ชายหนุ่มยืนหันหลังอยู่กับระเบียงพยายามโทรหาใครสักคน แต่ดูเหมือนว่าปลายสายนั้นจะไม่ยอมรับสาย เขาดูกระวนกระวาย และสีหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอน คว้าเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองจากนั้นก็เดินลงมาด้านล่าง
"คุณวินคะจะทาน..."
"ไม่ต้องยุ่งกับฉัน เธอจะกินก็กินไปเลยไม่ต้องรอ" เขาตอบกลับมาแค่นั้น น้ำเสียงห้วนๆ เหมือนไม่ค่อยอยากจะสนทนากับเธอสักเท่าไร
หญิงสาวได้แต่ยืนมองผู้เป็นสามีขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอเองก็ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าเขากำลังจะไปไหนในช่วงเวลาเย็นโพล้เพล้แบบนี้
ระหว่างทางอนาวินก็พยายามโทรหาใครบางคนปลายสายอยู่ตลอด เขาร้อนใจยิ่งขึ้นเมื่อคนปลายสายนั้นไม่ยอมรับสายเขาเลย เท้าเหยียบคันเร่งจนแทบจะมิด ไม่นานนักก็มาถึงยังบ้านหลังนึง ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นอยู่ในซอยเล็กๆ
ใช่! นี่เป็นบ้านของแฟนสาวของเขา ซึ่งก็ยังไม่ได้เลิกกัน แต่ทว่าเพราะเขาต้องแต่งงาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอมันจึงต้องจบลง โดยที่เขาเองก็ไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไหร่ด้วย
"สวัสดีครับ"
"มาหาน้ำใสเหรอ?"
"ครับ"
"เข้ามาในบ้านก่อนสิ"
"ครับคุณน้า"
"เราใช่ไหมที่เป็นแฟนของน้ำใส เห็นน้ำใสพูดถึงอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้เจอตัวจริงสักที"
"ใช่ครับ น้ำใสทำอะไรอยู่เหรอครับ ผมโทรหาแล้ว แต่เธอไม่ยอมรับสายเลย"
"....." หญิงวัยกลางคน ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับพาอนาวินเดินเข้าไปในบ้านอย่างเงียบๆ ทุกอย่างในบ้านเงียบกริบ แม้จะมีคนอยู่แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงดังอะไร อนาวินปรายตามองไปที่เด็กวัยรุ่นคนนึงซึ่งเป็นผู้ชายกำลังนอนเล่นเกมอยู่บนโซฟา
"คุณน้าครับ"
"น้ำใสอยู่ในห้องนี้เข้ามาสิ"
"....." พอได้ยินอย่างนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว จะเดินตามเข้าไปก็ยังกลัวภาพที่ตัวเองจะต้องเห็น เขากลัวว่าแฟนของเขาจะเป็นอะไร เธอจะประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้ หรือว่าจะเป็นอะไรไปมากกว่านั้น
"เข้ามาสิ มาหาน้ำใสไม่ใช่หรือไง"
"คะ ครับ" เสียงของหญิงวัยกลางคนดึงสติ อนาวินเดินตามเข้าไปในห้องมืด และภาพต่อมาที่เขาได้เห็นมันก็ทำเอาเขาถึงกับเข่าทรุดเลยทีเดียว
เขาได้เห็นแฟนของเขาจริงๆ แต่เธอไม่ได้อยู่ตัวเป็นๆ มีเพียงกรอบรูปที่ด้านในมีรูปของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส อยู่ด้านหลังโกฐกระดูก ซึ่งยังคงมีพวงมาลัยใหม่ๆ คล้องอยู่เลย
"นะ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ"
"ฟ้าใสตายแล้ว"
"หะ...ห๊ะ?" มันเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออกเลย มันจุกอยู่ในอก เขาทำได้แค่ขยับปากพะงาบๆ ไม่มีเสียงพูดอะไรออกมาเลย ความกล้ำกลืนนั้นมันทรมานเสียจริง
น้ำสีใสเอ่อล้นออกมาจากดวงตาทันที มองดูแฟนสาวที่อยู่เบื้องหน้า และได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย
"ตอนนั้นทุกคนออกไปทำงานกันหมด เจ้านนท์ก็ไปเรียน กลับมาอีกทีก็เจอน้ำใส...ผูกคออยู่ในบ้านแล้ว"
"มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงครับ?"
"น้ำใสรู้ว่าเราแต่งงานแล้วน่ะ ก็เลยตรอมใจ ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน ข้าวปลาไม่ยอมกิน ไม่มีใครคิดเลยว่าน้ำใสจะทำแบบนั้น"
"......" และนั่นก็ทำเอาเขาถึงกับกำมือแน่นด้วยความโกรธ เพราะต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แฟนของเขาถึงได้เสียใจตรอมใจและฆ่าตัวตายแบบนี้
เขาไม่ได้อยากแต่งงานเลย แต่เพราะสถานการณ์มันบีบบังคับให้เขาต้องเลือกอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะทิ้งแฟนของตัวเอง เพราะความวุ่นวายหลายๆ อย่าง เขาถึงไม่ได้ติดต่ออะไรเธอกลับมาเลย
"ตั้งแต่ตอนไหนครับ ทำไมถึงไม่มีใครบอกอะไรผมเลย?"
"อาทิตย์ก่อนน่ะ ที่ไม่ได้บอกเลย...เพราะไม่รู้จะบอกว่ายังไง น้ำใสมันก็คงไม่อยากให้เรารู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น"
"......" อนาวินไม่ได้ตอบ ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ถูกเลย เขาตั้งใจมาหาเพื่อที่จะอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้แฟนสาวเข้าใจแท้ๆ แต่เขาดันมาช้าไป เพราะเธอไม่ได้อยู่รอฟังคำอธิบายแล้ว
"น้ำใสมันรักเรามากนะ มันคงทนไม่ได้แหละ ที่เห็นเราไปแต่งงานกับคนอื่น"
"ผะ ผมขอโทษด้วยนะครับ ตอนนั้นมันวุ่นวายมากจริงๆ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย"
"ช่างเถอะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้น้ำใสมันก็ไปสบายแล้วแหละ มัวแต่มานั่งเศร้ามานั่งร้องไห้กัน มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นหรอก"
"ต่อไปนี้ ผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านของคุณน้า แทนน้ำใสเองนะครับ ผมไม่รู้จะช่วยยังไง ผมขอรับผิดชอบส่วนนี้ แทนน้ำใสเอง"
"จะดีเหรอพ่อหนุ่ม"
"ดีครับ คุณน้าไม่ต้องห่วงเลยนะครับ"
"น้าจะปฏิเสธทันทีเลย ถ้าร่างกายของน้ามันปกติดีกว่านี้ แต่ตอนนี้น้าก็เจ็บออดๆ แอดๆ เจ้านนท์มันก็อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะทำงานได้ ต้องรอมันปิดเทอมเท่านั้นแหละ ถึงจะไปฝากมันเข้าทำงานตามร้านอาหารได้"
"ไม่เป็นอะไรเลยครับคุณน้า ตอนนี้คุณน้าก็ไม่ต้องทำอะไรเลยนะครับ"
"จ้ะ ขอบใจมากนะ"
"ครับ"
หลังจากที่อยู่คุยกับแม่ของแฟนสาวของตนเองได้อีกสักพักนึง อนาวินก็ขอตัวกลับ แต่เขาไม่ได้กลับบ้าน ถึงแม้เขาจะไม่ได้ร้องไห้ แต่ภายใต้สีหน้าที่เรียบนิ่งนั้นมันยังคงซ่อนความเจ็บปวดอย่างหนักหนาสาหัสเอาไว้อยู่
ชายหนุ่มขับรถมุ่งตรงไปยังคลับที่เพื่อนสนิทของตนเองเป็นเจ้าของอยู่ จากนั้นก็สั่งเครื่องดื่มมากมายมานั่งดื่มย้อมใจอยู่คนเดียว เพราะเริ่มกรึ่มเมา ก็มีสาวๆ มานั่งร่วมโต๊ะ แต่แล้วก็ถูกเขาไล่ออกไปคนแล้วคนเล่า จนกระทั่งเพื่อนสนิทของเขาต้องเข้ามาดู
"เป็นห่าอะไรอีกวะ แดกเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า โดนสาวที่ไหนหักอกมาอีกแล้วหรือไงวะ?"
"ไม่ได้โดน แต่แม่งเจ็บยิ่งกว่านั้นอีก!" ว่าแล้วก็กระดกแก้วเหล้าในมือรวดเดียวราวกับน้ำเปล่า
"เฮ้ยๆ เบาดิ มึงขับรถมาเองนะ เมาขนาดนี้มึงจะกลับยังไง"
"ตายไปเลยก็ได้ยิ่งดี กูไม่รู้จะอยู่ไปทำไมว่ะ!"
"ไอ้วิน!"
"น้ำใสตายแล้ว น้ำใสตาย เพราะรู้ว่ากูแต่งงาน เธอเสียใจทนไม่ได้ เธอก็เลยฆ่าตัวตาย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง กูไม่รู้เรื่องเลย กูแค่ติดต่อน้ำใสไม่ได้ ก็เลยไปหาที่บ้าน ถึงได้รู้..." ชายหนุ่มพูดทั้งน้ำตา เวลาคนได้เมาก็มักจะคายความลับออกมาจนหมดเปลือกเลย ไม่ว่าจะเรื่องราวเศร้าๆ ก็จะเล่าออกมาให้คนอื่นรับรู้จนหมด อะไรที่ไม่เคยแสดงให้คนอื่นได้เห็นความอ่อนแอจะปรากฏขึ้นมาทันที
"หึ้ย! เรื่องจริงเหรอวะ?"
"อืม...."