EP 15

1238 Words
“เอ้อ! แต่เด็กๆ มันเม้าส์กันนะว่านางน่ะสวยมาก สวยเฉี่ยวออกไปทางเปรี้ยวเลยล่ะ งานนี้พี่ว่าเข้าทางคุณตะวันนะ เห็นควงแต่ละคนก็สไตล์นี้ทั้งนั้น สงสัยแกจะชอบคนเปรี้ยว แล้วถ้าบำรุงบำเรอแกดีๆ นะ รับรองพี่ว่ารวยไม่รู้เรื่องแน่ ที่ร้อยไร่นางไปนอนแบให้คุณตะวันเอาไม่นานก็คงจะได้กลับไปเป็นของตัวเองแล้วล่ะ เผลอๆ ก็ได้เพิ่มไปอีกหลายร้อยด้วย ก็แกรวยจะตายชัก ใครๆ ก็อยากเป็นคู่ควงของแกทั้งนั้นล่ะ ไม่ควงนานก็ได้ขอให้แบ่งที่สักสี่ซ่าห้าสิบมาให้ก็พอละ ว่าป่าว” แล้วเสียงกดชักโครกก็ดังตามมาในเวลาไม่นาน ก่อนสาวใหญ่วัยสี่สิบจะเปิดประตูออกมา แล้วเกิดอาการเซ่อรับประทานเหมือนอีกคนที่ยืนอยู่ด้านนอกแล้ว เหมือนดาวหันมามองสองสาวด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ แต่เป็นยิ้มที่ทั้งสองต่างหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน เพราะดูเหมือนจะไม่ใช่ยิ้มแห่งมิตรภาพ แต่เป็นยิ้มที่สื่อความหมายว่า ‘ฝากไว้ก่อน ฉันเป็นไทยเมื่อไหร่จะมาเอาคืนหล่อนสองคน’ แล้วเหมือนดาวถึงได้เดินออกไปทันที และไม่คิดจะรออาเลยสักนิด คว้าถุงของฝากที่วางไว้ได้ ก็รีบเดินออกจากออฟฟิศ เลี้ยวขวาไปแล้วเดินตัดสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ตรงไปยังแนวบ้านพักที่อยู่ในส่วนรีสอร์ตแทน จะได้ไปให้พ้นๆ สายตาอันแปลกประหลาดของทุกคน “อ้าว! ทำไมหิ้วของกลับมาเหมือนเดิมล่ะหนูดาว ไม่เจอคุณอาทิตย์เหรอลูก” ผู้แม่ที่นั่งดูทีวีอยู่กับน้องสาวต่างพ่อรีบทักทาย “ไม่เจอค่ะแม่ ไว้ค่อยให้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ สองคนนั้นยังไม่กลับมาเหรอคะ” เหมือนดาวไม่ได้ต้องการคำตอบจากแม่นัก ก็รีบควักมือถือจากกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วรีบกดไปหาเพื่อนทันที “อยู่ไหนอะ! ฉันอยู่บ้านแล้วนะ มารับทีอยากออกไปนั่งรถเที่ยวน่ะ เบื่อๆ”   แสงตะวันยืนเอาไหล่พิงขอบหน้าต่างห้องนอนมองลงไปยังหน้าบ้าน มีรถสองคันแล่นเข้ามาจอดก่อนเวลานัดหมายถึงครึ่งชั่วโมง นั่นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า อีกฝ่ายใจร้อนอยากจะคุยมากแค่ไหน เขาไม่ได้กังขากับผลการเรียนหรือมหาวิทยาลัยดังในอังกฤษที่เมียเด็กจบมาเลยสักนิด แต่กับใบหน้าสวยเฉี่ยว เปรี้ยว ผิดกันคนละเรื่องกับเมื่อหกปีก่อนนี่สิ ช่างน่าสนใจว่าเธอไปทำอะไรมาถึงได้แปลกหูแปลกตาไปมาก สวยขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนราวกับว่าเป็นคนละคน แม้ไม่ได้สวยหวานเหมือนคล้ายเดือน ทว่าสวยใส ในมาดมั่นอกมั่นใจและในแบบที่เขาชอบด้วย แต่ยังไงก็ยัง ‘เด็กเกินไป’สำหรับจะมาเป็นเมียจริงๆ ของเขาอยู่ดี ‘เด็กเกินไป’ ที่จะรับงานทั้งหมดของพ่อไปบริหารเอง ‘เด็กเกินไป’ ที่จะให้มีผู้ชายมาเดินตามต้อยๆ เหมือนตอนนี้ ‘เด็กเกินไป’ ที่จะให้แต่งงานกับพ่อหนุ่มหน้าใสคนนี้ ถ้าเกิดเป็นแฟนกัน แต่เท่าที่ดูแล้วไม่น่าจะพลาดนั่นทำให้เขาอดห่วงไม่ได้ว่ากิจการที่เพื่อนต่างวัยอุตส่าห์สร้างมาด้วยความยากลำบากจะจบลงด้วยมือลูกที่หลงเหลือเพียงคนเดียว