“อัยยะ ผมจะทำแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ แม่กับพ่อได้แหกอกและเอาผมตายเลย ท่านเคยพูดบ่อย ๆ ว่า เที่ยวได้ อะไรได้ แต่อย่าให้มีปัญหา ปัญหาที่ว่าก็คือแบบนี้…” เขายังชี้ไปที่เด็กน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยด้วย
“เฮ้อ…” ทีนถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็ง
เขารู้อยู่เต็มหัวอก แม้จะรักสนุก แต่เขาก็ไม่น่าพลาดไปทำให้ผู้หญิงคนไหนท้อง เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่พูดกรอกหูอยู่บ่อย ๆ ว่าจะเป็นคนเลือกเจ้าสาวให้เขาเอง
ทีนก้มมองตัวเอง เขายังอยู่ในชุดนอน
“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกัน ส่วนเธอช่วยกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มันใส่สบายกว่านี้ได้ไหม” เขามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชุดที่เธอใส่ คือชุดเมื่อวานมันวาบหวิวดูไม่คล่องตัว
“คือคุณทีนคะ ฉันจะกลับแล้วค่ะ”
“ฮึ... เธอจะกลับได้ยังไง เธอก็เห็นอยู่ว่าผมกำลังมีปัญหา เด็กคนนี้ผมเลี้ยงไม่ได้หรอกนะ คุณต้องอยู่ช่วยกัน ไม่เอา ผมไม่ยอม” เขาโวยวาย
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องส่งเด็กไปให้กับตำรวจ”
“คำก็ตำรวจ สองคำก็ตำรวจ เธอต้องคิดด้วยสิว่าหน้าตาของผมจะเป็นยังไง อีกอย่างเห็นแก่ที่ผมช่วยเหลือคุณเอาไว้เมื่อคืน ผมขอทวงบุญคุณ”
“หา! ฉันว่าคุณน่ะกลัวเสียชื่อเสียงมากกว่ามั้งคะ แล้ว…” ชินุตาทำหน้าเง้า ท้ายสุดเขาก็ไม่ใจดีเหมือนที่คิด เขาทวงบุญคุณกับเธอ
ทีนเมื่อเห็นสายตาดังนั้น เขาก็รีบแก้ตัว
“ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทวงบุญคุณอะไรคุณทั้งนั้น แต่…” เขาก้มลงไปมองตัวเด็ก
“อันนั้นคือปัญหาใหญ่ที่สุดของผมในตอนนี้ เรื่องชื่อเสียงก็อีกเรื่องหนึ่ง เฮ้อ…” แล้วเขาก็คิดขึ้นมาได้
“ลูกชุบ… เอาแบบนี้สิ เมื่อวานเธอบอกว่าเธอไม่มีทางไป หอพักก็โดนล็อก ผมจะจ้างเธอให้เป็นผู้ช่วยเลี้ยงลูก”
คำว่า ‘ลูก’ ดังออกมา ทีนออกอาการเขินหน้าแดง
จู่ ๆ ก็ปุ๊บปั๊บรับโชคเป็นเด็กน้อย ทำเอาไปไม่เป็นเหมือนกัน
‘ลูก ลูก ลูก’
‘ไม่ใช่นี่หว่า’ ทีนรีบเปลี่ยนคำพูด
“ไม่ใช่ ๆ จ้างให้เธอมาเลี้ยงเด็กคนนี้ เลี้ยงไปก่อน จนกว่าผมจะหาทางออกเจอ หรือเจอแม่ของเด็ก”
“แต่ว่า…”
ทีนเบรก “เดี๋ยวผมจะเข้าไปคุยกับฝ่ายนิติของคอนโด เพื่อช่วยหาทางออก จะต้องขอดูกล้องวงจรปิดว่าใครกันที่เอาลูกมาทิ้งเอาไว้แบบนี้ ถ้าผมได้เห็นในกล้อง แล้วถ้าเกิดว่าเคยเป็นผู้หญิงที่ผมเคยคบ ผมเชื่อว่า ผมต้องจำเธอได้อย่างแน่นอน”
“คุณเคยอยู่กับผู้หญิงตั้งเยอะแยะ คุณจะจำได้จริง ๆ หรือคะ” ชักหวั่นไหว ผู้ชายตรงหน้าคาสโนวาตัวพ่อ เธอไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว แต่พอหันไปมองเด็กก็สงสาร
ทว่าทีนที่โดนชินุตาตอกแบบซึ่ง ๆ หน้า เขาหน้าเสียเล็กน้อย เพิ่งเผชิญปัญหาชวนให้หน้ามืดก็ครั้งนี้ ทีนชักตระหนักว่า เขาต้องเลิกมั่ว ๆ และคบผู้หญิงไปทั่วสักพัก
“เอาเถอะน่า ช่วยผมหน่อยก็แล้วกัน ถือว่า เราสองคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว นี่คือปัญหาเฉพาะหน้า ที่เราสองคนต้องช่วยกันแก้ไขไปก่อน” ทีนยกมือไหว้เธอ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
ชินุตายืนอึ้ง ‘เราสองคน’
‘เขานับรวมฉันในปัญหาของเขาได้ยังไง ฉันยังไม่ได้รับปากอะไรกับคุณเลยน่ะ’
ชินุตาก้มลงไปดูเด็กน้อย เด็กที่น่าสงสารยังคงนอนหลับตาพริ้ม ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่า ตอนนี้ตัวเองถูกผู้เป็นแม่ทิ้งไปเสียแล้ว ‘ช่างน่าสมเพชเวทนา’
ซึ่งก็ไม่ต่างจากตัวของเธอที่ถูกแม่ทิ้งเช่นเดียวกัน ชินุตาต้องหนีออกมาจากบ้านเพื่อหนีความอัปรีย์ของพ่อเลี้ยง ที่มักจะลวนลามหาเรื่องจะงาบชินุตาให้ได้ เธอเคยเลียบเคียงจะบอกแม่ แต่แม่ก็ทำเป็นไม่เข้าใจ และก่นด่าเรื่องค่าครองชีพต่าง ๆ นานา ทุกคำพูดของแม่มีแต่ชื่นชมว่าหากไม่ได้พ่อเลี้ยง แม่ก็คงไม่มีกำลังใจ
ในตอนนั้นครั้นจะบากหน้าไปพึ่งตากับยาย คนแก่ที่ไม่มีรายได้ ยังจะต้องมาเลี้ยงเธออีก อีกอย่างลูกของน้าอีกสามคนก็อยู่กับท่าน ชินุตาจึงคิดว่า เธอควรหนีมาตายเอาดาบหน้า
แล้วมันก็ผ่านมาห้าปีกว่าเข้าไปแล้ว เธอออกมาจากบ้านแม่ตั้งแต่อายุสิบหกปี ตอนนี้เธอยี่สิบเอ็ดปี แต่กว่าจะผ่านมาแต่ละปี สำหรับชินุตาโคตรทรหด
ชินุตาเห็นว่าเด็กหลับสบายดีแล้ว เธอก็ไม่อยากเคลื่อนย้าย หญิงสาวจึงเอาหมอนมากั้นไม่ให้เด็กตกลงมาข้างโซฟา ‘เดี๋ยวค่อยจัดที่หลับที่นอนให้ใหม่นะหนูน้อย’ ชินุตาก็ไม่กล้าพลิกดูว่าเด็กเป็นเพศไหนด้วย
จากนั้นเธอก็กลับเข้าไปในห้องนอนที่เธอนอนเมื่อคืนนี้ ชินุตาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหาเสื้อผ้าที่ดูเก่า ๆ สักหน่อย แต่พอดูที่ยี่ห้อแล้วก็รู้ว่าเป็นของแพงทั้งนั้น ชินุตาจึงเลือกเอาที่เก่าที่สุด เธอเปลี่ยนแล้วออกมาจากห้อง
ทีนนั่งอยู่บนโซฟาตัวที่ใกล้กันกับเด็ก เขาก้มลงไปจ้องหน้าเด็ก
“เหมือนคุณไหมคะ” เธอเดินเข้ามาสำรวจใบหน้าของเด็กน้อยที่ตอนนี้หลับปุ๋ยไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง
ทีนยกหน้าขึ้นมามองเธอ ทีนทำท่าหลับตา
“เหมือนไหม” ชินุตาหัวเราะเบา ๆ
“ก็เหมือนอยู่นะคะ มีคิ้ว มีตา มีจมูก มีปากเหมือนกัน”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”