“แกนั่งได้ไหม?”
“สบายมาก” ถึงแม้บ้านจะรวยไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนแต่ฟ้าใหม่ก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาหรือลำบากอะไรกลับรู้สึกสนุกดีที่ชีวิตได้เจออะไรแปลกใหม่บ้าง
เมื่อเห็นพระพายกับฟ้าใหม่นั่งรถเรียบร้อยเสก็เคลื่อนรถพ่วงข้างคันเก่าขับไปตามถนนเล็ก ๆ ที่ทอดยาวเกือบกิโลกว่าจะถึงบ้านเรือนของชาวบ้านทำให้ตอนนี้เห็นเพียงแสงไฟจากบ้านเรือนของชาวบ้านในระยะไกล ๆ เท่านั้น
“อ้ายพาไปไสคือให้มึงมารับ?” (พี่พาไปไหนทำไมให้มึงมารับ)
“ไปสูบน้ำใส่นาช่วยอ้ายเพชร” (ไปสูบน้ำใส่นาช่วยพี่เพชร) ฟ้าใหม่นั่งฟังพระพายกับเสคุยกันเงียบ ๆ เพราะทั้งสองคนพูดภาษาถิ่นซึ่งเธอพูดไม่เป็นแต่ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างก็เลยไม่รู้จะสนทนาอะไรกับทั้งสองคนดี
รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างยังคงแล่นไปตามถนนเล็ก ๆ ที่มีไฟรายทางตั้งอยู่ห่าง ๆ กันแม้จะไม่ได้มืดสนิทแต่ดูวังเวงชอบกลเพราะมีรถเพียงคันเดียววิ่งบนท้องถนน
ฟ้าใหม่นั่งอยู่ด้านหลังสุดข้างหน้าเธอจะเป็นพระพายนั่งอยู่ข้างเสซึ่งทำหน้าที่ขับรถอยู่ ขณะที่ฟ้าใหม่เบี่ยงตามองเสที่กำลังพูดน้ำไหลไฟดับอยู่นั้นจู่ ๆ ดวงตากลมโตก็สะดุดเห็นผู้ชายหัวโลนคนหนึ่งสะท้อนเงาในกระจกรถกำลังวิ่งสวนทางไปเหมือนว่าเขากำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่ริมถนนทั้งที่ช่วงเวลานี้ไม่ควรมีใครออกมาวิ่งออกกำลังกายเลยก็ตาม
ดวงตากลมโตยังคงจ้องมองผู้ชายคนนั้นวิ่งไกลออกไปเรื่อย ๆ ด้วยความที่ไม่คิดอะไรฟ้าใหม่จึงละสายตาจากกระจกแล้วหันหน้ากลับไปมองผู้ชายคนนั้นที่อยู่ทางด้านหลัง เมื่อฟ้าใหม่หันกลับไปมองจู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นก็หยุดวิ่งแล้วค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองก่อนจะส่งยิ้มให้
มันเป็นรอยยิ้มแสนธรรมดาแต่ฟ้าใหม่กลับรู้สึกเย็นยะเยือกเสียวสันหลังวาบ…
ทางด้านพระพายเมื่อเห็นฟ้าใหม่กำลังจ้องมองอะไรอยู่ทางด้านหลังอยู่จึงมองข้ามหัวฟ้าใหม่ไปเมื่อไม่เห็นใครจึงรีบเรียกเพื่อน
“ฟ้า!”
“ฮะ?” พอได้ยินเสียงของพระพายฟ้าใหม่ก็รีบหันกลับมาด้านหน้าปรากฏว่าถึงหมู่บ้านของพระพายแล้วทำให้ฟ้าใหม่ลืมผู้ชายคนเมื่อกี้ไปสนิท
“ถึงแล้วเหรอ?”
“ใช่ ถึงหมู่บ้านแล้วแต่ยังไม่ถึงบ้านฉันหรอกบ้านฉันอยู่หลังสุดท้ายน่ะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักหน้ารับดวงตากลมโตมองสำรวจบ้านเรือนของชาวบ้านที่ปลูกติด ๆ กันซึ่งก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนบรรยากาศภายในหมู่บ้านก็ดูเงียบสงัดเพราะแต่ละหลังปิดประตูกันเงียบเชียบ
ที่นี่พอพลบค่ำชาวบ้านก็เข้าบ้านใครบ้านมัน เรียกได้ว่าน้ำค้างยังไม่ทันชื้นต้นหญ้าแต่ละบ้านก็ปิดไฟนอนกันหมดแล้ว นั่นเพราะอาชีพหลักของชาวบ้านคือ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน อย่างชาวนา ก็ต้องเตรียมแรงไว้สำหรับทำไร่นา
เสยังคงขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมุ่งตรงไปยังบ้านพ่อครูผันตลอดทางที่ขับรถผ่านสุนัขที่ขึ้นชื่อว่าหูตาดีกว่ามนุษย์ก็จะเห่าหอนกันเสียงดังระงมตลอดเส้นทางทำเอาไอ้เสนั่งไม่ติดเบาะจึงรีบบิดคันเร่งจนสุดแต่ด้วยรถที่มันเก่าถึงจะบิดสุดแต่ความเร็วก็เท่าเดิม…
อีกฟากหนึ่งบนชั้นสองของบ้านเรือนไทยมีร่างสูงยืนกอดอกดวงตาคมกริบมองออกไปหน้าบ้านที่ปลูกต้นหนาดเป็นรั้วเพื่อป้องกันวิญญาณร้ายไม่ให้เข้ามาภายในบริเวณบ้านด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เมื่อเห็นว่าพระพายยังไม่ถึงพายุก็เริ่มใจคอไม่ดีทั้งที่วันนี้ตรวจดูดวงชะตาของพระพายแล้วว่าจะถึงบ้านปลอดภัยดี ด้วยความเป็นห่วงจึงจะเดินเข้าไปภายในห้องพระที่เต็มไปด้วยเครื่องสักการะและเครื่องรางของขลังเพื่อทำการนั่งสมาธิแต่เป็นจังหวะที่ไฟสีส้มของรถมอเตอร์ไซค์สาดเข้ามาในบ้านพอดีเท้าสองข้างจึงหยุดชะงักใบหน้าหล่อค่อย ๆ หันกลับไปมองหน้าบ้านอีกครั้ง
พายุมองรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างขับผ่านต้นหนาดเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านทำให้เห็นใบหน้าของสามคนที่นั่งอยู่บนรถชัดมากขึ้น ตาคมกวาดมองกระทั่งหยุดที่เจ้าของร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มไม่คุ้นตานั่งอยู่บนรถข้างพระพายคิ้วสองข้างก็ขมวดขึ้นเป็นปม…