“เท่าที่อีฟเล่าให้ฟังน้องที่รักเป็นลูกคุณหนูใช่ไหมครับ” ระหว่างทางเดินไปที่ลานกิจกรรม ความอยากรู้ของแม็กซ์ทำให้เอาน้องรหัสของตัวเองมาอ้าง ซึ่งก็เป็นพี่รหัสของที่รัก
“นี่พี่อีฟพูดถึงที่รักแบบนั้นเหรอคะ” เธอไม่เคยวางตัวว่าฉันรวยนะ อย่าคิดมายุ่งกับฉัน เรื่องทำนองนั้นที่รักไม่เคยทำสักครั้ง ทำไมพี่รหัสถึงได้เอาเธอไปพูดทำนองเสียหายกัน
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดครับน้องที่รัก พี่แค่สื่อความหมายไม่เป็น คือพี่จะถามว่าน้องที่รักอยู่ที่นี่ได้ใช่ไหมครับ ลำบากอะไรหรือเปล่า”
“พี่แม็กซ์ไม่ต้องเกรงใจที่รักเพียงเพราะว่าคุณปู่ของที่รักเป็นเพื่อนกับท่านอธิการบดีนะคะ อีกอย่างที่รักอยู่ได้ค่ะ ไม่ใช่ลูกคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น” ชัดเจนสิ เธอต้องชัดเจน เพราะยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหา’ลัยแห่งนี้อีกหลายปี
“อ่า งั้นพี่ต้องขอโทษด้วยนะครับถ้าทำให้น้องที่รักรู้สึกไม่ดี” พี่แม็กซ์เจื่อนยิ้มให้ที่รัก ภายในใจครุ่นคิด ผู้หญิงอะไรดุเป็นบ้า
“พี่แม็กซ์เข้าใจก็ดีแล้วค่ะ พี่แม็กซ์เป็นสายรหัส รบกวนฝากบอกทุกคนด้วยนะคะว่าไม่ต้องเกรงใจที่รัก ขอให้เกี่ยวกับเรื่องเรียนที่รักเต็มที่ค่ะ”
“ครับ” ดูเหมือนว่าความอยากรู้ของพี่แม็กซ์จะจบแค่ตรงนี้น่ะสิ “น้องที่รักครับ พี่ขอถามหน่อยสิ”
“อะไรคะ”
“น้องที่รักสวยแบบนี้พี่น้องคงสวยไม่ต่างกันใช่ไหมครับ”
“ที่รักเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้องค่ะ” คำตอบของน้องตรงจังหวะกับที่พี่นั่งดีดกีต้าร์อยู่คนเดียว
“คือพี่แค่สงสัยนึกว่าน้องที่รักกับไอ้ฟ้าเป็นญาติกันหรือเปล่า เห็นว่าไอ้ฟ้านามสกุลเดียวกับน้องที่รัก”
“เขาแค่ยืมใช้ค่ะ ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใช้แล้ว เราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ” หนึ่งอาทิตย์หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้นสายฟ้าขอไทเกอร์เปลี่ยนมาใช้นามสกุลของปุ้ย บอดี้การ์ดคนสนิทของไทเกอร์ แรก ๆ ไทเกอร์ไม่ยอม ทว่าพอคิดไปคิดมา เลี้ยงแบบเปิดมาตลอด ก็ต้องยอมอยู่ดี บังคับลูกไปลูกจะไม่มีความสุข และบางทีการเปลี่ยนนามสกุลก็อาจจะมีอะไรดี ๆ ในวันข้างหน้า
“อ่า ครับ” แม็กซ์หันมาเจื่อนยิ้มให้สายฟ้า โชคดีไอ้ฟ้า น้องเกลียดมึงจริง ๆ แล้ว
นมร้อนถูกชงแล้วยื่นมาให้ที่รัก เธอนั่งเก้าอี้ที่พี่แม็กซ์เอามาให้รับแก้วนมมาเป่า จิบเบา ๆ “นมนี่พวกพี่พกมาด้วยเหรอคะ”
นมยี่ห้อนี้ที่รักดื่มประจำ มีติดตู้เย็นที่บ้านตลอด ปกติจะแช่เย็น พอดื่มร้อน ๆ ก็ยังหอมอยู่ดี ชื่นใจจัง
“อ่าครับ พกมา” พกมาให้น้องคนเดียวอะครับ คนอื่นไม่ได้กินหรอก เกิดเป็นไอ้แม็กซ์นี่ลำบากจริงเว้ย เนียนได้เท่าที่เนียนนะไอ้ฟ้า ช่วยได้เท่าที่ไหว
ไม่เข้าใจว่าพี่น้องคู่นี้ทะเลาะอะไรกัน ทำไมน้องที่รักถึงได้เมินสายฟ้าเพื่อนของเขาแบบนี้ ทางด้านเพื่อนก็เหลือเกิน ห่วงน้องสาวอย่างกับอะไร แต่แปลกที่ไม่ออกตัวปกป้อง ไหนว่าโตมาด้วยกัน ไหนเคยพูดว่าน้องเป็นแสงสว่างเดียวในชีวิต
เสียงดีดกีต้าร์เคล้าบรรยากาศเวลากลางคืนที่ลมพัดเอื่อย ช่วยจรรโลงใจได้เป็นอย่างดี
“น้องที่รักมีแฟนยังครับ” ขอแยบสักหน่อยเถอะ ถึงคนอื่นจะคิดว่าเขาพยายามจีบน้อง ทว่าความจริงมันไม่ใช่
“ไม่ค่ะ ยังไม่เจอคนถูกใจ” ถ้ามาตรฐานคนแรกตั้งไว้สูง คนต่อ ๆ ไปที่จะรักมันยิ่งยาก
“พี่ไงครับ พี่เป็นไง ถูกใจพี่ไหม”
“มั่นใจเหรอคะว่าคนที่พี่แม็กซ์ชอบคือที่รัก เราจะลองคบกันก็ได้นะคะ ถ้าพี่แม็กซ์ไม่กลัวจะเสียอีกคนไป” ที่รักหันมายิ้มแล้วยกนมขึ้นดื่ม
“งั้นถือว่าพี่ไม่เคยพูดเรื่องนี้นะครับ” พูดพลางยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ เอากับน้องสายรหัสเถอะ ชักจะรู้มากเกินไปแล้ว ทีเจ้าตัวกลับไม่รู้อะไรเลย
“ที่รักขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับนม” อยู่ตรงนี้นาน ๆ ไม่ได้แล้วสิ ถ้าคนที่ดีดกีต้าร์อยู่ไม่ใช่พี่สายฟ้า ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก บรรยากาศมันคงจะดีเอามาก ๆ ไม่นอนทั้งคืนยังได้
“เดี๋ยวพี่ไปส่งครับ” เสียงที่สามของใครบางคนดังแทรกเข้ามาในวงสนทนา ใครคนนั้นคือเอ็นที
“ไม่ต้องเสือกครับไอ้เอ็น น้องที่รักมากับกู” ขืนปล่อยน้องที่รักไปกับเอ็นที เขาได้โดนเช็กบิลค่าเหล้ากับพีอาร์สาวบิลยาวเหยียดแน่
“ที่รักครับ ที่รักจะไม่สานต่อเรื่องของเราจริงเหรอครับ” เอ็นทีไม่สนสิ่งที่แม็กซ์พูด เขาแทรกตัวมาตรงหน้าน้องแล้วทำหน้าอ้อน
“เรื่องของเรา?” ที่รักทำหน้าสงสัย อะไรคือเรื่องของเรา เธอเคยคุยกับรุ่นพี่คนนี้เดี๋ยวเดียวเท่านั้น มีเรื่องของเราเมื่อไหร่กัน
“ก็เรื่องที่พี่ชวนเรามาทำความรู้จักกันไงครับ” เอ็นทียื่นหน้าเข้ามาใกล้ ที่รักเอียงหน้าหลบ
“อ้อ…”
หมับ! ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อข้อมือเล็กถูกคว้าด้วยมือใหญ่
“อะไรมึงไอ้ฟ้า” เอ็นทีทำหน้าไม่พอใจ อีกแล้ว ไอ้สายฟ้าอีกแล้วที่เข้ามาขัด
“เดี๋ยวไปส่ง” บอกและลากน้อง ต้องบอกว่าลากเพราะน้องพยายามแงะมือออก ทว่ามือพี่เหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแก ลากดึงน้องหลบออกมาจากเอ็นทีที่กำลังโวยวายโดยที่มีแม็กซ์ขวางทางไว้
“ปล่อย” ที่รักรั้งไว้เมื่อห่างจากผู้คน “บอกให้ปล่อยไง”
“…” เงียบและดึงน้องทว่าที่รักใช้มืออีกข้างกอดต้นไม้ข้างทางเดินไว้
“นายเป็นใคร กล้าดียังไงมาแตะตัวฉัน” จ้องหน้าพี่เขม็ง
“แค่จะไปส่ง”
“ไม่ต้องมายุ่ง”
“ใครอยากยุ่ง คิดว่าถ้าป๊าไม่บอกจะอยากใกล้หรือไง”
“…” พยายามแล้วนะ คิดว่าจะไม่เจ็บเมื่อคุยกัน พอเอาเข้าจริงไม่ใช่เลย ยามใกล้ชิดเรื่องราววันนั้นก็กลับเข้ามาในหัว
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เมื่อเห็นน้องเงียบ สายฟ้าก็เสียงอ่อนลง
“ไม่ใช่พี่ ไม่มีสิทธิ์ ไม่ต้องยุ่ง ปล่อยด้วย” สายตาเจ็บปวดมองที่สายฟ้า เมื่อเห็นว่ารังเกียจก็เลยปล่อยข้อมือน้อง “ทีหลังถ้าทำแบบเมื่อกี้อีก ฉันจะด่าแบบไม่ไว้หน้านายเลยคอยดู แล้วช่วยจำไว้ด้วยว่าอย่ามายุ่งกับชีวิตของฉัน”
พูดจบที่รักเดินจากไป ทิ้งให้พี่ยืนมองแผ่นหลังก่อนที่จะเดินตามช้า ๆ ไม่ให้น้องรู้ตัว
บ่ายวันต่อมารุ่นพี่รุ่นน้องพากันขนไม้ช่วยกันสร้างสะพานข้ามลำธาร ผู้ชายมัดเชือกตอกตีตะปู ผู้หญิงขนไม้ บางกลุ่มช่วยกันทำกับข้าว
ที่รักทำหน้าที่ขนไม้ ให้เธอช่วยทำอาหารคนก็เยอะแล้ว ว่ากันว่าโลกนี้ใช่ว่าจะทำให้คนรักเราได้ทั้งโลก และบางครั้งกับบางคนก็ไม่ต้องทำอะไรเลยเขาก็เกลียดเรา ทั้งที่ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ แค่ได้ฟังคนในกลุ่มจับกลุ่มคุยกันว่าเกลียดคนนั้นไม่ชอบคนนี้ คนที่มีวุฒิภาวะน้อยก็คล้อยตาม เชื่อไปหมดทุกอย่างที่เพื่อนในกลุ่มพูด และก็ทำให้เกิดการเกลียดชังได้จริง ๆ ดังคำที่ว่า เรามักเป็นผู้ร้ายในเรื่องเล่าของผู้อื่นเสมอ
จังหวะที่กำลังยื่นไม้ส่งต่อ ผู้หญิงคนหนึ่งในคณะเดียวกัน สาขาเดียวกันก็ใช้คำว่าอุบัติเหตุเบียดให้ที่รักล้มลงกับน้ำ ด้วยความไม่ทันระวังทำให้เท้าและฝ่ามือของเธอโดนหินบาด เสื้อยืดสีสดโดนน้ำก่อให้เกิดการรัดรูป เผยให้เห็นสัดส่วนร่างกาย
คนทำแสร้งสำนึกผิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้หันไปยิ้มแย้มกับเพื่อนในกลุ่ม “ขอโทษ ขอโทษนะเธอ คือเรา…”