ใครจัดสรรค์
เมื่อ ทีน พันสืบ หนุ่มทรงแบด เขารวยแบบไม่ต้องทำงานก็ได้ แถมหล่อลากไส้กระชากใจสาว ๆ ทั้งเข้มดุดัน หน้าตาทรงไทย เคราครึ้มเขียว ๆ พอให้ได้ระคายผิว เวลาที่เขาหอมมันคงจั๊กจี้ในหัวใจเหลือเกิน
เขาพาร่างที่มีความสูงมากกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรเข้ามาในผับ ทีนเดินผ่านผู้คนที่ทุกสายตาก็จ้องมองแต่เขา ต่างสะดุดในความเท่และดูดี
พออาชากับปริญเห็นหน้าของทีน พวกเขาก็เอ่ยทักทายขึ้นมาในทันที
อาชา “กว่าจะเสด็จสะเด่ามาได้นะ”
ทีน “พวกแกมากันนานแล้วเหรอวะ”
อาชา “นานแล้วสิวะ โซดาหมดไปสี่ห้าขวดแล้วเนี่ย มัวทำอะไรอยู่”
ทีน “หา! โซดาหมดสี่ห้าขวดเนี่ยนะ แล้วก็บอกว่ารอนานแล้วน่ะ โธ่เอ๊ย! แค่นี้ไม่เมาหรอกโว้ย ไม่คณนาพยาธิที่อยู่ในท้องของแกสองคน”
อาชา “ก็ปกติแกไม่เคยสายนี่นา วันนี้ชักช้ามัวทำอะไรอยู่วะ”
ทีนถอนหายใจทิ้ง พร้อมกับนั่งลง “เฮ้อ... มีหลายอย่างที่ต้องทำน่ะถามได้”
สองคนพากันขมวดคิ้ว และทำหน้านิ่ว
อาชา “แกเคยทำอะไรด้วยเหรอวะ”
ทีนชี้หน้าเพื่อน “ก็เออสิ กูกำลังเก็บของอยู่”
“เก็บของอะไร” ปริญสวนทันที
“ของใช้ส่วนตัวและของที่จะต้องเอาไปที่รีสอร์ต ที่ฟาร์มน่ะ” ทีนหมายถึงฟาร์มที่เขาใหญ่
“เฮ้ยไอ้ทีน สรุปว่าแกจะต้องไปดูรีสอร์ตกับฟาร์มให้กับพ่อและแม่จริง ๆ เหรอวะ แบบนี้กูสองคนก็ขาดคู่หูน่ะสิ”
“อื้อ... พ่อกับแม่กูยื่นคำขาดมาแล้วว่า ถ้ากูไม่ไปดูแล เขาก็จะยกทุกอย่างให้เป็นการกุศล แล้วยังขู่กูอีกว่าจะตัดเงินกูด้วย”
ปริญ “เชี่ยแล้วแบบนี้ก็ไม่ไหวนะเว้ย”
อาชา “ไอ้หยา ไอ้ประโยคหลังนี่แหละที่น่ากลัวที่สุด ถ้าโดนตัดเงิน แล้วแกจะเอาอะไรกิน คนอย่างแกไม่เคยทำอะไรเสียด้วยที่มันเป็นชิ้นเป็นอันน่ะ”
“ไอ้ห่าชา มึงพูดอย่างนี้ได้ไงวะ กูเคยทำสิงานน่ะ ทำไมกูจะไม่เคยทำ กูเป็นคนมีประโยชน์เหมือนกันนะ พูดออกมาแบบนี้กูเคืองนะเว้ย”
“เหรอ... เรื่องไหนบ้างวะไอ้ทีน มึงลองพูดมาซิ” อาชาย้ำในตอนท้าย
“ทำไมพวกมึงจะต้องมาเสือกอยากรู้เรื่องของกูด้วยวะ ว่าแต่อะไรของมึงไอ้ชา ที่มึงอยากอวดนักอวดหนา แล้วก็ยังบอกว่าถ้ากูไม่มา กูจะพลาดใหญ่หลวง”
“ใช่เรื่องนี้มึงไม่น่าพลาด” อาชาพยักหน้าและบุ้ยใบ้ไปทางปริญ ปริญจึงหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า
“แบบว่า... คืองี้... ที่นี่มีเด็กใหม่แบบที่ตรงสเปกของมึงว่ะไอ้ทีน แบบที่ตรงมาก ๆ ตรงใจ ตรงอะไรที่มึงชอบน่ะ กูสองคนก็ชอบน้องคนนี้นะ แต่ว่าเพื่อเห็นแก่มึงจริง ๆ พวกกูจะยอมถอย”
“ฮึ... เธอเรียกค่าตัวแพงเหรอวะ พวกมึงถึงกับไม่กล้าสู้”
“อันนั้นก็ประเด็นหนึ่ง คืนเดียวค่าตัวน้องคนนี้เปิดจริงที่ห้าแสน”
“หา! ห้าแสน”
“เอ้อสิวะ ห้าแสนบาท แต่ว่าสมราคานะโว้ย ที่เด็ดสุดหน้าตาได้แบบตรงสเปกของมึงจริงว่ะไอ้ทีน”
“ไอ้ขี้โม้” ทีนทำหน้าแบบไม่เชื่อ
“จริงโว้ย ไม่ได้โม้ แบบหน้าอกของแม่ โอ้ย! กูต้องบอกว่าล้นเหลือ บึ้ม ๆ ยิ่งกว่านางแบบเพลย์บอย” อาชาทำท่าทำทางให้ดูด้วย ยกสองมือขึ้นมาทำหน้าอกแบบอื้ม ๆ ให้กับเพื่อนดู
“ถ้าขนาดนั้น ทรงยั่วน้ำลายเพลย์บอย แล้วมึงสองจะเสียสละให้กูอย่างนั้นเหรอ แปลกว่ะ” มันก็แปลกจริง ๆ นั่นแหละ เพราะทุกทีทั้งสามคนจะแย่งกันเสียมากกว่า
“ตอนนี้กูต้องใช้เงิน จะเปิดตัวร้านแต่งรถร้านใหม่โว้ย เรื่องหญิงต้องยกเอาไว้ก่อน”
ปริญพยักหน้าเห็นด้วย “ของกูก็เหมือนกัน แม่กับพ่อกูหักเงินกู ไอ้เรื่องที่กูซื้อรถสปอร์ตคันก่อนหน้า แม่กู… ตอนนี้หักกูเป็นรายเดือน”
“อ้อ พวกมึงก็เลยจน แล้วทำไมกูจะต้องจ่ายวะ ตั้งห้าแสน ไม่ใช่เรื่องเลย”
“เฮ้ย! ไอ้ทีนมึงต้องเห็นของก่อนเว้ย แล้วมึงจะไม่พูดแบบนี้”
“ไหนล่ะน้องคนนั้นของมึงอะ”
ปริญจึงส่งมือถือของเขาให้ทีนดูรูปของน้องหนูคนนั้น ทุกอย่างเหมือนกับที่อาชาโม้เอาไว้เลย อกอึ๋ม หน้าตาได้เหมือนเบลล่ารานี
“ส่วนสูงมากกว่าร้อยหกสิบห้าแน่ ๆ กูคะเนแล้ว เป็นไงถูกใจมึงไหม” อาชาทำหน้าลุ้น ๆ
ทีนเห็นผู้หญิงทรงนี้ได้ที่ไหน ปรกติสาว ๆ ไล่จับ แต่ถ้าเป็นทรงอย่างนี้ เขาโดนให้พวกหล่อนจับโดยไม่ต้องเล่นองค์
“แล้วกูต้องจ่ายห้าแสนกับใครวะ” พูดเหมือนไม่ใส่ใจกับราคาถ้าได้สินค้าตรงสเปก เท่าไรก็ยอมจ่าย
เท่านั้นแหละ ทั้งอาชาและก็ปริญถึงกับหัวเราะดังก๊าก
“หัวเราะหาส้นตีนอะไรวะ กูแค่ถามว่า กูจะไปจ่ายเงินกับใคร มันตลกตรงไหนฮึ หรือว่าพวกมึงกวนตีน”
“โอ้ย ๆ เป็นไง ๆ ไอ้ปริญ กูว่าแล้ว กูบอกมึงแล้วไม่ผิดเห็นไหมว่า ไอ้ทีนมันต้องสนใจเด็กคนนี้”
ปริญก็หัวเราะตัวงอหาย
“ไอ้ปริญมึงจ่ายกูมาเลย มึงแพ้… เห็นไหมไอ้ทีนพูดเหมือนที่กูคาดเอาไว้เป๊ะ” อาชาแบมือไปตรงหน้าของปริญ
ทีนยังคงทำหน้างง “นี่.. อะไรของมึงวะ ไอ้ชา ไอ้ปริญ พวกมึงหลอกกูเหรอวะ ไอ้เชี่ย… พวกมึงนี่มันเซี้ยวจริง ๆ” ทีนดูมีอารมณ์เสีย
“เออสิวะ มึงเนี่ยหลอกง่ายที่สุด ก็น้อง ๆ ทรงนี้ กูกะแล้วล่ะ กูรีบให้ไอ้ปริญมันรีบถ่ายรูปน้องเขา นี่แค่เด็กเสิร์ฟเว้ย ไม่ใช่อย่างที่มึงคิด”
“เด็กเสิร์ฟ” ทีนเสียงสูง แต่หน้าตาก็ยังยิ้ม แต่พอคิดขึ้นมาได้ว่าถูกไอ้สองเพื่อนหลอกอำเล่นเสียแล้ว ก็หน้าเหมือนโมโหขึ้นมาอีกครั้ง
“เธอไม่ใช่เด็กขาย แล้วมึงมาหลอกให้กูของขึ้นเนี่ยนะ” พูดไป พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาทั้งสองข้างเหมือนอยากจะถีบหน้าเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามให้ได้
“เฮ้ย ๆ ใจเย็น ๆ โว้ยพวก ไอ้ทีน แหม... กูสองคนแค่ล้อเล่น แต่ไม่คิดว่ามึงจะเอาจริง ไม่มีแผ่วจริง ๆ นะมึงเนี่ย”
“แล้วไงวะ” ในใจของทีนก็โคตรเสียดาย นึกว่าจะได้ฟันของดีมีภาพตรงใจเสียแล้ว
“เฮ้ย! ไม่ต้องมาทำหน้าเสียดาย ประเดี๋ยวค่อยดูหน้าของน้องคนนี้นะ”