เป็นไปตามแผน

1165 Words
วันที่ 4 ของการเดินทางกลับโรงแรมด้วยท่าทางที่เหมือนคนหมดแรง อรพรรณีไม่กล้าสบตาเขา แม้แต่เดินเฉียดเข้าไปใกล้ก็ยังไม่กล้า เธอนั่งเงียบมาตลอดทางเพราะรู้สึกผิดที่เขารู้ว่าเธอมาจีบเขาเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างจากตัวเขา “นี่...เธอจะไปไหน..ไม่เข้าโรงแรมหรือไง..?” เขาเห็นว่าเธอเดินอ้อมไปอีกทางจึงถามขึ้น เธอหันมาหาเขาเพราะนึกขึ้นได้ว่าเคยโกหกเขาไว้ว่าพักโรงแรมนี้ แต่ก็ตัดสินใจบอกความจริงออกไป “มาถึงขั้นนี้แล้วหนูไม่จำเป็นต้องโกหกคุณหมอแล้วละคะ...” เขามองหน้าเธอแปลกๆ “...” “หนูไม่ได้พักโรงแรมนี้หรอกค่ะ หนูพักโรงแรมที่อยู่หลังโรงแรมนี้ต่างหาก” เขามองหน้าเธอด้วยความอึ้งๆแล้วก็ทำสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา “นี่เธอหลอกฉันหรอ เธอนี่มัน...?” “อย่าว่าหนูเลยนะคะ แค่คุณบ่นหนูเป็นชุดเมื่อคืนนี้หนูก็ไม่กล้าสู้หน้าคุณแล้ว หนูบอกแล้วไงคะว่าหนูขอโทษ ต่อไปนี้หนูจะไม่มายุ่งกับคุณอีก หนูขอโทษจริงๆค่ะ...” เธอยกมือไหว้ขอโทษเขา เขาเธอด้วยแววตาอ่อนลงที่เห็นเธอทำหน้าสำนึกผิด เขาตัดสินใจเกินหนหลังหนีเธอเข้าโรงแรมไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับเธออีก เขาเดินขึ้นห้องพักมาก็เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องตัวเอง ตอนที่เห็นแววตาที่รู้สึกผิดของเธอเมื่อกี้ มันทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนใจขึ้นมาดื้อๆ ยิ่งได้ยินประโยคที่เธอพูดว่าจะไม่มายุ่งกับเขาอีกแล้วเขายิ่งรู้สึกใจหายอย่างไงบอกไม่ถูก เขานั่งลงที่โวฟาและพยายามสลัดเรื่องของเธอออกไปจากสมอง แล้วก็เดินลงไปข้างล่างเพื่อลดอาการฟุ้งซ่านของตัวเอง เพราะไม่อยากคิดเรื่องเธอมากนัก เขาออกไปเดินเล่นนอกโรงแรมๆเดินไปเรื่อยๆตั้งใจไปซื้อของฝากให้แม่ของเขา แต่พอเดินไปสักพักก็ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย “ช่วยด้วยค่ะ คนกระชากเป๋าค่ะ ช่วยด้วยยย” หมอศิรวิทย์เห็นโจรวิ่งสวนมาจึงยื่นขาออกไปสกัดจนมันล้มแล้วกระเป๋าใบนั่นก็หล่นที่พื้น หมอศิรวิทย์กำลังเข้าไปหยิบกระเป๋า แต่มันมาผลักเขาจนกระเด็นล้มไปทับแขนตัวเองจนรู้สึกเจ็บ มันจึงวิ่งเข้าไปดึงกระเป๋าขึ้นมาอีกครั้งแล้วมันก็หนีไปได้ “อย่าหนีนะ...โอ้ย” แต่ก็ไม่ทันมันแล้วมันหนีไปจนได้ “คุณเป็นอะไรไหมคะ...?” “ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ช่วยคุณเอากระเป๋าคืนมาไม่ได้...” เขาลุกขึ้นยืนแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บที่ข้อมือตัวเอง “คุณหมอ...” “เธอ....” เธอวิ่งตามมาแต่ไม่ทัน แต่พอเห็นหน้าคนที่มาช่วยเธอไว้เป็นใครถึงกลับตกใจ ทั้ง 2 คนมองหน้ากันอึ้งๆ ตกใจที่มาเจอกันโดยบังเอิญที่นี่ และคนที่เขาช่วยไว้ก็ดันเป็นเธออีก “หวังว่านี่คงไม่ใช่แผนที่เธอ ทำให้ฉันเข้ามาช่วยแล้วก็เกิดสงสารเธอหรอกนะ..?” “นี่คุณหมอ...หนูไม่ได้คิดอะไรบ้าๆแบบนั้นนะคะ คุณหมอไม่เห็นหรอว่ากระเป๋าหนูโดนกระชากไปจริงๆ...” “ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะนะ...” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ และก็ไม่อยากเถียงกับเขาอีกจึงจะเดินหนีไป “แล้วจะไม่ไปแจ้งความรึไง...?” “....” เธอหยุดชะงักเท้าทันที พอนึกขึ้นได้ว่าต้องไปแจ้งความก็หันมามองหน้าเขา “มีอะไร หรือว่าเธอจะไม่แจ้ง...นี่อย่าบอกนะว่าที่ฉันพูดคือเรื่องจริง โจรที่มากระชากกระเป๋าเธอเธอจ้างมาใช่ไหม...?” “โอ๊ย...คุณหมอ หนูบอกแล้วไงคะ หนูไม่ได้จ้างมันมา หนูโดนกระชากกระเป๋าจริงๆและตอนนี้หนูก็ไม่มีทั้งเงิน ทั้งมือถือด้วย ถ้าคุณหมอไม่เชื่อ ค้นตัวหนูก็ได้นะ เอาสิคะค้นได้เลย...” หมอศิรวิทย์มองหน้าเธอนิ่งๆอย่างจับผิด แล้วเขาก็เริ่มใจอ่อน “ฉันจะพาเธอไปส่งที่โรงพักแล้วกัน...” “ไม่ต้องหรอกค่ะ แจ้งไปก็เท่านั้นยังไงก็คงจับมันไม่ได้อยู่ดี หนูว่าคุณไปหาหมอดีกว่านะคะข้อมือคุณเหมือนจะบวมๆเลย...” “ช่างเถอะเจ็บแค่นี้เองนวดเดี๋ยวก็ดีขึ้น..” เขาก้มดูที่มือตัวเองแล้วก็หันมามองเธออีกครั้งเหมือนยังไม่ค่อยเชื่อเธอนัก “แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป ไม่มีเงินไม่มีโทรศัพท์ใช้แบบนี้...?” “หนูก็ยังไม่รู้เลยค่ะ นี่หนูก็ยังไม่ได้จ่ายค่าห้องพักด้วย แต่ถ้าคุณหมอจะกรุณาหนู...” เธอทำหน้าตาน่าสงสาร “....” เขาจ้องแววตาเธออย่างจับผิดว่าเธอกำลังจะพูดอะไร “หนูขอยืมเงินคุณหมอสักสามหมื่นบาทก่อนได้ไหมคะ หนูจะเอาไปจ่ายค่าห้องแล้วก็ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้านด้วย...” “สามหมื่นบาท นี่เธอพักโรงแรมไหนกันแน่มันถึงได้แพงขนาดนี้...?” เขาถามเธอขึ้นด้วยความสงสัย “โรงแรมใกล้ๆที่คุณหมอพักแหละค่ะ หนูแค่ยืมก่อนเดี๋ยวหนูกลับกรุงเทพฯหนูคืนให้นะคะ ไม่งั้นหนูไม่ได้ออกจากโรงแรมแน่ๆ...” เขาจ้องแววตาเธออย่างจับผิด “คุณหมอคงไม่ปล่อยให้เด็กตาดำๆอย่างหนูต้องโดนตำรวจจับหรอกนะคะ เหตุที่ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง...คุณหมอก็รู้เรื่องพ่อหนูแล้ว หนูไม่กล้าหลอกคุณหมออีกแล้วละคะ นะคะ.... หนูขอยืมก่อนนะคะ นะคะคุณหมอ....” “....” ... เวลาเกือบจะ 2 ทุ่ม เพราะเขาอยากรู้ให้แน่ใจว่าโรงแรมที่เธอบอกว่าพักอยู่แถวๆนี้อยู่ตรงไหน หลังจากที่เขากดเงินให้เธอตามที่ขอแล้วเขาก็แอบเดินตามเธอมาตลอดทางโดยที่เธอไม่รู้ตัว เขาเดินมาหยุดหน้าโรงแรมหนึ่งที่เป็นที่ที่เธอบอกว่าเธอพักอยู่ และค่าที่พักที่เธอต้องจ่ายในราคาที่เธอยืมมาก็ไม่น่าจะถึงเพราะนี่มันคือโรงแรมม่านรูด... “สวัสดีครับ...คุณพี่จะเปิดห้องหรือเปล่าครับ..?” เขาหันไปมองตามเสียงที่เข้ามาทักแล้วก็ต้องตกใจที่ได้เห็นหน้าตาของพนักงานที่เข้ามาต้อนรับเขา เพราะหน้าตาเหมือนคนที่กระชากกระเป๋าของอรพรรณีเมื่อตอนเย็นเลย “นี่นาย....” ผุ้ชายคนนั้นเห็นหน้าหมอศิวัฒน์ถึงกลับตกใจ มันทำให้เขารู้ทันทีว่าตัวเขาโดนเธอหลอกจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD