ตอนที่ 9

1192 Words
บทที่ 9 “ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธฉันได้เลยสักคน” วาจาหยิ่งผยองแสนอวดดีของผู้ชายที่กำลังลูบไล้ไปทั่วสัดส่วนอวบอัดไม่ได้ทำให้ญานิดามีแรงต่อต้านมากกว่าเดิมเลย แต่ทว่ามันกลับลดน้อยถอยลงอย่างน่าหดหู่ใจ แถมเจ้าความรู้สึกบางอย่างที่หล่อนพึ่งค้นพบว่ามีก็กำลังคุกรุ่นอยู่ในอก “รวมทั้งเธอด้วย ญานิดา” และทุกอย่างก็หยุดหมุนอีกครั้ง เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวดุดันกดทับลงมา เขาดูด เขากลืน เขาไล้เลียกลีบปากสาวด้วยลีลาช่ำชอง มันดื่มด่ำซาบซ่านจนกายสาวสั่นระริก ความตื่นเร้าปลุกปั่นอยู่ในเรือนกาย เลือดสาวเดือดพล่าน ร้อนฉ่า จนเผลอจูบตอบจุมพิตหนักหน่วงนั้นออกไปด้วยกิริยางกเงิ่น แต่ไอ้อาการไร้เดียงสาแบบนี้ยิ่งเพิ่มเชื้อไฟให้กับลูเซียสมากขึ้นทวีคูณ ชายหนุ่มบดขยี้จนหนำใจ ค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปในอุ้งปากหวานของสาวน้อยที่ระทดระทวยอยู่บนตักอย่างกระหายจัด ดื่มด่ำอยู่กับความหวานล้ำปานน้ำผึ้งป่าอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะยุติทุกอย่างลงอย่างเสียดาย เมื่อรถใกล้จะเลี้ยวเข้าสู่ประตูใหญ่ของสายการบินของตัวเอง มือใหญ่ยกร่างงามที่อ่อนปวกเปียกลงจากตัก ก่อนจะเอื้อมไปกดปุ่มเพื่อสั่งคนขับรถเสียงพร่าติดกระด้าง “จอดรถตรงนี้” รถหยุดเคลื่อนที่ตามคำสั่งทันที และสายตาคมกล้าลึกล้ำก็ตวัดมองมา ญานิดาหน้าลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ยังกรุ่นอยู่ในอก หัวใจกำลังจะละลายกับความวาบหวามที่เกิดขึ้น เนื้อตัวร้อนผ่าวราวกับกำลังจับไข้ “ลงไปซะ ฉันไม่อยากให้ใครเห็นเธอลงจากรถของฉัน” น้ำเสียงอำมหิตจนหญิงสาวรู้สึกสะท้อนอยู่ในอก น้ำตาซึมขอบตา ทั้งอับอาย ทั้งขายหน้าจนไม่อาจจะทนสู้สายตาคมๆ ของคนใจร้ายได้อีกต่อไป มือบางลนลานควานหาที่เปิดรถ และเมื่อพบก็เปิดมันออกไป ก่อนจะก้าวลงไปจากรถทันที โดยไม่คิดจะหันกลับมามองลูเซียสแม้แต่นิดเดียว ‘จะต้องมองทำไมล่ะ คนใจร้ายแบบนี้ เขาบังคับให้หล่อนขึ้นรถมาด้วย และก็จูบหล่อนราวกับตายอดตายอยากมาจากไหน จากนั้นก็ไล่หล่อนลงจากรถอย่างใจดำ เพียงเพราะไม่ต้องการเสียชื่อเสียงของตัวเอง ผู้ชายคนนี้อำมหิตเหลือเกิน หล่อนจะไม่มีวันอยู่ใกล้ๆ เขาอีก’ พยายามซ่อนน้ำตาเอาไว้สุดฤทธิ์ ขณะมองตามรถคันหรูที่ตัวเองพึ่งถูกถีบลงมาด้วยความเจ็บช้ำ มือบางกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะรีบก้าวยาวๆ เดินเข้าไปในที่ทำงานของตัวเองทันที หล่อนต้องทำให้ได้แบบลูเซียส ต้องทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้จะทำได้ไม่ดีนักก็ตาม “นิดา มากับท่านประธานเหรอ” เสียงสดใสที่เต็มไปด้วยความแปลกใจของอังศุมาลิน พนักงานฝ่ายบุคคลเพื่อนสนิทของตัวเองดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาในตัวตึกใหญ่ของที่ทำการสายการบินแล้ว ญานิดารีบปั้นยิ้ม ค่อยๆ หันหน้าไปหาเพื่อนสาวคนสวย “ปะ...เปล่านะ ไม่ใช่” คิ้วโก่งดังคันศรของอังศุมาลินที่อยู่เหนือดวงตากลมโตหวานซึ้งเลิกขึ้นน้อยๆ ก่อนที่เรียวปากอิ่มเต็มสีแดงสดที่อยู่ใต้จมูกโด่งเชิดงดงามจะเอื้อนเอ่ยคำพูดที่เต็มไปด้วยความสงสัยออกมา “อ้าวเหรอ งั้นเมื่อกี้อังคงมองผิดไป เอ่อ แล้วนั่นปากไปโดนอะไรมาหรือนิดา” ญานิดาหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับละล่ำละลักแก้ตัวออกไปอย่างมีพิรุธ “หกล้ม นิดาหกล้มจ้ะ” แม้จะไม่อยากเชื่อนัก แต่อังศุมาลินก็เลือกที่จะพยักหน้าออกไป “อืม แล้วนี่หายาทาหรือยังล่ะ อังพาไปห้องพยาบาลเอาไหม” ญานิดารีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ต้องหรอกจ้ะ เดี๋ยวก็คงหายแล้ว” อังศุมาลินพยักหน้ารับหงึกๆ เลิกเซ้าซี้เพื่อนรัก ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยในทันที “แล้วเย็นนี้นิดาจะไปเป็นเพื่อนอังหรือเปล่า” “ไปไหนหรืออัง?” ญานิดาระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นเพื่อนรักทำหน้าตึง “อย่าทำหน้าบึ้งสิจ๊ะ นิดาแค่ล้อเล่น จำได้สิว่าวันนี้อังต้องไปแอบมองพ่อหนุ่มขายผักสุดหล่อ” แก้มสาวของอังศุมาลินแดงก่ำเมื่อได้ยินคำแซวจากปากของเพื่อนรัก “อย่ามาล้ออังนะ ตัวเองไม่หลงรักใครบ้างก็ให้มันรู้ไป เอ่อ...ลืมไป นิดามีพี่กรรชัยเป็นคนรักแล้วนี่นา” คำพูดของเพื่อนสนิททำเอาญานิดาต้องพ่นลมออกจากปากแรงๆ “อังก็รู้ว่านิดาไม่ได้รักพี่ชัย ที่ยอมคบด้วยก็เพราะบุญคุณ” อังศุมาลินเห็นเพื่อนหน้าเศร้าก็ตัดบท “เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ ว่าแต่ห้ามลืมนัดของอังนะ ไปทำงานก่อน แล้วเย็นนี้ค่อยเจอกัน” “ไปเถอะจ้ะอัง นิดาก็ต้องขึ้นไปที่แผนกบัญชีเหมือนกัน” สองสาวโบกมือให้กัน ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ลูเซียสนั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง ตอนนี้หัวใจและร่างกายของเขาเข้าขั้นวิกฤตเสียแล้ว ไม่ว่าจะมองอะไรก็เห็นเป็นหน้าของญานิดาเสียหมด “ยายบ้า นี่เธอทำอะไรกับฉันนะ” คำรามออกมาอย่างเดือดดาล นึกเกลียดชังตัวเองยิ่งนัก ที่วันนี้ก็ไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ จูบเจ้าหล่อนอีกแล้ว และท่าทางเจ้าความใฝ่ต่ำน่ารังเกียจนี้จะไม่ยอมหยุดลงง่ายๆ ด้วย เพราะร่างกายยังเรียกร้องหาผู้หญิงที่ชื่อญานิดาไม่ยอมหยุด แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า เจ้าหล่อนไม่คู่ควรกับผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างตัวเองสักนิดก็ตาม มือใหญ่เข้าหากันแน่น ก่อนจะฟาดแรงๆ ลงบนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน หัวใจร้อนระอุจนไม่อาจจะฝืนนั่งทำงานได้ต่อไปอีก ลูเซียสลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวอ้อมโต๊ะทำงานไม้โบราณขนาดใหญ่ออกมา มุ่งหน้าตรงไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว มือใหญ่กระชากบานประตูออกจากกันแรงๆ ก่อนจะก้าวเดินออกไปทันที “คุณเอมี่ ตามผมลงไปที่แผนกบัญชีหน่อย” “ไปแผนกบัญชี? ท่านประธานต้องการอะไรด่วนหรือคะ ให้ดิฉันลงไปหยิบให้...” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกตัดบทเสียงกระด้าง “ผมบอกให้ตามผมมา หูแตกหรือไง” “ค่ะๆ ท่านประธาน” ชายหนุ่มคำรามออกมาเสียงไม่พอใจ ก่อนจะก้าวยาวๆ มุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ส่วนตัวของตัวเองเพื่อลงไปยังแผนกบัญชีที่อยู่ชั้นสามทันที เอมี่รีบวิ่งใช้ลิฟต์สำหรับพนักงานที่อยู่อีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็วเพื่อตามเจ้านายเจ้าอารมณ์ของตัวเองลงไปทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD