หลังจากทานมื้อเย็นกับคนงานคนอื่นๆ เธอก็มาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของเจ้าของไร่ และจ้อนที่พามาก็ได้กลับไปแล้ว เธอยืนเคว้งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ ไม่กล้าแม้แต่จะนั่งลงโซฟาราคาแพงของเจ้าของบ้านด้วยกลัวว่าเขาเข้ามาจะด่าว่าตัวเอง เธอยืนนิ่งก้มมองเท้าตัวเองรอให้คนที่เรียกมาลงมา
“ไม่มีก้นรึไงถึงไม่นั่ง” เสียงห้าวดังขึ้นพร้อมกับเขาเดินลงส้นเท้าหนักๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น เขามองเห็นเจ้าหล่อนยืนกลางโถงห้องก็อดขำในลำคอเสียไม่ได้ สภาพของเธอตอนนี้ดูไม่ได้ มองยังไงก็ไร้เสน่ห์ ไม่รู้พ่อไปหลงเด็กนี่ตรงไหน
“คะ...ค่ะ” แล้วเธอก็รีบนั่งลงโซฟาตัวที่ใกล้ตัวเอง แต่แล้วก็ต้องดีดตัวลุกขึ้นเมื่อเสียงห้วนห้าวดังขึ้นอีกครั้ง
“ฉันบอกเหรอให้นั่งบนโซฟา นั่งพื้น!” เขาพูดพร้อมเดินมาทิ้งตัวลงนั่งโซฟาตัวยาวประจำของตัวเอง ส่วนณปภัชก็ย่อตัวนั่งลงพื้นตามที่เขาสั่ง ก้มมองหน้าตักของตัวเองที่สองมือสอดประสานกันไว้แน่น
“เปลี่ยนใจกลับกรุงเทพตอนนี้ได้นะ ฉันไม่ว่าหรอก จะให้ไอ้จ้อนขับรถไปส่ง” หฤทย์เอ่ยพร้อมมองสภาพของคนที่นั่งก้มหน้ากับพื้นพรมของบ้านตัวเอง
“ฉันไหวค่ะ”
“แน่ใจว่าไหว?”
“ไหวค่ะ” สาวน้อยยืนยันคำเดิม ไม่ไหวก็ต้องไหว เพราะถึงไม่ไหวยังไงเธอก็ไปจากที่นี่ไม่ได้ถ้าไม่ครบกำหนดสามเดือนตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณท่าน
“บอกมาว่าต้องการเท่าไหร่?” เมื่อสาวน้อยยืนยันคำเดิม เขาก็เริ่มยื่นข้อเสนอให้เธอเพื่อจะได้ขับไล่ไสส่งณปภัชออกไปให้พ้นจากชีวิตพ่อของตัวเอง
“เท่าไหร่อะไรคะ?” เธอถามเสียงซื่อ
“อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลยน่า กล้าจับผู้ชายแก่ทำผัวแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร ต้องการเท่าไหร่กับการไปให้พ้นจากพ่อฉัน” หฤทย์พยายามสะกดความเดือดดาลในอกของตัวเองพูดกับหญิงสาวที่นั่งกับพื้นตรงหน้าตัวเอง
“เท่าไหร่ฉันก็ไม่ไปค่ะ ฉันจะไปก็ต่อเมื่อคุณท่านไล่ฉันไปเท่านั้น”
“ปากดีนี่! อยากรู้นักว่าปากของเธอมันจะดีได้นานแค่ไหน” เขาลุกขึ้นเคลื่อนตัวมานั่งย่อตัวอยู่ตรงหน้าของหล่อนพร้อมกับใช้มือหยาบกร้านเชยคางของเธอให้แหงนเงยหน้าขึ้นหาตัวเอง
“คุณจะทำอะไรฉัน ฉันเป็นเมียพ่อคุณนะ” เธอปัดมือใหญ่ออกจากคางตัวเองแม้ว่าจะหวาดกลัวสายตาเหี้ยมโหดของชายตรงหน้าที่จดจ้องมองตัวเองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ผู้หญิงสกปรกแบบเธอ ฉันไม่เอาตัวเองไปเกลือกกลั้วด้วยหรอก”
แม้ว่าปากน้อยจิ้มลิ้มของเจ้าหล่อนจะน่าคลอเคลียดูดเม้มก็ตาม ให้ตายเถอะ เขามีความรู้สึกแบบนี้กับเด็กนี่ได้ยังไง เด็กนี่เป็นแม่เลี้ยงของเขา เขาท่องไว้ในใจตลอด แต่ยิ่งได้มองสำรวจหน้าของณปภัชในระยะประชิดแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้ว่าคราบดินที่เปื้อนตามแก้มของเธอมันไม่ได้บดบังความสวยของหล่อนเลย ‘ไม่แปลกที่พ่อจะหลง ‘อี’ เด็กนี่’ เขาพึมพำกับตัวเองแล้วขยับตัวขึ้นไปนั่งบนโซฟาเหมือนเดิม ด้วยกลัวว่าตัวเองจะบดจูบปากจิ้มลิ้มของหล่อน
“ไอ้จ้อนบอกรึยังว่าให้เธอมาทำงานที่บ้านฉันด้วย ทำความสะอาด ซักเสื้อผ้าให้ฉัน”
“บอกแล้วค่ะ”
“ดี! ทำงานที่บ้านเสร็จแล้วค่อยไปทำงานในไร่ และเพิ่มอีกอย่างคือทำกับข้าวของฉันด้วย เช้า เที่ยง เย็น เธอต้องเป็นคนทำ”
“แต่พี่จ้อนบอกว่าคุณโหดกินที่โรงอาหารกับคนงาน”
“นั่นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เธอต้องรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ก็ไปซะ! ไปให้พ้นจากไร่ฉัน”
“ฉันทำได้ค่ะ...ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้ คุณคิดผิดแล้วว่าฉันจะหนีไปเพราะทำงานพวกนี้” ท้ายประโยคเธอเอ่ยต่อในใจ
“ดี! กูจะรอดู ให้มันรู้ไปสิว่าเด็กอย่างมึงจะทนอยู่ที่นี่ได้” น้ำคำหยาบถ่อยดังลอดไรฟันออกมาพร้อมกับเขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ไปซะ! พรุ่งนี้มาแต่เช้าล่ะ” แล้วเขาก็เดินจากไปทันที
“ฉันต้องทนให้ได้ รับปากคุณท่านไว้แล้ว แต่ให้ตายเถอะ ผู้ชายอะไรหยาบคายที่สุด ต่ำ! สถุล!” เธอพึมพำกับตัวเอง เมื่อเขาเดินจากไปแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นกลับไปห้องพักของตัวเอง เพราะตอนนี้เริ่มฟ้ามืดแล้ว เธอต้องนอนแต่หัวค่ำเพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้ามาทำงานบ้าน ทำมื้อเช้าไว้ให้คนต่ำทราม