแพรวิภาไปนะสิ แย่เลย!
“…”
“ฮ่าๆ เห็นเข้าจริงๆสินะ แต่เดี๋ยวก็คงชิน เพราะคงจะได้เห็นบ่อยๆ”
ลิลลี่หัวเราะร่วน เพราะเคยเห็นฉากแบบนั้นของเจ้านายจนชินตา ส่วนคนฟังหน้าร้อนฉ่า เพราะคำว่าคงจะได้เห็นบ่อยๆของรุ่นพี่
“คุณคนนั้น แฟนคุณเขตแดนเหรอคะ”
แพรวิภาถามอย่างอยากรู้ หยัดยืนขึ้นโดยใช้มือเกาะผนังลิฟต์ช่วย ลิลลี่ส่ายหน้าช้าๆ ยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่ ไม่นานคลี่ยิ้ม จากนั้นก็พูดบางอย่าง
“คุณแดน เขาก็แบบนี้แหละ ไม่ใช่แฟนก็ได้”
แพรวิภาถึงกับพูดไม่ออกเลย แต่ก็พอจะเข้าใจ สำหรับบางคนเขาก็ใช้ชีวิตแบบนั้นกัน มีความสัมพันธ์กับใครก็ได้ โดยไม่ผูกมัดอีกฝ่ายไว้ แต่สำหรับเธอมันไม่ได้ เธอยังหัวโบราณอยู่มาก อยากมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รักและคบหาด้วยเท่านั้น
เมื่อลิฟต์ลงมาถึงชั้นหนึ่ง ลิลลี่ก็เดินแยกไปอีกทางเพื่อทำงานของตัวเอง ส่วนแพรวิภาเดินคอตกไปที่บาร์ ไม่กล้าสารภาพให้ใครฟังว่าทำงานผิดพลาดต่อหน้าเจ้านาย ชาวีเลิกคิ้วมองเด็กสาว อยากจะถามแต่เห็นสภาพเธอแล้วไม่กล้า
กริ๊ง! กริ๊ง!
“ครับ อ่า ครับคุณแดน ตอนนี้เหรอครับ ครับได้ครับ”
แพรวิภาที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ รู้สึกหนาววาบไปทั้งตัวเพราะชื่อของเจ้านาย ชาวีวางโทรศัพท์แบบมีสายลง ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินอ้อมเคาน์ดาวน์ไปตบบ่าสาวรุ่นน้อง หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าพี่ชาวีจะพูดอะไรต่อ
“คุณแดนสั่งให้เรากลับขึ้นไปเก็บกวาดให้เรียบร้อย”
“คนอื่นไม่ได้เหรอคะพี่วี หนูกลัว”
“อ่า… คุณแดนใจดีกับเราที่สุดแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นทำ ป่านนี้ถูกจับโยนลงมาจากชั้นบนแล้ว”
ชาวีพูดยิ้มๆ เดินจากไปเพื่อต้อนรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ปล่อยให้แพรวิภายืนตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน เอาตรงไหนมาใจดีกับเธอที่สุด ถ้าแบบนั้นเรียกว่าใจดี อย่างพี่ชาวีและพี่ลิลลี่จะไม่เรียกว่าโคตรๆของใจดีเลยเหรอ
คุณเขตแดนอะนะใจดี บรื้อ! แค่พูดชื่อก็ขนลุกแล้วอะ