“ฉันจะไม่ช่วยใครทั้งนั้น เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องเข้าไปยุ่ง โดยเฉพาะเรื่องที่มีผู้ชายคนนี้เกี่ยวข้องด้วย” แก้วมุกดาหันไปมองหน้าอเล็กซิสที่หันมาทำหน้าเบ้ใส่เธอเช่นกัน
“ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยธรรม ไม่สวยแล้วยังใจดำอีก ระวังเถอะชาติหน้าเกิดมาจะขี้เหร่กว่านี้อีก” อเล็กซิสสวนกลับทันทีแบบไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“เฮ้ย! ไอ้เจฟแกจะลดตัวไปขอร้องยัยนี่ให้มันเสียเกียรติทำไมวะ มีอะไรบอกฉันนี่ฉันช่วยแกได้ทุกอย่างนั่นแหละ” อเล็กซิสหันไปบอกกับเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ที่แก้วมุกดาทำเป็นเล่นตัว
“อเล็กซ์แกเงียบสักทีเหอะน่า เรื่องนี้มีแต่แก้วมุกดาเท่านั้นที่ช่วยได้” จิโอวาโน่หันมาตะคอกใส่อเล็กซิสอย่างคนกำลังร้อนใจ ตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือคำว่าตกลงจากแก้วมุกดาเท่านั้น อย่างอื่นต่อให้ต้องแลกมากกว่านี้เขาก็ยอม
“คุณจะให้ฉันช่วยอะไร” แก้วมุกดาถามหยั่งเชิง อยากรู้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องพลังจิตของเธอมากน้อยแค่ไหน
“ช่วยถอดจิตหรืออะไรก็ได้ ที่สามารถตามหาคนรักของฉันเจอ” คนรักที่จิโอวาโน่พูดถึงก็คือ ไอรดา เอลล่า ชาร์ตัน(จากเรื่อง “พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย”) ผู้หญิงที่ทำให้ใครหลายคนในนี้ยิ้มและปวดหัวไปพร้อมๆ กันได้
“เสียใจ ฉันคงช่วยคุณไม่ได้ เพราะฉันคงไม่มีความสามารถพอ ที่สำคัญทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกกำหนดมา ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคน ฉันคงไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ขอโทษแล้วก็คงต้องขอตัว” แก้วมุกดาพูดจบก็หันไปพูดกับเพื่อนต่อ
“ไปเหอะหยี ต่อให้ไม่มีเราสองคนเขาก็ต้องช่วยตัวเองกันได้ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อช่วยเหลือใคร มันไม่ใช่หน้าที่ และเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของใครด้วย ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามวิถีที่มันควรจะเป็นจะดีกว่า” แก้วมุกดาพยายามฉุดแขนสุดที่รักให้เดินตามเธอออกไป แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพยายามรั้งเอาไว้และต่อว่าเธออีก
“ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ไปได้ แก้วตาคนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก คนที่ใจดีเห็นอกเห็นใจคนอื่นเสมอไปไหนแล้ว แต่ไม่เป็นไรในเมื่อแกไม่ช่วยฉันก็จะช่วยเขาเอง” สุดที่รักตัดพ้อเพื่อนด้วยความผิดหวัง
“จะไปสนใจอะไรกับยัยเด็กขี้ขลาดนี่ เก่งจริงอย่างที่ปากว่ารึเปล่าก็ไม่รู้ หรือที่ทำเป็นเล่นตัวปฏิเสธไม่ยอมช่วย หรือจริงๆ แล้วไม่ได้มีพลังจิตอะไรนั่นเลยกันแน่” คำพูดถากถางของอเล็กซิสทำให้แก้วมุกดาที่กำลังจะเดินออกไปจำต้องหยุดชะงัก และโพล่งบางอย่างออกมา
“ฉันตกลงช่วยคุณก็ได้ แต่…” มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเธอไม่มีคำว่าแต่ ซึ่งไม่ใช่แค่พูดแต่ยังปรายตาไปมองยังอเล็กซิสอย่างหมายมาดด้วย “แต่มีข้อแม้ว่าถ้าฉันช่วยแฟนคุณสำเร็จ ผู้ชายคนนี้จะต้องกลายมาเป็นทาสรับใช้ฉันหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ถ้าคุณโอเคฉันก็โอเค” แก้วมุกดาว่าพลางยักคิ้วให้ว่าที่ทาสคนใหม่อย่างคนถือไพ่เหนือกว่า
“มันจะมากไปแล้วยัยลูกเป็ดปากเปราะ กล้าดียังไงถึงคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมเป็นเบ๊รับใช้ผู้หญิงอย่างเธอ ไอ้เจฟมันไม่มีวันยอมรับข้อเสนอบ้าๆ ของเธอแน่ ใช่ไหมวะเจฟ” อเล็กซิสหันไปมองหน้าเพื่อนรักอย่างต้องการคำยืนยัน แต่แล้วเขาถึงกับต้องครางออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไอ้เจฟไอ้เพื่อนทรยศ กูเพื่อนมึงนะ ไม่มีทางกูไม่ยอม มึงจะทำอย่างนี้กับกูไม่ได้” อเล็กซิสถึงกับโอดครวญเมื่อได้มองหน้าจิโอวาโน่ชัดๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสีหน้าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
“ในเมื่ออีตาป๋าหื่นนี่ไม่ยอมรับข้อเสนอฉัน งั้นฉันก็คงช่วยอะไรพวกคุณไม่ได้ เอาเป็นว่าฉันขออวยพรให้พวกคคุณโชคดีก็แล้วกัน” แก้วมุกดาหยักยิ้มพลางยักไหล่อย่างเป็นต่อ
“แก้วตาฉันว่าแกทำเกินไปนะ จะให้คุณอเล็กซ์เขาทำแบบนั้นได้ยังไง” สุดที่รักที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเพื่อนแม้แต่น้อยแย้งขึ้น แต่จิโอวาโน่กลับไม่คิดเช่นนั้น
“ขอร้องล่ะ ถือว่าทำเพื่อไอด้าสักครั้งนะ ถ้าช่วยไอด้าออกมาได้เราสองคนจะไม่ลืมบุญคุณแกเลย แกอยากได้อะไรฉันจะประเคนให้ทุกอย่าง ตอนนี้ชีวิตไอด้าอยู่ในกำมือแกนะอเล็กซ์” ชั่วโมงนี้จิโอวาโน่ลืมทุกอย่างไปหมดสิ้น รู้แค่ว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้พบไอรดาคนรักของตัวเองโดยเร็วเขายอมทั้งนั้น แม้กระทั่งต้องเอาตัวเพื่อนอย่างอเล็กซิสเข้าแรกก็ตาม
จนในที่สุดเมื่อโดนรบเร้าจากเพื่อนจนทนไม่ไหว อเล็กซิสจำต้องยอมตกปากรับคำยอมรับข้อเสนอนั้นของเธอ ใจนึงก็อยากให้เธอทำสำเร็จเพราะอยากให้เพื่อนรักได้เจอคนรักของตัวเอง แต่อีกใจกลับคิดตรงข้าม เพราะนั่นหมายความว่าถ้าเธอทำสำเร็จ เขาก็จะต้องกลายไปเป็นทาสรับใช้ให้ผู้หญิงอย่างแก้วมุกดาจริงๆ แล้วมาเฟียอย่างเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
แต่จนแล้วจนรอดสิ่งที่อเล็กซิสกลัวก็มาถึงเกิดขึ้น เพราะนอกจากแก้วมุกดาจะทำสำเร็จด้วยการหาตัวไอรดาจนเจอแล้ว เธอยังกลายเป็นน้องสาวบุญธรรมของไอรดา ผู้หญิงที่ไม่มีใครคิดอยากเป็นศัตรูไปโดยปริยายด้วย (เพราะอะไรตามอ่านได้ที่ “พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย) ทีนี้คนที่ต้องก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมอย่างอเล็กซิสก็ได้แต่แบกรับความอัปยศนี้ไว้ รอว่าเมื่อไหร่จะถึงทีของตนที่จะได้เอาคืน ถึงวันนั้นเขาจะให้เธอชดใช้อย่างสาสม
