“ไม่ล่ะ ขอบคุณสำหรับการยกตำแหน่งนี้ให้ แต่ฉันไม่สนใจ เพราะไม่อยากเจ็บปวดเหมือนน้องสาวของฉัน ที่ถูกคุณทิ้งโดยไม่แยแส เมื่อหมดรักในตัวเธอแล้ว”
ปาลิตาเค้นเสียงตอบด้วยความเจ็บใจ หากย้อนเวลาได้ เธอจะแยกให้ปารุดาออกห่างจากผู้ชายคนนี้ นับตั้งแต่วินาทีแรก ที่เขาเข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตของน้องสาวเธอ
มาร์คัสเต็มไปด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่ลูร์คัสเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาโท และเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับน้องชายเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าหากถามออกไปแล้ว ปาลิตาจะบอกความจริงให้เขารู้หรือไม่ แต่ไม่เป็นไร ถึงแม้ไม่อาจถามหรือหาคำตอบได้จากปาลิตา แต่ก็มีบริษัทนักสืบเก่งๆ อีกหลายบริษัท ที่จะช่วยเหลือเขาได้
“เชื่อผมเถอะ ป้าไข่ ผมเป็นคนรักเดียวใจเดียว หากปักใจรักใครแล้ว ผมจะมอบหัวใจให้กับเธอคนนั้นแค่เพียงผู้เดียว”
“แหม! ถ้าคุณพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อเก้าปีก่อน น้องสาวของฉันก็คงไม่ต้องตรอมใจตาย”
ปาลิตาประชดประชัน ยิ่งพูดก็ยิ่งเคียดแค้น อยากแก้แค้นแทนน้องสาว ทำให้ผู้ชายคนนี้เจ็บปวดเหมือนที่น้องสาวของเธอต้องเจ็บปวด จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ
มาร์คัสถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ว่าจะเอ่ยอะไรออกไป เขาก็เป็นคนผิดในสายตาของปาลิตาอยู่วันยังค่ำ ซึ่งเขาคงต้องยอมรับความผิดนี้ไปอีกนาน จนกว่าหญิงสาวจะยอมรับว่าเขาไม่ใช่ลูร์คัส!
“เอาเถอะ ป้าไข่ คุณจะด่าผมยังไงก็ได้ ผมจะไม่ตำหนิคุณแม้แต่นิดเดียว”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาตำหนิฉัน เพราะสิ่งที่ฉันพูดไปนั้นเป็นความจริงทั้งสิ้น คุณเป็นผู้ชายที่เห็นน้องสาวของฉันเป็นแค่เพียงของเล่น คุณหลอกเธอทุกอย่าง ให้ความหวังกับเธอ สุดท้ายคุณก็ทิ้งเธอไปหาผู้หญิงคนอื่น”
“ลูร์คัส อาจจะทำเช่นนั้นจริง หรืออาจจะไม่ได้ทำเช่นนั้นก็ได้”
มาร์คัสเอ่ยพูดลอยๆ ทำเอาปาลิตาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย พลางเอ่ยถามต่อเสียงห้วนๆ
“คุณหมายความว่ายังไง คุณพูดราวกับว่ามีลูร์คัสอีกคน”
“แล้วถ้าเกิดมีผู้ชายที่ชื่อลูร์คัสเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งคนจริงๆ คุณจะเชื่อไหม ป้าไข่”
“ไม่มีทาง ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด หลักฐานทุกอย่างฟ้องว่าคุณคือผู้ชายที่ทำให้น้องสาวของฉันต้องตาย และมีหลักฐานมัดตัวคุณอย่างแน่นหนาว่าคุณเป็นพ่อของเอมมี่ ก็คือเอมมี่มีใบหน้าถอดเค้าพิมพ์เดียวกับคุณ เอมมี่ไม่เหมือนน้องสาวของฉันแม้แต่นิดเดียว”
มาร์คัสถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนนี้ปาลิตากำลังโกรธและเกลียดเขาเป็นอย่างมาก หากอธิบายอะไรไป เธอคงไม่ฟัง และไม่เชื่ออย่างแน่นอน
“เอาเถอะ ป้าไข่ เราพักเรื่องนี้ไว้ก่อน ตอนนี้ผมอยากพาคุณไปดูห้องนอนของคุณกับเอมมี่ก่อน เผื่อว่าพวกคุณเหนื่อยจากการเดินทางจะได้นอนพักสักงีบ”
“ฉันไม่ได้เหนื่อยมาก และไม่ต้องมาเรียกฉันว่าป้าไข่ด้วย”
ถูกมาร์คัสเรียกตามเอมมี่ ทำให้ปาลิตาไม่พอใจสักเท่าไร เพราะฟังแล้ว แลดูราวกับว่าเธอเป็นคนมีอายุสักห้าสิบปีก็ไม่ปาน
มาร์คัสยิ้มกว้าง เลิกคิ้วเป็นการล้อเลียน ชอบใจที่ยั่วให้ปาลิตาโกรธได้ “ถ้าไม่ให้เรียกป้าไข่ แล้วจะให้เรียกคุณว่ายังไง?”
