You're my baby!! Chapter 2.1

2805 Words
โว้ย ฆ่าผมให้ตายเสียเลยดีไหม จะให้กูเนี่ยนะ ไปเข้าค่ายกับไอ้เตี้ยนั่น มีอะไรที่แก้ปัญหาได้ดีกว่านี้ไหมเนี่ย คิดได้แค่นี้?? สัตว์เอ้ย ดีเหมือนกันทีนี้ล่ะมึง กูจะเอาให้ตายเลย ทำหน้ากวนตีนกูดีนัก ผมไม่ชอบเลยนะเวลาด่าใครแล้วมันนิ่งๆ ทำหน้ากวนตีนๆอย่างเดียว หรือไม่ก็เบะปากใส่เนี่ย กูไม่เคยเจอ มึงตายแน่ไอ้หน้าจืด แม่งเอ้ย ทำให้กูเสียท่า มึงกล้ามาลูบคมกูนะ คอยดูมึงจะหาว่าไอ้เดี๋ยวไม่เตือน คนอะไรหน้ามึนกวนส้นทีนเป็นอย่างยิ่ง วันศุกร์นี่ล่ะ กูจะประเคนส้นทีนกูใส่พานถวายมึง             “คิดอะไรอยู่ หยุดเลยนะมึง นี่สายตาคิดจะแก้แค้นเพื่อนอยู่ใช่ไหม ไอ้เดี๋ยว” เอ่อ แม่ผมครับ กรี๊ดขึ้นในรถ แหมนะ อ่านใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกด้วยเก่งจังแม่ อิอิ             “หยังแม่ บ่ได้คึดหยังเด้ล่ะ”             “อย่ามา กูรู้จักมึงดี มึงเห็นหรือยัง ว่าคุณปลัดเขาหล่อปานใด เอ้ย เขาใจดีแค่ไหน” “นั่น เดี๋ยวสิบอกพ่อเด้แม่ หยังอ่ะเห็นคนหล่อหน่อยตาเยิ้มเนาะ” “ป๊าบ” “โอ๊ย แม่ ตบหัวเดี๋ยวเฮ็ดหยังอ่ะ”             “ปากหมานะมึง ลองไปฟ้องพ่อมึงสิ มึงนั่นล่ะจะตาย ก็กูพูดเรื่องจริง คนอะไรหล่อจัง กล้ามใหญ่ อื้อฮื้อ หล่อจัง อื้อฮื้อมาดแมน” อ่านะไปได้เป็นเพลงแม่กู             “ลูกอุ่นก็น่ารัก แลดูเป็นผู้ดีมีชาติมีตระกูล ไม่เหมือนมึงเลยสักอย่าง นี่มึงยังมีหน้าไปทำร้ายเขาอีกนะ เลวได้ใจ เชี่ย” อ้าวๆ ไหงมาด่าลูกตัวเองซะงั้นแม่กู             “หยังแม่ ด่าลูกเจ้าของเด้นี่ กะคนมันบ่ถืกตา ไปเบิ่งมันเบ้ปากใส่เดี๋ยวนำเด้”             “ป๊าบ” “โอ๊ย แม่อ่ะ ตบหัวเดี๋ยวอีกแล้ว เฮียนโง่อย่ามาว่าเด้อ”             “หุบปาก อย่ามาขึ้นเสียง สอนไม่รู้จักจำ มึงเห็นไหม ว่าเขาไม่เอาเรื่องมึงก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว มีหน้าไปว่าเขาอีก กูไม่เห็นว่าลูกอุ่นจะมีท่าทีกริยามารยาทเหมือนมึงเลยนะ กรี๊ด ทำไมนะ เลี้ยงลูกไม่ได้อย่างเขา ท่าทางเขาดูดี มาก มีชาติมีตระกูล หน้าตาผิวพรรณขับเปล่งประกาย ผู้ดีจริงๆ”             “เอ่อแม่ ได้ข่าวมีลูกคนเดียวบ่แม่นติ๊ ไปฮับมันเป็นลูกตั้งแต่มื้อได๋” ผมไม่พอใจครับ อะไรวะ จะไปชอบมันมากมายขนาดนั้น แต่กูเกลียดมัน เกลียดโว้ย             “หุบปาก ขับรถดีๆ กูกำลังเคลิ้ม” เอ่อนะ เออ เดี๋ยวจะไปฟ้องพ่อคอยดูสิว่าจะเปรี้ยวอยู่ไหมคุณนายแต๋ว             “เพิ่นว่าจั่งได๋” พ่อผมครับ โลกนี้มันประหลาดไปจริงๆ พ่อผมเป็นคนเพชรบุรีนะ แต่พูดภาษาอีสาน ที่ฟังแล้วยังไงก็ไม่อีสาน ส่วนแม่ผมคนที่นี่ เกิดที่นี่ โตที่นี่ แต่พูดภาษากลางที่ฟังยังไงก็ไม่กลาง เข้าใจผมป่ะเนี่ย             “ท่านปลัดดีมากเลยพี่ ไม่เอาเรื่อง แต่ยังจะให้ไอ้เดี๋ยวไปเข้าค่ายกับกับลูกอุ่นอีก ลูกอุ่นนะพี่ อย่างนั้นอย่างนี้” กูขี้เกียจบรรยาย แม่งเอ้ย ยิ่งยอมันเท่าไหร่ กูยิ่งเกลียดมันมากเท่านั้น มึงคอยดูนะ มึง             “เดี๋ยวขา ญ่าเอาส้มตำไทยหวานๆครกนึงจ้า” คือเพิงร้านผมปิดสามทุ่มครับ ตอนนี้สองทุ่มครึ่ง นี่ก็เสียงอีชาติห้องเดียวกะเพ็ยกิ๊กกู อีนี่เป็นกะเทยที่ไม่ดูสารรูปตัวเองเอาเสียเลย หนอย มีหน้ากระแดะเรียกตัวเองว่าญาญ่า ถุยหน้าอย่างมึงเนี่ยน่าจะเป็นหญ้าใกล้ตาย หรือไม่ก็หญ้าเหี่ยวให้ควายแก่ๆกินโน่น สัตว์             “บ่ขายเว้ย ร้านปิดแล้ว” ผมกระแทกสากใส่มันครับ มันทำท่าดัดจริตสะดีดสะดิ้ง             “ว้ายเดี๋ยวอ่ะ ทำไมตะคอกใส่ญ่าแบบนั้นอ่ะ เค้าตกใจนะตะเอง”             “เชี่ย ตะเองพ่อมึงติ๊ จั่งมึงสิแตกตำไทยติ๊ บ่แดกปูปลาแดกใส่ตีนกูบ่” นี่แน่ขอระบายหน่อยเถอะ แม่งกวนตีน โมโหไอ้เชี่ยนั่นล่ะครับ เอามาลงกับอีกะเทยนี่เสียเลย             “บักเดี๋ยว” เอ่อ คุณนายแม่ครับ ตะโกนมาแต่ไกล             “อิอิ เอาตำไทย แบบ ซี๊ด แซ่บๆนะคะเดี๋ยวขา” “อ๊วกก สัด แลบลิ้นเป็นตาย่านแท้ ได้แซ่บคั่กๆ” ดูมันทำท่าทางนะครับ แลบลิ้นออกมาออกมาเลียปาก อ๊วก ทุเรศลูกตาที่สุด หน้าตามันไม่ได้มีคุณค่าอะไรที่จะเป็นกะเทยนะครับถึก มากๆ หน้าแข้งนี่ใหญ่กว่าผมอีกมั้งนั่นน่ะ             “เดี๋ยวอ่ะ ทำไมวันนี้อารมณ์ไม่ดีใส่ญ่าตลอดเลยอ่ะ ไม่รู้เหรอว่าญ่าคิด ถึงมั่กๆ”             “สัด อย่าสิดัดจริตหลาย ไปตายไสกะไป สิแดกบ่ทำไทยใส่ตีนมึงน่ะ” ผมตวาดใส่มันครับ เสียงดังพอประมาณ เพราะเดี๋ยวแม่ผมได้ยินซวยกูอีก             “อุ๊ย ดิบเถื่อน ชอบ สเป็ก” “เคร้งๆๆ” ทนไม่ไหวครับ ตีนเตะจานที่เก็บมายังไม่ล้างทันที             “ว้ายย” “เป็นหยังอีก” พ่อผมครับเดินมาแล้ว             “ตีนไปถืกพ่อ เก็บให้แน่ะ สิตำไทยใส่ตีนให้อีตุ๊ดนี่แดก”             “เป็นหยังไปว่าลูกค้าแนวนั่น นิสัยเสียนะบักเดี๋ยว”             “ฮ่วย พ่อมาตำให้มันติ๊ เดี๋ยวสิไปเก็บของล้างจาน” ผมวางสากทันทีครับ เดินหนีไปเลย พ่อผมดุไม่เท่าแม่นะ แม่ผมน่ะสุดๆแล้วล่ะ ผมเดินหนีไปล้างจานล่ะครับ ไม่อยากจะมีเรื่องกับเพศที่อ่อนแอกว่า ทำไมวันนี้กูหงุดหงิดจังวะ แม่งเพราะไอ้หน้าจืดนั่นคนเดียวแท้ๆ จิ๊ อารมณ์เสียเว้ย ไปแดกเหล้าดีกว่า             “มึงสิไปไส ล้างจานบ่ทันแล้วเด้” คุณพ่อครับ ล้างจานบ่ทันแล้วคือล้างยังไม่เสร็จครับ อ่ะแปลให้ คุณนายแต๋วเธอมัวแต่เม้าส์กับลูกค้าอยู่ ผมหยุดกึกลง             “เดี๋ยวสิมาล้าง ไปเอาการบ้านเฮือนบักเคน”             “ไปเอาการบ้านหรือสิไปแดกเหล้า อย่าเด้อมึง ล้างให้แล้วจั่งไป” โว้ยนะ อะไรวะ หงุดหงิดๆ อยากจะเตะคนจริงๆ เพราะไอ้เตี้ยนั่นทีเดียว เพราะมัน ผมถึงหงุดหงิดได้มากขนาดนี้ โว้ย กูเซ็ง คอยดูๆๆ             “ทำไร” ผมกดโทรศัพท์ไปหาแฟนคนปัจจุบันครับ เพ็ญ ไปหาเธอ ให้เธอรีดความเครียดออกดีกว่า             “อ้าวเดี๋ยว กำลังดูแคตตาล็อกอ่ะ พอดีเลย เค้าอยากได้อายไลน์เนอร์ที่อั้มโฆษณาอ่ะ เดี๋ยวซื้อให้เค้าหน่อยสิจ๊ะ เดี๋ยวขา” เอ่อ เห็นกูเป็นเสี่ยหรือไงวะเนี่ย แม่งเอ้ย กูล่ะโคตรเกลียดเลยนะพวกเห็นแก่เงินเนี่ย             “บ่มีเงินซื้อเองติ๊ บ่ซื้อให้โว้ย”  นี่คือภาษา ที่พูดกับคนที่ผมเรียกว่าแฟน คูลพอมะ             “โหยพี่เดี๋ยวอ่ะ แค่นี้ก็ไม่ได้ วันนั้นไปกินสุกี้ เค้าก็ออกตังค์นะ เนี่ยใกล้วันเกิดเค้าแล้วอ่ะ ให้เป็นของขวัญวันเกิดไม่ได้ไง”             “ไผอ้าย โตเกิดก่อนปีหนึ่งบ่แม่นติ๊ หน้ากูกะอ่อนกั่วเด้อ มีทวงๆหรือว่า จะเลิก” ผมขู่ครับ รักมันไหม ไม่นะ ไม่รู้ดิ ผมมันพวกใครดีก็อยู่ด้วยได้ เพ็ญไม่ได้ดี แต่มันแรดโดนใจแค่นั้นเอง อีกอย่าง เรื่องอย่างว่าก็ไม่มีใครสู้ได้ ผมไม่ได้เลวนะ อ๊ะๆ อย่าๆ อย่ามาประนามผม ก็ผมเป็นคนแบบนี้ใครจะทำไมวะ             “อ่า ไม่เลิกนะเดี๋ยว โอเคๆ เดี๋ยวเค้าซื้อเองก็ได้ เค้าดูแคตตาล็อกต่อนะ” อ้าว จะวางสายใส่กูซะงั้น             “อย่าฟ้าว มื้อแลงสิไปหาเด้อ อยาก” ตรงดีไหมครับ ไม่อ้อมค้อม             “ไมได้อ่ะ เค้าเป็นเมนส์”             “จิ๊ หงุดหงิดโว้ย เออๆ ไปเอาอีดาวกะได้วะ” คือว่าตัวเลือกมันเยอะอ่ะนะครับ คนมันหล่อเร้าใจก็งี้ล่ะ เรื่องธรรมดา             “อย่านะเดี๋ยว เออๆ จะมากี่โมงล่ะ” นั่นแน่ น่าสงสัยกูจำได้ว่าอาทิตย์ที่แล้วนี่ มึงเพิ่งจะเป็นเมนส์แล้วนี่อะไร มันต้องมีอะไรแน่ๆ ที่จริงผมรู้ล่ะครับว่าเพ็ญไม่ได้มีแต่ผม เห็นมันคั่วอยู่กับเด็กเทคโนฯอยู่ แต่ผมก็ไมได้อะไร เพราะไม่ได้คิด ว่าจะเอามันทำแม่ของลูกของผมแน่นอน ผมไม่ได้เลวนะในเมื่อผู้หญิงมันง่ายเอง ไม่รู้สิ ผมไม่ได้ดูถูกผู้หญิงนะเว้ยเฮ้ยอย่าเข้าใจผิด เขามาเสนอเองนะ ผมอยู่ของผมดีๆ ตอนมันอยากได้ผมแรกๆนี่มาที่ร้านผมทุกเย็น เช้าถึงเย็นถึง และตอนมีอะไรกันเธอก็เป็นคนทำเองทุกอย่าง ผมไม่ได้เลวเผาผู้หญิงนะ หรือว่าไม่อยากรู้ จะได้ไม่ต้องเล่า ปวดปากเหมือนกันนะเว้ย             “บ่ไปล่ะ กูเปลี่ยนใจ ว่าวเองกะได้วะ” กดสายทิ้งทันที เธอโทรกลับมาหลายครั้งครับแต่ไม่รับสาย เบื่อจริงๆว่ะ โอ๊ย ทำไมมันหงุดหงิดแบบนี้วะเนี่ย จะนอนหลับไหมเนี่ยกู             “ยกถาดมาเร็วๆหน่อยสิลูก พระมาแล้ว” ชีวิตประจำวันที่แสนจะน่าเบื่อ จะอะไรกับผมหนักหนาไม่รู้ เนี่ย เห็นมะ ผมต้องแหกขี้ตาตื่นมาแต่เช้า แต่ก็นะเอาน่าไอ้เดี๋ยวอย่าบ่นมากทำบุญๆ             “หลวงปู่นิมนต์ครับ มื้อนี้บักเคนบ่อมาเบาะ” หลวงปู่ในวัดล่ะครับผม สนิทกัน วิธีการนิมนต์ก็พยักหน้าเรียก เหมือนญาติสนิทประมาณนั้นล่ะครับ ผมบอกแล้วว่าผมน่ะคอนเน็กชั่นเยอะ             “มันฟ้าวสิไปโรงเรียน มึงบ่ไปโรงเรียนติ๊บักเดี๋ยว” หลวงปู่ของผมพูดเนิบๆครับ ตามแบบฉบับพระดีมองต่ำไม่มองสูง เท้านี่ดำปี๋เพราะไม่ใส่รองเท้า เดิน แม่ผมศัทรามากครับรูปนี้             “ฟ้าวล่ะปู่ แม่เพิ่นพาเฮ็ด”             “เฮ็ดดีคือเขานำ กะดีเด้อมึงน่ะ อย่าเฮ็ดแต่ซั่วหลาย นรกเขาสิเปิด” แปลว่าทำดีบ้างก็ดี อย่าทำแต่ชั่วเพราะนรกเขายังหน่าย อืม หลวงปู่ให้พรแต่เช้า จ้ากก             “หยังปู่ มาแช่งผมแต่เซ้าแท้น้อ ฮ่วย สิเอาบ่ของใส่บาตรนี่แม่ะ” ป๊าด หลวงปู่กล้ามาก กล้าให้พรผมแบบนี้ได้ไงวะเนี่ย             “ไอ้เดี๋ยว หยุดเลย วันนี้ทำอ่อมกบนะคะหลวงปู่ มีทอดเขียด ตอนแรกว่าจะหมกฮวก แต่ทำไม่ทันค่า” แม่ผมกันไว้ครับ รายการอาหารไม่ได้พิศดารแต่อย่างใด ตอนผมมาอยู่ใหม่ๆนี่ไม่แตะเลยะ เอาไปเอามาผมเองนั่นล่ะที่เป็นคนไปสรรหามาให้แม่ผมทำให้กิน ผัดเผ็ดกบนี่นะ สุดยอด             “อ้าว ไอ้เดี๋ยว จกข้าวเหนียวใส่บาตรสิลูก เร็วๆ เดี๋ยวแม่จะไปไม่ทันตลาด”             “ใส่บาตรน่ะ อย่าฟ้าวหลายโยมแต๋ว มาอาตมาจะให้พร” อ่านะ หลวงปู่ผมเป็นไงล่ะครับมีเหน็บแม่ผมด้วย ฮ่าๆ เป็นไงล่ะด่าลูกใส่หน้าพระดีนัก ว่าแล้วหลวงปู่ก็ให้พรครับ แม่ผมนั่งลงส่วนผมยืนพนมมืออยู่             “ไปอาบน้ำไปโรงเรียนก่อนเด้อแม่” ผมยกถาดเข้ามาครับสะพายกะติ๊บข้าว อย่างคล่องแคล่ว ใครจะเชื่อ ว่าคนหน้าตาเหมือน อนาวินบวกมาริโอ้อย่างผม จะมาสะพายกะติ๊บข้าว แต่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทำได้เหมือนผมป่ะล่ะ ฮ่าๆ             “ฮ่วยเป็นหยังน้อพ่อปู่” คุณปู่คือรถเครื่องประจำตำแหน่งของผมล่ะครับ ยามาฮ่า เอสอาร์ 400 รุ่นแบบว่าคลาสสิกมากๆ ผมรักคุณปู่ของผมมากนะขอบอก ไปไหนไปกัน ผมเคยพาคุณปู่ผมไปเที่ยวไกลถึงหนองคายมาแล้วนะเว้ย แต่วันนี้เป็นไรวะเนี่ย ปกติคุณปู่ผมจะไม่ดื้อกับหลานเลยนะ             “ฮ่วย สิไปทันคาบแรกบ่น้อ เป็นหยังปู่” ผมก้มๆเงยๆอยู่ครับ อ้าวเชี่ย น้ำมันหมด กูว่าแล้ว             “แม่ขอเงินแน่ะปู่น้ำมันเหมิด” เบิกธนาคารครับ ผมมีธนาคารกระแสรายวันกับออมทรัพย์ กระแสรายวันก็คุณนายแต๋ว ส่วนออมทรัพย์ก็คุณพ่ออุดม กระแสรายวันเบิกง่ายหน่อย เพราะให้ครั้งละไม่เยอะ แต่ออมทรัพย์พ่อให้เป็นเดือนครับ เป็นเงินฝากจริงๆจังๆ จากการที่ผมได้เงินเบี้ยเลี้ยงจากการไปแข่งบอลหนึ่ง ไปตอบปัญหาหนึ่ง แล้วก็ที่ไปขายส้มตำอีกหนึ่ง ฮ่าๆๆ ผมเก็บได้เยอะแล้วคร้าบ กะว่าจะเปลี่ยนแม็กใหม่ให้คุณปู่ ของเก่ามันสนิมเริ่มจับขัดไม่ออก กูจะเอาแม็กสีแดงดำเล็งไว้แล้วล่ะ             “แดกแต่น้ำมันนะ ไอ้คุณปู่ของมึงเนี่ย กินน้ำเปล่าได้ไหม น้ำมันคือเงินนะ หายากนะรู้ไหม” เรื่องปกติครับ ถ้าไม่เทศน์นี่สิ ผิดปกติผมก็ทำหน้าเศร้าๆอ้อนวอนอยู่ล่ะ แม่ผมบ่นเก่งด่าเก่ง แต่ว่าใจดีครับ ยังไงก็ให้ล่ะ ผมเลยเข้าใจไง อิอิ สรุปก็ต้องขับรถกระบะแม่ไปซื้อน้ำมันที่เขาใส่ขวดขายหน้าซอยล่ะครับ กว่าจะไปกลับ ทำนั่นทำนี่ตอนนี้ก็อีกห้านาทีแปดโมงเรื่องปกติครับ วันไหนผมไปก่อนแปดโมงนี่สิแปลก             “บักเดี๋ยวจารย์พรเอิ้น” จิ๊ แม่งเรื่องไปเข้าค่ายแน่ๆเลย เซ็งโคตรๆ             “เออๆ” ผมบอกสัดเคนไปล่ะครับ หงุดหงิดแต่เช้าเลยวะ ตอนแรก ว่าจะไปเตะบอลคาบอาจารย์วัณวิภาล่ะครับ แต่ไปโผล่หน้าให้เห็นหน่อยจะได้เกรดสี่อีกตัว ฟิสิกส์เบสิกๆไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ผมน่ะมันขวัญใจอาจารย์ โดยเฉพาะอาจารย์วัณวิภา เพราะแกบ้าผู้ชาย ทั้งที่หน้าตาไม่เอื้อ ใครหล่อๆหน่อย โดยเฉพาะผม ไม่จำเป็นต้องทำการบ้าน ไม่จำเป็นต้องส่งงาน แกแจกเกรดกระหน่ำครับ ไม่ได้เผาอาจารย์นะ แต่มันเรื่องจริง ที่ว่าแกไม่สวยน่ะก็ดั้งก็ไม่มี จมูกบ้าอะไร มีแต่ปลายจมูกเหมือนลูกชมพู่อยู่ตรงปลายให้หายใจ ผิวก็กระดำกระด่าง หนังหน้าขรุขระ ผมก็ดูกลายๆเหมือนฝอยขัดหม้อที่ร้านผม เตี้ยล่ำ น่องโป่งเหมือนแกไปแอบเตะฟุตบอลหลังสอนประมาณนั้นครับ คิดภาพออกไหม ถ้ายังก็ต่อให้ ตาแกจะหยีๆคิ้วน้อยมากๆทั้งที่เขียนแล้วนะ แต่เหมือนแกเขียนไม่เป็น เพราะผมคิดว่ามันไม่เท่ากันสักวัน แต่งหน้าก็อยากจะแต่งแต่ว่าทาบ้าอะไรมาไม่รู้ มันไม่เหมาะกับแกเลย ตัวแกดำแต่แกเลือกสีตัดกัน แบบว่าเดินมาแต่ไกลเห็นแต่สีแดงบนปาก ประมาณนั้นครับ เอาล่ะๆ เผาแกมากไม่ดี อย่างน้อยผมก็ได้เกรดสี่วิชาแกมาทุกเทอมครับ ไม่ใช่เพราะผมหล่อหรอกนะเว้ย แต่เพราะผมเก่งเองเว้ยไม่เกี่ยวเลย             “อ้าวไปไหนนายเดี๋ยว” พอถึงคาบแก ผมก็นั่งอยู่ก่อนล่ะครับพอแกยิ้มให้ผม ผมก็ลุกทันที             “ไปหาจารย์พร” ผมบอกแกไปแล้วเดินต่อทันที             “จะกลับมาไหมเดี๋ยว” โอ๊ยนะ ทำเสียงเหมือนเมียจะส่งผัวไปออกรบประมาณนั้นครับ เสียงเพื่อนๆอื้อฮือขึ้นมาทันที ผมหยุดแล้วหันไปมองหน้าแก             “บ่กลับครับ ผมสิไปเตะบอล บักไม้ไปถ่ากูที่สนามเด้อ” ผมไม่สนใจแกครับหันไปบอกสัดไม้หน้าตาเฉย             “อ้าว อย่าลืมไปหาครูที่ห้องนะ มีงานให้ทำ”             “สั่งไว้นี่ล่ะจารย์ ผมยุ่ง บ่มีเวลาหรอก” ผมเดินออกไปเลยครับเสียงเพื่อนๆในห้องหัวเราะดังขึ้น แล้วก็เสียงแกแว้ดเสียงขึ้น จะว่าไปแล้วถ้าผมไม่ขี้โอ่เกินไป ผมว่าทั้งชั้น ม.๕นี่นะผมหล่อสุดแล้วครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น จริงนะเว้ย ไม่เชื่อไปถามพวกเด็ก ม.ต้น ที่มันแรดๆได้เลยว่าใครหล่อสุด ผมน่ะติดอันดับของโรงเรียนนะเว้ยเฮ้ย ว่าไป นั่นๆ อย่าๆ รู้นะว่าแอบด่าอะไรผม จะว่าผมเลวติดอันดับน่ะเหรอ อันนั้นอันดับไม่เคยเปลี่ยนครับ หนึ่งเสมอมา หึหึ           
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD