บทที่1

1188 Words
บทที่ 1 แม้จะกระวนกระวายใจที่ถูกจับขึ้นเกี้ยวอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแทนพี่สาวที่หายตัวไปทิ้งเอาไว้เพียงแค่จดหมายด้วยเหตุผลแปลกประหลาด `ข้าจะไปอยู่กับชายที่ข้ารัก ไม่ต้องเป็นห่วงข้า ชีวิติข้ายอมดีกว่าแต่งให้รั่วหยางจิ้น` ในเมืองหลวงยามนี้ชายหนุ่มรุ่มเดียวกันมีผู้ใดมีอนาคตสดใสเกินกว่าคุณชายรั่วด้วยงั้นหรือ คนที่เป็นอันดับหนึ่งของสถานศึกษาหลวง แม้จะกังขาในการหายตัวไปของพี่สาว แต่ในความรู้สึกต่าง ๆ นั้นก็แอบมีความยินดีอยู่ส่วนหนึ่งจนฝูหรงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรังเกียจตัวเอง เพราะแท้จริงแล้วการแต่งงานครั้งนี้ แม้จะถูกบังคับร้องขอให้เข้าพิธีแทนพี่สาว แต่ตัวของนางเองนั้นก็ไม่ได้รังเกียจคนที่จะต้องเข้าพิธีด้วย เพราะว่าหญิงสาวแอบหลงรักคู่หมั้นของพี่สาวมานานแล้ว ตั้งแต่จำความได้ฝูหรงเป็นรองพี่สาวต่างมารดามาตลอดในทุกสิ่งและทุกอย่าง คงเป็นเพราะมารดาของนางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาที่แต่งเข้ามาเป็นได้เพียงอนุก็เท่านั้น แต่ฝูหรงก็ยังนึกยินดีที่พี่สาวต่างมารดาของนางอย่างฝูอิงไม่ได้ดูแคลนนางนัก อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวที่ดูใจดี ทั้งยังเอ็นดูนางไม่ต่างจากน้องสาวแท้ ๆ นางเลยเต็มใจดูแลพี่สาวราวกับเป็นสาวใช้คนสนิท อีกฝ่ายไม่เคยมีการกลั่นแกล้งให้ได้เจ็บตัวเหมือนที่นางได้ยินคุณหนูและบุตรีของอนุในจวนอื่น ๆ ถูกกระทำ และเพราะอย่างนั้นจึงทำให้เว่ยอิงลั่วรู้สึกว่าตนเองจะต้องเจียมเนื้อเจียมตัวและอยู่ในโอวาทของท่านแม่ใหญ่และคุณหนูซึ่งเป็นพี่สาวต่างมารดาของนางอย่างไม่ควรจะขัดขืนอะไรทั้งสิ้น เพราะเท่าที่เป็นอยู่ก็ถือเป็นบุญคุณหนักหนาแล้ว อีกทั้งแม่ใหญ่ไม่ค่อยชอบมารดาของนางนัก หาเรื่องคอยกลั่นแกล้งมารดานางเสมอ ฝูหรงจึงต้องทำตัวดีเอาอกเอาใจพี่สาวต่างมารดา เพื่อไม่ให้ท่านแม่ใหญ่ไม่ลงไม้ลงมือกับมารดาของนางมากนัก ฝูหรงคิดมาตลอดว่าที่พี่สาวของนางเป็นคนดีเช่นนี้ก็คงเพราะได้รับการอบรมที่ดีจากมารดาที่อยู่ในตระกูลบัณฑิต มารดาของนางเองก็พร่ำสอนให้ดูพี่สาวเป็นเยี่ยงอย่าง และอย่าขัดคำสั่งของคนทั้งสองและบิดาเด็ดขาด ต่อให้บิดาจะไม่ได้เลี้ยงหญิงสาวมาดีนักก็ตาม เพราะฐานะของฝูหรงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากบ่าวทั่ว ๆ ไปที่อาศัยอยู่ในจวนแห่งนี้ แต่เพราะนางรับรู้ฐานะของตนเองดี ฝูหรงจึงก้มหน้ารับชะตากรรมไม่ว่าเรื่องใด นางก็ไม่เคยขัดขืน หรือมีปากเสียงกับคนในจวน แม้กระทั่งเรื่องสำคัญอย่างการมีคู่ชีวิตที่มันอาจจะทำให้ชีวิตของนางในวันข้างหน้าเปลี่ยนไปในทิศทางไหนก็ได้ นางก็ยังก้มหน้ายินดีรับสมอ้างและเข้าพิธีแทนพี่สาว หญิงสาวที่นั่งอยู่ในเกี้ยวได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ นางไม่นึกเลยว่าพี่สาวที่ดูเป็นคนรู้ความจะกระทำการเช่นนี้ แต่ฝูหรงก็ต้องละความคิดอื่น ๆ และกลับมารู้สึกกระวนกระวายและคิดหนักอีกครั้งเมื่อตอนนี้เกี้ยวใกล้จะถึงจวนตระกูลรั่วแล้ว พิธีรับเจ้าสาวทำเหมือนอย่างที่ควรทำ แต่ฝูหรงรู้ดีว่ามือของนางสั่นน้อย ๆ ยามที่จะต้องก้าวออกจากเกี้ยวและก็วิตกเข้าไปอีกเมื่อรับรู้ได้ว่าเป็นใครกันที่รับนางออกไป รั่วหยางจิ้นคนที่จะต้องเข้าพิธีกับพี่สาวยามนี้กลับกำลังเข้าพิธีกับนาง อีกฝ่ายนิ่งเสียจนฝูหรงเดาความในใจของเขาไม่ออก หลังจากพิธีจบฝูหรงก็ถูกนำเข้ามารอเจ้าบ่าวอยู่ในเรือนหอ เรือนหอที่ถูกประดับอย่างงดงามเพื่อรอรับภรรยาที่ไม่ใช่นางทำให้เกิดความรู้สึกจุกในใจอยู่บ้าง แต่หญิงสาวก็พยายามกลืนความรู้สึกนั้นลงไปลงคอ พี่สาวของนางหายตัวไปเมื่อคืนหรือเมื่อเช้าก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่เช้าวันนี้ในเรือนของนางว่างเปล่าไร้ผู้คน ที่จริงแล้วเมื่อคืนก็เป็นวันที่เฝูหรงรู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไร นางนอนไม่หลับเพราะพี่สาวจะเข้าพิธีกับคู่หมาย เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ความจริงก็คือหญิงสาวแอบมีความรู้สึกให้กับว่าที่พี่เขยมานมนานแล้ว นางเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้เพราะรู้ว่าไม่ควร และก็ไม่เคยคิดจะเปิดเผยความรู้สึกนี้ให้ใครได้ล่วงรู้ เพราะมันเป็นความผิดที่คิดรักสามีของพี่สาว แต่ยามนี้... เสียงดวงใจของหญิงสาวดังออกมาจนแทบจะทะลุอกเมื่อได้ยินเสียงบานประตูเปิดออก แรงยวบที่ข้างตัวทำให้รู้ว่ามีใครสักคนมานั่งอยู่ข้าง ๆ นาง “พี่จิ้นหรือ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ผ้าแดงที่ถูกคลุมหน้าค่อย ๆ ถูกเปิดออกโดยคนข้าง ๆ แววตาที่นางเคยเพียงแค่แอบมองจากด้านข้างกำลังมองตรงมาที่นางทำให้จิตใจของหญิงสาวสั่นไหวเป็นอย่างมาก นางกำลังจะรู้สึกยินดีแล้วหากไม่ได้ยินประโยคถัดมาที่ออกจากปากของชายหนุ่ม “เจ้าและข้าต่างทำหน้าที่ ข้าทำตามไม่ว่าต้องแต่งกับผู้ใดก็ไม่เกี่ยงงอนอยู่แล้ว เพราะอย่างไร คนที่ริเริ่มสัญญานี้ก็เป็นบิดาของเจ้ากับข้า แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่คนที่ข้าจะต้องแต่งด้วยแต่แรกก็ตาม ข้ารับปากว่าจะทำหน้าที่สามีที่ดี เจ้าเองก็ความปรนนิบัติข้าให้คู่ควรกับที่ข้าเป็นสามีของเจ้าด้วยล่ะ “ คำย้ำเตือนถึงสองคราจากคนที่เคยเป็นคู่หมายของพี่สาวของตนเองทำให้ฝูหรงรู้สึกหน้าชา หญิงสาวพยักหน้าให้อีกฝ่าย แม้จะรู้ดีว่าคนที่รั่วหยางจิ้นต้องแต่งด้วยคือพี่สาวของตน และนางเป็นคนที่มาแทนที่เพราะพิธีไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนออกไปได้ “เจ้าค่ะ” นางควรจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว นี่เป็นการหมั้นหมายระหว่างสองตระกูลบัณฑิตที่นางมานั่งอยู่ตรงนี้ก็เพื่อกู้หน้าตระกูลสองตระกูลก็เท่านั้น แต่ไม่นึกเลยว่าสามีของนาง ณ ตอนนี้ จะดูเมินเฉยราวกับไม่สนใจไยดี หากตรงนี้จะเป็นใครอื่นที่ไม่ใช่พี่สาวหรือนางก็คงได้สินะ หรือบางทีอาจจะเพราะไม่ใช่พี่สาวของนางเขาถึงเอ่ยเช่นนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD