EP 2

1139 Words
“ว่าไงเด็กๆ ไม่เจอพ่อหลายวันคิดถึงเหรอ โอ๋ๆ ๆ มาๆ พ่อกอด” พวกมันต่างพากันกระดิกหางพร้อมกับครวญคราง และต่างเรียกร้องให้สองมือของเจ้านาย ลูบหัวตัวเองแข่งกัน เจ้าปังปังตัวเล็กรอไม่ไหว เลยมุดเข้าไปตรงกลางลำตัวเจ้านาย ปีนป่ายขาอันแข็งแรงขึ้นไป เพื่อแย่งความรักกับแย่งอ้อมกอดบ้าง “โอ๋ๆ ๆ ปังปังก็อยากให้พ่อกอด มานี่มา อื้มๆ ๆ ๆ” เจ้านายเลยต้องใช้แขนเพียงข้างเดียว โอบอุ้มตัวเล็กๆ น่ารักๆ ไว้ ส่วนอีกมือลูบหัวเจ้าสองตัวสลับกัน เพื่อไม่ให้ใครน้อยหน้าใคร เด็กหนุ่มชาวไทยใหญ่วัยสิบห้าปี ก็รีบวิ่งตามเจ้าสามตัวมา แล้วยกมือไหว้เขาด้วยความดีใจไม่แพ้กัน “สวัสดีครับ” เขามองเด็กที่เขากับคนในบ้านเรียกสั้นๆ ว่า ‘เต้ย’ แล้วยิ้มให้ เต้ยเป็นลูกชายของเมย คนทำความสะอาด อยู่กับครอบครัวเขามาตั้งแต่สิบกว่าปี เป็นสาวหน่อยก็มีแฟน ท้องแล้วผู้ชายก็ไม่รับผิดชอบ เลยกลายมาเป็นภาระให้เจ้านายช่วยเลี้ยงลูกไปโดยปริยาย และไม่คิดลาออกไปทำงานที่อื่น จนตอนนี้เมยย่างเข้าสี่สิบแปดแล้ว “ว่าไงเต้ย ทำไมถึงปล่อยเด็กๆ ออกมาล่ะ” ปกติเวลามีงาน เจ้าสามตัวนี้จะต้องอยู่ห้องแถวของตัวเองทางด้านหลัง ทำขึ้นให้เป็นพิเศษ ต่อจากห้องคนงานในบ้าน ซึ่งมีรวมกันถึงแปดคน ติดแอร์ให้ทุกห้อง เพราะเจ้านายให้ความสำคัญกับการกินอยู่ของทุกคนอย่างเท่าเทียม “พอรู้ว่าคุณเกียร์มา ก็ร้องใหญ่เลยครับ ตะกุยประตูห้องจนแทบจะพัง ผมเลยเปิดให้มาหาคุณเกียร์ก่อน หายคิดถึงแล้วผมจะพากลับครับ” เจ้าของร่างผอมในชุดนักเรียนมัธยมปลาย เอาชายเสื้อออกมานอกกางเกงเอ่ย พร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างจงรักภักดี ส่วนเขาก็ยังคงถูกรุมล้อมด้วยเจ้าสามตัว กว่ามันจะพอใจและหายคิดถึง ก็กินเวลาหลายนาที “โอเคๆ หายคิดถึงแล้วก็กลับไปเข้าบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกับพ่อใหม่ ไปเร็วๆ เข้า” เหมือนเจ้าสามตัวจะรู้ภาษา เพราะต่างรีบพากันเดินกลับทางเก่า ซึ่งมีฝางคนสวนกำลังเดินตามออกมาดูอยู่ “เต้ยช่วยคุณเกียร์เถอะ เดี๋ยวลุงพากลับเอง” นอกจากจะมีหน้าที่ทำสวนแล้ว ฝางในวัยห้าสิบเก้า ยังมีน้ำใจช่วยเต้ยดูแลเจ้าสามตัวนี้ด้วย และในทางตรงกันข้าม เต้ยเองก็คอยช่วยฝางทำสวนเหมือนกัน ในเวลาที่เต้ยจะต้องขึ้นมาดูแลจักรภัทรกับน้องชายในเรื่องเล็กๆ น้อย เช่นการรับกระเป๋าสะพายหนังแท้จากมือเขาไป จักรภัทรยิ้มให้เด็กหนุ่ม แล้วถอดรองเท้าผ้าใบออก จากนั้นก็ถือเดินไป มีเต้ยตามไปไม่หาง เพราะเต้ยกลายเป็นคนที่เขาอุปการะไปแล้วโดยปริยาย และสิ่งที่เต้ยตอบแทนเขาได้ นั่นก็คือคอยดูแลเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้เขาเท่านั้นเอง “มีของฝากในกระเป๋านะ ถุงสีขาว เขียนชื่อไว้แล้ว ลองหาดู” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มหู “ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยกมือไหว้ด้วยท่าทีนอบน้อม สมกับถูกแม่เขาฝึกปรือมาตั้งแต่เด็ก เขาพาร่างที่มีกางเกงยีนสีดำ กับเสื้อเชิ้ตลายทางสีน้ำเงินสลับขาวหุ้มอยู่ก้าวเดินไปตามห้องโถงใหญ่ของบ้านตกแต่งสไตล์ยุโรป บันไดสวยหรูมีทางขึ้นลงแยกส่วน กำลังถูกช่วงขายาวก้าวขึ้นอย่างเร่งรีบ เพราะอยากไปถึงห้องเร็วๆ เต้ยเดินหิ้วกระเป๋าตามไปไม่ห่าง “ขอบคุณมากนะเน” เขาพยักหน้าให้ผู้ช่วย หลังเอากระเป๋าใบโตมาส่งถึงห้อง ประมวนก็ลากใบใหญ่มาไม่ห่าง แล้วรีบออกจากห้องอย่างรู้งาน “ผมจะอยู่ห้องเดิมนะครับ ถ้าคุณเกียร์มีอะไรก็โทรตามได้ตลอดครับ” เนติหมายถึงห้องรับรองที่เขามักจะใช้เป็นประจำ เวลาต้องค้างบ้านเจ้านายตอนมีงานต่อเนื่อง หรือถูกสั่งให้มาช่วยทำอะไรพิเศษ และมันก็บ่อยครั้งมากๆ ยิ่งหลังกลับจากไปตระเวนต่างประเทศมาเป็นอาทิตย์ๆ แบบนี้ ต้องอยู่สรุปงาน กับคอยตอบคำถามเจ้านายก่อน ยิ่งคืนนี้มีงานเลี้ยง เขายิ่งไม่คิดจะไปไหน เพราะมีของสวยๆ งามๆ ในงานรอให้ชมเพียบ “โอเคๆ เนไปพักผ่อนก่อน แล้วค่อยเจอกันในงานนะ” “ครับ” แม้จะทำงานกับเจ้านายมาตั้งแต่จบปริญญาตรี แต่เนติก็รู้จักขอบเขตของตัวเอง ว่ามีถึงระดับไหน เลยรีบออกจากห้องไปเพื่อให้เจ้านายได้พักผ่อนอย่างที่อยากทำ “เดี๋ยวจะแอบงีบหน่อย ถ้าคุณแม่ถามหา ฝากโทรขึ้นมาปลุกทีนะเต้ย” เจ้านายหนุ่มเดินไปเปิดประตูห้องแต่งตัว แต่พอคิดขึ้นได้ก็หันไปหาเด็กหนุ่ม “ครับผม” เต้ยรีบออกจากห้องไป ส่วนเจ้านายนั้นใช้เวลาในห้องน้ำไม่ถึงสิบนาที ก็ออกมาโดยมีผ้าขนหนูพันท่อนล่างไว้ผืนเดียว เตียงคิงไซซ์ถูกเขาพาตัวขึ้นไปทิ้งตัวลงนอน แล้วหลับเพราะความเหนื่อยอ่อนแทบจะทันที ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะรีบลงไปในงาน แต่ก็ทนกับอาการเหนื่อยล้าไม่ไหว เลยต้องขอแอบงีบเอาแรงก่อน   เสียงไวโอลินหวานๆ ในงาน ช่วยปลุกให้คนนอนหลับลึกตื่นขึ้นทันที พอหันไปมองนาฬิกาหัวเตียง พบว่าหลับไปเกือบสองชั่วโมง ก็รีบดีดตัวขึ้น ตรงไปล้างเนื้อตัวในห้องน้ำ แล้วเข้าห้องแต่งตัวเลือกเสื้อผ้าในตู้ ซึ่งถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยฝีมือมณฑา ผู้เป็นแม่บ้านใหญ่ ลิ้นชักไม้สักเนื้อดีถูกดึงออก มีแว่นทรงต่างๆ วางเรียงรายอยู่ไม่ต่ำกว่าร้อยให้เขาได้เลือกสรร ทรงกลมที่เขาใส่อยู่ ถูกเปลี่ยนเป็นทรงเหลี่ยม ขอบขาว เข้ากับสุดสีขาวสะอาดตา ซึ่งเป็นธีมงานวันเกิด ครบปีที่หกสิบของแม่ เยลแต่งผมถูกป้ายบางๆ เสยไปมา จนผมเข้าที่ดีแล้ว ก็คว้ามือถือใส่กระเป๋ากางเกง กับรองเท้าสีขาวก็ถือไปด้วย “ทำไมไม่ปลุกล่ะ” พอออกมาจากห้อง ก็เห็นเต้ยกำลังเดินตรงมาพอดี เขาเลยเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย ไม่ได้บ่งบอกว่าโกรธเคืองแต่อย่างใด “ก็คุณท่านไม่ได้ถามหานี่ครับ เต้ยเลยไม่อยากกวนคุณเกียร์จะได้นอนนานๆ หน่อยครับ คุณเนรออยู่ข้างล่างนะครับ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD