แกร็ก!
ท่ามกลางความเงียบปกคลุมเสียงบานประตูถูกเปิดเข้ามาอย่างไร้มารยาทด้วยฝีมือของใครบางคน เรียกสติเสือที่กำลังยืนอัดควันเข้าปอดจ้องมองผ้าปูที่นอนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกาม และคราบเหงื่ออยู่นั้นให้ชักสีหน้าไม่สบอารมณ์หันไปมอง
"ทำไรวะ"
"ก่อนจะเข้าห้องคนอื่นที่บ้านมึงไม่สอนเรื่องมารยาทเหรอ" เขาผ่อนสีหน้าลงไม่สนใจคำถามของเล้งกลับถามกลับเสียงเรียบ แล้วเดินไปจิ้มบุหรี่ดับลงในถ้วยในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว
"โถ่ไอ้เวร..ทีหลังมึงก็ล็อกประตูไว้ดิ กูจะได้มีมารยาท" คนถูกจิกกัดเอ่ยหน้าตาย ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านสักเท่าไหร่
"เข้ามาหากูมีอะไร"
"กูเข้ามาหามึงนี่ต้องมีอะไรด้วย เข้ามาเฉยๆไม่ได้?" ไม่ว่าเปล่าเล้งยังถือวิสาสะเดินเข้ามา ก่อนจะชะงักไปเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคาบอะไรบางอย่างบนที่นอน "..นั่นคาบอะไร"
ใบหน้าคมคายหันกลับมามองเจ้าของห้องอย่างแปลกใจ คงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ
"......" คำถามถัดมาของเพื่อนรักทำให้เสือเงียบไป มือหนาดึงลื้อผ้าปูที่นอนขึ้นกลบ แต่ทว่าเห็นแค่นั้นอีกฝ่ายก็รับรู้ได้ในทันที
"เดี๋ยวนี้หัดเอาสาวมาแดกในห้อง แล้วไม่บอกพวกกู?" ทุกทีพวกเขาจะไม่พาใครเข้ามาเอาในห้องส่วนตัวมั่วๆ จะเอาแต่ละทีจะไปจบที่ห้องเฉือดตลอดและก็ไม่เคยไม่บอกกัน ซึ่งทำแบบนี้มันผิดวิสัย แถมดูเหมือนจะไม่ใส่ถุงซะด้วย
"มึงมีอะไรก็พูดมาดีกว่า ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกูหรอก"
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครวะ คงไม่ใช่คนที่มึงไล่พวกกูหรอกใช่ไหม"
"....." เป็นอีกครั้งที่เสือเงียบไปกับคำถามเซ้าซี้ ทำเอาเล้งถึงกับถอนหายใจพรืดใหญ่ มองลึกเข้าไปในสายตาของเพื่อน คิดจะมาปกปิดคนอย่างเขาเหรอ..บอกเลยว่ายาก เพราะที่ผ่านมามันไม่มีใครทำให้เพื่อนของเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
อยากจะรู้ชะมัดว่าเด็กม.นี้มันมีอะไรดี ทำให้เพื่อนของเขาถึงสองคนหวงนักหนาไม่ยอมแบ่ง
"คำถามของกูมันยากไปเหรอวะ มึงถึงตอบไม่ได้เนี่ย"
"มึงจะมาสอบสวนอะไรนักหนากูไม่ใช่นักโทษ มีอะไรก็พูดมาสักทีเหอะ"
"ไอ้เสือ"
"เออ.." สุดท้ายเสือก็ตอบรับไปเพื่อตัดความรำคาญ หากไม่บอกเขาก็จะถูกเพื่อนเซ้าซี้ไม่เลิก
"หึ!" ลำคอหนาเค้นหัวเราะออกมาเบาๆอย่างคิดไม่ตก "ถ้ากูไม่เข้ามาเห็นเองกับตาก็ไม่รู้เลยว่ามึงกลับมาแดกของซ้ำ"
"ก็แค่แก้ขัด..พูดธุระของมึงมาให้เสร็จ แล้วออกไปจากห้องกูได้และกูจะไปอาบน้ำ"
"วันนี้หน้าที่มึงต้องไปคุมลูกน้องปล่อยของที่ชายแดนตอนห้าโมง ไหวใช่ปะ"
"เออ"
"ยังมีเวลาให้นอนพักอยู่ มึงก็เตรียมแรงไว้ให้พร้อมและกัน" เล็งพูดกวนประสาททิ้งท้ายแค่นั้น ก่อนจะหันหลังเดินออกไป ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อนนักหรอก ก็แค่ไม่ชอบที่ไม่แบ่งของเล่นให้
ปึก
"..อึก" แคทที่เพิ่งเดินเหม่อลอยผ่านประตูบ้านเข้ามาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อชนเข้ากับใครบางคน ใบหน้าหวานแหงนมองเจ้าของร่างสูง "ก้าน!.." เธอเรียกเพื่อนชายเสียงสั่น เปลือกตาคู่งามบวมช้ำจากการร้องไห้บวกกับสภาพที่ดูไม่ได้ ทำเอาก้านสงสัยไม่น้อย
"มึงไปไหนมา เป็นอะไรร้องไห้ทำไมใครทำอะไร" ว่าแล้วก้านก็ดันตัวเพื่อนออกจากอกแกร่งหมายจะสำรวจ ทว่ายังไม่ทันได้หมุนตัวดูแคทก็สะบัดตัวก้าวถอยหลังหนี "นี่พวกมันมายุ่งกับมึงอีกแล้วใช่ไหม"
"ปะ..เปล่าไม่มีอะไร"
"ตอบมาดิไอ้แคท พวกมันทำมึงอีกแล้วใช่ไหม" ชายหนุ่มย้ำคำอีกครั้ง หลังเพื่อนดูเหมือนกำลังจะเบี่ยงประเด็นไม่อยากตอบคำถามของเขา
"ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง ไม่มีใครมาทำกูทั้งนั้นแหละ" คำโกหกถูกเอ่ยตะคอกออกมาเพื่อไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง หญิงสาวฝืนตัวเองให้เป็นปกติที่สุด หากแต่ความเจ็บปวดใจกลางความเป็นสาวพุ่งปรี๊ดเป็นระยะเล่นงานเธอไม่หยุด จนเกร็งขาสั่น
"มึงโกหก กูจะไปกระทืบมัน"
"เหอะ! มึงคิดว่าคนอย่างมึงจะไปสู้อะไรพวกมันได้งั้นเหรอวะ"
"....." คำพูดถัดมาของแคททำเอาก้านเงียบไป ถึงจะรู้ว่าคนธรรมดาอย่างเขาจะสู้พวกที่มีอิทธิพลในระแวกนี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องยอมให้พวกมันมาทำตามอำเภอใจตัวเองแบบนี้ไหม "แล้วไง กูจำเป็นต้องยอมให้มันทำกับมึงแบบนี้เหรอวะ โดยที่แม่งไม่ต้องรับผลเหี้ยไรเลยยังงี้อ้อ..มึงเพื่อนกูนะเว่ย"
"กูขอเถอะนะก้าน แค่นี้กูก็ทรมานมากพอแล้ว..อย่าให้กูต้องมาทรมานเพราะเป็นห่วงมึงอีกคนเลย" มือเล็กรั้งแขนแกร่งเอาไว้แน่น ไม่ว่าคนตรงหน้าจะเก่งแค่ไหนถ้าก้าวเข้าไปในถิ่นโจรแบบนั้น ไม่มีทางรอดแน่ๆ แล้วเธอก็คงทำใจไม่ได้ถ้าใครจะต้องมาเจ็บตัวหรือเดือดร้อนไปเพราะเธอ
"......' ก้านยอมหยุดเมื่อเห็นสายตาคู่งามสั่นไหว แม้ว่าภายในใจจะเดือดดาลอยู่ก็ตาม "ถ้ากูเห็นมึงเป็นแบบนี้อีกครั้งเดียว ไม่กูก็มันตายกันไปข้าง"
"อืม ขอบคุณนะก้านที่เป็นห่วงกู"
"เออ..มึงไปพักผ่อนเถอะ กูไม่กวนและ" พูดจบเขาก็เบี่ยงตัวเดินออกไปทั้งที่ยังเป็นห่วงอีกคนอยู่ไม่น้อย แคทเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เคียงบ่าเคียงไหล่ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันกับเขา จะให้เมินเฉยกับสิ่งที่เธอเจอมาอย่างแสนสาหัสเขาทำไม่ลง
เวลาเห็นเพื่อนเจ็บ เขาเองก็เจ็บปวดใจไม่ต่างกัน
ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์มือถือในมือแผดเสียงร้องดังขึ้นในขณะที่แคทกำลังทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอน มือเล็กยกขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นว่าเป็นเบอร์ของแคนดี้ปรากฏบนหน้าจอใส
"ฮัลโหลแคนดี้"
(ฮัลโหลอีแคท..แกหายไปไหนมาเนี่ย ฉันโทรหาแกเป็นพันๆสายแล้วกว่าจะติด รู้ไหมว่าฉันกับเนเน่เป็นห่วงแกจนจะบ้าอยู่แล้ว) ทันทีที่ตอบรับเสียงของคนปลายสายก็พูดขึ้นฉอดๆราวกับไม่ได้หายใจหายคอ หญิงสาวถอนหายใจเบาๆอย่างไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงดี
"ฉันแค่ไม่สบายนิดหน่อยน่ะ พรุ่งนี้ก็กลับไปเรียนได้แล้ว"
(โอ๊ยยยยแล้วทำไมไม่โทรมาบอก ให้พวกฉันเป็นห่วงอยู่ได้..นึกว่าเป็นอะไรไปซะอีก)
"พอดีฉันลุกทำอะไรไม่ไหวเลยอะ แล้วโทรศัพท์ก็หาไม่เจอด้วยเลยไม่ได้โทรบอก ฉันขอโทษนะแก"
(เฮ้อ! แกรู้ไหมว่าเมื่อวานเนเน่ไปหาแก เนเน่เจออะไรมาบ้าง)
"....." รู้สิทำไมเธอจะไม่รู้ และตอนนี้เธอกำลังแบกรับความรู้สึกอยู่ น้ำตาที่เพิ่งเหืิอดแห้งรินไหลลงมาอาบสองแก้มนวลอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดเต็มอก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเธอ ถ้าเธอไม่ดื้อมาเจออะไรแบบนี้เพื่อนก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้เหมือนกัน
(แคทแกเงียบทำไมเนี่ย เป็นอะไร) พอเห็นว่าเพื่อนเงียบไปแคนดี้จึงเอ่ยเรียกเสียงดัง ไม่รู้ว่าตัวเองได้พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ที่บอกไปแบบนั้นเธอไม่ได้คิดจะโทษหรืออะไรแคทเลยนะ แค่บอกให้รับรู้เพราะเรามีกันอยู่แค่นี้
"ฮึก..ปะเปล่า แล้วตอนนี้เนเน่อยู่ไหนเหรอเป็นยังไงบ้าง" แคทพูด พร้อมกับยกหลังมืออีกข้างขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ
(เฮ่ยนั่นแกร้องไห้เหรอ แคทฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาโทษอะไรแกเลยนะแค่บอกให้แกรู้เฉยๆ อย่าโกรธฉันนะเว่ย)
"อืม..ฉันรู้ ฉันจะไปโกรธแกทำไมล่ะ"
(แกก็ไม่ต้องโทษตัวเองด้วย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะไอ้พวกชั่วนั่น)
"อืมๆ ตอนนี้เนเน่อยู่ไหนอะอยู่กับแกไหมเป็นยังไงบ้าง"
(เนเน่ไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้มันน่าจะอยู่บ้าน)
"ฮะ!..อยู่บ้าน? แล้วแบบนี้ป๊าจะไม่รู้เอาเหรอ"
(ไม่รู้เหมือนกันวะ โทรศัพท์เนเน่มันพังติดต่อไม่ได้ เอ่อ..แล้วนี่แกรู้เรื่องได้เนเน่ได้ไง ใครบอก)
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปเล่าให้ฟัง"
(อย่าบอกนะที่มันมีเบอร์เนเน่เพราะแก มันจับแกไปใช่ไหม..แล้วแกเป็นอะไรหรือเปล่าแคท)
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันเหนื่อยอะขอพักนะแคนดี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันฉันจะเล่าให้ฟังทั้งหมด" ทั้งหมดที่ว่าไม่รวมเรื่องของเธอนะ จริงๆเธอก็ไม่ได้อยากปิดบังอะไรเพื่อนหรอก แต่เธอไม่อยากให้แคนดี้ต้องมาคอยเป็นห่วงและกังวลเรื่องของเธอไปอีกคน แค่เรื่องเนเน่นางก็รับจะแทบไม่ไหวอยู่แล้ว
(เออๆโอเค เอ่อฉันลืมบอกว่าของลูกค้าทั้งหมดฉันกับเนเน่จัดส่งให้แกเรียบร้อยหมดแล้วนะ)
"....." เออจริงด้วยเธอลืมไปสนิทเลย ถ้าไม่มีเพื่อนรักทั้งสองคนคอยช่วยป่านนี้เธอคงโดนลูกค้าโวยวาย รวมถึงโพสต์ประจานร้านเธอไปแล้วก็ได้ "ขอบคุณนะแคนดี้ ขอบคุณที่คอยช่วยฉัน ขอบคุณจริงๆ"
(ย่ะ..เพื่อนกันก็ต้องคอยช่วยเหลือกันสิ แกไปพักผ่อนเถอะ ฉันรักแกนะ ดูแลตัวเองดีๆด้วยฉันเป็นห่วง)
"อืม..ฉันก็รักแกนะแคนดี้" สิ้นประโยคหญิงสาวก็ดึงโทรศัพท์มือถือลงมากดวางสาย มือเล็กวางโทรศัพท์ลงบนที่นอน
เหนื่อยเธอเหนื่อยเหลือเกิน ไม่รู้ว่าหลังจากนี้โชคชะตาจะยังมาเล่นตลกกับเธออีกไหม และเธอยังจะรับมันไหวอีกหรือเปล่า
---------------------------------------