Chapter 3 ยั่วให้อยาก
“ข้าน้อย ‘เซี่ยรั่วอิง’ ขอขอบคุณที่คุณชายเมตตาช่วยเหลือ พวกโจรเหล่านั้นบุกปล้นและทำร้ายคนของข้าจนล้มตาย ข้าพยายามหลบหนีแต่พวกมันก็ตามไล่ล่า หากไม่ได้ท่านช่วยไว้ข้าคงกลายเป็นผีไม่มีญาตินอนตายอยู่ในป่าข้างทางเป็นแน่”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น เลือดในกายวิ่งพล่านด้วยความสับสน ทันทีที่เขาได้ยินชื่อแซ่ของนางเขาก็แทบไม่ได้สนใจสิ่งที่นางพูดอีกเลย
“เจ้ามีนามว่าอะไรนะ”
“รั่วอิงเจ้าค่ะ ข้าแซ่เซี่ยนามว่ารั่วอิง”
นางจงใจย้ำอีกครั้งแล้วมองเข้าไปในดวงตาของเขา ก่อนจะเบียดเข้าไปใกล้จนแทบชิด
“เหตุใดเมื่อท่านฟังนามของข้าจึงได้นิ่งอึ้งไปเช่นนั้น”
“นามและรูปร่างหน้าตาของเจ้าช่างเหมือนกับภรรยาของข้าที่ตายไปแล้วกว่าสี่ปี ข้าไม่คิดว่าบนผืนแผ่นดินนี้จะหาใครที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกันได้ถึงเพียงนี้เลย”
เอ่ยออกมายืดยาวคล้ายกับละเมอ ดวงตาคมเข้มของเขายังคงจ้องจับไปยังใบหน้าหวานที่ยื่นเข้ามาใกล้จนห่างกันไปถึงคืบ รับรู้ได้ถึงกลิ่นกายหอมหวาน และลมหายใจร้อนของนางที่เป่าลดมาใกล้ๆ ลำคอของเขา
“คุณชายคิดถึงภรรยาหรือเจ้าคะ”
เหวินถิงเว่ยไม่ได้เอื้อนเอ่ยออกไป ทำเพียงพยักหน้าน้อยๆ ดวงตาของเขาหม่นเศร้าลงอย่างน่าใจหาย
ทันใดนั้นเองหญิงสาวข้างกายของเขาก็ค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมสีน้ำเงินครามออก เผยให้เห็นเรือนร่างเกือบเปลือยเปล่าที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นเอาไว้
นางยื่นมือมาจับมือของเขาเนิ่นนาน ดวงตาคมสวยค่อยๆ ช้อนเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อสบตาของเขา จากนั้นนางก็ทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด
หญิงสาวจับมือหนาใหญ่ของเขาให้วางทาบลงบนทรวงอกอิ่ม แล้วจังหวะที่เขากำลังอ้าปากทักท้วงนางก็ยื่นหน้าเข้ามาแล้วประกบริมฝีปากนุ่มนิ่มปิดลงบนริมฝีปากเขาอย่างรวดเร็ว
จูบหวานบดเร้าส่งผลให้คนตัวโตถึงกับมึนงงคล้ายเมามาย หัวใจของเขาเต้นแรงแทบจับจังหวะไม่ได้ ร่างเล็กที่ตอนแรกนั่งอยู่ข้างกายแปรเปลี่ยนเป็นขยับขึ้นคร่อมนั่งอยู่บนตักเขาโดยไม่ทันรู้ตัว
แกนกลางกายของนางกดทับลงบนท่อนทวนที่เวลานี้แข็งขึงชี้โด่ดุนดันราวกับต้องการจะทะลุทะลวงเข้าไปในกายนาง
‘เหมือนกระทั่งกลิ่นกาย’
หรือว่านี่จะเป็นความฝันกันแน่นะ...
เวลานี้เหวินถิงเว่ยโยนความสงสัยและความผิดชอบชั่วดีทิ้งไปอย่างไม่ยี่หระ เหลือเพียงความคิดถึงและความโหยหาที่กำลังปะทุขึ้นในหัวใจอย่างไม่อาจสะกดกลั้นมันเอาไว้ได้อีกต่อไป
เขาจูบตอบนาง บดจูบเบียดขยี้ริมฝีปากเล็กแล้วแทรกลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คนตัวเล็กในอ้อมกอดถึงกับระทวยอ่อน
สองมือหนาโอบกอดแล้วโลมไล้ไปตามแผ่นหลังนวลเนียนก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าส่วนที่เหลืออยู่ให้พ้นจากร่างกายน่าหลงใหลอย่างรวดเร็ว
แคว้ก!
“อื้อ....”
รั่วอิงถึงกับครางกระเส่าในลำคอ รสจูบเริ่มดุดันรุกเร้าบดขยี้เรียวปากอิ่มจนบวมเจ่อ สองแขนแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามกอดกระชับร่างเล็กเอาไว้แนบแน่นราวกับจะหลอมละลายร่างของเขาและนางให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
หญิงสาวกระดกสะโพกแล้วจัดการฉีกทึ้งกางเกงตัวในสีขาวที่แหว่งวิ่นของตนเองให้พ้นร่าง เผยให้เห็นก้นงอนกลมกลึงและโหนกนูนสามเหลี่ยมที่มีขนอ่อนสีน้ำตาลรำไร จากนั้นจึงจัดการปลดเชือกผูกรั้งกางเกงของชายหนุ่มออก แล้วดันร่นปล่อยให้ท่อนเอ็นอุ่นยาวใหญ่ที่นางแสนคิดถึงได้เป็นอิสระ
ในขณะที่ริมฝีปากของเขาและนางยังคงจูบจ้วงแลกลิ้นพันเกี่ยวกันอย่างดูดดื่ม สองมือกอดก่ายโลมไล้กันและกัน ก่อนที่นางจะจับท่อนเอ็นพับขึ้นแนบไปกับหัวหน่าวของชายหนุ่ม แล้วใช้แกนกลางกายที่เปียกชื้นบดทับลงไปยังลำเอ็นก่อนจะขยับสะโพกถูไถบดเบียดไปมาจนเอ็นอุ่นเปียกแฉะไปด้วยน้ำใสที่ไหลออกมาจากรูสวาทด้วยความซ่านกระสัน
“ระ...รั่วอิงของข้า”
เวลานี้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในห้วงแห่งความฝัน การได้กอดจูบภรรยาอีกครั้ง ได้ซุกซบไออุ่น สูดดมกลิ่นกายที่แสนคุ้นเคย อีกทั้งมือหนาสากยังได้โลมไล้ไปตามเนื้อนวล นิ้วชี้หมุนวนไปยังไฝเม็ดเล็กๆ ที่ข้อพับแขนของนาง
ไฝเม็ดนี้เขามักจะเขี่ยเล่นเวลานอนหนุนตักภรรยาในสวน เขาจำมันได้อย่างแม่นยำ
ไม่ผิดตัวแน่ นางคือเมียของข้า แต่เหตุใดนางจึงอ่อนเยาว์ขึ้นราวกับเด็กสาว แล้วศพของนางที่เขาเป็นคนฝังเองกับมือนั่นคือสิ่งใดกันแน่ นางคือผีสางหรือว่ามนุษย์ นี่คือสิ่งที่เขาต้องค้นหา แต่ไม่ใช่เวลานี้...
ใบหน้าคมเข้มซุกซบลงไปยังกึ่งกลางทรวงอกอิ่ม สูดดมความหอมหวานละมุนราวกับเกสรดอกเหลียนฮวา ก่อนจะตวัดลิ้นร้อนลามเลียไปยังสองเต้ากลมดั่งหมั่นโถวก้อนโต ห่อลิ้นให้แข็งแล้วดุนดันไปที่ปลายถันสีชมพูระเรื่อ ที่บัดนี้ทั้งบวมเป่งและชี้ชันคล้ายกับจะเชิญชวนให้เขาดื่มกิน
จ๊วบ!
เสียงดูดเลียดื่มกินราวกับหิวกระหายส่งผลให้คนตัวเล็กถึงกับเผลอห่อไหล่ด้วยความซ่านกระสัน ในบางจังหวะก็แอ่นเบียดทรวงอกเข้าหาใบหน้าของเขาราวกับต้องการให้เขาดูดแรงๆ
“อะ...อื้อ อื้อ”
รั่วอิงครางเสียงหลง สองมือกอดก่ายรัดรอบคอแข็งแกร่งของเขาเอาไว้ สะโพกผายยังคงบดเบียดถูไถไปกับลำเอ็นที่แข็งขึง
“อะ...อ๋า อะ...อาห์”
หญิงสาวถึงกับร้องเสียงหลง เมื่อมือหนาสากเลื่อนลงไปบีบสะโพกกลมกลึงอย่างแรง แล้วโดยที่นางไม่ทันตั้งตัวเขาก็สอดนิ้วกลางเข้าไปยังร่องก้น สอดลึกจนปลายนิ้วแหย่เข้ามาถึงรูบุปผา ก่อนจะแยงเข้าไปน้อยๆ แล้วกดแช่ค้างเอาไว้เช่นนั้น
“ทะ...ท่านพี่ อะ...อื้อ คะ...คุณชายเจ้าขา”
นางเผลอครางเรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ ด้วยความคุ้นชินแต่เมื่อสติอันน้อยนิดระลึกได้นางก็รีบเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานเขาว่า ‘คุณชาย’ ทันที
โครม!
ล้อเกวียนดูเหมือนจะตกหลุมจึงทำให้สองหนุ่มสาวที่กอดรัดขึ้นขี่กันอยู่นั้นถึงกับล้มกลิ้งไปยังอีกฝั่งของเกวียน เวลานี้คุณชายหกจึงเป็นฝ่ายคร่อมทับหญิงสาวเอาไว้