พึ่บ!
ไททันสะบัดมือออกอย่าแรงจนฉันหน้าหัน ฉันค่อยๆ หันหน้ามาทางเขาช้าๆ ก่อนจะยกมุมปากขึ้นยิ้มเย็นๆ ก่อนถามออกไป
"แล้วนายล่ะ จิตใจทำด้วยอะไรถึงได้ทำร้ายผู้หญิงได้ลงคอ" ไททันจ้องฉันนิ่ง แววตาเขาไม่มีความสับสนหรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมาจากคำถามของฉันสักนิด
ทำไมเขาถึงได้จงเกลียด เคียดแค้นแทนเพื่อนเขาได้ขนาดนี้ ทำยังกับว่าเพื่อนที่ถูกฉันทำร้ายเป็นแฟนตัวเองงั้นแหละ
แล้วอีกอย่าง ฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันจ้างคนไปตัดเบรกรถแก้มใสจริง แต่ไม่ได้ต้องการถึงขั้นเอาชีวิตเธอ เพราะรู้นิสัยเพื่อนคนนี้ดีว่าเธอขับรถช้ายิ่งกว่าเต่า แต่ทุกอย่างมันผิดแผนไปหมดเมื่อผู้สมรู้ร่วมชั่วของฉันซ้อนแผนจ้างคนไปขับรถปาดหน้าเธอต่างหากเรื่องราวมันถึงได้ใหญ่โตจนแก้มใสต้องนอนโรงพยาบาลในตอนนั้น
แถมไททันก็รู้เรื่องนี้ดี แต่ทำไมเขาถึงยังโทษแค่ฉันคนเดียวล่ะ ทำไมไม่ตามไปจับตัวการอีกคนมากักขังทำร้ายเธอเหมือนทำกับฉันอยู่ในตอนนี้
"แบบที่ทำอยู่ไม่ได้เรียกทำร้ายผู้หญิง" ไททันที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งไขว่ห้างจ้องหน้าฉันนิ่ง
"ที่ฉันทำอยู่เรียกช่วยอบรมสันดารคนเลวๆ อย่างเธอ โลกนี้จะได้น่าอยู่ขึ้น"
"ไททัน!!" ฉันตวาดชื่อเขาลั่นห้อง
เจ้าของชื่อทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะสั่งฉันเสียงเรียบ
"กินซะ จะได้ขึ้นไปเก็บกวาดเศษซากที่เธอทำไว้ แสบใช้ได้เลยนะ คุณคู่หมั้น"
ครืดดดด เสียงขาเก้าอี้ถูกลากกลับไปไว้ที่เดิม
"ไอ้บ้าไททัน ปล่อยฉันสิ ปล่อย!!"
แกร้ง! เสียงโซ่ที่ถูกล่ามไว้ที่ข้อเท้าอีกข้างดังขึ้นเมื่อมันกระทบพื้นกระเบื้องตอนที่ฉันวิ่งตามหลังเพื่อตะโกนเรียกหมอนั่นให้หยุดแต่ไททันไม่สนใจอะไร พูดจบก็เดินออกจากห้องนี้ไปท่าทางสบายๆ ปล่อยให้ฉันกลับมาอยู่คนเดียวในห้องปิดตายอีกครั้ง
"อดทนไว้นาเดียร์" สุดท้ายก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองก่อนจะมองไปยังถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากเตียงนี้เท่าไหร่ เมื่อวานฉันใช้พลังงานอาละวาดหนักมากแถมไม่มีอะไรตกถึงท้องอีกเลยตั้งแต่ปาถาดข้าวลงพื้นเมื่อวานตอนเช้า
"ทนกินไปก่อนยัยเดียร์ เผื่อสมองจะแล่นขึ้นมา" พูดกับตัวเองเสร็จก็ค่อยๆ เดินไปยังโต๊ะที่มีถาดอาหารวางอยู่
เป็นถาดหลุมที่มีข้าวเปล่าหนึ่งหลุมใหญ่กับผัดผักและไส้กรอกทอด ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ฉันเกลียด ไม่รู้ไททันจงใจแกล้งหรือเขาไม่รู้เรื่องนี้กันแน่
แต่ไม่เป็นไร แค่ฝืนกินเพื่อให้มีแรงก็พอ
ฉันใช้เวลาฝืนกระเดือกกับข้าวพวกนั้นลงคออย่างจำยอม และตอนนี้ก็ถูกไททันพาขึ้นมาบนห้องชั้นสองที่เละเทะไม่มีชิ้นดีด้วยฝีมือฉันเมื่อวาน
"ยืนทำไม รีบๆ เก็บกวาดเข้าสิ" ผู้ชายร่างสูงร้อยแปดสิบหน่อยๆ เร่งเร้าฉันทั้งวาจาและสีหน้า ผมสีเดียวกับควันที่ลอยคละคลุ้งตรงหน้าจากการสูบบุหรี่ปลิวตามแรงลมอ่อนๆ ที่โชยมาตรงระเบียง
ดวงตาสีฟ้าอมเทาที่ฉันเกลียดนักเกลียดหนาเพราะไม่เคยเข้าถึงอารมณ์ความคิดเขาผ่านมันได้จ้องมาทางฉันอย่างกับจะฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้แร้งกาจิกกิน
"นายนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย" ฉันไม่ได้สนใจคำสั่งก่อนหน้าที่เขาให้ทำความสะอาดห้องนี้สักนิด เลือกเดินไปนั่งบนเตียงนุ่มที่เคยผล็อยหลับไปครั้งหนึ่งเมื่อคืนอย่างช้าๆ
"ห้องก็ห้องตัวเอง ยังจะใช้ผู้หญิงที่แสนจะบอบบางอย่างฉันทำความสะอาดมันอีก" ก็แค่แกล้งแหย่เขาเล่น ห้องนี้สกปรกและรกรุงรังเพราะฝีมือฉันล้วนๆ ไม่เถียง
แต่แล้วไงใครสน? ฉันถือคติที่ว่า ผู้ชายต้องออกแรง ส่วนผู้หญิงก็แค่ชี้นิ้วสั่ง แต่ตรรกะนี้ก็แค่สำหรับผู้ชายที่เปลือยช่วงอกใต้เสื้อเชิ้ตสีเทาเข้มตรงหน้าฉันเท่านั้นล่ะนะ
"ห้องฉันแต่เธอทำ" ในที่สุดไททันก็ยอมต่อปากต่อคำกับฉัน เขาทิ้งมวนบุหรี่ที่เพิ่งดูดมันเสร็จลงพื้นก่อนจะใช้เท้าบี้มันจนแบนบิดเบี้ยว
"และเธอไม่สมควรกับคำว่าผู้หญิงบอบบาง"
สายตาเย็นชาเชือดเฉือนจ้องหน้าฉันไม่กะพริบ ก่อนที่เท้ายาวๆ จะค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาฉันทีละก้าวๆ อย่างองอาจ
หมับ!
"อื้อ" แก้มทั้งสองข้างตอบเข้าหากันทันทีที่มือหนากอบกุมมันไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนที่น้ำเสียงเรียบแต่เยียบเย็นจะเอ่ยออกมา
"ถ้าเธอบอบบางจริง คงทนฉันได้ไม่ถึงสองเดือนแบบนี้หรอก จริงไหม?"
กรอดดด
ได้แต่กัดฟันไม่แสดงออกว่าเดือดดาลแค่ไหนที่ถูกหลอกด่าว่าฉันมันด้าน หนังเหนียว ที่ถูกเขาทรมานมาตั้งสองเดือนแต่ยังแข็งแรงดีอยู่
เขาไม่รู้หรอกว่าภายนอกฉันอาจจะดูเป็นแบบนั้น แต่ข้างในฉันน่ะมันช้ำจนจะกระอักออกมาเป็นลิ่มเลือดแล้ว ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าฉันมันหยิ่งในศักด์ศรี
ผู้หญิงอย่างนาทิตยาฆ่าได้แต่จะไม่ยอมอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
"ทำไมล่ะไททัน นายยอมแพ้ให้กับความอดทนของฉันแล้วงั้นเหรอ" ได้ทีขอขี่แพะไล่สักหน่อย ไม่รู้หรอกหมอนี่คิดอะไรอยู่ บอกแล้วว่าฉันเดาใจเขาไม่ถูกเลยจริงๆ
"จุ๊ๆๆ" นิ้วชี้เรียวยาวกระดิกไปมาตรงหน้าฉันก่อนที่รอยยักตรงมุมปากจะกระดกขึ้นเล็กน้อย "ผู้หญิงอย่างเธอให้ฉันทรมานทั้งชาติยังไม่สะใจเลย"
กึก!!
เสียงฟันฉันกระทบกันจนไททันแสยะยิ้มกว้าง
เขาคงรู้สึกได้ว่าตอนนี้ฉันเกลียดเขาแค่ไหน ถ้ามีมีดอยู่ตรงนี้บอกเลยว่าฉันจะใช้มันแทงเขาไม่ยั้ง และครั้งนี้แหละที่ฉันจะกลายเป็นฆาตรกรจริงๆ อย่างที่เขาเคยครหา
"โอ๊ะโอ!! โกรธเป็นด้วยเหรอนาเดียร์"
"อ้ะ!" ฉันร้องเสียงหลงเมื่อไททันสะบัดมือทิ้งอย่างไม่ใยดีว่าแรงส่วนนั้นจะทำฉันคอเคล็ดหรือไม่
"เลิกทำตัวอ่อนแอได้แล้ว รีบๆ ทำความสะอาดมันซะ โดยเฉพาะรูปนั้น" ดวงตาเรียวคมมองไปยังชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจาย
"ทำไม? หวงเหรอ? แต่เสียใจด้วยนะ ฉันไม่ถนัดต่อไอ้จิ๊กซอว์พวกนี้" ฉันกอดอกยืดตัวตรงเชิดหน้าเล็กน้อยอย่างนางพญา
"ไม่ถนัดก็ไม่เป็นไร" ฟังเหมือนเขาจะยอมง่ายๆ แต่ไม่หรอก คนอย่างหมอนี่ไม่น่าจะยอมอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะกับฉันยิ่งไม่น่าเป็นไปได้
"เพราะเธอจะต่อมันจนกว่าจะถนัดเลยล่ะ นาทิตยา" ชื่อจริงฉันถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากหนาติดคล้ำ ไททันยกยิ้มอย่างพอใจที่ข่มฉันได้สำเร็จ
"อะไรทำให้นายมั่นใจว่าฉันจะทำ" ฉันยังกอดอกยืนอยู่ที่เดิมตอนถามเขา
"เพราะวันนี้แม่เธอโทรมา"
คิ้วฉันย่นเข้าหากันจนรู้สึกว่าการมองเห็นเล็กหรี่ตาม "แม่ฉัน?" ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าฟังไม่ผิด
"ใช่ แม่เธออยากคุยกับลูกสาวสุดที่รักที่ไปสวีทกับคู่หมั้นที่ต่างประเทศ" ไททันอธิบายท่าทางเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินมายืนเยื้องฉันแค่ไม่กี่เซนฯ
"เธอน่าจะเดาออกนะว่าทำไมเธอหายตัวมาตั้งสองเดือนถึงไม่มีใครสนใจจะตามหา" มือฉันถูกกำแน่นเมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งดีแล้ว
ถึงว่าฉันหายมาเกือบสองเดือนทำไมไม่มีใครออกตามหาฉัน ที่ไหนได้หมอนี่วางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้วนี่เอง
"สารเลว หลอกได้แม้กระทั่งผู้ใหญ่" ฉันว่าให้เขาเสียงเรียบแต่เน้นหนักในหางเสียง คนถูกว่าไม่มีความสะทกสะท้านแถมยังยิ้มเหมือนฉันชมเขาอีก
"อยากจะรู้นัก ถ้าแม่เธอรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักทำอะไรไว้กับเพื่อนรัก กับรู้ว่าเรื่องที่ฉันบอกมันแค่เรื่องโกหก ใครมันจะเลวกว่ากัน"
หมัดที่กำไว้ก่อนหน้าถูกเพิ่งแรงขึ้นจนเล็บฉันจิกเข้าเนื้อ เรื่องที่ฉันทำกับแก้มใสทางบ้านฉันยังไม่รู้และฉันให้รู้ไม่ได้อย่างที่ไททันขู่ไว้นั่นแหละ
"ตกลงจะยอมทำในสิ่งที่ไม่ถนัดแล้วได้คุยกับแม่เธอ หรือจะเลือกให้แม่เธอบอก ว่าใครที่เลวกว่ากัน"
ผลัก!!
แรงทั้งหมดที่ฉันรวบรวมได้ผลักอกหนัดแน่นให้ออกห่างจากตัว ก่อนจะนั่งยองๆ ลงอย่างจำใจทำในสิ่งที่ไททันสั่งในตอนแรก
"ก็แค่นี้ไม่เห็นต้องให้ขู่"
ฉันกำจิ๊กซอว์ชิ้นนึงไว้ในมือแน่นเพื่อระบายความแค้นที่ครั้งนี้แพ้เขาอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
"เห็นแก่ที่เธอว่านอนสอนง่าย ฉันจะให้เธอทำแค่ต่อรูปนั้นให้เหมือนเดิม ส่วนเรื่องทำความสะอาดปล่อยไว้แบบนั้นแหละเดี๋ยวฉันหาคนมาจัดการเอง"
ไททันพูดเสร็จก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมเสียงผิวปากอย่างคนอารมณ์ดี
"ฝากไว้ก่อนเถอะไททัน อย่าพลาดให้ถึงทีฉันบ้างแล้วกัน" สาบานไว้รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ ความเจ็บปวดและแค้นครั้งนี้ฉันจะเอาคืนเขาให้สาสมเลยทีเดียว
นี่ถ้าไม่มีสถานะคู่หมั้นบ้าบอที่ถูกพ่อกับแม่ฉันจับคลุมถุงชนเมื่อครึ่งปีก่อนฉันคงไม่กัดฟันให้เขากดขี่ได้ถึงเพียงนี้ หรือบางทีฉันควรบอกความจริงเรื่องที่ทำเลวในอดีตกับครอบครัวฉันตรงๆ ดีนะ