เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนหน้าบาร์หรูนั้นตกอยู่สายตาคมกริบของใครคนหนึ่งตั้งแต่เริ่มต้นจนตอนนี้ เขานั่งจิบจินแอนด์โทนิกแล้วมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาสนใจเป็นพิเศษ
สิ่งหนึ่งที่คนตัวโตเริ่มรู้สึกคือ
เขาเจอผู้หญิงเจ้าของด้ายแดงคนนั้นบ่อย และเรื่องราวของเธอค่อนข้างน่าทึ่ง มันชวนติดตามชมว่าจะเป็นอย่างไรต่อ
“ไอ้เรแกนมันใช้แผน ให้คนไปก่อกวนแล้วเข้าไปช่วยสาวอีกแล้ว ผู้หญิงคนไหนเจอแบบนี้เสร็จทุกราย” เพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ตรงข้ามกับเขาเปรยๆ ขึ้นมา แน่นอนว่าพวกเขาเห็นเหตุการณ์แต่แรกแล้วว่าเรแกนกับไอ้คนพาลนัดคิวกันไว้ก่อน
ใช่แล้ว เขาเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
แต่เขาแค่กำลังคิดว่าจะสอดมือเข้าไปแทรกดีไหม แววตาคมกริบของชายหนุ่มกำลังมองอย่างนึกสนุกว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จนสุดท้ายที่หนุ่มแอลจีบีทีมาในชุดใหม่ที่ฟรุ้งฟริ้งน้อยกว่าเดิม เรแกนก็คุยกับแม่สาวด้ายแดงสลับกับเพื่อนเธอด้วยอย่างออกรส เมื่อหญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินมาเข้าห้องน้ำ เธอเดินผ่านหน้าพวกเขาไปแต่ไม่ได้มองมาเลยแม้แต่หางตา เห็นเรแกนมองเธอไปอย่างหมายมาดแล้วคนที่จิบจินแอนด์โอนิกอยู่ก็ลุกขึ้นยืน
เห็นแก่ที่เธอซ้อมผูกด้ายเพื่อขอคู่อยู่ตั้งนาน เขาจะเป็นตัวแทนของเทพเจ้าไปบอกเธอเองว่า คนที่เธอวอนขอไม่ใช่คนนิสัยแบบไอ้หมอนั่นอย่างแน่นอน!
เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วมนัสวีร์ชะงักขาทันทีที่เห็นคนแปลกหน้ายืนขวางทางอยู่ หญิงสาวจะเดินเลี่ยงแต่เขาขยับเข้ามาดักทางเอาไว้จนต้องเผลอมองคนตรงหน้าเต็มๆ ตา
เห็นใบหน้าเนียนเกลี้ยงเหมือนผิวผู้หญิงของเขาแล้วรู้อิจฉา แต่แววตาแน่วแน่ประกอบกับหางตาเฉี่ยวขึ้นทำให้เธอหยุดสายตาสำรวจของตัวเอง
สายตี๋ ไม่ผ่าน ไม่ใช่สเป็ก
“อย่าหลงใหลในตัวเรแกน เขาวางแผนกับหมอนั่นเพื่อเข้าหาคุณ” เขาบอกเป็นภาษาสากล
“ขอบคุณที่บอกค่ะ ฉันไม่หลงใหลในตัวเรแกนแน่นอน หมอนั่นหลงตัวเองมากพออยู่แล้ว” มนัสวีร์ไม่เซอร์ไพรซ์ในสิ่งที่คนตรงหน้าบอกแม้แต่น้อยนิด เธอคิดว่าเรแกนค่อนข้างหลงตัวเองขนาดสั่งเครื่องดื่มให้ยังบังคับโดยไม่ให้เธอเลือกเอง ไม่ดูด้วยว่าเธอกำลังดื่มอะไรอยู่ พอได้คุยก็รู้สึกว่าเขาเจ้าเล่ห์แพรวพราวเกินไปจึงสรุปได้ว่าหน้าตาผ่านแต่นิสัยไม่ผ่าน
หญิงสาวพยักหน้าให้คนตัวโตที่หวังดีเข้ามาบอก แล้วหันหลังให้เขาแบบที่ไม่สนใจอะไรอีก
“เดี๋ยวก่อน” เสียงที่เขาเรียกไว้ทำให้เธอหันมาแล้วก็จ้องหน้าคนเรียกชัดๆ
“ขอโทษนะคะ คุณเองไม่ใช่สเป็กของฉันค่ะ” เธอว่าแล้วก็เดินเชิดออกไปโดยไม่รู้ว่าทำให้ใครบางคนชะงักนิ่งค้างอย่างงุนงงเป็นนาที
คำว่าไปไม่เป็น แปลว่าอะไร เขาได้รู้ซึ้งในนาทีนี้แล้ว
หลังจากคืนที่ไปไนท์คลับผ่านมาได้สักพักหนึ่งแล้วมนัสวีร์ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ลูกรักของเทพเจ้า เธอพยายามอีกหลายอย่างเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอผู้ชาย แบงก์กับแฟนของเขาก็ยังช่วยเหลือหลายอย่าง เรียกได้ว่าแทบจะทำทุกทาง แต่เมื่อมีที่ผ่านเข้ามาเธอก็ปล่อยให้ผ่านออกไปเพราะไม่เคยรู้สึกว่าเป็นคนที่ใช่สักคน
แบงก์เองก็จนใจ
“หรือว่าเนื้อคู่แกไม่ได้อยู่เมืองนี้ ย้ายเมืองดีไหม” แบงก์ถามขึ้นมาในที่สุด
ทั้งการนัดเจอเพื่อนของเพื่อนเพื่อให้พวกเขาได้เจอกัน ไปอยู่ในที่ที่จะมีผู้ชายเข้ามาจีบพวกเขาทำทุกอย่างแล้วแต่ไม่สำเร็จเลย
เมื่อเช้าปู่เธอก็โทรมาสั่งว่ากลับถึงไทยให้โทรหาท่าน เพราะกำหนดกลับของเธอกำลังจะมาถึง แต่ภารกิจหาสามีของเธอยังไม่สำเร็จเลย แม้แต่วี่แววก็ไม่มี
“ลองแอพหาคู่ดีไหม” ร็อบถาม
“แอพหาคู่เหรอ” มนัสวีร์ทวนคำแบบไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก เพราะไม่เคยคิดทำมาก่อน
“คนเราสมัยนี้มันไม่ได้เดินผ่านมุมตึกแล้วเจอกันแล้วเข้าไปทักกันนะ เดี๋ยวนี้ก็รู้จักกันผ่านแอป นัดเดทกัน เดี๋ยวผมกับแบงก์ตามประกบ ไม่อันตรายอะไร อาจจะเจอคนที่ดีก็ได้”
“มิงค์เคยได้ยินว่าแอพเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่นัดกันไปกินกันแซ่บๆ แล้วก็จบกัน ไม่ค่อยมีคนมาหาความสัมพันธ์ที่จริงจัง”
“มันอาจจะมีคนอยากหาคู่แท้อยู่ในนั้นบ้างเหมือนกัน”
“มันไม่น่าจะเวิร์ค ยัยมิงค์ต้องไปคัดกรองเองอีก” แบงก์เองที่เคยใช้แอพหาคู่นัดเดตมามากมายก่อนที่จะเจอร็อบคิดว่าเจ้าตัวไม่ควรไปทางนั้น และที่แน่ๆ มนัสวีร์ค่อนข้างหวงตัว ถ้าจะหาแฟนสายฝ. มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยากหน่อยเพราะสายฝ. เขาชอบอยู่ด้วยกันเพื่อเรียนรู้กันก่อนคบ
มนัสวีร์ถอนหายใจเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกนะ ร็อบ แบงก์ ฉันรู้ว่าพวกเธอพยายามเต็มที่แล้ว ใครคนนั้นอาจจะไม่ได้มาในตอนที่ฉันอยู่อเมริกาก็ได้ เขาอาจจะเป็นคนชาติอื่น” หญิงสาวเริ่มคิดอย่างนี้แล้วเพราะตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเข้าหาเลย เธอมีโอกาสได้พบหนุ่มโสดหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ค้นพบในท้ายที่สุดว่าคนคนนั้นไม่ใช่ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป
“แล้วแกคิดว่าเขาจะเป็นชาติไหน” แบงก์เริ่มคิดแล้วว่าจะต้องพาเพื่อนไปหาสามีที่ประเทศอะไร สามีเขาเป็นนักลงทุนตอนนี้ร่างกายก็เริ่มดีขึ้นแล้ว หากต้องไปทำภารกิจช่วยยัยมิงค์หาผัวที่ประเทศอื่นก็คงไปด้วยกันได้ ขอแค่เพื่อนสาวโสดบอกมาว่าอยากได้ผัวชาติใด เขาพาไปได้หมด
“ผัวฉันน่าจะเป็นคนที่อยู่ในชาติหน้า ชาตินี้คงไม่มี”
ว่าแล้วมนัสวีร์ก็หัวเราะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงเหนื่อยจะช่วยและพยายามจะบอกเธอว่าเขาคนนั้นอาจจะไม่มีอยู่จริงในชาตินี้ด้วยการส่งคนที่ไม่ใช่เข้ามาให้คิดได้...
“ถ้าชาติหน้า แกไปตามหาคนเดียวนะ ฉันไม่ขอช่วย” แบงก์ที่ยังอยากใช้ชีวิตในชาตินี้อยู่บอกเพื่อน
แล้วพวกเขาทั้งสามคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ถึงแม้จะคุยเรื่องเครียดพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะติดตลก เพราะเครียดมากไปก็จะกลายเป็นบ้าเปล่าๆ ปานมาศเคยว่าเอาไว้
สรุปสุดท้ายแล้ว มนัสวีร์ก็เริ่มปลง แม้ความมุ่งมั่นอยากมีผัวจะเกินร้อย แต่ในเมื่อไม่เจอคนที่ใช่เธอก็เลือกที่จะเป็นโสดเพราะไม่คิดจะหาใครสักคนมาอยู่เคียงข้างส่งๆ เพียงแค่ให้ขึ้นชื่อว่ามีผัวกับเขาอยู่แล้ว
ถ้ามีแล้วไม่ได้รู้สึกว่าดีกว่าอยู่คนเดียว ก็โสดมันต่อไปดีกว่า!
และเพราะปล่อยวางเรื่องหาสามีแล้วมนัสวร์เลยใช้เวลาที่เหลือในสถานที่ต่างๆ เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป พอไม่ต้องใช้สายตาเพื่อกวาดหาผู้ชาย และไม่ต้องคอยแต่งตัวสวยเพื่อดึงดูดใคร เธอมีความสุขและเป็นตัวของตัวเองได้ถึงที่สุดจนคิดว่าบางทีการเป็นโสดก็มีความสุขอีกอย่างหนึ่ง
เธอคิดอย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งกลับเมืองไทยแล้วได้มีโอกาสเจอแม่หมอนีราคนที่เคยดูดวงให้เพื่อนในกลุ่มของเธอแล้วเป็นจริงทุกอย่าง
‘คุณมิงก์มีเนื้อคู่แน่นอนค่ะ นีราเห็นคุณมิงค์สวมชุดแต่งงานฟูฟ่อง คู่คนนี้พระท่านให้มาเพราะเคยไปขอไว้’
สิ่งที่เธอโดนอีกฝ่ายทักมานั้นทำให้ไฟแห่งความต้องการมีผัวที่มอดดับไปแล้วลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
ในที่สุดเธอก็วนลูปมาถึงจุดที่อยากมีใครสักคนเคียงข้าง แม้จะยังไม่รู้ว่าจะไปหาคนนั้นได้จากไหน แต่การที่ได้ยินว่าตัวเองจะได้แต่งงานกับคนที่ขอมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นย่อมแปลว่าเธอจะได้แต่งงานกับเนื้อคู่...
มนัสวีร์เริ่มหันกลับมามีหวังว่าจะมีวันนั้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว !