“เดี๋ยวสิคะ บัวอยากเปลี่ยนผ้าปูที่นอนน่ะค่ะ พี่ดินช่วยหน่อยได้ไหมคะ สีนี้ดูจืดไป บัวอยากได้สีสันสดใสกว่านี้”
พลอยชมพูถามเสียงอ้อนเล็กน้อย มองด้วยสายตาขอร้องอยู่ในที ซึ่งรู้ว่าคนตรงหน้าไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน
“ได้สิคะน้องบัว รอพี่สักครู่”
หัสดินเดินออกไปจากห้องไม่นานก็กลับมาพร้อมผ้าปูสีสวย พลอยชมพูยิ้มน้อยๆ ก่อนปรับสีหน้าดังเดิม เขาคงคุ้นชินกับบ้านหลังนี้ถึงขนาดรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน
“เปลี่ยนให้ด้วยสิคะ”
พลอยชมพูร้องขอ หัสดินยิ้มอบอุ่น จัดการกับผ้าปูที่นอนอย่างแข็งขัน เขาดึงผ้าปูของเก่าออก ความจริงเป็นผ้าปูที่มารดาเพิ่งสั่งให้คนเปลี่ยนก่อนที่จะไปรับหญิงสาว แต่ในเมื่อเธอไม่ชอบเขาก็ยินดีเปลี่ยนให้ใหม่
พลอยชมพูมองชายหนุ่มเพลิน เขาคล่องแคล่วไม่เก้กังสักนิด ดูเอาการเอางานไม่เหลาะแหละแบบที่เธอคิด
“ให้บัวช่วยนะคะ”
เธอจับมือของเขาเอาไว้ เหมือนกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วร่าง
หัสดินดึงมือออกอย่างสุภาพ พลอยชมพูแอบขำคนขี้อาย โตจนป่านนี้แล้วจะมีอะไรกับผู้หญิงหรือยังนะ
นี่เธอคิดอะไรอยู่ยัยบัวบ๊องเอ๊ย...
เธอเห็นเขาดึงผ้าปูอีกด้าน จึงดึงด้วย... ด้วยความที่ไม่ตั้งใจจึงเสียหลักล้มลงเพราะออกแรงดึงเต็มกำลังพลอยชมพูคว้าแขนของหัสดินเมื่อล้มลงไปบนเตียง เขาเสียหลักล้มทาบทับเต็มแรง
“อุ๊ย!”
หัสดินตัวแข็งทื่อเมื่อสบตากับสาวน้อยในระยะกระชั้นชิด พลอยชมพูตวัดแขนโอบรอบคอหนาเอาไว้ เหมือนหาหลักยึด แต่ใครจะรู้ว่าเธอจงใจแค่ไหน
“เอ่อ... น้องบัวคะ”
“พี่ดินเคยจูบผู้หญิงหรือยังคะ”
เธอไล้มือตามต้นคอหนาเบาๆ มองเขาด้วยสายตายั่วๆ คำถามนั้นทำให้ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง ใบหน้าแดงลามไปถึงใบหู ความน่ารักทำให้เขาอดใจแทบไม่ไหว ริมฝีปากที่เผยอยั่วยวนทำให้สุดจะหักห้ามใจ ริมฝีหยักลึกกดประทับนิ่มนวล สาวน้อยวัยสิบแปดเบียดร่างเข้าหาร่างสูงใหญ่อย่างวาบหวิว
หัสดินมองด้วยความเสน่หา ริมฝีปากสีกุหลาบหวานล้ำ เขาคลึงนิ้วไล้ไปมา อารมณ์หนุ่มฉกรรจ์คุกรุ่นยิ่งยวด กายสาวที่บดเบียดเพิ่มแรงกระสันซ่านให้ความเป็นชายลุกโชนเร่าร้อน
ชายหนุ่มหลับตาลงข่มใจตัวเองให้อดทนเอาไว้สุดกำลัง เขากำลังลวนลามเธอ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวตัวเอง ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ถ้าใครรู้เข้าเธอจะเสียหายในสายตาของคนอื่น
พลอยชมพูยกใบหน้าขึ้นจุมพิตริมฝีปากเขาเบาๆ สายตาสีน้ำตาลเข้มระยับรีบลืมขึ้นอย่างตกใจ สบกับดวงตาสวยใสที่มองท้าทายเขาอยู่
“ทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ” เขาพูดเสียงติดจะดุ
พลอยชมพูโน้มศีรษะเขาลงมาอีกครั้ง ริมฝีปากประทับกันนิ่งนาน ไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย คราวนี้หัสดินเป็นฝ่ายบดจูบเพื่อสั่งสอนสาวน้อยจอมยั่ว
เธออยากบอกเขาทางร่างกายว่ายินยอม เธอเป็นผู้เริ่ม และไม่มีอะไรที่ไม่ดีถ้าทั้งสองคนมีใจตรงกัน
“บัวกลับมาทำไมไม่รอพ่อ นี่ทำอะไรกัน”
ทรงศักดิ์ได้รับคำตอบว่าพลอยชมพูกลับมาแล้ว เขาดีใจมาก ไม่ได้ติดใจอะไร คิดว่าตัวเองเดินทางไปรับบุตรสาวช้าเสียอีก เธอจึงหนีกลับมาก่อน เลยรีบบึ่งรถกลับมา และขึ้นมาบนห้องบุตรสาวมาด้วยความดีใจ
พรพิมลตกใจยกมือทาบอกไม่แพ้สามีที่เห็นบุตรชายกำลังกอดรัดกับลูกเลี้ยงนัวเนียอยู่บนเตียง แถมทั้งคู่กำลังถึงเนื้อถึงตัวกอดจูบกันดูดดื่ม
พลอยชมพูยกยิ้มก่อนผลักหัสดินเต็มกำลัง ร่างของชายหนุ่มเสียหลักหงายหลังบนที่นอนกว้าง หญิงสาววิ่งไปหาบิดากอดซุกที่อกกว้างร้องไห้ออกมาเต็มที่ เธอแอบเหลือบมองเขาเล็กน้อย นึกขอโทษเขาอยู่ในใจ แต่ถ้าไม่ใช้วิธีนี้เธอคงไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
“บัวอย่าร้องลูก”
ทรงศักดิ์ตวัดสายตามองหัสดินเขม็ง ความหวงแหนในตัวบุตรสาวมากมายนัก แม้เขาจะรับรู้ว่าลูกเลี้ยงเป็นคนดี แต่การกระที่เห็นทำให้เขารับไม่ได้
หัสดินนิ่งงันมองสาวน้อยในอ้อมแขนของบิดาเลี้ยงไม่วาง เขาเลือกที่จะนิ่งเงียบไม่ตอบรับ ปฏิเสธ หรือพูดอันใดทั้งนั้น คิดว่าหญิงสาวคงอยากพูดอะไรอีกมากมาย เขาจะเป็นผู้ฟังที่ดี และรับผิดชอบในการกระทำ ขอเพียงให้เธอบอกว่าต้องการอะไรที่ได้ทำลงไปแบบนั้น
ใบหน้าเรียบติดจะขรึมของชายหนุ่มทำให้พลอยชมพูใจสั่นเล็กน้อย แต่เธอบอกตัวเองว่าเธอไม่ได้ทำผิดอันใด
ทรงศักดิ์มองบุตรสาวกับลูกเลี้ยงหนุ่มนิ่ง เขาไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน แต่ทั้งสองไม่ใช่พี่น้องที่คลานตามกันมา อารมณ์หนุ่มสาวหากเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ และมักเลยเถิดจนกู่ไม่กลับ
แม้จะเคยคิดเสมอว่าหัสดินเหมาะสมที่จะดูแลบุตรสาว แต่อย่างไรเสียก็ไม่อยากให้จบลงแบบนี้ เพราะสำหรับเขามันยังไม่ถึงเวลาที่สมควร
“คุณพ่ออย่าว่าพี่ดินเลยค่ะ พี่ดินไม่ได้ตั้งใจ พี่ดินแค่ไปช่วยเหลือบัวปูที่นอนให้เท่านั้น”
พลอยชมพูออกโรงปกป้องหัสดินเสียเอง ทั้งๆ ที่เธอแสดงอาการให้ทุกคนเห็นว่าโดนชายหนุ่มรังแกเอา
“ปูที่นอนอะไร ก็น้าพรสั่งให้สายจัดการไปแล้วนี่”
ทรงศักดิ์ถามเสียงขรึม ไม่พึงใจนัก
“บัวไม่ชอบสีนั้นค่ะ เลยขอให้พี่ดินช่วยเหลือ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ จริงไหมคะพี่ดิน”
ท้ายประโยคพลอยชมพูหันไปถามชายหนุ่ม หัสดินยังนิ่งงันเพราะกำลังมึนงงไม่หาย ตอนนี้เขาไม่เข้าใจว่าสาวน้อยตรงหน้าต้องการอันใดกันแน่
“แต่ที่พ่อเห็นมันไม่ใช่ แล้วบัวก็เสียหาย”
ทรงศักดิ์ชั่งใจหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มนิ่ง เขาไม่เคยปฏิเสธเลยว่าชื่นชอบในตัวหัสดินนัก ตลอดสี่ปีที่ชายหนุ่มศึกษาเล่าเรียนและเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำงาน ทำให้เขาไว้เนื้อเชื่อใจและเคยคิดว่าอยากจะฝากพลอยชมพูให้อีกฝ่ายดูแล
ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ เขาน่าจะทำอะไรสักอย่างตามที่เคยคิดเอาไว้นานแล้ว ให้สำเร็จสมดังหวัง เพราะตอนนี้บุตรสาวอันเป็นที่รักเจริญวัยกว่าเมื่อสี่ปีก่อนนี้มากนัก
“บัว... พ่อคงปล่อยเลยตามเลยไม่ได้”
ทรงศักดิ์พูดเสียงติดจะขรึมแท้ที่จริงในใจนั้นผ่อนคลายยิ่งนัก ที่จะมีคนดูแลทรัพย์สมบัติรวมถึงบุตรสาวเพียงคนเดียว แถมเป็นคนที่ไว้ใจได้มากที่สุด
“ดิน”
ทรงศักดิ์เรียกลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงปรานี หัสดินเงยหน้าสบตากับบิดาเลี้ยงไม่หลบ ยอมรับในสิ่งที่ผู้มีพระคุณกำลังจะพูด
“ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ ลุงอยากให้ดินรับผิดชอบโดยการหมั้นหมายกับบัวเอาไว้ก่อน รออีกสี่ปีให้บัวเรียนจบค่อยแต่งงานกัน ดินจะว่ายังไง” พลอยชมพูใจระทึกรอคอยว่าชายหนุ่มจะว่าอย่างไร
หัสดินมองหน้าสาวน้อยนิ่ง เหมือนรอคอยให้เธอปฏิเสธหรือตอบรับ แต่สำหรับเขาไม่มีอะไรที่จะขัดเลยแม้แต่น้อย เพราะหลงรักสาวน้อยหน้ามนตั้งแต่แรกเห็นหน้าเมื่อหลายปีก่อน
“พ่อคะ”
พลอยชมพูเอ่ยเหมือนทัดทานมองหน้าบิดานิ่ง ก่อนหลบหน้าเมื่อดวงตานั้นไม่ได้ทัดทานด้วย
“พอเถอะ พ่อตัดสินใจไปแล้ว”
ทรงศักดิ์รีบตัดบทสนทนา คนเป็นพ่อรู้ดีว่าลูกสาวคนเดียวกำลังคิดเช่นไรอยู่
“ลูกมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวลงมาทานข้าวด้วยกัน พ่อจัดงานเลี้ยงให้ลูกสาวของพ่อ ที่เรียนจบได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ลูกของพ่อเก่งที่สุด” ทรงศักดิ์กอดรักบุตรสาวด้วยความรัก
พลอยชมพูลอบมองหน้าหัสดิน เขายังยิ้มอบอุ่นให้เธอเช่นเดิม เธอหลบตารู้ทันของเขาด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
ลูกสาวนายหัวใหญ่ที่ออกมาด้วยชุดที่เป็นผ้าบาติก สะดุดตาทุกคนในงาน จนหนุ่มๆ มองกันตาค้าง
หัสดินมองหญิงสาวด้วยสายตารักใคร่และเทิดทูน เธอก้าวมาพร้อมบิดาอย่างสวยสง่า หลายปีที่เธอห่างหายไป เขาเฝ้าคิดถึงทุกเวลาทุกวินาที ไม่เคยมีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงเธอเลยสักครั้ง