" น้อยๆหน่อยตาภู ไปว่าน้องแบบนั้นได้ยังไง ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะเรา " แม่เลี้ยงขวัญใจเอ็ดภูวดลพร้อมกับใช้มือตบไปที่ไหล่หนาของเขา
" ผมก็พูดตามที่เห็น " ภูวดลยังคงไม่ยี่หระกับคำพูดของมารดา
ในขณะที่ฟ้ารดายังคงนั่งนิ่งด้วยความวิตกกังวล นี่หรือคือผู้ชายที่เธอจะต้องแต่งงานด้วย ช่างหยาบคายและไม่ให้เกียรติเธอ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องแต่งงานกับเขาอยู่ดี เพราะนี่คือคำสั่งเสียสุดท้ายของนางพาฝันมารดาของเธอ ก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไป
" เรานี่โตซะเปล่า แต่กลับทำตัวเป็นเด็กๆแบบนี้แม่ล่ะเหนื่อยใจจริงๆ " แม่เลี้ยงขวัญใจถอนหายใจด้วยความระอากับนิสัยของภูวดล
" แล้วแม่จะให้ผมทำยังไงละครับ หรือจะให้ผมแสดงความรักกับเจ้าสาวโชว์แม่เลยมั้ยครับ ผมไม่ถือนะ " ภูวดลยังคงเล่นลิ้นกับแม่เลี้ยงขวัญใจ
" ทำเท่าที่มันพอดี ไม่ต้องเยอะเกินไป พูดจาดีๆกับน้อง ทำให้แม่ได้มั้ย " แม่เลี้ยงขวัญใจกล่าวจริงจัง
" จะพยายาม ย้ำนะครับว่า จะ..พยายาม " ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมรับปาก
ฟ้ารดาได้แต่นั่งฟังบทสนทนาระหว่างแม่ลูก ด้วยความเหนื่อยใจ นี่เธอจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายแบบนี้จริงๆเหรอ ทำไมฟ้าต้องแกล้งเธอแบบนี้ นอกจากจะพรากมารดาอันเป็นที่รักของเธอไป แล้วยังส่งผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนี้ให้มาเป็นสามีเธออีก ฟ้ารดาไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะต้องเจออะไรอีกบ้าง และไม่รู้จะต้องใช้ความอดทนแค่ไหน ในการใช้ชีวิตอยู่ที่ปางไม้แห่งนี้
" ยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก ถ้าเราทำให้หนูฟ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้เราได้เห็นดีกับแม่แน่นอน จำคำพูดแม่ไว้ด้วยนะตาภู " แม่เลี้ยงขวัญใจกล่าวอย่างจริงจัง
" ผมจะรอนะครับแม่ " ภูวดลยังคงเถียงไม่หยุด จนแม่เลี้ยงขวัญต้องยอมถอย เพราะไม่งั้นวันนี้คงไม่ได้ออกไปต้อนรับแขกแน่นอน
" เอาละแม่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเราแล้ว พาน้องออกไปรับแขก ทำหน้าดีๆ อย่าให้แม่ขายหน้าล่ะ " แม่เลี้ยงขวัญใจต้องตัดบทก่อนที่งานแต่งงานวันนี้จะล้มไม่เป็นท่า
" ได้ครับถ้าแม่ขอ ผมก็จะทำให้ แต่หลังจากนั้นอย่าบังคับผม " ภูวดลกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฟ้ารดาเหมือนอยู่ท่ามกลางสงครามประสาทระหว่างแม่ลูก เธอวางตัวไม่ถูกจริงๆ เธอไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ
แม่เลี้ยงขวัญใจพาทั้งคู่เดินออกมาต้อนรับแขกเหรื่อที่เริ่มเดินทางมาร่วมงาน แขกที่ได้รับเชิญมาส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัดนี้ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยืนเคียงข้างกันด้วยความอิหรักอิเหรื่อ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
" น้องฟ้ายิ้มหน่อยนะลูก " แม่เลี้ยงขวัญใจกล่าวด้วยความเมตตา " ภูก็เหมือนกันยิ้มหน่อย ถือว่าแม่ขอล่ะ " แม่เลี้ยงขวัญใจขอร้องภูวดลอีกคน รายนี้หน้าทำหน้าดุยังกับยักษ์วัดแจ้ง
บรรดาแขกที่มาร่วมงานต่างแปลกใจกับอากัปกริยาของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ไม่มีใครทราบถึงตื้นลึกหนาบาง เหตุใดทั้งคู่ถึงทำท่าทางเหมือนโดนบังคับให้แต่งงานเช่นนี้
" ค่ะคุณน้า " ฟ้ารดาตอบรับพร้อมกับเริ่มส่งยิ้มตามที่แม่เลี้ยงขวัญใจขอ
" เดี๋ยวจัดให้ครับแม่ " ภูวดลแค่นยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะโอบเอวบางของฟ้ารดา แล้วพาเธอเดินเข้าไปทักทายแขกตามโต๊ะต่างๆ