ตอนนี้เราอยู่กันบนเรือค่ะ ใช่ค่ะ ฟังไม่ผิด เรากำลังอยู่กันบนเรือการมาของเราครั้งนี้ค่อนข้างจะทุลักทุเลนิดหน่อย ก็เพราะว่ารถของคุณเตมินทร์เขามีแค่สองที่นั่งเท่านั้น เด็กๆ เลยต้องแบ่งกันโดยที่นั่งบนตักเธอคนนึง และนั่งบนตักของคุณเตมินทร์เขาคนนึง ตอนแรกเธอบอกให้มานั่งกับเธอทั้งสองคนเลย แต่คุณเตมินทร์ไม่ยอม เขาบอกว่าไม่อยากเอาเปรียบเธอมากเกินไป
อีกอย่าง เขาไม่ยอมขับรถของเธอด้วยนะบอกเพียงแค่ว่าเด็กๆ ไม่คุ้นเคยเดี๋ยวจะเมารถเอาได้ กลายเป็นว่าเธอต้องทิ้งรถไว้ที่โรงเรียนแล้วอาศัยรถของเขามา ตอนแรกเธอเข้าใจว่าคงจะแค่ไปกินข้าวปกติตามประสาคนอื่นที่ไปกินอะไรนิดๆ หน่อยๆ ในห้างฯ แต่ใครจะคาดคิดล่ะว่า กินข้าวกับเขามันจะต้องหรูหรา อะไรขนาดนี้
"เมาเรือรึเปล่าครับ"
"ไม่ค่ะ พี่เตมากินที่นี่บ่อยเหรอคะ"
"ครับ มาทุกวัน สองแสบชอบอาหารที่นี่ แล้วก็ยังมีที่เล่นด้วย มีคนช่วยดูเด็กๆ ผมก็ทำงานไปด้วยได้อย่างไม่มีอะไรให้ห่วง"
"อ่อ" แอบแห้วแฮะ คิดว่าพามาเพราะว่าเธอมาด้วยซะอีกที่ไหนได้เขามากันทุกวัน! แต่วันนี้สายตาของพนักงานสาวที่มองมามันแปลกๆ ไปนะ ดูคนนั้นสิ เดินมาแล้วคงจะเป็นผู้จัดการร้านเธอเดาเอาจากการแต่งตัว
"ผม"
"คะ"
"ผมสูบบุหรี่ได้มั้ยครับ" หยอกสักหน่อยดีกว่า
"สูบได้ค่ะ แต่ช่วยแทนตัวเองว่าพี่ได้มั้ยคะ" ก็แบบนี้มันดูห่างเหินเกินไป เธอไม่ชิน หรือเธอขอมากไป เขาไม่ตอบแต่กลับหยิบเอาซองบุหรี่ที่วางเอาไว้บนโต๊ะออกมาเคาะที่มือแค่ทีเดียวแล้วหยิบมวนเล็กๆ ออกมาพร้อมกับจุดไฟสูบเอาสารนิโคตินเข้าปอด
"สวัสดีค่ะคุณเตมินทร์"
"เอ่อ..." พนักงานคนนั้นหันมามองที่เธอ เหมือนกับว่าจะถามว่าควรจะเรียกเธอว่าอะไร
"ตาหวานค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณตาหวาน ไม่ทราบว่าคุณเป็น"
"ผมเอาเหมือนเดิมเด็กๆ ด้วย หวานกินอะไรเลือกเลยครับ" พนักงานสาวยังพูดไม่ทันจบคุณเตมินทร์ก็ปล่อยควันขาวแล้วหันมาเลื่อนเมนูให้กับเธอ ตาหวานมองดูเมนูละลานตา เธอเงยหน้ามองเจ้ามือครู่เดียวเห็นเขายิ้มให้ เธอก็เลย
"หวานสั่งได้ทุกอย่างเลยเหรอคะพี่เต"
"ครับ"
"หวานกินเก่งมากเลยนะคะ"
"หวานกินไหว พี่ก็จ่ายไหว" พี่! เขาแทนตัวเองว่าพี่ อร๊าย! ตาหวานเลื่อนเมนูขึ้นมาบังหน้าของตัวเองเพราะว่าเขิน ท่ามกลางสายตาที่เตมินทร์มองมา และพนักงานที่มองทั้งคู่อีกด้วย
ปกติเตมินทร์จะมาที่นี่แค่เพียงกับลูกชายสองคน เขาจะนั่งอยู่ตรงนี้ที่เดิม และมีพี่เลี้ยงที่เขาจ้างมาดูแลเด็กๆ เป็นพิเศษในระหว่างที่เขากำลังนั่งอยู่ที่นี่ เขาจ้างให้มาดูแต่ตอนที่ลูกชายของเขาเล่นซนเท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องกินข้าวเด็กๆ ต่างก็รู้งานกันดี แต่วันนี้เหมือนจะมีอะไรแปลกไป
เมื่อคุณเตมินทร์พาผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มานั่งร่วมโต๊ะ อีกอย่างเขาก็เป็นที่ชื่นชอบไม่ว่าจะพนักงานสาว หรือไม่สาว โสด และไม่โสด บางทียอดขายของที่นี่ดีขึ้นก็เพราะเขาอีกด้วย เมื่อมีบางคนโพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่าเจอคุณเตมินทร์ที่นี่ทุกวันเวลานี้ ลูกค้าสาวๆ ที่อยากทอดสะพานต่างก็ตบเท้าเข้ามาเพื่อรอเจอเขา บ้างก็พยายามจะเข้ามาพูดคุยแต่ไม่เป็นผล บ้างก็ขอแค่มอง เชื่อไหมว่าแค่ปรายตามองคุณเตมินทร์ก็ยังไม่ทำเลย แต่กับผู้หญิงคนนี้ เขาพูดจาหยอกล้อด้วย และสายตาอ่อนโยนนั่นอีก
"หม่ามี้~ / หม่ามี้~"
สองแสบวิ่งมาแล้วยืนโอบตาหวานอยู่ข้างๆ เธอทั้งสองคน ส่งสายตาไม่ชอบใจไปให้พนักงานสาวที่จ้องมองว่าที่หม่ามี้ของพวกเขานานเกินไป
"เล่นเหนื่อยแล้วเหรอคะ"
"ยังค้าบบบ~"
"เอ… แต่อาหารยังไม่มาเลยนะ หิวกันแล้วเหรอ"
"รอได้ค้าบบบบ" น่ารักจัง ถ้าได้เป็นลูกชายจริงๆ ขึ้นมาก็คงดีสินะ ตาหวานลูบหัวเด็กทั้งสองคนพร้อมกับหันไปสั่งอาหารสองสามอย่าง แล้วยื่นเมนูคืนให้กับพนักงานสาวที่ต้องมองเธออยู่ด้วยแววตาตกใจ
หม่ามี้งั้นเหรอ?
หรือว่าเธอเป็นแม่ของลูกเขากันนะ?
"ว่าไง สรุปใครรู้มั้ย"
"นั่นสิ ใครกันที่กล้ามานั่งกับคุณเตมินทร์ของพวกเรา"
"ฉันก็ไม่แน่ใจนะว่าเธอเป็นใครอะ แต่ได้ยินเด็กๆ เรียกเธอว่าหม่ามี้ คุณเตมินทร์เองก็ไม่ได้ค้านอะไรด้วย"
"อย่าบอกนะว่า พวกเราอกหักแล้วอ่ะ"
"อะไรกันๆ ไปทำงาน มานินทาลูกค้าได้ยังไง"
ภาพชายหนุ่มที่พ่นควันขาวออกมาจากปากสีชมพูอยู่ในสายตาของหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา แม้บรรยากาศบนโต๊ะจะเงียบและไม่ได้หวานอย่างที่เธอคิดเอาไว้ แต่แค่ได้มีโอกาสมานั่งกินข้าวกับเขาแค่นี้เธอก็พอใจแล้ว สายตาของเธอจ้องมองไปที่ริมฝีปากสีชมพูนั่น ใจเธอก็อยากจะชิม อยากจะสัมผัสมันจะแย่ ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าเธอจะชอบเขามากมายขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธออาจจะแค่เข้าใจไปว่าเธอชอบคนหล่อทุกคน แต่เปล่าเลย เขาพิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้ชอบคนหล่อทุกคน แต่เธอชอบเขาต่างหาก
ตาหวานตัดสินใจลุกขึ้นยืน เธอสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกความกล้า หันไปมองทางที่เด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ แล้วตัดสินใจเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงบนตักของเขา
"หวานครับ"
หัวใจของเธอมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา เธอแสร้งทำหูอื้อไม่ฟังเสียงที่เขาเรียกเธอเพื่อจะห้ามปราม ในเมื่อเธอมาขนาดนี้ ถ้าวันนี้ไม่ได้เขาทำผัวล่ะก็ เธอขอแค่จูบเดียวก็ยังดี
