จุดเริ่มต้น
3 เดือนก่อน....
"คริสตัลลล~ มารับแล้วคร้าบผม" ชายหนุ่มเอ่ยเรียกหญิงสาวเสียงเจื้อยแจ้วด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มซึ่งต่างกับหญิงสาวที่ทำสีหน้าเซ็งเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่ม
เขาทำแบบนี้มาสามปีแล้ว เพราะเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันและคอนโดอยู่ใกล้กันเขาจึงคอยมารับมาส่งเธอทุกครั้งที่เธอมีเรียนทั้งทีความจริงเธอมีรถและสามารถขับมาเรียนเองได้
"นายมาอีกแล้วหรอติน? ไม่มีเรียนหรอถึงมีเวลามากวนฉันได้ทุกวันเนี่ย"หญิงสาวเอ่ยถามออกไป
"โถ่ที่รัก เมื่อไหร่เธอจะใจอ่อนกับฉันเนี่ย อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ" เขายังเอ่ยกับเธอด้วยรอยยิ้ม
"นายไม่ต้องยึดติดกับคำพูดนายตอนนั้นก็ได้นะมันผ่านมานานแล้วแถมตอนนั้นนายก็พูดออกมาเพราะนายแค่อกหักด้วย"
"ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลยนี่ที่รัก ฉันมีเวลาตามรับตามส่งเธอได้สบายอยู่แล้วน่า" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
"ยังไงกันจ๊ะคู่นี้ ตามติดกันมาสามปีแล้วเธอยังไม่ใจอ่อนอีกหรอคริสตัล?" เพื่อนของหญิงสาวเอ่ยแซวขึ้นมาทันที
"อย่าไปเชื่อเขาให้มาก มาร์ตินก็นิสัยลั้ลลาแบบนี้มาตั้งนานแล้วแหละ คำพูดเชื่อไม่ค่อยได้หรอก" หญิงสาวรีบหันไปบอกเพื่อนสาวของตนทันที
"จ้าๆ งั้นฉันไปก่อนนะมีนัดกับแฟน ไปแล้วนะไว้เจอกัน" เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันเอ่ยออกมาพลางลุกเดินออกไป ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชายหนุ่มและหญิงสาวเพียงสองคนเท่านั้น
"เลิกทำท่าทางแบบนี้สักทีเหอะ คนอื่นเข้าใจผิดหมดแล้วเนี่ย" หญิงสาวหันมาหน้าบึ้งใส่ชายหนุ่มทันที
"ไม่เอาน่าที่รัก ฉันทำให้เขาเข้าใจถูกต่างหากล่ะ ฉันบอกแล้วว่าจะจีบเธอแต่เธอนั่นแหละไม่ยอมใจอ่อนสักที นี่ขนาดผ่านมาตั้งสามปีแล้วเนี่ย" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพลางย่นจมูกพ่นบมหายใจแรง
"ก็เพราะนายทำตัวแบบนี้ไงคนอื่นถึงคิดไปไกลว่าฉันกับนายไม่ใช่เพื่อนกันเนี่ย แม้แต่รุ่นพี่ของฉันยังเข้าใจว่าฉันกับนายเป็นแฟนกันเลย" หญิงสาวกอดอกพร้อมบ่นอุบ
"เอาน่าๆ ถ้าเธอใจอ่อนเดี๋ยวเธอก็ได้เป็นแฟนฉันจริงๆ แล้วนี่ รีบๆ ใจอ่อนสิจ๊ะที่รัก" ชายหนุ่มยังคงเอ่ยคำกวนประสาทหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี
"ก่อนจะจีบฉันไปจัดการบรรดาสาวๆ ของนายก่อนเลยอันดับแรก บอกยัยพวกนั้นด้วยว่าอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายมากกว่าเพื่อน"
"กิ๊กของฉันคนไหนทำให้เธอไม่พอใจล่ะที่รัก บอกมาได้เลยฉันจะไปจัดการให้ กิ๊กที่มารบกวนที่รักของฉันแบบนี้ เลิกคบๆ"
"เห้อ~ เลิกเรียกฉันแบบนั้นสักทีเหอะ ฉันมีชื่อเป็นของตัวเอง" หญิงสาวกรอกตามองบนขึ้นทันที
"เรียกชื่อไม่ถนัดเรียกที่รักดีกว่าน่า ว่าแต่วันนี้เธอลืมใช่มั้ยว่าเรามีนัดไปลองชุดกันอ่ะ?" ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ที่เขามารับหญิงสาวในวันนี้เพราะทั้งคู่นัดกันจะไปลองชุดที่จะใส่ไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า
"จริงสิ ฉันลืมไปเลย งั้นรีบไปกันได้แล้วเดี๋ยวจะมืดก่อน" หญิงสาวเอ่ยก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืนทันที
"ทีงี้ล่ะรีบเลยนะ" ชายหนุ่มอดขำไม่ได้กับท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า
เมื่อมาถึงร้านทั้งคู่แยกกันไปลองชุดที่จองไว้ โดยธีมของงานแต่งครั้งนี้เป็นธีมเอิร์ธโทน หญิงสาวจึงเลือกชุดเดรสสั้นเกาะอกสีครีมเบจประดับด้วยไข่มุก
หญิงสาวเกล้าผมขึ้นสูงพร้อมลองตกแต่งเครื่องประดับไข่มุกที่เขาชุดกันตามที่ร้านจัดมาให้และยืนมองตนเองภายในกระจกอย่างพึงพอใจ
"แต่งหน้าให้หวานนิดๆ น่าจะเข้ากับลุคนี้นะ" หญิงสาวเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากห้องลองชุด
เมื่อเปิดม่านออกมาก็พบกับชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำตาลอ่อนนั่งอยู่โซฟา เขาจ้องมองหญิงสาวที่เปิดผ่านมาานออกมาอย่างไม่อาจละสายตาได้
เรียวขายาวที่โผล่พ้นเดรสสั้นสีเบจ ผิวที่ขาวเนียนละเอียดบวกกับเครื่องประดับไข่มุกที่เสริมออร่าความสวยให้กับเธอทำให้เธอสวยจนไม่อาจหันไปมองทางอื่นได้เลย
"สวยมากที่รักฉันเชื่อว่าคืนวันงานเธอจะสวยที่สุดอย่างแน่นอน" ชายหนุ่มเอ่ยชมหญิงสาวออกมาทันทีในขณะที่ยังจ้องมองมาที่เธออยู่
หญิงสาวเหลือบมองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปสนใจชุดที่ตนเองใส่อยู่โดยไม่ลืมที่จะถ่ายรูปลงในไลน์กลุ่มของตนและแก๊งเพื่อนสาวสมัยมัธยม
ฮันนี่: โห~ คริสตัลเธอสวยมาก!
ริเรีย: กินขาดสุดๆ เธอจะสวยแซงเจ้าสาวเลยมั้ยเนี่ย?
บราวนี่: ยังไงบราวนี่ก็สวยกว่าอยู่ดี
เธออ่านข้อความของบราวนี่พลางขมวดคิ้วเอะใจว่าคนที่ตอบนั้นน่าจะไม่ใช่เจ้าตัวแน่ๆ
คริสตัล: บราวนี่ไปไหน?
