บทนำ
“สวัสดีทุกคน เดี๋ยวรอให้คนเข้ามาเยอะกว่านี้ก่อนน้า” อลิชาเปิดไลฟ์สดในเพจชาช่าแชนแนล ระหว่างรอให้จำนวนผู้ชมเพิ่มมากขึ้น บิวตี้บล็อกเกอร์สาวก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูลิสต์คำถามที่ต้องตอบเพื่อฆ่าเวลา
“เมื่อวานช่าตั้งโพสต์ให้ทุกคนถามคำถามที่อยากให้ช่าตอบ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนมาคอมเมนต์เยอะกว่าที่ช่าคิดไว้อีก ช่ากับจิ๊บเลยคัดมาแค่บางคำถาม ส่วนคำถามของใครที่ช่าไม่ได้ตอบก็ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยน้า มันเยอะมากจริง ๆ ตอบไม่ไหวค่า”
ผ่านไป 10 นาที ยอดคนดูไลฟ์เริ่มนิ่ง อลิชาจึงฉีกยิ้มหวาน แล้วเริ่มตอบคำถามที่คัดไว้
“สำหรับใครที่มาไม่ทันไม่ต้องห่วงนะ ช่าจะให้จิ๊บเซฟไลฟ์แล้วลงในยูทูบ ทุกคนจะได้ไปย้อนดูกันได้”
“เจ๊คนดูกระหน่ำพิมพ์ใหญ่เลย ดูคอมเมนต์สิ” อัครัฐ ผู้ช่วยหนุ่มหัวใจหญิงของอลิชาทำสายตามีเลศนัย ก่อนพยักพเยิดไปยังโทรศัพท์ที่คนดูกระหน่ำส่งคอมเมนต์กันมาไม่หยุดหย่อน
ตากลมโตจากการกรีดอายไลเนอร์ชิดขอบตาบน ทั้งยังลากหางตาให้เฉี่ยวขึ้นเล็ก ๆ พร้อมดัดแพขนตาหนาให้ดูงอนเด้ง ไม่ตกลงมาบดบังดวงตาคู่สวย เปลือกตาที่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยอายแชโดว์เนื้อแมตต์สีส้มนู้ดไล่เรียงระดับสีอย่างมีมิติกะพริบสองสามที เมื่อพบว่าทุกคอมเมนต์ต่างก็มุ่งไปที่ประเด็นเดียวราวกับนัดกันมา
เรื่องที่เธออุตส่าห์เลี่ยงตอบมาตลอด100 ทศวรรษ อ๋อลืมไป อายุเธอยังไม่ถึง
...เรื่องของความรัก
[อยากเห็นแฟนชาช่า]
[น้องช่าทำไมไม่ตอบเรื่องความรักเลย]
[ในคอมเมนต์โพสต์เพจมีคนถามถึงเรื่องนี้เยอะจะตาย]
และอีกหลาย ๆ สิ่งที่บรรดาลูกเพจเข้ามาคอมเมนต์ในเชิงอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวความรักของบิวตี้บล็อกเกอร์สาว
[นางคงขี้เหวี่ยงเหมือนในข่าวลือแหละ ผู้เลยไม่เอานาง] ทว่าในบรรดาหลายร้อยคอมเมนต์ สายตาของอลิชาก็หยุดอยู่ที่คอมเมนต์หนึ่งซึ่งทำให้เธอแทบองค์ลงกลางไลฟ์ โกรธจนเกือบจะเผลอด่ากลับสาดเสียเทเสีย ยายนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกันยะ ก็แค่เพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแต่กล้ามาทำตัวเป็นนักเลงคีย์บอร์ดในไลฟ์ของเธอ แน่จริงอย่าเก่งแต่ในคอนเมนต์ นัดเจอกันต่อหน้าเลยดีกว่า
ผู้ไม่ได้ไม่เอาฉัน ฉันแค่ไม่เอาผู้เถอะ
ส่วนที่เธอไม่อยากตอบเรื่องของความรักเหตุผลก็แสนจะง่ายดาย เพราะหากตอบออกไปจะต้องมีเหล่ามนุษย์ปากเสียเอาเรื่องที่เธอพูดไปต่อความยาวสาวความยืด ใส่สีตีไข่อีกอย่างไรล่ะ นี่ขนาดไม่ได้พูดถึงยังโดนว่าขนาดนี้ ถ้าพูดถึงจะขนาดไหน
แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถ้าทุกคนอยากรู้กันขนาดนี้ มาจ้ะ แม่จะเหลาให้ฟัง
“ไหนใครอยากรู้เรื่องความรักของช่า ขออีโมจิหัวใจรัว ๆ มาเลยค่า” ผู้คนที่กำลังดูไลฟ์ส่งอีโมจิหัวใจฟุ้งกระจายไปทั่วหน้าจอ ใครบ้างจะไม่อยากรู้เรื่องหัวใจของหญิงสาว ส่วนอัครัฐในตอนนี้ได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าอลิชาจะบ้าจี้ยอมเปิดปากพูดเรื่องความรักของตัวเองให้ใครได้ฟัง
“เอาคำถามที่เลือกไว้มาสิยัยจิ๊บ” อลิชายิ้มหวาน ทวงคำถามจากอัครัฐ หากแต่สายตากลับแสดงออกว่ากำลังเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด คนที่ทำงานร่วมกันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรอย่างเขารับรู้ได้โดยไม่ต้องมีผู้ใดมาบอกกล่าว งานนี้เจ้าของคอมเมนต์เจ้าปัญหาที่ทำให้พี่ช่าโกรธต้องถึงฆาตแน่แม่มึง
ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีคนพูดแบบนั้นกับอลิชาครั้งแรกว่า หญิงสาวขี้เหวี่ยง ไม่มีผู้คบ และต่าง ๆ อีกมากมาย แต่เจ้าของคอมเมนต์ที่ปลุกพญามารในตัวเธอคือคู่อริสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่คอยเหน็บแนมเธอไม่เว้นว่าง ไม่คิดว่าเรียนจบแล้วยังมาหาเรื่องแซะกันได้อีก อายุปูนนี้แล้วไม่รู้จักปล่อยวางหรือไงกันยะ อลิชาคิดในใจก่อนสะดุ้งนิด ๆ เมื่อจำได้ว่ายายคนนั้นก็รุ่นเดียวกันกับเธอ หากเธอว่ามันอายุเยอะก็เท่ากับว่าตัวเองอายุเยอะด้วยสิ
โอ๊ยปวดหัวไปจ้ะอลิชา ไปตอบคำถามให้อริมันดู
อัครัฐทำหน้าที่อ่านคำถามที่ทำการคัดไว้เผื่อเล่น ๆ โดยไม่คิดด้วยซ้ำว่าพี่ช่านางจะตอบ แต่วันนี้บล็อกเกอร์สาวกลับยอมตอบให้จริง ๆ ซะได้
“อยากรู้สเปกผู้ชายของชาช่า” อลิชาหันไปมองอัครัฐที่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยราวสาวแรกรุ่นอย่างจิกกัดตามประสา ก่อนจะเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ช่าไม่มีสเปกตายตัวค่ะ แต่ช่าชอบผู้ชายแขนมีเส้นเลือดแบบพระเอกซีรีส์เกาหลี มองแล้วมัน...กร๊าวใจค่ะ” เว้นระยะพูดสักครู่ อลิชาจึงเพิ่มเติมข้อสงสัยที่ถูกกล่าวหากันมาเยอะพอสมควร ไหน ๆ ก็พูดเรื่องนี้แล้ว เธอขอใช้โอกาสนี้แก้ข่าวซะเลย “แล้วที่ถามกันว่าทำไมยังไม่มีแฟนกับเขาสักทีเป็นเพราะสเปกเราเยอะหรือเปล่า คือช่ายังไม่เจอคนที่คิดว่าจะเข้ากันได้ค่ะ ไม่เกี่ยวกับสเปกเลย ในเมื่อเรามีคนเข้ามาให้เลือกเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ถูกไหมคะ จะตกลงปลงใจคบกับใครทั้งทีก็ต้องคบคนที่จะทำให้ชีวิตเราดีกว่าเดิมเนอะ”
“คำถามสุดท้ายของวันนี้ก่อนปิดไลฟ์ จิ๊บบอกเลยอันนี้จัดว่าเด็ด” จะเด็ดอะไรล่ะนังจิ๊บ ไม่ถามสักที ฉันนี่แหละจะเด็ดหัวหล่อนก่อน อลิชาฮึมฮัมพลางมองอัครัฐที่มัวแต่ลีลาทำท่าทำเสียงอย่างกับพิธีกรรายการทีวี ซึ่งเธอแอบกระซิบอัครัฐไปหลายรอบแล้วว่าหิว มันก็ได้แต่บอกว่าอีกแป๊บนึง แป๊บมาเป็นครึ่งชั่วโมงแล้วเนี่ย! นังจิ๊บ!
“ในฐานะที่คุณเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ คุณจะเปรียบความรัก หรือคนรักในอนาคตของคุณเหมือนกับเครื่องสำอางชิ้นใดครับ” อะ ส่งมาขนาดนี้ก็ต้องเล่นกับมันสักหน่อย อุตส่าห์ดัดเสียงทุ้มแถมลงท้ายคำว่าครับให้ขนาดนี้ ปกติแกล้งให้มันพูดครับไม่เคยจะยอมพูด เอาแต่บอกว่าหยาบคายกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
“ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ” ไม่พูดเปล่า หญิงสาวยังบรรจงพนมมือไหว้ใส่กล้องไลฟ์แถมฟิลเตอร์มงกุฎนางสาวไทยให้ตัวเองไปด้วย ใครไม่มอบมงให้ก็ช่าง หล่อนจะมอบให้ตัวเองวนไป โบกมือให้ชาวเพจอย่างนางสาวไทยแก้หน้าไประหว่างครุ่นคิดหาคำตอบ แล้วเลือกตอบเครื่องสำอางขึ้นมาหนึ่งชิ้นที่ตรงประเด็นกับคำถามมากที่สุด
“ดินสอเขียนคิ้วค่ะ ที่เป็นดินสอเขียนคิ้ว เพราะ หนึ่ง อย่างที่ทุกคนรู้ ๆ กันอยู่ว่าช่าไม่มีคิ้ว” พูดเองก็จะร้องเอง เล่นตัวเองไปอีก คนคิ้วบางและแกล้งใจบางเว้นระยะให้คนกระหน่ำพิมพ์เลขห้ารัว ๆ อย่างชอบอกชอบใจในคำพูดของเธอเมื่อสักครู่ “มันก็เหมือนกับคนรักและความรักที่ตอนนี้ช่าไม่ได้มี แต่ก็ยังอยู่ได้สบาย อาจจะรู้สึกขาดอะไรไปบ้าง ถ้าวันหนึ่งมีเขาเข้ามาก็คงเป็นอะไรที่ทำให้ชีวิตเรามีอะไรเพิ่มเติม ส่วนวิธีการเลือกคนรักก็เหมือนกับการเลือกดินสอเขียนคิ้วค่ะ ถ้าเลือกสีดินสอเขียนคิ้วผิดก็เข้ากับคิ้วไม่ได้ เขียนหนักไปก็เป็นปลิง เขียนบางไปก็เหมือนไม่ได้เขียน ความรักก็เช่นกันค่ะ เราจะต้องเลือกคนที่เหมาะกับเรา”
“งั้นก่อนปิดไลฟ์ ขอแถมให้คนดูอีกหนึ่งคำถามนะคะขุ่นพี่ช่า มีคอมเมนต์ถามเข้ามาว่า ‘งั้นถ้าพี่ช่าเลือกใช้เครื่องสำอางได้แค่หนึ่งชิ้นก่อนออกจากบ้าน พี่ช่าจะเลือกอะไรคะ’ จะตอบดินสอเขียนคิ้วอีกหรือเปล่าเอ่ย” อลิชาครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ก่อนจะตอบอย่างมั่นใจ
“คำถามนี้ตอบง่ายมาก ช่าเลือกลิปสติกค่ะ แถมคำคมก่อนปิดไลฟ์ให้ด้วย คิ้วอาจเป็นมงกุฎของใบหน้า แต่ถ้าปากซีดมากยังไงก็ยังออกจากบ้านไม่ได้ค่ะ สำหรับวันนี้ช่าขอลาไปก่อนนะคะ”