"หวาน"
สองมือหนาจับประคองเอวบางของเธอเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าเขาจะยกเธอออก ผลักเธอ หรือจะกดเธอเอาไว้แต่ที่แน่ๆ เขาเองก็จ้องตากับเธออยู่เหมือนกันในตอนนี้ ด้วยความที่เธอตัวเล็กกว่าเขามากนัก ยามที่นั่งบนตักแกร่งของเขามันเลยทำให้เธอสูงกว่าเขาเพียงนิดหน่อย และใช่แล้วล่ะ เธอได้เปรียบ
"หวานครับ"
เรียกอยู่นั่นแหละ เธอนั่งขนาดนี้แล้วยังไม่รู้หรือไงว่าเธอต้องการอะไร เขาต้องจูบเธอสิ มองเข้ามาในตาเธอ แล้วแนบริมฝีปากกับเธอ
กลิ่นบุหรี่หอมจางๆ จากลมหายใจของเขา เธอมองเขาผ่านม่านหมอกควัน แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่น่าอายที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ตาหวาน โอบรอบลำคอของเขา แล้วเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากลงไปแทน
"หวะ!"
เขาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าเขาเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะจูบเธอเลย เพราะเขาไม่ขยับ แต่กลับนิ่งจนเธอต้องเป็นฝ่ายนำทางเอง ไม่นานนักความรู้สึกผิดหวัง อับอายก็เข้ามาแทนที่ ตาหวานผละตัวออก สองแขนยังโอบรอบลำคอของเขาสองสายตาประสานกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานจนกระทั่ง
"หวานครับ อาหารมาแล้ว รีบกินสิกำลังร้อนๆ เลย"
"อ้าว"
"ครับ? "
"หวานนั่งตรงนี้ตลอดเลยเหรอคะ"
"ครับ นั่งมองพี่เหมือนจะกินพี่เลย"
ใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อถูกเขาพูดแซว ตาหวานรีบก้มหน้าแล้วลุกขึ้นเธอเดินออกไปตามสองแสบให้เข้ามานั่งกินข้าวด้วยกัน โดยไม่รู้เลยว่าพ่อของเด็กๆ กำลังแอบยิ้มลับหลังเธอ
ก็เธอตลกน่ะ เธอน่ะ ไม่เก็บอาการอะไรเลย เขาเห็นตั้งแต่เธอจ้องเขาจนตาหวานเยิ้ม เขาพยายามเรียกเธอหลายครั้ง เธอก็ยังจ้องเขาแล้วยิ้ม บ้างก็หรี่ตาลงแล้วเลียกลีบปากของตัวเอง บ้างก็ทำสีหน้าหดหู่ผิดหวังจนเขานึกเป็นห่วง มองไปมองมาเธอก็
น่ารักดี
"ใต้นั่งกับหม่ามี้ได้มั้ยค้าบบบ~"
"เหนือนั่งด้วยได้มั้ยค้าบบบ~"
"ก็ได้ค่ะแต่ว่าต้องมีคนป้อนข้าวครูนะคะ"
"ให้ปะป๊าเป็นคนป้อนนน~"
ทิศใต้ยิ้มตาหยี ตาหวานเดินไปรับสองหนุ่มรุ่นเล็ก เดินจูงมือพากันมาถึงที่โต๊ะอาหาร เธอนั่งลงฝั่งตรงข้ามของเตมินทร์ แล้วอุ้มทิศใต้ขึ้นตัก ส่วนทิศเหนือนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เธอ
"อ้าว ไปนั่งตรงนั้นกันหมดเลย ไม่มีใครอยากนั่งกับปะป๊าเลยเหรอ"
"พี่ใต้อยากนั่งกับหม่ามี้"
"พี่เหนือก็จะนั่งกับหม่ามี้ค้าบบบ~"
"งั้น ปะป๊าไปนั่งกับพี่เหนือได้มั้ยครับ"