1 ปีผ่านไป
แก้วมุกดา พันธุรักษ์ สาวน้อยหัวใจแกร่งที่เฝ้ารอด้วยความหวังว่าสักวันเธอจะได้รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง ถึงแม้การอาศัยอยู่ในบ้านปันรัก (สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า) จะอบอุ่นแค่ไหน แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าตัวเองขาดบางสิ่งบางอย่างที่เธอโหยหามาตลอด นั่นคืออ้อมกอดจากพ่อแม่ที่แท้จริง หลายครั้งที่เสียใจและน้อยใจพยายามคิดหาเหตุผลว่าทำไมพ่อแม่ถึงเอาเธอมาทิ้งไว้ที่นี่ แต่ก็นั่นแหละกว่ายี่สิบปีมานี้เธอเฝ้าหาคำตอบมาตลอด แต่มันก็ยังว่างเปล่าเหมือนเดิม
“แก้วๆๆ ยัยแก้ว” ขณะที่แก้วมุกดากำลังนั่งเหม่อลอยคิดอะไรเพลินๆ ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวด้วยเสียงแหลมๆ ของเพื่อนรักอย่างสุดที่รัก
“แกจะตะโกนทำไมเนี่ย นั่งกันอยู่แค่นี้ เกิดแก้วหูฉันแตกใครจะรับผิดชอบ” แก้วมุกดาหันมาเอ็ดเพื่อนไม่เต็มเสียงนัก
“ก็ฉันเรียกแกตั้งหลายครั้งแล้ว แกก็มัวแต่นั่งเหม่อลอยอยู่นั่นแหละ ว่าแต่แกเถอะนั่งเหม่อเรื่องพ่อแม่อีกแล้วใช่ไหมเนี่ย เมื่อไหร่จะเลิกคิดเรื่องพวกนี้สักที แกบอกฉันเองไม่ใช่เหรอว่าทุกอย่างถูกลิขิตมาแล้ว” สุดที่รักอ่อนอกอ่อนใจกับการต้องมานั่งพูดเรื่องนี้กับเพื่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
“แกไม่ใช่ฉันแกก็พูดได้สิ คนที่ไม่รู้ชาติกำเนิดตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไรถึงได้ถูกทิ้งไว้แบบนั้น ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเกิดมาจากความรักหรืออะไรกันแน่ ที่สำคัญฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำยังไง ถึงจะเอาเรื่องพวกนี้ออกไปจากสมองฉันได้” แก้วมุกดาบอกเสียงขื่น ทุกครั้งที่เห็นคนอื่นๆ ได้อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกอย่างมีความสุข เธอจำต้องนึกถึงเรื่องตัวเองทุกครั้งไป
“เฮ้อ! แกก็เป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า ไม่รู้รึไงว่ามันทำให้ฉันห่อเหี่ยวไปด้วย” สุดที่รักทำหน้าเศร้าพร้อมกับเข้าไปกอดเพื่อนรักเอาไว้อย่างต้องการให้กำลังใจ ระหว่างที่เพื่อนรักทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“พี่แก้วฮะ คุณแม่เมษาเรียกให้พี่ไปพบที่ห้องฮะ” เด็กผู้ชายตัวน้อยหนึ่งในสมาชิกของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้วิ่งเข้ามาบอก
“ขอบใจมากจ้าบอมบอม พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ แกจะไปกับฉันด้วยรึเปล่าหยี หรือจะนั่งรอตรงนี้” แก้วมุกดาไม่ลืมที่จะหันมาถามความเห็นเพื่อนก่อนที่จะเดินออกไป