“ฉันชื่อปาลิตา คุณจะเรียกชื่อฉันแบบเต็มยศ หรือจะเรียกไข่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีคำว่าป้านำหน้าด้วย” ปาลิตากระแทกเสียงตอบกลับด้วยความโมโห
“ก็ได้ครับ ถ้าไม่ให้เรียกว่าป้าไข่ ผมก็จะเรียกคุณว่าที่รักแทนก็แล้วกัน”
“คุณลูร์คัส!” ปาลิตาเค้นเสียงเรียกในลำคอ ถลึงตาเขียวปั้ดจ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง
“ผมชื่อมาร์คัสต่างหาก ทำไมไม่เรียกผมว่ามาร์คัส” มาร์คัสค้านออกมา อยากให้ปาลิตาเรียกเขาในชื่อนี้มากกว่าชื่อของน้องชาย
“ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณอยากให้ฉันเรียกคุณว่ามาร์คัส ฉันก็จะเรียกชื่อนี้ แต่จำไว้นะคะ ต่อให้คุณเปลี่ยนชื่ออีกกี่สิบชื่อ คุณก็ยังเป็นคนสร้างตราบาปให้กับน้องสาวของฉันอยู่ดี”
ปาลิตาจะไม่มีวันลืมว่าผู้ชายคนนี้ทำให้น้องสาวของเธอต้องตาย ต่อให้เขาเปลี่ยนชื่ออีกสักร้อยชื่อ เขาก็ยังเป็นลูร์คัส คลาร์ก อยู่วันยังค่ำ และเธอจะทำให้เขาเจ็บปวด ที่เป็นสาเหตุให้น้องสาวของเธอต้องตาย
“ไปดูห้องพักกันเถอะ ป้าไข่ ยิ่งเถียงกัน ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเรากำลังพายเรืออยู่ในอ่างเข้าไปทุกขณะ”
มาร์คัสเอ่ยบอก พร้อมกับเดินนำหน้าตรงไปยังห้องนอน แต่พอรู้สึกได้ว่าปาลิตาไม่ได้เดินตามตนเองมา จึงหันมามองและเอ่ยเรียกอีกครั้ง
“มาสิ ป้าไข่ คุณจะได้ไปพักผ่อนด้วย”
“ฉันไม่ได้เหนื่อยมากมายอะไร”
ปาลิตาเอ่ยค้าน ไม่อยากเข้าไปในห้องนอน โดยมีมาร์คัสอยู่ด้วย เพราะเธอรู้สึกถึงกระแสบางอย่างที่ไหลวนอยู่ทั่วเรือนกาย เมื่อเข้าใกล้ชายผู้นี้
มาร์คัสส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจกับความดื้อรั้นของปาลิตา จึงเอ่ยตำหนิออกมาอย่างอดใจไม่อยู่
“ถ้าคุณไม่เหนื่อยก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากให้คุณคิดถึงเอมมี่ด้วย คุณลองหันไปดูบ้างสิ ว่าตอนนี้เอมมี่เหนื่อยมากแค่ไหน”
ปาลิตาหน้าม้าน เมื่อถูกมาร์คัสตำหนิเสียงเข้ม พอหันไปมองตามคำพูดของอีกฝ่าย ก็เห็นหลานสาวนั่งทำตาปรือๆ เพราะเหนื่อยกับการเดินทางหลายสิบชั่วโมง
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะพาเอมมี่ไปนอนพักก่อน”
ปาลิตาเอ่ยบอก พร้อมกับทำท่าจะเข้าไปประคองเอมมี่ให้ลุกขึ้นยืน แต่ถูกมาร์คัสเอ่ยห้ามเสียก่อน
“ผมเองครับ”
มาร์คัสเดินเข้าไปใกล้ร่างบางระหงของปาลิตา แตะเบาๆ ลงไปบนต้นแขนของหญิงสาว พอปาลิตาหันมามองเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ก็อดใจไว้ไม่ไหว รีบฉวยโอกาสกดจุมพิตลงไปบนเรียวปากอิ่มอย่างรวดเร็วเกินกว่าปาลิตาจะป้องกันตัวเองได้