และท่าทางจะดื้อกว่าแฝดผู้พี่เสียอีก “คุณหมายความว่ายังไงคะที่จะยังไม่หย่าและไม่ให้ฉันเข้ามาบริหารงานในไร่ของพ่อ คุณสัญญาเอาไว้แล้วเมื่อหกปีก่อนลืมไปแล้วเหรอคะ” และความไม่ยอมคนผสมความดื้อของ ‘เมียในนาม’ ก็ถูกดึงออกมาใช้ทันที เมื่อเขายื่นความจำนงว่ายังไม่ถึงเวลาจะวางมือให้เมียเอากิจการไปบริหารเอง “นั่นสิครับคุณตะวัน หนูดาวก็เรียนจบปริญญาตรีแล้วนะครับ แถมได้เกียรตินิยมอันดับสองมาด้วย” โสรัตน์เองก็ผิดหวังไม่น้อยเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก “ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่หย่า ผมแค่บอกว่าจะยืดเวลาหย่าไปอีกสามปี เพื่อเหมือนดาวจะได้พิสูจน์ให้ผมเห็นก่อนว่าสามารถดูแลอะไรต่อมิอะไรได้เอง ไม่ใช่เอาไปทำโดยไม่มีประสบการณ์ไม่นานเดี๋ยวก็เจ้ง หรือไม่ก็ขาดทุนเหมือนครั้งก่อนจนผมต้องเหนื่อยมาทำให้มันฟื้นขึ้นมาอีก” แสงตะวันเลยอธิบายด้วยความใจเย็นอีกครั้งหลังจากทนายบอกไปในรอบแรก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีใครอยากเชื่อ “ถ้าฉันไม่ยอมล่ะคุณจะทำยังไง” ความเป็นคนไม่ยอมใครสั่งใจให้เหมือนดาวถามออกไปตรงๆ แบบไม่กลัวใครด้วย “คุณจะไปฟ้องหย่าก็ได้นี่ผมไม่ว่า แต่หาทนายเก่งๆ ก็แล้วกันนะ” “หนูดาวจะมีประสบการณ์หรือทำอะไรเองได้ยังไงล่ะคะ ถ้าไม่ได้บริหารที่นี่” ดุจเดือนดูเหมือนจะใจเย็นและอ่อนน้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม “เหมือนดาวจะทำงานที่นี่ก็ได้ หรือจะไปทำที่ไหนก็ได้ แต่ต้องให้ผมมั่นใจก่อนว่าจะดูแลทุกอย่างได้เอง มันอาจจะช้าหรือเร็วกว่าสามปีที่ผมตั้งไว้ก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหมือนดาวคนเดียวว่าจะทำได้เร็วมากน้อยแค่ไหน” “ถ้าถึงสามปีแล้วคุณเห็นว่าฉันยังไม่พร้อมเหมือนวันนี้ล่ะ” คนไม่ยอมใครเลยรีบยิงคำถามตรงๆ “คุณก็นั่งกินเงินปันผลตามส่วนที่ผมแบ่งให้ไปสิ ถ้าคุณหรือผมเกิดอยากจะแต่งงานผมก็จะหย่าให้ แต่ก็ยังได้ส่วนแบ่งจากกิจการเหมือนเดิม คุณก็คงรู้ว่าผมไม่เอาเปรียบคุณในเรื่องนี้” “ถ้าฉันอยากจะหย่าและไม่ยอมให้คุณบริหารงานล่ะ” ทุกคนอึ้งไปชั่วครู่ แม้แต่โสรัตน์ที่ไม่คิดว่าหลานสาวจะปากกล้า เพราะขนาดตัวเองปูนนี้และอยู่ที่นี่มาเป็นสิบปีก็ยังไม่คิดว่าจะกล้าแบบหลานมาก่อน “คุณก็คงต้องไปฟ้องเอาแล้วล่ะ และผมขอแนะนำให้หาทนายเก่งๆ ไว้ด้วยนะ เพราะคุณสุทินฝีมือไม่เป็นสองรองใคร แล้วค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุณไม่มีสิทธิ์มาเบิกจากผมแม้แต่บาทเดียว” แต่แสงตะวันก็ทำเอาทุกคนอึ้งไปชั่วครู่ด้วยประโยคนี้เช่นกัน “ต้องถึงขนาดฟ้องร้องกันเลยเหรอเจ้าตะวัน มันจะไม่รุนแรงไปหน่อยหรือไง” อาทิตย์เห็นท่าไม่ดีเลยแย้งลูกชายเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางสู้ได้แน่ๆ “ถ้าอยากหย่าหรืออยากได้ทุกอย่างคืนก่อนเวลาที่ผมกำหนดก็คงต้องขนาดนี้ล่ะครับป๋า แล้วคุณล่ะจะเอายังไง จะทำงานที่นี่หรือกลับบ้านไปนั่งกินนอนกินเงินปันผลที่ผมจะแบ่งให้” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD