ตอนที่ 1

1743 Words
ความมืดสลัวของท่าเรือในยามค่ำคืนช่างเป็นอุปสรรคยิ่งนักสำหรับการลี้ภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพที่จ้องจะทำร้าย สายลมทะเลที่โบกสะบัดพัดเข้าใส่กายสาวไม่ได้ช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนที่เกิดจากความหวาดกลัวต่อภัยร้ายได้เลย เม็ดเหงื่อแห่งความหวั่นเกรงผุดพรายขึ้นเต็มหน้าผาก ฝ่ามือเย็นเฉียบพอๆ กับอุณหภูมิภายในหัวใจ ‘จะทำยังไงดี...?’ เสียงนี้ดังก้องอยู่ภายในใจ เท้าบอบบางเปลือยเปล่าจ้วงกระทบลงกับพื้นทรายนุ่มละเอียดสุดแรงเกิด พยายามที่จะหลบหนีจากภัยที่กำลังคุกคามให้จงได้ หล่อนต้องหนีไปจากที่นี่ ต้องไปจากนรกที่กำลังจะมาเยือนให้ได้ แต่การหลบหนีออกจากบ้านก็ทำให้หล่อนต้องมาประสบเคราะห์กรรมที่แสนเลวร้ายเช่นนี้ เคราะห์กรรมที่หล่อนจะต้องหนีให้ได้... หญิงสาววิ่งเลี้ยวหลบเข้าไปในซอกของเรือใหญ่ที่จอดอยู่ในบริเวณท่าเรือ ซ่อนตัวด้านในสุดที่คิดว่ามิดชิดที่สุด ขณะที่สายตากลมโตงามตราตรึงดุจกวางทองนี้มีหยาดน้ำใสๆ เอ่อคลอ หัวใจเต้นระรัว ภาวนาให้คนโฉดชั่วมองไม่เห็นที่เร้นกายของหล่อน “เฮ้ย... นังนั่นมันหายไปไหนแล้ววะ” “คงไปไหนไม่ได้ไกลหรอกลูกพี่ แถวนี้มีแต่ทะเลแล้วก็เรือทั้งนั้น” เสียงสนทนาของกลุ่มคนชั่วที่วิ่งไล่ล่าหล่อนดังอยู่ไม่ห่าง หญิงสาวบอกตัวเองให้อยู่นิ่งๆ อย่าเคลื่อนไหวเด็ดขาด รอให้พวกมันไปก่อน แล้วเรื่องร้ายๆ ก็จะผ่านพ้นไป “งั้นพวกเอ็งตามข้าไปทางนู้น ยังไงวันนี้ก็ต้องจับมันให้ได้ สวยๆ แบบนี้ขายต่อในเรือฝรั่งได้ราคางามแน่ๆ” “ครับลูกพี่” เสียงฝีเท้าของพวกคนโฉดที่เป็นพวกมาเฟียค้าผู้หญิงที่ท่าเรือแห่งนี้ค่อยๆ จางหายไปจากประสาทการรับรู้ หล่อนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความหวังเริ่มเพิ่มพูนขึ้น หล่อนชะโงกหน้ามองตามร่องรูของไม้ผุๆ ไปยังด้านนอกที่มืดสลัว ภาพที่เห็นไม่ชัดเจนเลย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อยู่แถวนี้อีกแล้ว หล่อนปลอดภัยแล้ว รอยยิ้มแรกของหญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยสดงดงามราวกับนางสวรรค์ ผิวกายของหล่อนนวลขาวผ่องอมชมพูตัดกับสีของเส้นผมสีนิลที่ยามนี้ถูกรวบเอาไว้กลางกระหม่อม กลีบปากอิ่มพริ้มเพราราวกับปีกนกมาร้อยเรียง ปลายจมูกโด่งเชิดรั้นบอกให้รู้ว่าเจ้าของมีนิสัยหยิ่งทระนงมากแค่ไหน ลีลาวดี สุวรรณกุล คือชื่อของหล่อน ชื่อที่พ่อกับแม่บังเกิดเกล้าตั้งให้ และหากตอนนี้ท่านทั้งสองยังอยู่ข้างกาย หล่อนก็คงไม่ต้องมาเป็นคนเร่ร่อนตกระกำลำบากเช่นนี้ หยาดน้ำตาแทรกแซงรอยยิ้มโล่งใจอย่างรวดเร็ว เมื่ออดีตที่แสนเจ็บช้ำถาโถมเข้ามาในชีวิต บิดามารดารถคว่ำเสียชีวิตทั้งคู่ ทั้งแต่หล่อนอายุได้แค่สิบห้าปี อาแท้ๆ ของหล่อนที่ชื่อกฤษณา รับอุปการะหล่อนเอาไว้ และแน่นอนว่าจะต้องดูแลทรัพย์สมบัติที่ควรจะเป็นของหล่อนเมื่ออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ด้วย ชีวิตวัยเด็กที่ขาดทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันผ่านพ้นไปด้วยความโศกเศร้า นานนับปีกว่าหล่อนจะทำใจยอมรับได้ว่าพ่อกับแม่ได้จากไปแล้วจริงๆ หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงอาบแก้ม ลีลาวดีรีบป้ายทิ้ง คิดถึงบิดามารดาใจจะขาด แม้ตอนนี้จะผ่านมาถึงหกปีแล้วก็ตาม แต่พวกท่านก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของหล่อนไม่เคยจาง ความทรงจำเดียวที่หล่อเลี้ยงให้หล่อนผ่านความใจร้ายใจดำของอาแท้ๆ มาได้จนถึงวันนี้ ใช่... กฤษณาเป็นอาแท้ๆ ของหล่อน เป็นน้องสาวของบิดาของหล่อนเอง แต่กฤษณากลับไม่เคยเอ็นดูหล่อนจากหัวใจจริงๆ เลย เพราะเมื่อได้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว กฤษณาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยพูดจาดีๆ กับหล่อน ทุกคำจะเรียกหล่อนว่าหนูเล็ก ก็เปลี่ยนเป็นอีเด็กนรก แถมยังให้ท้ายผัวของตนเองให้มาลวนลามหล่อนอีก บ่อยครั้งที่หล่อนเกือบจะเสียท่า บ่อยครั้งที่หล่อนนำเรื่องนี้ไปบอกกฤษณา แต่ผลตอบรับทุกครั้งที่ได้กลับมาคือการตบตีและดุด่าอย่างเหี้ยมโหด หล่อนทนสะกดกลั้นต่อความร้ายกาจของกฤษณามาหกปีเต็ม รอจนอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ แต่แล้วทุกอย่างที่ฝันเอาไว้ก็พังพินาศเมื่อกฤษณามาแผนสูง มอมเหล้าหล่อนจะให้สามีของตัวเองจัดการกับหล่อน แต่ก็ถือว่าบุญรักษาเพราะหล่อนสามารถหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด แต่กระนั้นก็พลาดพลั้งใช้มีดเล็กที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาแทงที่หน้าอกของผู้ชายคนนั้น หล่อนพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครฟังหล่อน หล่อนกลายเป็นเด็กเลว เด็กเนรคุณ และแน่นอนว่าหล่อนกำลังถูกตำรวจตามล่าตัวในฐานะฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หล่อนหนีมาได้... หนีออกมาตัวเปล่าไม่มีแม้แต่บัตรประจำตัวประชาชน กลายมาเป็นคนเร่ร่อนที่ท่าเรือนี้ จนถูกพวกกลุ่มมาเฟียจ้องจะลากไปขายให้กับพวกฝรั่งที่ล่องเรือผ่านมา ทำไมนะ ชะตาชีวิตของหล่อนถึงได้เลวร้ายแบบนี้ ทำไม... หล่อนถึงไม่ตายตามพ่อกับแม่ไปเลย “พ่อจ๋า... แม่จ๋า... หนูเล็กกลัวเหลือเกิน...” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้ ร้องด้วยความปวดร้าวเจ็บลึก กายสาวสั่นเทา ความทรมานโอบล้อมรอบกาย หล่อนฝังจิตวิญญาณทั้งหมดเอาไว้กับความเจ็บช้ำ ทำให้ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่เดินมาหยุดข้างหลัง และกว่าจะรู้ว่าตัวเองหนีไม่รอดแล้วก็ตอนที่มีของแข็งบางอย่างจี้มาที่ศีรษะ “ลุกขึ้น อย่าตุกติก ไม่อย่างนั้นหัวกระจุยแน่” ลีลาวดีช็อกหน้าตาซีดเผือด หล่อนค่อยๆ ทำตามคำสั่งของพวกมันอย่างไม่มีทางเลือก “ดีมาก หันหน้ามา” หล่อนทำตาม พวกมันยิ้มชั่วร้าย มองหล่อนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยสายตาหยาบโลน กักขฬะ “แม่งสวยชิบเลยโว๊ย” “ใช่ๆ พี่ เราจัดกันก่อนไหม เดี๋ยวค่อยส่งต่อมันไปขายในเรือของฝรั่ง” ลูกน้องทุกคนให้การสนับสนุนอย่างดีเยี่ยม “กูก็อยากจะตายอยู่แล้ว แต่ถ้าทำมันของก็เสียราคาหมดสิ ดูท่าทางมันจะยังซิงอยู่ด้วย แบบนี้ราคางดงามเลยล่ะ” “อะไรอ่ะพี่เสก อดชิมคนสวยเลย” “ผู้หญิงน่ะมีเงินก็หาได้ไม่ยาก แต่เงินน่ะหายากโว๊ย เดี๋ยวราคามันจะตก” คนเป็นลูกพี่หันไปอธิบายให้กับพวกของมันฟัง ในขณะที่ลีลาวดีพยายามคิดหาทางออก และในที่สุดก็ได้จังหวะที่พวกมันเผลอ หล่อนใช้ตัวที่เล็กกว่าก้มลงและกำเม็ดทรายสาดใส่หน้าพวกมันทันที ก่อนจะรีบวิ่งหนีสุดชีวิต “อีระยำ!” ไอ้คนเป็นลูกพี่ยกมือขึ้นปิดตาร้องโอดครวญ “ไปลากตัวมันมาให้ได้ ฤทธิ์มากนักนังนี่” “ครับลูกพี่” ลีลาวดีซอยเท้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก็มองหาทางรอด แต่ให้ตายเถอะ ความมืดมิดมีอิทธิพลต่อประสาทการมองเห็นเหลือเกิน หล่อนมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความสลัวและภัยอันตราย สุดท้ายก็หนีมาจนสุดสะพาน “จะไปไหนดี... จะทำยังไงดี” “มันอยู่นั่นไง” เสียงของพวกมันดังใกล้เข้ามาทุกที และสุดท้ายมันก็มาหยุดตรงหน้าหล่อน ลีลาวดีถอยหลังกรูดจนสุดขอบสะพาน ด้านล่างคือน้ำทะเลลึกและเย็นเฉียบ ในขณะที่ด้านบนคือความพังพินาศของชีวิต หญิงสาวหัวใจสะท้าน ความหวาดกลัวดุจลูกปืนที่วิ่งตัดขั้วหัวใจ “คิดว่าจะหนีรอดเหรอ นังระยำ” ลูกพี่ของมันเดินขึ้นมาอยู่ตรงหน้าสุด “ไอ้คนชั่ว อย่าทำอะไรฉันนะ” “กูจะทำ กูจะเอามึงไปขายบนเรือของฝรั่ง ให้มึงเป็นโสเภณีบนเรือยังไงล่ะ ชัดเจนไหมอีนังผู้หญิงฤทธิ์มาก” “ไม่... ฉันไม่ยอม ฉันไม่มีวันขายตัว พวกแกอย่าเข้ามานะ” แต่พวกมันสนที่ไหนกันล่ะ ยังคงเดินต้อนเข้ามาหาเรื่อยๆ แถมยังหัวเราะสะใจ “แน่จริงก็โดดลงไปสิ ตรงนี้น้ำลึกนะจะบอกให้ ยิ่งดึกดื่นแบบนี้ รับรองไม่หนาวตายก็เป็นตะคริวตายแน่ๆ” ใช่... หล่อนรู้ดีว่าถ้ากระโดดลงไปทางรอดมีไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ “พวกแกต้องการเงินเท่าไหร่ ฉัน... จะหามาให้” “อย่ามาต่อรอง กูต้องการตัวของมึงไปขาย ชัดเจนไหม” “ไม่... อย่าเข้ามานะ” พวกมันไม่พูดอะไร แต่หัวเราะลั่น ในขณะที่หล่อนกำลังหวาดกลัวยิ่งนัก “ฉันจะไม่ยอมขายตัว... ฉันยอมตาย...” “ยอมตาย... งั้นก็กระโดดลงไปสิ จะได้ตายสมใจ” พวกมันยังไม่หยุดก้าวเท้า ยังคงเดินเข้ามาหาเรื่อยๆ สุดท้าย... สุดท้ายก็มาถึงตัวหล่อน ลีลาวดีตกใจมากสะบัดมือจากพวกมัน และตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำทันที ตู้ม!!! “เฮ้ย... มันโดดจริงๆ ลูกพี่” “กูเห็นแล้ว นังนี่มันใจเด็ดนัก พวกมึงกระโดดลงไปลากตัวมันขึ้นมาให้ได้นะ และต้องเป็นๆ เท่านั้น ถ้ามันตาย พวกมึงก็ต้องตาย จำเอาไว้” ไอ้คนที่เป็นลูกน้องสี่ห้าคนมองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น “แต่น้ำลึกนะลูกพี่ แถม... เย็นด้วย” “แล้วพวกมึงกลัวลูกปืนหรือน้ำลึกมากกว่ากันล่ะ” คนพูดเล็งปืนไปที่กลุ่มลูกน้องของตัวเอง ตั้งลำและทำท่าจะยิง “ได้ครับ ได้ครับ พวกผมจะโดดเดี๋ยวนี้ เฮ้ย... โดดโว๊ย” ตู้ม ตู้ม ตู้ม เสียงของหนักกระทบกับผิวน้ำทะเลดังขึ้นหลายครั้ง ท่ามกลางความมืดมิดที่มีเศษเสี้ยวของดวงจันทร์เป็นพยานเท่านั้น รอยยิ้มพึงพอใจผุดพรายบนใบหน้าเหี้ยมโหด และแน่นอนว่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตัณหาราคะบนกลิ่นของเงินตรากำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในอีกไม่ช้า...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD