“ขอบใจมากนะที่มาส่งให้ที่บ้านนะ” วาน่าเดินลงมาพร้อมบอกขอบคุณเพื่อนใหม่ที่อุสาขับมาส่งให้ถึงที่เมื่อลงมาถึงก็พบว่าของทุกอย่างถูกส่งมาให้หมดแล้วเพราะเจ้าวีปเป็นคนเอาขยะทั้งหลายมากองที่ถังขยะจนหมดแล้ว ส่วนดินก็วางเป็นถุงอยู่ด้านข้างที่เป็นสวนเปล่าๆ
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี้น้าก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วนิเนอะ อีกอย่างวาน่าก็ไม่รู้จักที่นี่เท่าไรด้วยจริงไหม” อีรัสชายผู้มีผิวสีเนื้อสวยแต่ที่แขนกลับมีลายสีฟ้าประกายตามเผ่าพันธุ์ทั้งสองข้างสีของมันคล้ายกับสีนีออน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกับผมสีเดียวกันแซมฟ้าขาวปนเข้ามาพูดพร้อมพยักหน้าไปทางเพื่อนที่นั่งใกล้ๆ ด้วยสีหน้าอารมณ์ดี
“ไม่คิดจะชวนพวกเราเข้าบ้านหรือไง เป็นผู้หญิงประสาอะไรไม่ชวนคนเข้าบ้านคนอื่นอุสามาส่งแท้ๆ” ชายผู้ไม่เป็นมิตรกับเธอเท่าไรนักลักษณธสีผิวมีสีเขียวอ่อนคล้ายสีพาลเทล ผมสีดำสวยพูดขึ้นมาแต่หน้ากลับหันไปทางอื่นเหมือนไม่อยากจะสบตากับเธอ
เดี๋ยวนะปกติผู้หญิงจะไม่ชวนผู้ชายเข้าบ้านไม่ใช่หรือไง ถ้าตามมารยาทแล้วนะหรือว่าพวกเขาไม่ถือเรื่องพวกนี้หรือเปล่า
“เอ่อ...งั้นเข้ามาก่อนก็ได้นะมาสิ”
“ได้จริงเหรอเกรงใจจัง” คาเอด้าเพื่อนชายอีกคนที่ปากพูดอีกอย่างแต่ตัวกลับเดินลงมาพร้อมเดินเข้าบ้านเธอเต็มทีเลย คาเอด้าเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงเหมือนอีรัสสีผิวมีความเป็นสีเนื้อก็ไม่ใช่ฟ้าก็ไม่เชิงแต่โดยรวมแล้วคือสวยน่าจะเป็นลูกครึ่งข้ามสายพันธุ์เพราะเธอเห็นแขนมีรอยแบบเดียวกับอีรัสแต่จางกว่าและมีน้อยกว่ามาก เจ้าตัวเดินกอดคอเจเพียร์มาถึงหน้าประตูบ้านเธอรอให้เจ้าบ้านเปิดประตูให้ตามมารยาท
อย่างน้อยก็มีมารยาทอยู่บ้างอะนะ (-_-)
หลังจากที่เธอพาเพื่อนใหม่เข้ามาในบ้านพวกเขาก็พากันเดินสำรวจบ้านเราจนทั่วย้ำว่าทั่วทุกซอกทุกมุมจนเธอเริ่มรู้สึกกลัวว่าพวกเขาจะเป็นโจรหรือเปล่าก่อนที่จะมานั่งดูหนังกันที่ห้องรับแขกประนึ่งว่าเป็นบ้านตัวเองก็ไม่ปานไร้ซึ่งความเกรงใจใดทั้งสิ้น คนที่มีมารยาทมากที่สุดน่าจะเป็นฮาเดลเขาเหมือนลูกผู้ดีมาแต่เกิดทำอะไรก็มีมรยาทแม้แต่การเดินก็ยังดูเหมือนคนที่ถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี
“เธออยู่ที่นี่คนเดียวเหรอวาน่า” ฮาเดลถามขึ้นมาเมื่อสำรวจแล้วกลับไม่พบใครเลย “อืม ทำไมเหรอ”
“เปล่าหรอกแค่ถามเฉยๆ นะเห็นไม่มีคนอื่นเลย”
“แล้ววาน่าไม่เบื่อบ้างเหรอมีแค่เธอกับหุ่นยนต์เองนะ ว่าแต่ฉันกินเจ้าของในตู้เย็นนี้ได้ใช่ไหม” เจเพียร์กับอีรัสตอนนี้อยู่ที่หน้าตู้เย็นกำลังเลือกหาของกินอย่างเพลินตาเพลินใจอยู่ตะโกนถามขึ้นมาก่อนที่จะหยิบของกินแล้วเดินมานั่งที่ไม่รอให้เจ้าของบ้านตอบ
ถ้าไม่อยากได้คำตอบแล้วถามทำไมว่ะ ไม่เข้าใจสองคนนี้เลยจริงๆ แต่เดียวนะทำไมอีเทอร์เนียร์เขาถึงมองแบบนั้นล่ะไม่ใช่ว่ากำลังคีพลุคอยู่หรอกนะ วาน่าหันไปเห็นอีเทอร์เนียร์ที่หันไปมองที่ของหวานอย่างเด็กน้อยที่อยากได้แต่ไม่กล้าเอามากินอย่างไรอย่างนั้นทำให้ร่างบางที่เห็นนึกสงสารขึ้นมา
“นี้อะไรเหรอวาน่า น่ากินมากเลยนะดูสิ สีมันน่ากินมากเลย” อีรัสกับคนอื่นหันมาถามสายตามองไปยังเจ้าลูกบอลสีน้ำตาลรูปทรงกลมเป็นลูกบอล “นี้เป็นช็อกโกแลตนมนะทำมาจากนมข้นกับผงช็อกโกแลต”
“อืม...ง้ำๆๆ อร่อยดีนะ หนึบๆ ยืดๆ หวานๆ ดีฉันชอบ”
“อย่าตะกละสิ หันมีคำว่าเกรงใจใส่ลงไปในหัวบ้างสิ” ฮาเดลมองมาที่เพื่อนของตัวเองที่ด้วยสายตาเหลือเชื่อ “เกรงใจทำไมเพื่อนๆ กันทั้งนั้นแหละเนอะวาน่าเนอะ”
“เอาที่สบายใจเลย” ไม่ขัดอยู่แล้วเพราะยังไงเราก็ขัดไม่ได้อยู่แล้วนี้น้า เฮ้อ...
“เห็นไหมขนาดวาน่ายังไม่พูดอะไรเลย” (^v^)
“จริงสิ เธอจะสตรีมอีกเมื่อไรฉันติดตามเธอด้วยนะรู้หรือเปล่า” เซอร์เทียพูดไปก็หยิบเอาของกินเข้าปากไปด้วยแต่ก็ถูกคาเอด้าตีมือเสียก่อนเพราะต้องการที่จะถ่ายรูปลงโซเชียวก่อนที่เพื่อนๆ ที่กำลังกินกันจะกินหมดเสียก่อน
“อร่อย ง้ำๆ นายจะถ่ายอะไรนักหน้ากลัวคนอื่นไม่รู้หรือไงว่ามีของกินนะ ชิ” เซอร์เทียเสริมหลังจากที่เพื่อนทั้งหลายของเธอนั่งพูดคุยกันพอสมควรแล้วทำให้วาน่าได้รู้ว่าคาเอด้าเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงในโซเชียวมากพอสมควรคงเพราะหน้าตาที่น่าดึงดูดกับนิสัยที่เป็นมิตรกับทุกคนเลยมีคนชอบและติดตาม ด้วยความที่ว่าทั้งห้าคนจำต้องมาเรียนอยู่แล้วและบ้านเธอก็ใกล้และเป็นที่จำต้องผ่านอยู่เป็นประจำด้วย
ทำให้เรื่องนี้ได้ข้อสรุปมา (คือพวกนี้สรุปกันเองแม้แต่ฮาเดลยังเข้าร่วมความคิดด้วยเลย) จนได้มาว่าทุกคนพวกเขาจะมานั่งสิงสถิตอยู่ที่บ้านพักของเธอ เพราะกลัวว่าเธอจะเหงาเกินไปและอยากที่จะมาดูแลความปลอดภัย อันนี้มันเป็นข้ออ้างแค่เห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่
พอสนิทกันทำให้เธอรู้ว่าอีเทอร์เนียร์มีนิสัยแบบนี้อยู่แล้วคงเพราะบ้านเกิดของเขาและดาวของเขามีแต่ธรรมชาติ (เจเพียร์เล่าให้ฟัง) และพวกเขามักจะเข้ากับคนอื่นได้ยากมากพอสมควรคือเป็นลักษณะนิสัยที่เป็นกันทั้งดาวมันเป็นจุดเด่นของดาวบีด้าเพรโทรสที่ทั้งดาวเต็มไปด้วยธรรมชาติและความอุดมไปด้วยพืชนานาชนิด
แต่เราก็เข้ากันได้นะ แค่เจ้าตัวปากไม่ค่อยจะดีแค่นี้เอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีเทอร์เนียร์ชอบของหวานพอๆ กับอีรัสเลยก็ว่าได้ส่วนฮาเดลก็เป็นคุณชายเสียไม่มี ส่วนเซอร์เทียก็เป็นพวกรักแมวขนาดหุ่นยนต์ของเรายังคุยกันได้รู้เรื่องเลย คาเอด้าก็เป็นพวกพูดไม่หยุดชอบตุ๊กตาตอนเห็นตุ๊กตาที่เราทำยังพูดไม่หยุดปากว่าจะแอบขโมยกลับหอด้วยคนสุดท้ายคือเจเพียร์ที่เจ้าตัวมักจะติดมือถือตลอดเวลาชอบของกินคืออะไรก็ได้ที่เธอทำเจ้าตัวกินหมด
เจเพียร์เงยหน้าขึ้นมาจากมือถือในปากคาบของกินอยู่นั่งข้างๆ กับคาเอด้าที่กำลังจ้องมองเจ้าตุ๊กตามังกรที่เธอเป็นคนทำไม่ยอมวางเป็นชั่วโมงแล้ว “วาน่าเธอไม่สตรีมเหรอ สตรีมสิได้เวลาแล้วนะไม่สตรีมหรือไงพวกเราอยากดูพวกเราอยากช่วยใช่ไหมทุกคน”
“แค่นายอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว รู้นะว่ากำลังคิดอะไรอยู่นะ” (-_-!)
“พวกเราอยากช่วยจริงๆ นะ”
"ใช่ๆๆ คราวนี้เธอต้องทำของหวานนะ” อีรัสนั่งดูหนังอยู่หันมามองจนตอนนี้วาน่ากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอีกครั้ง
“ของกินสิ ของหวานบ้านนายกินแล้วจะอิ่มหรือไง” อีเทอร์เนียร์ที่ปากแข็งแต่ใจยังคงสนใจที่ของหวานอยู่พูดขึ้นมา
อยากกินของหวานก็พูดมาตรงๆ ก็ได้นะไม่ต้องอายเหมือนเรากำลังดูแลเด็กน้อยยังไงก็ไม่รู้
“ทำสิ”
“ทำเลย พวกเราจะดูอยู่ห่างๆ” เซอร์เทีย
“ไม่กวนตอนเธอทำแน่นอน” ฮาเดลพยักหน้ายืนยัน
“ดูสิคนอื่นกำลังรอเธออยู่นะ มีแต่คนโพสต์ว่าเมื่อเธอจะสตรีมสักทีเห็นไหมขนาดฉันยังเห็นเลย นี้นะพอถ่ายรูปลงก็มีแต่คนถามว่าซื้อมาจากที่ไหน อร่อยหรือเปล่า ได้มาจากใครหรือมีสาวคนไหนให้มาเต็มไปหมดเลย” เจ้าคนดังคนเดิมถือมือถือนิ้วก็เลื่อนขึ้นเลื่อนลงดูข้อความของคนอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมาไม่หยุดก่อนที่จะส่งไปให้ร่างบางดูว่าผลงานของตัวเองมีคนสนใจมากแค่ไหนยิ่งเป็นคลิปสั้นๆ ที่เจ้าตัวกำลังกินแล้วซูมไปที่ช็อกโกแลตกลมที่กำลังยืดไปมาพ่วงเข้าไปด้วยคนอื่นยิ่งสนใจมากขึ้นเพราะคาเอด้าเป็นคนที่ดังหรือเป็นไอดอลที่มีชื่อเสียงพอสมควร
#ผมชอบของหวานนะรู้ยัง อร่อยจนต้องบอกต่อฮิๆๆๆ
...อาราย!! มันคืออารายทำไมน่ากินอย่างนี้ไม่รู้ว่าจะมองปากของคาเอด้าดีหรือมองขนมดีน่ามองไปหมดเลย
...ว้าว ซื้อมาจากร้านไหนครับ น่ากินจัง
...อย่ากินเข้าไปนะ มันอาจจะทำให้เคดไม่สบายก็ได้นะ เราเป็นห่วง
...ไอดอลของฉานไปที่ไหนมา เดี๋ยวfc ผู้นี้จะตามไปถึงที่เลย
...นั้นปลายผมของน้องอีรัสใช่หรือเปล่า แค่เห็นปลายผมก็ฟินแล้ว
...กินได้แน่เหรอ?
...ทำไมสีน่ากลัวจังเลย เหมือนของเสียเลย
...ผงนั่นน่าจะเป็นผลช็อกโกแลตนะเราว่า น่าจะเป็นของหวานรึเปล่ามีขายด้วยเหรอหรือว่าร้านค้าให้เคดของเราโปรโมทหรือเปล่า
...ดูจากฉากรอบๆ เหมือนนางจะไม่ได้อยู่ที่หอนะ ด้านหลังมีครัวด้วยเห็นไกลๆ ไม่รู้ว่าบ้านใครแต่ไม่ใช่บ้านเพื่อนสนิทของนางแน่ นางอยู่ที่ไหน
...เคดของฉันอยู่บ้านผู้หญิงคนไหน ไม่ได้นะเคดของเราต้องบริสุทธิ์เท่านั้นคิดจะพรากมันไปจากเคดแกตายแน่
วาน่ามองหน้าจอมือถือของเพื่อนชายที่นิ้มแก้มปรีให้เธออย่างคนอารมณ์ดีเหมือนไม่ได้รับรู้เลยว่าช่วงหลังๆ แฟนคลับของเจ้าตัวเริ่มจะพูดกันไปในทางเรื่องผู้หญิงหรือไม่ก็บอกว่าเป็นบ้านใครไม่มีใครโฟกัสไปที่ของหวานแล้วตอนนี้
เราจะรอดไหมเนี่ย
“ข้อความพวกนี้อะนะที่น่าสนใจ ดูยังไงมันก็เหมือนจะไปทางร้ายมากกว่าดีนะคนพวกนี้ไม่รู้ว่าจะตาดีกันไปถึงไหนมองแม้กระทั่งฉากหลัง น่ากลัวจริงๆ เลยคนพวกนี้”
“ฉันเตรียมกล้องให้เรียบร้อยแล้วล่ะ”
“ของพร้อมแล้วเหลือแต่เธอนะวาน่า ทำเลยพวกเราสัญญาว่าจะอยู่แบบเงียบๆ ใช่ไหมเจ้าวีป” เจเพียร์หันไปมองหุ่นยนต์ของเธอที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ทำให้เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาพูดต่อ “จะเหลือก้แต่วัตถุดิบที่วาน่าจะเป็นคนทำ”
“เฮ้อ...ให้ตายเถอะพวกนายนี้นะอยากกินขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เปล๊า” ทั้งห้าคนพูดพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย ส่วนวาน่าที่บอกให้ทุกคนเงียบเสียงลงก่อนที่เธอจะเปิดการสตรีมอีกครั้งเพราะมันได้เวลาแล้วที่จะต้องทำแต่ไม่คิดว่าคนอื่นๆ จะรอกันมากขนาดนี้เพียงแค่เปิดสตรีมทุกคนก็มารวมกันเป็นกลุ่มเดียวในสตรีมของเธอ
“ไงทุกคนวาน่ากลับมาแล้วนะเมื่อเช้าไม่รู้ว่าชอบที่หนูทำกันหรือเปล่านะแต่ตอนนี้เราจะมาทำกุ้งอบวุ้นเส้นกันทำง่าย ของไม่เยอะแถมอร่อยด้วย”
…มาแล้วนึกว่าจะไม่มาซะแล้วรอตั้งนาน
...ใช่ๆๆ รอนานมากเมื่อเช้าเรารองทำแล้วด้วยนะอร่อยมากเลย ลองมาทำตอนเที่ยงกินเองแต่ใส่น้ำเยอะไปหน่อย
...ทำอะไรกินดีวันนี้วาน่า
“ของที่ต้องมีเลยคือกุ้ง วุ้นเส้นและเบคอนถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่หรือว่าจะใส่อย่างอื่นทดแทนก็ได้นะ ส่วนผสมมีเครื่องปรุงทั้งหลายกับน้ำ เครื่องปรุงอาจจะเยอะไปสักหน่อยนะแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นๆว่าจะทำยากหรืออะไรเลยเพราะฉะนั้นมาลงมือทำกันเลย ลุย!”
“อุ” เสียงของเจ้าตัวหนึ่งในห้าที่พยายามจะไม่หัวเราะเพราะไม่คิดว่าทำอะไรบางอย่างของเธอจนมันตกก่อนที่เจ้าตัวจะส่งเสียงขึ้นมาแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะห้ามตัวเองทัน
วาน่าที่ได้ยินก็เงยหน้าส่งสายตาไปให้เหมือนไม่พอใจปากคว่ำเป็นรูปสามเหลี่ยมส่วนคนอื่นๆ ที่เห็นอย่างนั่นก็รีบเดินเข้าไปอุดปากเจ้าคนที่ส่งเสียงรบกวนเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยตอนนี้
“เอาล่ะมาต่อกันดีกว่า”
…เมื่อกี้เสียงอะไรนะ เหมือนเสียงคนเลย
...ถามมากถามมาย อย่าไปเผือกเรื่องของคนอื่นสิ
...มาแล้วมาทันด้วย 555
...วาน่ายังน่ารักเหมือนเดิมเลยอยู่ดาวไหนเดี๋ยวผมจะย้ายไปอยู่บ้านข้างๆ
“ขอบคุณนะ แต่บ้านข้างคงจะเต็มกันหมดแล้วล่ะเรามาสนใจที่ของกินกันดีกว่านะทุกคนมาเพื่อของกินนิใช่ไหม เริ่มแรกเราต้องแกะกุ้งล้างให้สะอาดด้วยเกลือป่นก่อนในระหว่างนี้เราก็นำเครื่องปรุงเริ่มแรกเรานำกระเทียบที่เราทุบมาใส่ลงในกระทะพร้อมกับหมูสามชั้น ขิงแก พริกไทย เห็ดหอมสดนำทุกอย่างไปคั่ววในกระทะให้มีกลิ่นหอมจนกลายเป็นสีเหลืองแบบนี้แล้วนำไปพัก” วาน่าทำอย่างคล่องมือเป็นอย่างดีเหมือนคนที่ทำมาแล้วหลายปีตามความเคยชิน
ร่างบางนำเครื่องปรุงมาใส่ลงในน้ำที่ต้มอยู่จากนั้นก็ใส่วอสหอยนางรมลงไปตามด้วยน้ำมันงาเล็กน้อยและซอสอื่นๆ ที่มีเท่าที่จะหาได้หรือที่สามารถนำมาแทนกันได้แล้วคนผสมให้เข้ากันก่อนที่จะใช้ช้อนตักขึ้นมาชิม กลิ่นหอมของมันหอยไปทั่วบ้านบริเวณนั้นจนคนที่พยายามนั่งอย่างเงียบๆ ต้องน้ำลายไหลจนวาน่าที่เห็นอย่างนั้นต้องตักน้ำแกงขึ้นมาให้คนอื่นๆ ที่เงียบอยู่หลังกล้องได้ชิมกัน
กล่อมหอมของน้ำแกงทำให้คนที่กังดูสตรีมอยู่นึกอยากกินขึ้นมาทันทีจนทุกคนที่ได้กลิ่นเริ่มทนไม่ไหวย่นกันเป็นแถวว่าเมื่อไรจะเสร็จ ร่างบางยังคงทำต่อไปปากก็อิบายไปด้วย
“หลังจากที่เราใส่น้ำแกงของเราลงไปในหม้ออบแล้วตามมาด้วยวุ้นเส้นที่และเติมน้ำเข้าไปเล็กน้อยจากนั้นวางกุ้งของเราบนเส้นที่เหลือเราก็แค่อบมันรอเวลาประมาณ 7-15 นาทีที่เหลือก็แค่นำขึ้นมาจากหม้ออบ น้ำแกงของเราไม่ต้องใส่ลงไปเยอะนะพอให้เส้นดูดน้ำแกงก็พอ”
บาบิออล: ดูทำง่ายกว่าที่คิดอีกนะ แค่เห็นก็อยากกินแล้วไม่คิดว่าของที่เป็นเส้นๆ แบบนี้
ร้านขนมปัง: น่ากินมากครับ
ซาล่า: ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ เหมือนน้องไม่ได้อยู่คนเดียว
…อยากกินแล้ว
...วาน่ามีผู้ติดตามถึง 1.3 แสนแล้วน้ายินดีด้วยนะ
...อยากรู้ว่าวาน่าอยู่ที่ไหนจังเลย
ซาล่า: ตอนนี้มีกลุ่มของวาน่าแล้วนะ ทุกคนสร้างเพื่อให้วาน่าโดยเฉพาะเลยด้วยนะเพราะเห็นว่าวาน่าทำไม่เป็น
“จริงเหรอ แบบนี้ทุกคนก็อยู่ในกลุ่มนั้นหมดเลยหรือเปล่า” (o-o) ร่างบางที่กำลังส่งจานอาหารที่มีกุ้งตัวใหญ่ประดับอยู่ 5-6 ตัว กำลังจะส่งไปให้เครื่องเสมือนเพื่อให้คนอื่นๆ ได้ลองชิมกันว่ามีรสชาติถูกปากหรือเปล่า “อีกอย่างหนึ่งคือวันนี้หนูทำเอาไว้เยอะมากเลยก็เลยจะมาแบ่งให้กับผู้โชคดีให้ลิ้มลองกันเป็นจำนวน 5 ท่านเท่านั้นนะ ดีใจกันหรือเปล่า หนูคิดมาสักพักแล้วล่ะและอีกอย่างเลยก็คือมันมีเยอะมากเพราะทำเอาไว้เยอะเลยอยากจะแบ่งกับทุกคน”