"ปะป๊าก็อยากนั่งกับหม่ามี้เหรอ"
เด็กน้อยนี่ก็ช่างชงจริงๆ โตขึ้นต้องเป็นบาริสต้าแน่ๆ ชงเก่งชงเข้มขนาดนี้ สงสัยต้องซื้อขนมติดตัวให้มากกว่านี้หน่อยแล้ว ตาหวานแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เธอเลื่อนจานอาหารของเด็กๆ มาตรงหน้า แล้วก็ตักป้อน คนพี่ คนน้อง และตัวเองสลับกัน กระทั่ง…
ครืด~
เก้าอี้ที่ทิศเหนือนั่งเลื่อนออก และร่างเล็กก็ลอยขึ้นเหนือพื้น คนเป็นพ่อมานั่งที่ของลูกชายคนโตซึ่งนั่งข้างๆ เธอ ไม่ใช่ฝั่งตรงข้ามเหมือนตอนแรก แล้วจับเจ้าคนโตนั่งลงบนตักแกร่ง
"ผมช่วยครับ"
ผม อีกแล้ว เดี๋ยวดีดปากแตกเลย! เธอเผลอตวัดสายตาไม่พอใจไปที่พ่อม่ายยังหนุ่ม และเหมือนกับว่าเขาจะรู้ตัวด้วยนะ เพราะว่าเขาหันมาป้อนข้าวให้กับเจ้าคนน้อง แต่สายตาของเขามันดันเหลือบมองที่เธอแทน
"หวานยังไม่ได้กินเลยนี่ ให้พี่ใต้ป้อนมั้ย"
ทำไมไม่บอกว่าให้พี่ป้อนมั้ยล่ะ! อยากรู้จริงๆ โตมาแบบไหน มีเมียได้ไง ลูกสองคนนี้เกิดจากการทำเองโดยธรรมชาติ หรือเกิดจากหลอดแก้วกันคะ!
"หรือจะให้พี่หนะ…"
"พี่เตจะป้อนหวานเหรอคะ ดีเลยค่ะ หิวพอดี" เธอฉีกยิ้มแฉ่ง มองเขาด้วยสายตาซุกซนปนทะเล้น และเขาก็ดูนิ่ง แต่เธอได้ดูใกล้ๆ แบบนี้แล้วก็รู้เลยว่า เขากำลังเก็บอาการอยู่
"ฮั่นแน่"
"อะไรครับ พี่เหนือ"
"เหนือรู้นะ ปะป๊าใจบางใช่ม้ายยย~"
"อย่ามาพูดมั่ว กินข้าวไปเลย"
ไม่รู้ว่าเขินหรืออะไร เตมินทร์ตักข้าวป้อนลูกทั้งสองคนด้วยตัวเอง ป้อนเสียจนลูกๆ ไม่มีโอกาสได้พูดออกมาอีก เพราะในปากมีแต่ข้าวเต็มไปหมด
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ"
"พรุ่งนี้หวานต้องไปกี่โมงครับ"
ขณะที่ถามสายตาก็สอดส่องไปทั่วคอนโดของเธอ ก่อนจะมาหยุดลงที่ใบหน้าหวานๆ ของเธออีกครั้ง
"หกโมงเช้าหวานต้องถึงแล้วค่ะ หวานต้องไปเตรียมงานประชุมผู้ปกครอง"
"เดี๋ยวพี่มารับครับ หวานไม่มีรถนี่"
"อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหวานเรียก…"
"เดี๋ยวพี่มารับเองครับ หวานเป็นถึงเพื่อนของน้องสาวพี่นะ อีกอย่างเป็นครูของเด็กแสบอีกด้วย พี่จะปล่อยให้หวานลำบากได้ยังไง" เอะอะก็เพื่อนน้องสาว เอะอะก็ครูของเด็กแสบ เดี๋ยวอีกหน่อยจะเป็นเมียพี่ให้ดู!
"หวานจะรอนะคะ" เธอส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้ ทั้งๆ ที่ในหัวสมองมีแต่เรื่องร้ายกาจเต็มไปหมด
"พี่เตคะ"
"ครับ"
"ชั้น 35 ห้อง 35/15 นะคะ" คิดว่าเธอจะให้รอข้างล่างเรอะ ฝันไปเถอะ!
"หวาน"
"บายค่ะ" ปล่อยให้พ่อม่ายยังหนุ่มอึ้งกับการทอดสะพานอย่างโจ่งแจ้งของเธอด้วยอาการเขินอาย เขามองเธอจนเดินหายเข้าไปในคอนโดก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบัง