EP 11

1151 Words
“ตามใจ! แล้วนี่จะไปกี่วันล่ะ” ผู้พ่อเหนื่อยจะทักท้วงเลยเปลี่ยนเรื่อง “ยังไม่รู้ครับ เสร็จเร็วเมื่อไหร่จะรีบกลับก็แล้วกัน ผมฝากทางนี้ด้วยนะครับ อย่าเอาเวลาไปหาเมียเด็กของป๋าหมดล่ะ” ลูกได้ทีเลยแหย่เข้าให้ “เดี๋ยวแนทไปดูมื้อเช้าก่อนนะคะ กลัวสมหมายจะทำไม่ถูกใจค่ะ” สองพ่อลูกมองสาวสูงร้อยเจ็ดสิบแปดกำลังลุกขึ้นแล้วก็หันมามองกัน “หวานจะไปดูผลไม้มาให้คุณป๋าก่อนนะคะ” หวานใจก็พลอยลุกไปบ้าง แต่ไม่ได้เข้าไปในบ้านเดียวกับสนันตนา หากเดินไปยังบ้านทรงเดียวกันแต่เป็นแค่สองชั้นที่อยู่ติดกันแทน เพราะสองพ่อลูกแยกบ้านออกจากกันโดยสิ้นเชิง หากแต่ก็ใช้ครัวกับคนรับใช้ด้วยกัน “แกมาว่าแต่ฉันมีเมียเด็ก แล้วแกล่ะ ไม่เด็กเหรอ ห่างกันตั้งเท่าไหร่ ใช่สิบสามปีหรือเปล่านะ” คนเป็นลูกงงกับคำพ่อนิดหนึ่ง แต่ไม่กี่วินาทีก็คิดขึ้นได้ “อ้อ! นั่นมันเหตุสุดวิสัยนี่ครับ แล้วผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเด็กนั่นสักหน่อย พ่อจะเอามาเปรียบไม่ได้หรอกครับ” เลยแย้งพ่อไปด้วยขณะมือก็ชงกาแฟให้ตัวเองไปด้วย “แล้วเมื่อไหร่แกจะยุ่งสักทีล่ะ ป่านนี้ไม่โตเป็นสาวสวยหยาดเยิ้มไปแล้วเหรอ” พ่อทำตาหวานฉ่ำใส่ลูกเป็นการแหย่น้อยๆ “ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้ตามข่าวคราว นอกจากส่งเงินให้ใช้ตามหน้าที่ แต่ขอบอกว่าแม่คุณใช้เงินผมไม่เบาเลยนะแต่ละเดือน เมืองไทยก็ไม่ยอมเรียนดันหัวสูงอยากเรียนนอกอีก จะบ้าตาย!” “อ้าว! แกจะบ่นทำไมล่ะ ในเมื่อเมียขอเงินใช้จ่ายในการเรียน ทีพวกเมียๆ ของแกใช้เปลืองกว่านี้ฉันยังไม่เห็นแกจะมาบ่นเลยนี่” “ไม่มีใครเป็นเมียผมทั้งนั้นล่ะครับป๋า แค่คบๆ กันไปเท่านั้น ผมก็ต้องดูแลตามหน้าที่แมนๆ ของผมสิ ป๋ายังดูแลเมียเด็กของป๋าเลยนี่” “วกเข้ามาหาตัวอีกแล้ว ขี้เกียจเถียงกับแกละ กินดีกว่า” ผู้พ่อเลยก้มลงไปหาชามข้าวต้มกับไข่ลวกแทน ส่วนลูกชายยังจิบกาแฟไปเรื่อยๆ ควบคู่กับการอ่านข่าวไปด้วย เพราะอีกเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะออกเดินทางไปสนามบิน   โตโยต้าคัมรี่สีบรอนซ์เงินกำลังแล่นนำโฟล์คสวาเก้น สกายร็อคโคเข้าสู่ไร่ ‘คล้ายเดือน เหมือนดาว’ ตรงไปจอดยังบ้านพักมีโสรัตน์ยืนรอรับอยู่ก่อนแล้ว “อารัตน์สวัสดีค่ะ” เจ้าของหุ่นผอมบางกับส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบรีบยกมือไว้อาทันทีที่ลงจากรถได้ แต่คนเป็นอากลับยืนงงด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าสาวสวยเฉี่ยวผสมเปรี้ยวตรงหน้าจะเป็นหลานสาวที่ไม่เจอกันมาถึงหกปี “รัตน์! หลานทักไม่ได้ยินเหรอ” จนดุจเดือนที่มีหนูดีในวัยสิบเอ็ดขวบยืนเคียงข้างอยู่ต้องส่งเสียงเตือน “โอ้โห! หนูดาวเหรอนี่ ไม่เจอกันแป๊บเดียวทำไมโตเป็นสาวจนอาจำแทบไม่ได้ขนาดนี้ล่ะ” โสรัตน์ถึงได้หายจากอาการตกตะลึง แล้วยกมือรับไหว้หลาน พร้อมทั้งสองหนุ่มสาวที่ก้าวลงมาจากรถคันหรูตามหลาน “นี่นาย่ากับนุเพื่อนของหนูดาวที่ไปเรียนด้วยกันค่ะ” “สวัสดีจ๊ะ มาเหนื่อยๆ เข้าบ้านก่อนดีกว่า อาให้คนทำความสะอาดไว้แล้ว” “ค่ะ” เหมือนดาวรีบขนกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองที่ดูเหมือนจะมีหลายใบกว่าเพื่อนเดินตามอาไปไม่ห่าง ห้องนอนพี่สาวเมื่อคราวที่แล้วตัวเองใช้นอนพักก็ถูกเปิดประตูเข้าไปโดยมีสองเพื่อนยืนอยู่เบื้องหลัง “จะไหวเหรอยัยหนูดาว ฉันยิ่งขี้กลัวอยู่ด้วย” นรรยาหรือ ‘นาย่า’ ที่เพื่อนๆ มักจะเรียกกันหันไปถามเพื่อความแน่ใจ เพราะรู้เรื่องราวของคล้ายเดือนมาเป็นอย่างดีว่าหวงของแค่ไหน “ไม่มีอะไรหรอกน่า รีบๆ เอาของมาเก็บเข้า จะได้ไปกินข้าวกัน หิวจะตายอยู่แล้ว” นั่นล่ะทั้งสองถึงได้เข้าไปโยนกระเป๋าไว้ในห้องแล้วรีบออกไปทันที โสรัตน์พาทุกคนออกไปกินร้านอาหารข้างนอกไร่ เพราะอยากจะคุยสะดวกปากกว่านี้ “แล้วหนูดาวจะให้อานัดคุณตะวันเลยหรือเปล่าล่ะ จะได้คุยกันให้จบๆ เรื่องไป” พอท้องอิ่มสมองก็เริ่มแล่น “นัดเลยก็ได้ค่ะอา เป็นพรุ่งนี้ก็ดีนะคะ แล้วอาอย่าลืมย้ำเรื่องให้ทนายคนก่อนนั้นมาร่วมรับรู้ด้วยนะคะ ว่าแต่เขากลับจากสเปนแล้วเหรอคะ” เพราะวันก่อนเหมือนดาวโทรมาถามถึงสามีเพียงในนาม เพื่อหาวันเหมาะๆ ที่จะมาเจรจาปัญหาที่ค้างคาเอาไว้ คนเป็นอาเลยบอกไปว่าแสงตะวันจะกลับมาวันไหน ทุกคนถึงได้รีบบึ่งรถมาทันที “เห็นเด็กๆ บอกว่ากลับเมื่อสายๆ นี่เอง ป่านนี้แกน่าจะนอนพักอยู่นะ” “ไปคนเดียวหรือหิ้วใครไปด้วยคะอา” ทุกความเคลื่อนไหวของสามีในนาม เหมือนดาวจะรู้ตลอดเวลา จากการส่งข่าวของคนเป็นอา ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัวและเรื่องงานด้านบริหาร “นุกูลขับรถไปส่งบอกว่าแฟนนางแบบไม่ได้ไปด้วย แต่ไม่รู้ว่านัดแฟนคนอื่นๆ ที่สนามบินหรือบนเครื่องหรือเปล่า อันนี้ไม่มีใครรู้หรอก” โสรัตน์ก็ตอบได้เท่าที่รู้ “อ้าว! แล้วแฟนที่เป็นนางแบบไม่ว่าหรือไงล่ะรัตน์ เห็นว่าคนนั้นคุณตะวันจริงจังไม่ใช่เหรอ” ดุจเดือนเองก็พอรู้จากปากโสรัตน์บ้างเวลาไปกรุงเทพฯ แล้วแวะไปเยี่ยมหาแล้วเล่าเรื่องของรีสอร์ตให้ฟัง ระหว่างเหมือนดาวเรียนอยู่อังกฤษ “รู้แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ! ถ้าฉลาดอยากกินนานๆ อยากได้นานๆ ก็ต้องเก็บปากเงียบไว้ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือถ้าเห็นก็ต้องทำเป็นใจกว้างเข้าไว้” โสรัตน์ตอบด้วยท่าทีดูแคลนคนที่ถูกพูดถึงอย่างเห็นได้ชัด “อ้าว! แล้วถ้าไม่ฉลาดล่ะคะคุณอา” นรรยาอดสงสัยไม่ได้เลยต้องรีบถาม ขณะที่ยังเคี้ยวข้าวอยู่ด้วยซ้ำ “ถ้าโง่ไปเอะอะโวยวาย ฟาดงวงฟาดงาใส่คุณตะวันที่ปันใจไปให้สาวอื่นโดยไม่คิดให้ดีๆ ก่อน ก็อดได้เท่านั้นสิครับ” โสรัตน์ตอบยิ้มๆ “ได้อะไรครับคุณอา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD