สองปีก่อน
"มึงหัดดูแบบน้องมึงบ้างอีปลาย นี่อะไรเรียนก็ไม่ได้เรื่อง แถมจบมายังไม่มีงานทำ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ" เสียงที่กำลังก่นด่าอยู่ตอนนี้คือเสียงของพ่อฉันเอง พ่อมักจะต่อว่าฉันแบบนี้ประจำ
"ถ้ามันดีมากขนาดนั้น แล้วปลายมันเป็นลูกที่แย่มาก ปลายก็จะไปจากที่นี่" ฉันพูดออกไปด้วยความน้อยใจ
"เออ!! ไปเลย อีลูกไม่รักดีไปแล้วอย่าโผล่หัวมาให้กูเห็นอีกนะ ตายๆ ตามแม่มึงไปได้ยิ่งดี!" ฉันไม่คิดเลยว่าพ่อจะพูดออกมาขนาดนี้ แบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ฉันจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้อีกต่อไป
สิ้นสุดคำพูดของพ่อ ฉันก็เดินเข้าห้องไปเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เดินออกมาจากบ้านโดยที่พ่อไม่แม้แต่จะห้ามหรือรั้งฉันเอาไว้เลย พ่อคงไม่เคยรักฉันเลยจริงๆ
ฉันขึ้นรถทัวร์ไปที่กรุงเทพ ไม่รู้หรอกว่าฉันจะไปอยู่ที่ไหนอะไรยังไง เงินติดตัวมาก็มีแค่สองพัน กรุงเทพใหญ่โตมากจริงๆ
มาถึงกรุงเทพพอลงรถได้ฉันก็เดินไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมาย เดินไปร้องไห้ไป ถ้าแม่ยังอยู่ ชีวิตฉันคงจะมีความสุขมากกว่านี้
"....หนู หนูมาเดินทำไมค่ำๆ มืดๆ คนเดียวอันตรายนะรู้ไหม" ในระหว่างที่ฉันเดินอยู่ก็มีรถมาจอดข้างๆ เป็นผู้หญิงที่ถามฉัน
ฉันเงียบ ไม่ตอบอะไรเอาแต่ร้องไห้
ฉันชื่อปลาย เป็นแค่เด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่ง บ้านก็ไม่ได้รวยอะไร ฉันมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวชื่อเหมย ปัจจุบันมันมีผัวเรียบร้อยแล้ว แถมผัวยังรวยมากๆ อีกต่างหาก
เหตุการณ์ที่ฉันเจอพ่อด่าเป็นเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน แม่ฉันเสียไปตั้งแต่ฉันอยู่ ม.ต้น นับแต่วันนั้นชีวิตฉันก็ไม่เคยรู้จักกับคำว่าความสุขอีกเลย
หลังจากที่แม่เสียไม่นานพ่อก็พาผู้หญิงเข้าบ้านมาพร้อมกับเด็กผู้หญิงอีกคน ฉันรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือเมียใหม่พ่อ
เมียใหม่พ่อฉันชื่อละดา และมีลูกติดมาด้วยเป็นผู้หญิงชื่อ ลินิน
ฉันไม่ถูกกับสองแม่ลูกคู่นี้หรอก พวกนี้ชอบแกล้งฉันสารพัด ลินิน ชอบเอาสมุดการบ้านฉันไปฉีก บางทีก็เอาไปซ่อน และฉันก็ไม่มีงานส่งครู ส่วนแม่เลี้ยงฉันก็ชอบใช้ฉันทำความสะอาดบ้านล้างห้องน้ำ เอาง่ายๆ ใช้ยิ่งกว่าทาสซะอีก
ส่วนพ่อก็หลงเมียใหม่หัวปรักหัวปรำ มันพูดอะไรก็เชื่อไปหมดซะทุกอย่าง เป็นแบบนี้มาจนฉันจบมหาลัย
วันที่พ่อด่าฉันและฉันหมดความอดทน
ฉันตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น บ้านที่ฉันเคยอยู่แล้วมีความสุขแต่ตอนนี้ไม่เลย มันมีแต่ความทุกข์ ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันจะไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีกถ้าไม่จำเป็น
ปัจจุบัน...
ตอนนี้ฉันทำงานเอ็นเตอร์เทน โดยมีเจ้แววเป็นคนหางานให้ เจ้แววก็คือคนที่ขับรถมาเจอฉันเดินร้องไห้เมื่อสองปีก่อน
“ปลายนั่นจะไปไหน” เจ้แววถามฉัน ตอนนี้ฉันกำลังนั่งเล่นที่คลับของเจ้แวว เพราะขี้เกียจจะรับงานเอ็น เจ้ก็บ่นๆ ที่ช่วงนี้ฉันเริ่มไม่อยากรับงาน
“ไปหาหมอน่ะเจ้”
“หาหมออะไรทั้งปีทั้งชาติ นี่แกเป็นโรคอะไรปลายไปหาหมอเป็นปีแล้วไม่ตายสักที” เจ้แววเป็นคนปากแบบนี้แต่จริงใจและใจดีมากนะขอบอก
“เป็นโรคขาดหมอไม่ได้น่ะเจ้ ไปแล้วนะ ตอนเย็นเดี๋ยวมาใหม่ บ๊าย" พูดจบฉันก็ออกมาเลย
หมอที่ฉันว่าจะมาหาก็คือหมอเดย์ ฉันตกหลุมรักเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว แต่ถึงเวลาจะผ่านมาเป็นปีฉันก็ยังคอยตามจีบเขาอยู่
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เรียบร้อย และด้วยงานที่ทำจึงถูกมองไม่ดี แต่ไม่มีสักครั้งที่ฉันจะทำตัวเหลวไหล แม้แต่ความบริสุทธิ์ฉันก็ยังเก็บมันมาจนถึงตอนนี้
ไม่น่าเชื่อล่ะสิ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันพร้อมแล้วแหละ พร้อมเสียตัวให้กับหมอเดย์
#โรงพยาบาลxx
ฉันเดินยิ้มระรื่นเข้ามาในโรงพยาบาล พยาบาลที่นี่คุ้นหน้าฉันดีเพราะฉันมาที่นี่แทบจะทุกวัน
#ภายในห้องทำงานของหมอเดย์
ฉันถือวิสาสะเข้ามาหาหมอเดย์ที่ห้องทำงานของเขา และทำแบบนี้ประจำ ฉันรู้ว่าหมอเดย์ไม่ค่อยมีเคสคนไข้หรอก เพราะเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาล
“เธอไม่มีงานทำบ้างหรือไง ออกไปฉันจะทำงาน” เมื่อฉันเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องทำงานของหมอเดย์ เขาก็มักพูดขึ้นมาแบบนี้เป็นการต้อนรับ
คำพูดพวกนั้นฉันชินแล้ว เขาพูดแบบนี้ตลอดแต่ฉันมันพวกหน้าด้านค่ะ ด่าอะไรก็ยิ้ม คนหล่อด่าปลายไม่ถือ
“ฉันมาหาหมอก็แปลว่าป่วยไงคะ”
“ป่วยทุกวัน ?”
“แต่ฉันป่วยจริงๆ นะคะหมอ เนี่ยๆ ตัวร้อนมากเลย ไม่เชื่อก็ลองจก เฮ้ย! ลองจับตัวฉันดูสิคะ" ฉันเอามือหมอเดย์มาจับๆ แถวๆ หน้าอกตัวเอง ลงทุนขนาดนี้แล้วนะแต่หมอเดย์กลับรีบดึงมือออก
“ช่วยทำตัวให้เหมือนผู้หญิงหน่อยได้ไหม” หมอเดย์บอกเสียงดุและจ้องหน้าฉันอย่างรำคาญ
“แล้วนี่ฉันไม่เหมือนผู้หญิงตรงไหนคะ หรือหมอจะให้ฉันแก้ผ้าให้ดู จะได้รู้ว่าฉันเนี่ยเหมือนผู้หญิงทุกซอกทุกมุม” ฉันพูดพร้อมกับทำท่าทางจะถอดเสื้อผ้า
“หยุด!!! เธอนี่มัน...!!!” หมอเดย์จ้องหน้าฉันเขม็ง เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
ฉันฉีกยิ้มกว้าง เวลาที่เห็นเขาทำหน้าโหดแบบนี้มันมีความสุขจัง
ฉันคงเป็นผู้หญิงที่บ้ามากแน่ๆ