ตอนที่ 2

1220 Words
แข้งขาสั่นเทาขึ้นมาดื้อๆ เมื่อมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของผู้ทรงอำนาจสูงสุดแห่งเมเนนเดซแอร์เวย์อย่างลูเซียส เมเนนเดซ ผู้ขึ้นชื่อลือชาในความเอาแต่ใจและโหดร้ายสุดๆ ก็คงเพราะอย่างนี้ล่ะมั้ง ทุกคนในแผนกบัญชีรวมถึงผู้จัดการถึงได้ส่งพนักงานตัวเล็กๆ อย่างหล่อนให้ขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้ที่ได้รับฉายาว่าอสูรร้ายแห่งเอเธนส์อย่างไร้เมตตา “อ้าว ทำไมคุณหญิงถึงไม่ขึ้นมาเอง ให้นิดามาแทนได้ยังไงเนี่ย” เอมี่ร้องถามออกมาอย่างไม่พอใจนัก เมื่อเห็นสาวน้อยหน้าหวานที่เป็นเพียงพนักงานบัญชีเล็กๆ เป็นคนหอบแฟ้มงบดุลขึ้นมา แทนที่จะเป็นทิชากรผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน แล้วนี่จะคุยกับท่านประธานของหล่อนรู้เรื่องได้ยังไง “เอ่อ...คือว่า...” คำพูดสั่นๆ ยังดังออกมาจากกลีบปากอิ่มสีแดงสดไม่ทันจบ ประตูห้องก็เปิดออกมาเสียก่อน พร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่อย่างผู้ชายสุขภาพดีก็เดินออกมา ทุกอย่างในโลกเหมือนหยุดเคลื่อนไหว เมื่อสายตาคมกล้าดุจพญาเหยี่ยวหรี่แคบมองจ้องมา เลือดสาวภายในกายร้อนผ่าวเดือดพล่านอย่างรุนแรง มันรุนแรงมากกว่าการเจอกันโดยบังเอิญเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเสียอีก เพราะครั้งนั้นแค่ระยะไกลๆ แต่นี่ ตอนนี้ ขณะนี้ มันใกล้แค่ไม่กี่ก้าว จนหล่อนมองเห็นความอำมหิตจากนัยน์ตาสีดำขลับซึ่งมีแพขนตายาวงอนล้อมรอบอยู่ได้อย่างชัดเจน และมันก็ทำให้ช่องท้องของหล่อนอึดอัดปั่นป่วนแปลกประหลาด หญิงสาวหายใจหอบสะท้าน เมื่อสติสตังถูกความหล่อเกินมนุษย์ของบุรุษตรงหน้าหอบไปทิ้งทะเลจนหมด อยากจะเดินหนี อยากจะวิ่งหนี ให้พ้นจากสายตาที่เต็มไปด้วยความเลือดเย็นคู่นี้ แต่แข้งขาก็ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ทำได้แต่ยืนสั่นๆ มองสำรวจใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมสมบูรณ์แบบต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก และก็เหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในคลื่นยักษ์บ้าคลั่ง เมื่อสายตาเลื่อนต่ำจากจมูกโด่งเป็นสันงามแบบผู้ดีของลูเซียสลงมาที่ริมฝีปากบางเฉียบสีสด สมองไม่รักดีจินตนาการภาพน่าละอายขึ้นมาได้อย่างน่ารังเกียจ ภาพที่ริมฝีปากสวยๆ คู่นี้ประทับลงมาบนเรียวปากอิ่มเต็มที่ยังไม่เคยถูกชายใดสัมผัสมาก่อนเลยในชีวิต แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าคนรักอย่างกรรชัย ‘น่าเกลียดที่สุด เธอคิดอย่างนี้ได้ยังไงนะญานิดา คิดได้ยังไง มันน่าละอาย น่าสมเพช เธอมีกรรชัยอยู่แล้วทั้งคนนะ ถึงแม้เขากับเธอจะไม่ได้หวานชื่นเหมือนคนรักคู่อื่นๆ ก็เถอะ และที่สำคัญที่สุดก็คือเธอกับลูเซียสมันคนละเกรดกัน โลกของเขาสมบูรณ์แบบ ขณะที่โลกของเธอกลับเต็มไปด้วยความยากแค้นเข็ญใจ’ “จ้องท่านประธานอย่างนั้นได้ยังไงญานิดา” เสียงเลขาฯ ของผู้ชายตัวโตตรงหน้าช่วยปลุกให้หญิงสาวได้สติ แก้มสาวแดงก่ำ ก้มหน้ามองพื้นห้องด้วยความอับอาย “เอ่อ...คือว่า...ดิฉันขอ...โทษ” “ช่างเถอะเอมี่ ให้ผู้หญิงคนนี้นำเอกสารเข้ามาให้ผมในห้องด้วย” เสียงกระด้างที่บอกให้รู้อย่างชัดเจนว่า เขาเคยชินกับการถูกมองแบบจะกลืนกินอย่างนี้ของสตรีมามากมายแค่ไหน ทำให้ญานิดายิ่งหน้าร้อนผ่าว จำต้องเม้มปากแน่นเพื่อข่มความอดสูลงไปในอก “แต่ว่า...น้องคนนี้ไม่ใช่ผู้จัดการฝ่ายบัญชีนะคะ อาจจะตอบคำถามของท่านประธานไม่ได้” เอมี่ค้านเสียงเป็นกังวล “ผมอ่านงบเป็น ไม่จำเป็นต้องมีใครมาอ่านให้ฟัง ทำตามที่ผมบอก! เอมี่” น้ำเสียงทรงอำนาจที่บ่งบอกความเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ ของลูเซียสทำให้เอมี่ต้องก้มหน้ารับคำสั่งอย่างไม่อาจขัดขืนได้ “ค่ะท่านประธาน” ลูเซียสระบายยิ้มหยันที่มุมปาก ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องทำงานดั่งเดิม เสียงปิดประตูห้องเบาๆ ดังออกมาพร้อมกับเสียงถอนใจอย่างโล่งอกของเอมี่ “เข้าไปได้แล้วนิดา และอย่าไปเผลอตัวจ้องมองท่านประธานแบบนั้นอีกล่ะ เพราะดีไม่ดีจะถูกไล่ออกเอาง่ายๆ รู้ใช่ไหมนิดาว่าท่านประธานไม่ชอบให้ใครทอดสะพานให้” คำเตือนแกมดูถูกของเลขาฯ สูงวัยกว่าทำให้ญานิดาอายแทบแทรกแผ่นดินหนี หากออกจากงานแล้วมีเงินใช้ไม่ขัดสนละก็ หล่อนคงวิ่งหนีไปแล้ว แต่นี่ทำไม่ได้ ถึงแม้จะถูกเหยียดหยามแค่ไหน แต่เงินก็สำคัญที่สุดในชีวิตของหล่อนและแม่ “เอ่อ...ค่ะพี่เอมี่” เอมี่พยักหน้ารับ ก่อนจะเร่งให้หญิงสาวที่สวยตามธรรมชาติ เพราะใบหน้าของเจ้าหล่อนไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย นอกจากแป้งเด็กบางๆ ในสายตาผู้ชายบางคนอาจจะมองว่าจืดชืด ไม่น่าพิสมัย แต่ในสายตาของเอมี่แล้ว ญานิดางดงามหาที่ติไม่ได้ เข้าไปหาลูเซียส “เข้าไปเถอะ ท่านประธานไม่ชอบรอใครนานๆ” “ค่ะ” มือบางที่สั่นไม่ต่างจากหัวใจค่อยๆ ยื่นไปกำลูกบิดเอาไว้ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปในปอดแรงๆ เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ตัวเองกำลังจะเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ผู้หญิงในโลกเฝ้าฝันถึง แต่มันหาใช่ในสถานการณ์น่าดีใจแม้แต่น้อย หล่อนอาจจะถูกเขาเชือดคอได้ง่ายๆ หากทำไม่ถูกใจผู้ชายอำมหิตคนนี้ “เร็วเข้าสิ เคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปเลย” เสียงเอมี่เร่งอยู่ด้านหลัง ทำให้หญิงสาวจำต้องดึงประตูให้เปิดออก ก่อนจะก้าวยาวเข้าไปในห้องทำงานของผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งเมเนนเดซแอร์เวย์อย่างรวดเร็ว ความโอ่อ่าทิ่มแทงเข้ามาในสายตาอย่างรุนแรงจนแทบจะสิ้นการทรงตัว ตั้งแต่พื้นที่ยืนอยู่ที่ถูกปูด้วยพรมอย่างดีหนานุ่ม เก็บเสียงฝีเท้าได้ยอดเยี่ยมนัก โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ล้วนแต่เป็นของมียี่ห้อที่หล่อนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลยในชีวิต แต่สิ่งรอบตัวก็ดูจะแสนธรรมดาลงไปในพริบตา เมื่อสายตาของญานิดาประสบเข้ากับร่างกำยำที่ยืนหันหลังให้อยู่ที่บานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ที่มีผ้าม่านสีทองราคาแพงระยับถูกรวบไว้ที่ด้านข้างทั้งสอง เสื้อเชิ้ตสีไข่ไก่ขนาดพอดีตัวแนบชิดกับแผ่นหลังกว้างกำยำจนไม่อาจซ่อนกล้ามเนื้อสมบูรณ์เอาไว้ได้ ไหล่กว้างขวางสง่างามช่างบ่งบอกได้ดีเหลือเกินว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งน่าเกรงขาม ช่วงขาเพรียวกำยำซ่อนอยู่ในกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำสนิท ญานิดาอยากรู้เหลือเกินว่า ยามที่เหล่าทวยเทพทั้งหลายบรรจงปั้นแต่งผู้ชายคนนี้ขึ้นมา พวกท่านใช้มนต์วิเศษอันใด ทำไมลูเซียส เมเนนเดซถึงได้หล่อเหลากระชากวิญญาณได้ถึงเพียงนี้ หล่อจนเหมือนไม่ใช่มนุษย์จริงๆ หากแต่เป็นเทพบุตรบนชั้นฟ้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD