ตอนที่3 หานชิงหลินสิ้นชีพ

1852 Words
คืนวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว งานแต่งที่ถูกจัดอย่างเร่งรีบก็ใกล้ถึงเวลาเต็มที จางฉวนโกรธชิงหลินย่อมสมควรแล้ว เพราะนางอยู่กับกงหนิวผู้นั้นทั้งคืนจริงๆ แต่จางฉวนก็ยังยอมแต่งงานเพื่อปกป้องชื่อเสียงของนาง ชิงหลินจึงคิดว่าเรื่องของเขากับน้องสาว นางพร้อมให้อภัยอีกฝ่ายเช่นกัน ทั้งยังคิดเอาไว้ว่าจะยินยอมให้เขาแต่งชิงลี่เป็นอนุอีกด้วย เพื่อความสุขของสามี นางต้องทนทุกข์ก็ไม่เป็นไร แค่เขาพึงพอใจไม่รังเกียจนาง... ชิงหลินคิดอย่างใจกว้าง เป็นสตรีจิตใจงดงาม มองทุกสิ่งในแง่ดี ไม่มีความคิดเป็นอื่นกับบิดามารดาและน้องสาวตลอดจนชายคนรัก พิธีแต่งงานเกิดขึ้นไม่กี่วันถัดมา ชิงหลินในชุดเจ้าสาวคลุมหน้าด้วยผ้ามงคลปกปิดใบหน้าสีชาดอมยิ้มอย่างมีความสุข ขบวนงานแต่งไม่ใหญ่มากนัก ผู้คนที่มาร่วมคือชาวบ้านที่พร้อมใจกันมาเป็นพยาน ชิงหลินมองเห็นรอบทิศไม่ชัดเจน เพราะมีผ้าคลุมหน้าบดบังสายตาตลอดเวลา อีกทั้งหลังจากจิบชาหอมไปหลายถ้วยเพื่อลดอาการตื่นเต้นก็รู้สึกมึนงงไม่น้อย พิธีการดำเนินไป เสียงเซ็งแซ่แสดงความยินดีดังระงมอยู่รอบกายไม่ขาดสาย ชิงหลินรู้สึกสองหูอื้ออึง สมองขาวโพลน รับรู้สิ่งใดไม่ชัดเจนสักเท่าใด กระทั่งถูกมารดาและน้องสาวพาไปนั่งยังห้องหอที่รู้สึกว่าไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย แปลกประหลาดเหลือเกิน ทว่ายังไม่ทันทำความเข้าใจอันใดมากนัก เสียงพูดคุยไม่กี่ประโยคของคนรอบข้างก็สิ้นสุดลง เจ้าบ่าวเดินเข้ามา ทุกคนออกไปคงเหลือเพียงเจ้าสาว ชิงหลินนั่งตื่นเต้นอยู่บนเตียงมงคล ได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ก็อมยิ้มขัดเขิน จางฉวนคงถูกกลั่นแกล้งไม่ใช่น้อย เมื่อเอียงหูฟังยังได้ยินผู้คนยืนอยู่นอกห้องหอเต็มไปหมด ธรรมเนียมของหมู่บ้านผิงเหยียนในคืนเข้าหอ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว ล้วนเฝ้าอยู่รายรอบเพื่อเป็นพยานต่อคู่รัก ให้ผ่านคืนวสันต์ไปอย่างราบรื่น ชิงหลินยิ่งใจเต้นระส่ำรุนแรง วันนี้นางพร้อมแล้วที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้จางฉวน จะไม่เกี่ยงงอนบ่ายเบี่ยงแม้แต่นิดเดียว ทว่าสวรรค์ช่างไร้เมตตา เมื่อผ้าคลุมหน้าถูกเปิดออก ท่ามกลางความมืดสลัวยามราตรี เจ้าบ่าวที่ชิงหลินได้เห็นกลับมิใช่ชายคนรักที่รอคอย บุรุษชุดแดงตรงหน้ามิใช่จางฉวน แต่เขาคือ กงหนิว เป็นชายผู้ช่วยชีวิตนางจากการตกน้ำ ทั่วร่างระหงแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ ปากอ้าตาค้าง พริบตาก็เผยความรังเกียจฉายชัดเต็มดวงหน้า ต้องไม่ใช่! เจ้าบ่าวของนางคือจางฉวนเท่านั้น! ชิงหลินไม่เคยมีแม้แต่เศษเสี้ยวความคิดที่จะได้บุรุษอัปลักษณ์ผู้นี้เป็นสามี นางจึงตกใจมาก ยังไม่ทันเอ่ยปากอุทานก็เห็นบุรุษตัวโตสูงใหญ่ น่าเกลียดน่ากลัวดูไม่ได้ กำลังแนบชิดเข้ามา ทั้งรวดเร็วและรวบรัด สายตาของเขาร้อนแรง ลักษณะเป็นชายกักขฬะชัดเจน ท่าทางยิ่งน่ากลัว ประหนึ่งภูตผีจากปรภพกระนั้น ใบหน้าภายใต้หนวดเคราเขี้ยวครึ้มแดงก่ำจนกลายเป็นดำคล้ำไม่น่ามอง เขาไม่ต่างจากพวกป่าเถื่อนหรือโจรชั่วปล้นชิงเลยสักนิด และที่สำคัญ ยามนี้ยังมีกิริยาไม่ต่างจากผู้ร้ายฆ่าข่มขืน แรกเริ่มชิงหลินเบิกตากว้าง อึดใจก็แตกตื่นผวาเฮือก เพราะได้ยินเสียงหอบหายใจฟืดฟาดจากชายตรงหน้า รับรู้ได้ถึงลมหายใจหอบหนักท่าทางหื่นกระหาย คล้ายเสือร้ายผู้หิวโหยที่อดอยากปากแห้งมาเนิ่นนาน ไม่ช้า...ฝ่ามือหนาก็ตะปบเข้ามาที่เอว ดวงตาบุรุษภายใต้แสงเทียนสีแดงคล้ายมีเปลวเพลิงพร้อมแผดเผา ชิงหลินเห็นไฟราคะลุกโชนอยู่ในนั้น ความร้อนเร่าพลันครอบคลุมรอบกายนาง ชิงหลินรับรู้ความหยาบกร้านของฝ่ามือร้อนกรุ่นคู่นั้นที่ล้วงเข้ามาในสาบเสื้อ บีบเคล้นเนินอกอย่างหยาบคาย อึดใจก็กระชากจนขาดวิ่นอย่างป่าเถื่อนโหดร้าย เสียงแคว่กๆ ติดต่อกันไม่กี่ครา เนื้อนางก็เปล่าเปลือย เอี๊ยมตัวเล็กอันเป็นปราการสุดท้ายพลันหลุดลอยไปไกล ชิงหลินรู้สึกว่าหน้าอกเย็นวาบ จากนั้นก็มีกายหยาบกระด้างทาบทับลงมา เนื้อตัวของกงหนิวร้อนมาก แทบจะลวกผิวของนางให้มอดไหม้ เขามีลำตัวหนาใหญ่และหนักมาก ครู่ต่อมาขาเล็กของชิงหลินก็ถูกบังคับให้แยกออกด้วยท่อนขาใหญ่แข็งแรงของกงหนิว พริบตาจากนั้นความร้อนแข็งขึงก็สอดแทรกเบียดเสียดเข้ามาในกายสาว ชิงหลินกรีดร้องลั่นด้วยความขยะแขยง นางรู้สึกเจ็บมาก น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มราวห่าฝน ทว่ากงหนิวก็ยังไร้วี่แววว่าจะหยุดยั้ง เขายังคงกระทำสิ่งที่เรียกว่ากระหน่ำอย่างเอาแต่ใจ ทั้งป่าเถื่อนรุนแรงและโหดร้าย ภายในห้องคับแคบ บนเตียงมงคล เสียงครางแหบต่ำดังผสานเสียงครวญสะอื้นไห้ ชายร่างหนาถอนแท่งเหล็กร้อนผ่าวกลางกายสาวออกไปแล้วแทงเข้ามาใหม่ เข้าออกอยู่เช่นนั้นโดยไม่สนใจคนใต้ร่างที่พยายามดิ้นพล่าน มือใหญ่ของเขาจับตรึงสองมือเล็กนุ่มของนางเอาไว้เหนือศีรษะอย่างแน่นหนา ยึดสะโพกงามด้วยการสะบัดเอวสอบโจนจ้วงตอกตรึงอย่างหยาบคาย เคลื่อนไหวบนร่างนางอย่างดุดัน เดิมทีชิงหลินหายใจไม่ออกที่ถูกทาบทับ ทว่ายามนี้นางกลับหายใจกระชั้นถี่แรงเร็ว บางจังหวะยังหายใจไม่ทัน ทำได้เพียงครางกระเส่าดังลั่น คำว่าแทบขาดใจกำลังเกิดขึ้นอย่างทรมานแสนสาหัส ได้ยินเพียงเสียงครางแหบต่ำจากชายใจหยาบกลบเสียงร่ำไห้ของตนจนสิ้น สาวน้อยสัมผัสได้ถึงความกลัวและรังเกียจที่สุดในชีวิต บุรุษอัปลักษณ์ที่กำลังขับเคลื่อนตัวตนบนกายนาง คือเสือร้ายผู้หยาบคายหิวกระหายอย่างแท้จริง มันผู้นี้ตักตวงจากนางอย่างไร้ซึ่งความปรานี บางทีคำว่าขืนใจยังน้อยไป ราตรียืดยาว วสันต์แสนสั้น ชิงหลินล้วนคิดว่าผิดมหันต์ อันที่จริงควรเป็นราตรียืนยาว นรกนิรันดร์ เพราะว่านางกำลังถูกเสือร้ายขย้ำทั้งคืน ยามสายวันต่อมา บนเตียงนอนสีแดงที่คลุมทับด้วยผ้าสีขาว มีร่างอรชรเปล่าเปลือยนอนอย่างเดียวดาย ไร้ร่างสามีเคียงข้าง ทั่วเรือนกายนางเต็มไปด้วยริ้วสีแดงเป็นจ้ำและรอยฟันขบกัด ชิงหลินตื่นขึ้นมานานแล้วแต่ก็ยังร่ำไห้ไม่หยุด เรือนร่างสั่นสะท้านอย่างสิ้นหวัง สีหน้าซีดเผือดราวกับเลือดในกายถูกน้ำวนในทะเลสาบน้ำแข็งดูดกลืน ภาพของชายที่ครอบครองนางอย่างทารุณยังคงติดตา ความเดียดฉันท์ชิงชังยังคงติดตรึงฝังแน่นในจิตใจ แทนที่จะได้เข้าหอกับบุรุษหล่อเหลาซึ่งเขาคือคนที่ชอบ แต่กลับต้องเข้าหอกับบุรุษน่าเกลียดปานนั้น นางรังเกียจกงหนิวยิ่งนัก ขยะแขยงสิ้นดี ท้ายที่สุดสิ่งที่ทำให้ความรู้สึกของตนเองย่ำแย่ยิ่งกว่าคือความจริงที่ครอบครัวและชายคนรักกระทำ ก่อนหน้านี้ทั้งบิดามารดารวมถึงน้องสาวล้วนบอกกล่าวแก่นางว่าให้รอเป็นเจ้าสาวของพี่จางฉวน เขามิได้คิดจะถอนหมั้นแต่อย่างใด ให้นางรออยู่ในเรือนอย่าออกไปไหน เดิมทีนางลองถามถึงความสัมพันธ์อันซ่อนร้อนของคู่หมั้นกับน้องสาวแล้ว ทว่าชิงลี่กลับตอบกลับว่า ‘พี่สาวคงตาฝาดไปเองแล้วเจ้าค่ะ’ แน่นอนว่านางไม่อาจเชื่อ ทว่าชิงลี่กลับร้องห่มร้องไห้จนเรื่องราวบานปลาย เรียกร้องสายตาตำหนิจากทุกคนในบ้าน ยามนั้นชิงลี่ยังเอ่ยฉะฉานว่า ‘ข้าไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับคุณชายจางฉวน และไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่นอน พี่สาวคือพี่ของข้านะ ข้าจะเฉือนใจพี่ได้อย่างไร ขอให้พี่สบายใจ เตรียมตัวเป็นภรรยาแสนดีให้สามีเท่านั้น อย่าคิดฟุ้งซ่านในเรื่องที่เป็นไปมิได้เชียว’ สีหน้าจริงจังวาจาหนักแน่นแววตาน่าเชื่อถือของชิงลี่ ทำให้ทุกคนคิดว่าชิงหลินงี่เง่าไร้สาระหึงหวงบุรุษกับน้องสาวได้อย่างน่าอาย บังเกิดความกดดันให้ชิงหลินต้องเชื่อชิงลี่จนหมดใจ ต่อมาทุกคนยังช่วยปลอบประโลมด้วยประโยคที่ว่าจะได้แต่งงานกับจางฉวนอยู่แล้ว ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยอะไรทั้งนั้น ยามนี้ยิ่งคิดยิ่งสะอื้นไห้ ความเสียใจเข้าถาโถมกระแทกห้วงอารมณ์คล้ายคลื่นลูกใหญ่ม้วนตัวสูงแล้วโหมซัดอย่างรุนแรง นางถูกหลอก! ทุกคนหลอกนาง... ในสมองมีแต่คำถามว่าทำไมซ้ำๆ เหตุใดทุกคนถึงใจดำกับนางถึงเพียงนี้ ทำไมต้องทำร้ายกัน ทำไม? หญิงสาวช้ำใจแทบกระอักเลือด แล้วสรุปได้ถึงความเลือดเย็นของโชคชะตา ท้ายที่สุดก็นึกเกลียดตนเอง เกลียดที่ตนเองโง่เง่าไร้น้ำยา เกลียดที่ตนเองเกิดมาก็เป็นชิงหลิน เป็นสตรีที่สมควรตายๆ ไปเสีย ในเมื่อโลกนี้ไม่ยุติธรรม นางควรยุติมันเอง! นางไม่อาจอยู่ได้อีกต่อไป ความอัปยศอดสูนี้นางไม่ขอแบกรับเอาไว้ ความแค้นใดๆ นางล้วนไม่ยินดีรับมัน ในเมื่ออดีตมิอาจแก้ไข อนาคตมิอาจก้าวเดินได้ไหว พอกันที! ชีวิตอันแสนบัดซบ ชีวิตที่มีแต่ความเจ็บปวดตอบแทนความโง่เขลาเบาปัญญา ชิงหลินสบถหลายประโยคและคิดสั้นๆ ได้แค่นั้น ก่อนปิดเปลือกตาลงช้าๆ ใบหน้าขมขื่นสุดจะทน กล้ำกลืนความทรมานอันตกตะกอนเป็นลิ่มเลือดหนาทึบอัดแน่นไว้ในอก ไม่นาน ...ผ้าปูเตียงผืนยาวสีขาวกับคานเรือนจึงบรรจบ พร้อมปล่อยร่างระหงให้ลู่ลงตามน้ำหนักตัว ชิงหลินสิ้นลมหายใจในเวลาต่อมา… บนคานเรือนในห้องหอ มีร่างระหงเปล่าเปลือยแขวนคอค้างเติ่ง แน่นิ่งไม่ขยับ ทว่าเพียงอึดใจ ทั้งร่างนั้นกลับกระตุกเฮือก ทันทีที่ลืมตาอีกครา ซานซานรู้สึกหายใจไม่ออกจนลิ้นแน่นจุกปาก ผ้าขาวยิ่งรัดรึงที่ลำคอ พลันนั้นก็รู้สึกตัวและได้สติ หญิงสาวออกแรงเฮือกหนึ่ง เสือกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ จับผ้าเอาไว้มั่น แล้วดันร่างตีลังกาขึ้น ใช้เรียวขาเกี่ยวกับขื่อคาน ไขว้เท้าทั้งสองข้างคล้องเอาไว้แน่น ขยับมือแก้ปมผ้าที่ลำคอโดยไว ก่อนจะทิ้งร่างดิ่งลงมากระแทกพื้นห้องเสียงดังตุ้บ ซานซานถึงกับจุก ร้องไม่ออก นอกจากจุกที่ท้อง ยังปวดตุบๆ ที่ส่วนสงวนของกายสาว หญิงสาวขมวดคิ้วโกรธกรุ่น นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าของร่างไม่ฆ่าตัวตายก่อนเข้าหอเล่า! ให้ตายเถอะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD