งานฉลองวิวาห์ยิ่งใหญ่อลังการเกิดขึ้นที่โรงแรมหรูกลางกรุง ด้านข้างตัวอาคารขนาบริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดูละมุนละไมงดงามไปด้วยแสงไฟที่จัดแบบอลังการ ลานจอดรถมีรถยนต์นำเข้าหรูๆ หลายร้อยคัน จอดจนเต็มลาน เพราะนั่นคือรถยนต์ของบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมาเป็นสักขีพยานในงานฉลองสมรสระหว่าง ฑิฆัมพร หทัยวรรณบุตรสาวคนเดียวของนักการเมืองคนดัง กับหนุ่มต่างชาติดีกรีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย เมื่อฮิวล์ ลีมัสเป็นบุตรชายคนกลางของเจ้าของสายการบินชื่อดังลีมัสแอร์ไลน์ ชายหนุ่มควบตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของลีมัสแอร์ไลน์
แสงไฟสว่างมะลังมะเลืองสว่างทั่วทุกพื้นที่ ทุกแห่งหนถูกประดับประดาไปด้วยซุ้มดอกไม้นานาชนิด ดอกไม้ช่อใหญ่ๆ ล้วนแล้วแต่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล สร้างบรรยากาศอ่อนหวานให้แก่งานในค่ำคืนนี้เป็นยิ่งนัก นักข่าวทั่วทุกสารทิศแห่มารวมตัวกันหน้าห้องโถง เพื่อรอช่วงเวลาสำคัญ คือการที่เจ้าสาวแสนสวยในค่ำคืนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา เหนือบันไดวนสีงาช้าง...
แสงแฟลชสว่างวาบๆ ขึ้นทุกเสี้ยววินาที เนื่องจากทุกพื้นที่มีแต่คนเด่นคนดัง ทีมการ์ดต่างทำหน้าที่ด้วยความแข็งขัน พวกเขาพร้อมอำนวยความสะดวกให้แขกผู้มีเกียรติทุกผู้ทุกคน เพราะทุกผู้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณงานล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญ ฐานะเป็นผู้มีอันจะกินมีหน้ามีตาทางสังคม
ฮิวล์ชะเง้อคอมองด้านบนดวงตาเป็นประกาย วันที่เขารอคอยมาเกือบ 7 ปีมาถึงในที่สุด ชายหนุ่มไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฑิฆัมพรจะยอมใจอ่อนในนาทีนั้น เธอตอบตกลงแต่งงานเมื่อเขาตัดสินใจขอเธอในวันหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศเป็นใจ ฮิวล์ดีใจสุดๆ เขารีบเนรมิตงานแต่งงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทุ่มเทไม่อั้นงบประมาณเพื่อเนรมิตงานแต่งงานขึ้นมาให้ได้เร็วที่สุด
ทีมงานวิ่งกันขาขวิดเพื่อทำทุกอย่างให้ได้อย่างที่ฮิวล์ต้องการ เมื่อมันทั้งโปรโมทชื่อเสียงบริษัทเวดดิ้งของตัวเองไปทั่วโลกและได้ค่าตอบแทนจนเกินคุ้ม
ภายในห้องเตรียมตัวเจ้าสาวฑิฆัมพรนั่งกุมมือนิ่งๆ บนเก้าอี้บุนวมเนื้อนุ่ม หน้าหวานมีร่องรอยไม่สบายใจ เธอยังมีความกังวลใจบางอย่างและมันรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่วันนี้เป็นวันสำคัญของตัวเองแท้ๆ เธอน่าจะปลื้มปีติกับอนาคตสวยหรูในภายภาคหน้าของตัวเองแต่...เธอกลับรู้สึกหนักหน่วงในอก มันอึดอัดและมืดมน
ฮิวล์ ลีมัสเป็นเพื่อนชายคนเดียวที่เธอให้ความสนิทสนมมากกว่าใครทุกคนที่เขามาในชีวิต จนเธอคิดว่าจะสามารถรักเขาได้ในอนาคต ถ้า...ถ้าไม่มีเงาลางๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ติดตามเธอมาตลอด ตามติดเธอเหมือนเงาของตัวเอง ไม่ว่าจะพยายามลบพยายามลืมเท่าไร! มันก็ไม่สามารถทำได้เลยซักครั้ง รู้สึกเหมือนกับว่ามันจะดีดกลับมาและสะท้อนกลับไปกลับมามากขึ้นนับเท่าทวี วิคเตอร์ มารินชายที่เป็นอดีตสำหรับเธอ เขาเป็นรอยด่างในชีวิตแรกรุ่น เมื่อเขาคือผู้ชายคนเดียวที่เธอยกหัวใจให้ทั้งดวง แต่เขาผู้นั้นกลับผลักไสเธอออกไปจากชีวิตเขา เพียงเพราะเธอยังเป็นเด็ก ไร้รูปทรงอะร้าอร่ามอย่างที่เขาปรารถนาและต้องการ...
อดีตไกลโพ้น นาน...นานมากและเธอไม่อยากจะจดจำเอาไว้ซักนิด หากไม่เป็นเพราะว่าเธอและเขาย้อนกลับมาเจอกันอีกครั้ง โดยบังเอิญ! บนสายการบินของลีมัสแอร์ไลน์ที่เธอใช้โดยสารกลับบ้าน ตอนที่เรียนจบ เหตุการณ์ในครั้งนั้นยิ่งย้ำเตือนเธอ มันทำให้เธอมั่นใจว่าในหัวใจของเขาไม่เคยมีเงาของเธอซ่อนอยู่เลย เป็นเพราะ...วิคเตอร์จำเธอไม่ได้! และเขาทำท่าทางพึงพอใจอย่างมาก เธอจนแสดงอาการออกมาให้เห็นโจ่งแจ้ง อาการกะลิ้มกะเหลี่ยของผู้ชายยามที่เจอสาวสวยถูกใจ เขาเป็นหนุ่มเสเพลที่เธอพยายามจะลืม นับตั้งแต่ถูกสลัดทิ้งแบบไร้เยื่อใยในสมัยแรกรุ่น เธอจำเขาได้ไม่มีทางลืม วิคเตอร์ มาริน!
เธอเปลี่ยนตัวเองหลายอย่างหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น นับตั้งแต่ควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก มั่นออกกำลังกายเป็นประจำให้รูปร่างออกมาสมบูรณ์พร้อม หลายปีเหมือนกันสำหรับลูกเป็ดขี้เหร่จนกลายเป็นสาวสะพรั่งเฟอร์เฟค ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ไม่สามารถหารอยตำหนิในตัวเธอเจอ
ฑิฆัมพรจำได้ทุกประโยคที่วิคเตอร์ถามเธอ ระหว่างการเดินทางและท่าทางอย่างนั้นยิ่งทำให้เธอยิ่งอยากถอยห่างวิคเตอร์มากขึ้น...เพราะมันย้ำเตือนถึงอดีตแสนนานที่เธอต้องการจะลืม
“สวัสดีคนสวย เดินทางคนเดียวเหรอครับ?”
เสียงทุ้มๆ เอ่ยถามใกล้ๆ ฑิฆัมพรจึงเงยหน้าขึ้นจากการอ่านหนังสือแมกกาซีนในมือ เธอเหลือบสายตามองอีกฝ่าย ก่อนจะตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อผู้ชายที่นั่งด้านข้างคือคนที่เธอจำฝังใจ...
“ค่ะ...” เธอตอบช้าๆ หลังปรับความตื่นตะลึงลงจนสำเร็จ รีบเสก้มหน้าหลบ ตัดความสนใจเขาทั้งที่ภายในหัวใจเต้นโครมคราม!!
วิคเตอร์ปรายตามองทรวดทรงองเอวของสาวสะคราญด้านข้างตามันวับ ผิวเนื้อเธอเนียนละเอียดสีขาวอมชมพูระเรื่อ พวงแก้มอิ่มย้อยน่าฝังปลายจมูกสูดกลิ่นหอมๆ พวงผมสลวยเงางามน่าสัมผัส มันยาวสยายละแผ่นหลังคลอเคลียกรอบหน้าดูงดงามจับตา สายตาคมดุไล่มองละเรื่อยจากวงหน้าหวานฉ่ำ จนสายตาเริ่มลงต่ำถึงทรวงอกอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมสีขาวสะอาด เรียวขายาวๆ ใต้กางเกงผ้ายืดแนบเนื้อ รวมๆ แล้วเธอต้องตาและกำลังจะต้องใจ
“ไปเที่ยวหรือไปทำงานกันครับ” คำถามต่อมาแทบทำให้ฑิฆัมพรแทบจะหมดความอดทน เขาจำเธอไม่ได้แม้แค่เสี้ยวธุลีดิน จึงไม่เคยรู้ความเป็นไปของเธอเลยซักนิด ผิดกับเธอที่รู้ทุกอย่างในชีวิตเขานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปากของเธอบอกว่าเกลียดเขาสุดหัวใจ แต่ก็ไม่วายติดตามข่าวสารการดำเนินชีวิตเขามาตลอด ไม่ว่าวิคเตอร์จะขยับตัวทำอะไรเธอย่อมรู้ แต่...กับเธอเอง เขาลืมลืมสนิท แค่ลืมไม่พอ...สำหรับเขา
ที่สำคัญเธอหายไปจากการวนเวียนรอบตัวเขา เขาก็ยังไม่รู้ หลังจากนั้นเธอพยายามตัดใจจากเขา ทางเดียวที่จะลืมวิคเตอร์ได้...เธอจะต้องไม่เห็นเขาสักระยะ หญิงสาวจึงตัดสินใจสินเหินฟ้าไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อลืมความหลังเกี่ยวกับเขาให้หมดไปจากใจ (แค่คิดทำไมได้หรอกนะ แต่ขอหนีไปตั้งหลักไกล... เก็บหัวใจช้ำๆ กลับคืนเมื่อคนที่เธออยากให้เขาไม่ต้องการหรือเหลียวแล)
“เรียนค่ะ” เสียงตอบเรียบกริบ รีบหยิบหนังสือแมกกาซีนตรงช่องด้านหน้าขึ้นมาเปิดแบบผ่านๆ เพื่อแสดงให้เขารู้ว่าเธอต้องการอยู่ในความสงบส่วนตัว
วิคเตอร์งันไปเลยกับปฏิกิริยาตอบรับจากฝ่ายตรงข้าม เป็นไปได้หรือ? เป็นได้ไงว่ายังมีผู้หญิงคนไหนบนโลกใบนี้ที่จะไม่สนใจเสน่ห์ร้อนแรงของวิคเตอร์ มาริน!
ก็ในเมื่อนับตั้งแต่เติบโตจนเป็นหนุ่มฉกรรจ์และเริ่มมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิง ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนทานเสน่ห์ของเขาได้สักคน แต่...ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว กับผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ เธอไม่สนใจเขาไม่พอ ยังทำท่ารำคาญใส่...เป็นไปได้หรือ?... ความสับสนเกาะอยู่ในหัวใจ จนทำให้เขาอยากเอาชนะเธอเพิ่มขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้เธอรู้...ไม่มีสิ่งไหนบนแผ่นดินจะหนีเขาพ้นหากเขาต้องการ ให้มันรู้ไปสิว่า วิคเตอร์ มารินจะพ่ายแพ้ให้แก่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงคนเดียว สองมือยกขึ้นกอดอกพุ่งสายตาไปที่เธอแบบเจาะจง เขาแสดงออกโจ่งแจ้งแบบนี้ดูซิว่าเธอจะไม่หวั่นไหวบ้างให้มันรู้ไป...
ฑิฆัมพรถอนใจเฮือก กะพริบเปลือกตาถี่ๆ เมื่อตนเองตกอยู่ในภวังค์ความหลังเสียนาน ก่อนที่จะสะดุ้งเฮือก!! เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในส่วนนอกห้องที่ทีมงานแต่งหน้าแต่งตัวเกาะกลุ่มคุยกันอยู่ เสียงกรีดร้องก้อง เสียงโต๊ะตัวใหญ่ๆ ล้มตึงตัง!! ความสงสัยทำให้เธอนั่งไม่ติด รีบหยัดกายลุกขึ้นยืน สองมือเล็กหอบชายกระโปรงฟูฟ่องขึ้นไว้ในอ้อมแขน รีบสาวท้าวเร็วๆ ตรงไปยังบริเวณที่เกิดเสียงดังเพื่อดูให้เห็นกับตาตัวเอง มันเกิดอะไรขึ้น?