บราวนี่: แพ้ท้องหนัก หมอกำลังตรวจอยู่
ชัดเจนแล้วว่าคนที่พิมพ์ตอบมานั้นคือเลโอเจ้าบ่าวที่หญิงสาวกำลังจะไปร่วมงานแต่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ในอดีตเธอนั้นแอบชอบเลโอมาโดยตลอดตั้งแต่ม.4 แต่เลโอนั้นกลับไม่ได้คิดกับเธอเช่นนั้น จนกระทั่งช่วงม.6 หญิงสาวตัดสินใจบอกความรู้สึกออกไปแต่กลับถูกเขาปฏิเสธเพราะเขานั้นรักเพื่อนสนิทของเธอนั่นก็คือบราวนี่มาก่อนแล้วนั่นจึงทำให้เธอเริ่มตัดใจแม้จะยากไปบ้างแต่ตลอดระยะเวลาสามปีมานี้เธอนั้นไม่ได้รู้สึกเกินเลยใดๆ กับเลโออีกแล้ว
หญิงสาววางมือถือลงข้างตัวก่อนจะลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดนักศึกษาตามเดิม โดยมีชายหนุ่มที่พามานั้นเดินกลับเข้าห่องลองเสื้อไปเปลี่ยนชุดเดิมแล้วเดินออกมา
"ฉันหิวอ่ะ เธอหิวหรือยังจ๊ะที่รัก?" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงเช่นเคย ต่างจากหญิงสาวที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทางเพราะรู้สึกเป็นห่วงว่าที่เจ้าสาวที่กำลังแพ้ท้องหนัก
บราวนี่เพื่อนของเธอโดนทำร้ายเมื่อสามปีก่อนจากเหตุทะเลาะกันของเลโอและคู่อริจนความจำเสื่อม กระทั่งตอนนี้ความทรงจำก็ยังไม่กลับมาแม้จะพาไปรักษาไกลถึงต่างประเทศ หมอเลยลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าความทรงจำของบราวนี่นั้นน่าจะหายไปอย่างถาวรแล้ว
บราวนี่ใช้ชีวิตอยู่กับเลโอที่ต่างประเทศจนกระทั่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังจะมีพยานรักร่วมกัน ทีแรกทางครอบครัวเลโออยากจะให้จัดงานแต่งที่โน่นเลยเพราะไม่อยากให้บราวนี่ต้องเดินทางไกลแต่เลโอเห็นว่าเพื่อนและครอบครัวของบราวนี่อยู่ที่นี่เขาจึงตัดสินใจบินกลับมาจัดงานแต่งที่นี่แทน
"คริสต์...คริสตัล!" ชายหนุ่มสะกิดเรียกหญิงสาวอยู่พักใหญ่แต่หญิงสาวนั้นเอาแต่นั่งนิ่งจนชายหนุ่มขับรถเข้ามาจอดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแล้วเอ่ยเรียกเะออีกครั้ง
"ตะโกนทำไม อยู่ในรถแค่นี้" หญิงสาวสะดุ้งจากภวังค์ทันทีพร้อมทั้งหันไปทำหน้ามุ่ยใส่ชายหนุ่มข้างกาย
"เธอนั่งเหม่อมาตั้งนานถามอะไรก็ไม่ตอบ ฉันเรียกเธอตั้งหลายรอบแล้วนะ" ชายหนุ่มหน้ามุ่ยกลับทันทีพลางหันมาจ้องหน้าหญิงสาว
"จ้องอะไรเล่า? แล้วนายมาห้างทำไมจะซื้อของหรอ?" หญิงสาวเอ่ยถามทันทีเมื่อหลบเลี่ยงสายตาของชอยหนุ่มแล้วมองออกไปด้านนอกจึงพบว่าตอนนี้รถจอดอยู่ในลาดจอดรถของห้างสรรพสินค้า
"ฉันหิว และฉันถามเธอว่าหิวมั้ยแต่เธอก็เอาแต่เงียบฉันเลยแวะเข้ามาเองเลย ตกลงอยากกินอะไรดีจ๊ะที่รัก หรือจะกินฉันดี?" ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มกวนขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้กวนโมโหหญิงสาว
"กินข้าวย่ะ!" หญิงสาวหันไปตอบชายหนุ่มพลางกรอกตามองบนอย่างเอือมระอาในความมั่นหน้าและกวนบาทาของชายหนุ่ม
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วชายหนุ่มจึงขับรถมาส่งหญิงสาวที่หน้าคอนโดทันทีและในขณะที่หญิงสาวกำลังจะเปิดประตูลงจากรถนั้นเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มกดรับสายพร้อมกับเอ่ยเสียงเย้าหยอกกับปลายสายอย่างมีความสุข หญิงสาวมองดูการกระทำของชายหนุ่มก็รู้ว่าเขากำลังคุยกับหนึ่งในบรรดาสาวๆ ในสต็อกของเขา ซึ่งผู้หญิงพวกนี้บางคนก็ตามมารบกวนเธอเพราะคิดว่าหญิงสาวนั้นจะมาแย่งชายหนุ่มไปจากพวกเธอ ซึ่งสร้างความรำคาญให้หญิงสาวเป็นอย่างมาก
หญิงสาวกำลังจะเปิดประตูลงจากรถเพราะไม่อยากรบกวนการคุยโทรศัพท์ของเพื่อน แต่ก็โดนชายหนุ่มรั้งแขนเอาไว้เธอจึงหันไปมองเขาด้วยความสงสัย
"เดี๋ยววันงานจะมารับนะที่รัก ตอนนี้ต้องไปแล้วมีนัดกับกิ๊ก ที่รักอย่าหึงนะ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มกวน
"จะไปก็ไปเหอะ อีกอย่างเลือกสักคนในนั้นเป็นแฟนนายสักที จะได้ไม่ต้องมายัดเยียดสถานะปลอมๆ ที่ฉันไม่อยากได้นี่กับฉัน"หญิงสาวเอ่ยตอบกลับก่อนที่เธอจะเปิดประตูรถลงมาและก้าวเดินเข้าคอนโดไปโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองชายหนุ่มภายในรถเลยแม้แต่น้อย
ช่วงเวลาก่อนวันงานนั้นหญิงสาวมีเรียนแทบจะทุกวัน โชคดีมากที่เพื่อนนั้นเลือกที่จะแต่งงานช่วงที่หญิงสาวเคลียร์งานส่งอาจารย์เสร็จพอดีไม่อย่างนั้นหญิงสาวอาจจะพลาดไปงานสำคัญของเพื่อนก็เป็นได้
แม้ช่วงเวลานี้หญิงสาวจะปลีกตัวออกมาไม่สุงสิงหรือไปไหนมาไหนกับชายหนุ่มตามที่เขาชวนเธอเพราะต้องรีบเคลียร์งานแต่ชายหนุ่มนั้นก็ยังรักษาความสม่ำเสมอที่จะมารับมาส่งเธอไม่ขาด
จนเพื่อนๆ ในกลุ่มของหญิงสาวแซวทุกครั้งเมื่อเจอหน้าชายหนุ่ม แต่แทนที่เธอจะรู้สึกขัดเขินที่โดนเพื่อนแซวเธอกลับรู้สึกรำคาญชายหนุ่มที่เอาแต่ใจตัวเองโดยไม่สนใจว่าเธอจะอัดอึดไหมแบบนี้มากกว่า
วันงานแต่ง....
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดพร้อมกับชุดที่มาลองไว้ในครั้งก่อนชุดเดรสสั้นเกาะอกสีครีมเบจพร้อมกับเครื่องประดับไข่มุก ทำให้หญิงสาวดูสวยหวาน ดวงตาสวยคมของเธอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีโทนหวานทำให้ใบหน้าหญิงสาวยิ่งดูสวยหวานยิ่งขึ้น
เมื่อแต่งตัวเสร็จหญิงสาวเดินออกมาจากห้องแต่งตัวทันทีและพบว่าชายหนุ่มนั้นแต่งตัวเสร็จแล้วและนั่งรออยู่พร้อมกับคุยโทรศัพท์พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่เพียงคนเดียวซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าเขาคงจะคุยกับสาวของเขาไม่คนใดก็คนหนึ่ง
เมื่อชายหนุ่มมองเห้นว่าหญิงสาวยืนมองเขาอยู่ ชายหนุ่มรีบกดวางสายและลุกขึ้นเดินมาหาหญิงสาวทันที
"วันลองชุดว่าสวยแล้ว วันนี้เธอสวยกว่าวันนั้นอีกนะเนี่ย หนุ่มๆ ในงานต้องมองเธอตาค้างแน่เลยที่รัก แบบนี้ฉันก็หึงเธอแย่สิ"
เขาพินิจพิจารณาหญิงสาวก่อนจะเอ่ยคำกวนเธอออกมา นั่นทำให้ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวมองบนขึ้นอย่างเอือมระอาทันที
ทั้งคู่เดินทางมายังโรงแรมที่จัดงานทันทีหลังจากที่เสียเวลาแต่งตัวอยู่หลายชั่วโมง หญิงสาวเดินเข้ามาในงานและตรงดิ่งไปยังห้องของเจ้าสาวทันที
บราวนี่เพื่อสนิทของเธอในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา พร้อมกับเพื่อนอีกสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแต่แยกย้ายกันไปเรียนคนละที่นานๆ ครั้งถึงจะได้นัดพบกันครบสามคนแต่บราวนี่นั้นย้ายไปรักษาตัวที่ต่างประเทศตั้งแต่เรียนจบนี่จึงเป็นการพบหน้ากันหลังจากนั้นสามปี
"ว้าว! คริสตัล เธอสวยมากอย่างกับเจ้าหญิงเลย ไม่เสียแรงที่เคยเป็นดาวมหาลัยมาก่อน" เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาฮันนี่เพื่อนสนิทคนแรกของเธอก็เอ่ยปากทักพร้อมกับทำตาลุกวาวทันที
"เธอจะสวยแย่งซีนเจ้าสาวเลยหรอคริสตัล? ไม่ได้สิงานวันนี้บราวนี่ต้องสวยที่สุดนะ" ริเรียเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มเอ่ยแซวขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มมาให้เธอ
"พวกเธอก็เว่อร์ไป เราแต่ละคนก็สวยกันทุกคนนั่นแหละน่า ยังไงซะในสายตาของเลโอบราวนี่ของเราก็สวยที่สุดอยู่แล้วน่า" หญิงสาวเอ่ยชมเพื่อนกลับพลางจ้อมมองไปที่เจ้าสาวที่นั่งยิ้มมองเพื่อนทั้งสามคุยกันอยู่
"อาการดีขึ้นมั้ย? อาทิตย์ก่อนเลโอบอกว่าเธอแพ้ท้องหนัก" หญิงสาวเอ่ยทักเจ้าสาวทันที วันนี้แม้บราวนี่จะสวยมากแต่สีหน้าเธอก็ยังดูซีดเซียวเล็กน้อยอยู่ดี
"ดีขึ้นมากแล้วจ้ะ ขอบคุณทุกคนนะที่มาในวันนี้" บราวนี่เอ่ยเสียงหวานออกมา
ในบรรดากลุ่มของหญิงสาวนั้นบราวนี่เป็นคนที่ดูนุ่มนิ่มน่ารักน่าถนุถนอมที่สุดแล้วพวกเธอจึงรักและถนุถนอมบราวนี่กันมากๆ เหมือนน้องสาวประจำกลุ่มเลยก็ว่าได้ น่าเสียดายมากที่ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาทั้งหมดนั้นบราวนี่จำไม่ได้ซะแล้ว..
ไม่นานนักพิธีต่างๆ ก็เริ่มขึ้นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวยืนเด่นตระหง่านอยู่กลางงานท่ามไฟแสงไฟที่สาดส่องไปยังทั้งคู่ เมื่อถึงช่วงเวลาที่คู่บ่าวสาวต้องออกมากล่าวความรู้สึกในใจของตน ทำให้หญิงสาวรับรู้ได้ว่าเพื่อนทั้งสองของตนนั้นรักกันหวานซึ้งเพียงใด
หญิงสาวนั้นแอบรู้สึกอิจฉาอยู่ภายในใจเล็กน้อยที่เพื่อนของเธอต่างก็พบเจอกับความรักดีๆ กันทุกคน ต่างจากเธอที่ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสพบเจอใครคนนั้นสักทีเพราะตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมานั้นมาร์ตินก็เอาแต่ตามติดเธอจนไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าหาเธอสักคน
ความสนุกเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่งานพิธีทุกอย่างผ่านพ้นไปเหลือเพียงแต่อาฟเตอร์ปาร์ตี้เท่านั้น บรรดาแขกผู้ใหญ่ในงานต่างพากันทยอยกลับจนเกือบหมดแล้วเหลือไว้เพียงแขกที่ยังเป็นวัยรุ่นซึ่งก็คือบรรดาเพื่อนๆ ของคู่บบ่าวสาวนั่นเองที่กำลังสนุกกับเสียงเพลงและเครื่อมดื่มในมือของแต่ละคน ส่วนเจ้าบ่าวนั้นหลังจากเสร็จพิธีก็พาเจ้าสาวกลับไปพักทันทีเพราะอาการแพ้ท้องกำเริบ
"คริสตัลลลล~ ทำมายยยย หน้าเธอแดงอ่าา~" ฮันนี่เอ่ยถามหญิงสาวด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและเสียงที่หย่อนยานบ่งบอกถึงระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่เกินลิมิตไปมาก
"เธอก็ด้วยยย~ หน้าแด๊งงงงแดงงงง~" หญิงสาวปรือตาเอ่ยออกไปทั้งรอยยิ้มและเสียงที่หย่อนยานไม่แพ้กัน ในขณะที่ริเรียเพื่อนอีกคนในกลุ่มนั้นฟุบลงโต๊ะไปแล้วเรียบร้อย
"พวกเธอเมามากแล้วนะ กลับกันไปแล้ว" นิวเยียร์และชายหนุ่มอีกสองคนเดินมาหาพวกเธอพร้อมกับพูดขึ้น พวกเขาเองก็เมาไม่แพ้กันแต่ก็ยังพอจะมีสติมากกว่าหญิงสาวทั้งสามคนที่อยู่บนโต๊ะตอนนี้
"ไปฮันนี่กลับ" นิวเยียร์พยุงแฟนสาวของตัวเองให้ยืนขึ้นแต่ฮันนี่นั้นกลับทรงตัวไม่อยู่เขาจึงตัดสินใจอุ้มเธอออกจากงานไป
"มึงเมากว่าพวกกูแน่ใจนะว่าจะพาคริสตัลกลับไปส่งได้?" สิงโตเอ่ยกับชายหนุ่มที่หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ตรงหน้าในขณะที่ค่อยๆ ช้อนตัวแฟนสาวของตนอุ้มขึ้นเพื่อพากลับไปห้องพักที่เขาจองไว้ในโรงแรมนี้
"ไหวเว้ย! เมาแค่นี้เอง~ คอนโดอยู่ใกล้นิดเดียวสบายมากกกก" ชายหนุ่มยกนิ้วโป้งให้กับเพื่อนก่อนที่จะประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นแล้วพาเดินออกจากงาน
ชายหนุ่มประคองหญิงสาวขค้นรถมาได้สำเร็จ แม้เขาจะมึนหัวมากแต่ก็ยังสามารถประคองสติให้ขับรถกลับมาถึงคอนโดของหญิงสาวที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมที่จัดงานมากเท่าไหร่นักได้
ชายหนุ่มควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าของหญิงสาวจนเจอก่อนจะพาเธอขึ้นลิฟท์มายังห้องของเธอได้สำเร็จ
ฟุ่บ! ชายหนุ่มวางหญิงสาวลงนอนบนเตียงทันทีเมื่อเข้ามาถึงภายในห้องนอนของเธอ เขาเองก็เวียนหัวไม่แพ้กันจึงนั่งลงบนเตียงข้างๆ กายของหญิงสาวก่อนจะเอนกายลงนอนข้างเธอ
"นายยย~ มาทำไมอ่ะ?"หญิงสาวปรือตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงแรงยวบของเตียงก่อนจะหันไปเอ่ยถามคนที่นอนอยู่ข้างๆ
"ออกไปเลยย~ เพราะนายย ชอบมาวุ่นวายยยยืฉันถึงม่ายมีแฟนสักที~" หญิงสาวเอ่ยออกมาพลางชี้ไปที่หน้าของชายหนุ่ม
"เธอก็มาเป็นแฟนฉันสิที่รักกก~" ชายหนุ่มเอ่ยกวนเธอออกไปแม้เขาจะเมาแต่เขาก็ยังพอที่จะมีสติอยู่บ้าง
คำตอบของชายหนุ่มที่ให้หญิงสาวหน้ามุ่ยทันที เธอคะแคงตัวไปผลักชายหนุ่มลงจากเตียงแต่ด้วยแรงอันน้อยนิดบวกกับความเมาทำให้การของเธอทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้เลย
แต่กลับกันท่าทางของหญิงสาวตอนนี้กับทำให้ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในกาย เพราะสภาพของเธอในตอนนี้ช่างยั่วยวนเขาเสียเหลือเกิน
ใบหน้าที่แดงก่ำจากความเมา ตาปรือ ริมฝีปากบางน่าสัมผัส รวมถึงการที่เธอตะแคงมาผลักเขานั้นทำให้เขามองเห็นหน้าอกของเธอขยับไปมาจนเขาแทบจะละสายตาไม่ได้และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่
เขากำลังมีความต้องการกับเธอ!
ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสติเพื่อที่จะไม่ให้คิดเกินเลยไปมากกว่านั้นและคว้าข้อมือของหญิงสาวก่อนจะคร่อมตัวเธอไว้พลางตรึงเธอให้นอนอยู่นิ่งๆ เหมือนเดิมเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องสนใจหน้าอกคู่นั้นของเธอ
แต่เหมือนเขาจะคิดผิดเพราะยิ่งเขาได้สัมผัสตัวเธอนั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาเตลิดไปกว่าเดิม กลิ่นหอมบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จากกายของหญิงสาวลอยมาปะทะกับจมูกของเขาเต็มๆ
"ปล่อยยยย~" หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงยานพลางดิ้นเล็กน้อย ใบหน้าแดงของเธอย่นจมูกเล็กน้อยอย่างขัดใจพลางช้อนสายตาคู่สวยจ้องมองชายหนุ่มที่อยู่บนกายตน
ความน่าหลงใหลของสาวสวยตรงหน้าบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในกายทำให้สติการยั้งคิดของชายหนุ่มหมดลงทันที
"อื้อออออ...." ชายหนุ่มก้มลงทาบทับริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากบางของหญิงสาว ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปตวัดเก็บเกี่ยวความหวานจากโพรงปากของหญิงสาวทันที
มือของเขาเลื่อนจากข้อมือของเธอมาบีบขยำหน้าอกกลมคู่สวยก่อนจะดึงเสื้อส่วนที่เป็นเกาะอกลงจนเผยให้เห็นหน้าอกคู่กลมอันน่าสัมผัสเต็มตา
"อื้อออ!" หญิงสาวมีปฏิกิริยาขัดขืนตามสัญชาตญาณแต่ด้วยความเมาทำให้เธอไม่อาจจะขัดขืนสัมผัสจากชายหนุ่มบนร่างได้เลย
พรึ่บ! เขาจัดการถอดเดรสของเธอออกและโยนมันลงข้างเตียงไปตามด้วยสูทและเชิ้ตของเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาสนใจร่ายกายที่ปราศจากเสื้อผ้าของหญิงสาวตรงหน้าต่อ
"อ๊ะ..." หญิงสาวหายใจหอบแรงขึ้นเมื่อชายหนุ่มบนร่างก้มลงดูดดื่มยอดอกของเธอพลางใช้มือขยำอีกข้างหนึ่งไปพร้อมกัน ส่วนมืออีกข้างของเขานั้นเลื่อนลงไปสัมผัสจุดสงวนของเธอทันที
"อื้อออออ~" หญิงสาวส่งเสียงพร้อมกับบิดกายไปมาทันทีเมื่อนิ้วของชายหนุ่มค่อยๆ แทรกเข้าไปในช่องทางรักของเธอ มือน้อยๆของเธอกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมด
เมื่อเห็นอาการของหญิงสาวยิ่งทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มพลุ่งหล่าน เขาจัดการถอดกางกางของตัวเองออกจนเผยให้เห็นลูกรักของเขาที่พร้อมทำศึกเต็มที่
ชายหนุ่มดึงนิ้วออกจากช่องทางรักของหญิงสาวทันทีก่อนที่เขาจะแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางตัวของเธอ
ด้วยอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านทำให้เขาก้มลงประกบปากเธออีกครั้งพร้อมกับจับแก่นกายของเขาค่อยๆ ดันเข้าไปในกายเธออย่างยากลำบากเขาจึงผละออกจากริมฝีปากเธอแล้วก้มลงมองดูลูกชายของเขาที่กำลังขยับเข้าไปในกายของเธอทีละนิด
"อื้ออออออ! เจ็บ...."หญิงสาวตัวเกร็งทันทีกับสิ่งแปลกปลอมที่ค่อยๆ แทรกเข้ามาในกายเธอ และด้วยความใจร้อนของชายหนุ่มทำให้เข้าไม่รีรอหรือเล้าโลมเธอให้มีอารมณ์ร่วมกับเขาเสียก่อน
สวบบบ! ชายหนุ่มรั้งเอวบางของหญิงสาวไว้แน่นก่อนจะกระแทกแก่นกายของเขาเข้ามารวดเดียวทันที กึ้ด!เขารู้สึกได้ถึงเยื่อบางๆ ในช่องทางของหญิงสาวในขณะที่กระแทกผ่านเข้าไป
"กรี๊ดดดดด" หญิงสาวกรีดร้องออกมาด้วยใบหน้าที่เจ็บปวดก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มลงมาทาบทันริมฝีปากเธอเพื่อชิมความหวานอีกครั้ง
ปึก! ปึก! ปึก!
เอวสอบของชายหนุ่มเริ่มขยับเข้าออกตามอารมณ์ของเขาที่มี มือของเขาบีบขยำอกคู่กลมของหญิงสาวในขณะที่ลิ้นร้อนของเขายังคงชิมความหวานอยู่ในโพรงปากของเธอ
ชายหนุ่มกระแทกเข้าออกจามจังหวะจนใกล้จะถึงฝั่งฝัน เขาเลื่อนมือลงมารั้งเอวเธอไว้อีกครั้งก่อนจะเร่งจังหวะกระแทกจนตัวของหญิงสาวขยับตามจังหวะที่เขากระหน่ำใส่เธอ
"อ่า..." ชายหนุ่มครางออกมาในลำคอก่อนที่เขาจะกระตุกและปลดปล่อยความต้องการของออกมาเข้าสู่โพรงกายสาวของเธอจนหมด
เขาถอดถอนแก่นกายออกพร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างกายของหญิงสาวที่บัดนี้เธอหลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยล้าบวกกับความเมา
รุ่งเช้า...
"อือ....โอ๊ย..." หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นแต่ก็ต้องร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อเธอขยับตัว และเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตนนั้นนอนอยู่บนเตียงด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่าโดยมีผ้าห่มคลุมไว้และข้างกายของเธอนั้นมีชายหนุ่มนอนหลับอยู่ร่องรอยบนร่างกายและความปวดร้าวบริเวณจุดสงวนทำให้เธอเข้าใจทันทีว่าเมื่อคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเธอ
ในขณะที่หยัดตัวลุกขึ้นนั่งน้ำตาของเธอไหลออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าเธอถูกพรากความสาวไปโดยชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของเธอ
"คริสต์..."เสียงของชายหนุ่มข้างๆ ทำให้เธอหันหน้าไปมองเขาทั้งน้ำตาในขณะที่ชายหนุ่มค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งข้างเธอ
"ฉันจะรับผิดชอบเธอเอง" ชายหนุ่มเอ่ย
แต่นั่นไม่ใช่ความต้องการของเธอ ในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาจากความเมาของทั้งคู่ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันจะเป็นเพียงแค่วันไนท์สแตนเท่านั้นจะไม่มีเกิดขึ้นต่อจากนี้ทั้งนั้น
หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยบอกความคิดนี้กับชายหนุ่มก่อนที่เธอจะขอให้ชายหนุ่มกลับไปก่อนเพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขาในวันนี้ซึ่งชายหนุ่มแม้ทีแรกจะไม่ยอมไปแต่เพราะเธอบอกเขาอย่างเด็ดขาดว่ายังไม่อยากคุยเรื่องนี้ ชายหนุ่มจึงยอมกลับไปแต่โดยดี
หญิงสาวนั่งมองคราบเลือดของตนเองบนที่นอนพร้อมกับร้องไห้ออกมาก่อนที่จะรีบปรับตัวให้เป็นปกติและออกไปหาซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินเพื่อป้องกันผลกระทบจากเรื่องเมื่อคืนและหญิงสาวไม่เคยคิดเลยว่าเพราะเรื่องในคืนที่ผ่านมานี้จะทำให้ชายหนุ่มนั้นตัวติดและตามเธอมากยิ่งกว่าเดิมจนถึงตอนนี้