หลังจากค่ำคืนร้อนแรงจบลง มาลีวัลย์ก็กลับมานอนที่ห้องตัวเอง
ทั้งที่บทรักในวันนั้นมาลีวัลย์สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่หลากหลายของเขาแต่เมื่อทุกอย่างจบลง ความอ่อนโยนและอ่อนหวานของเจ้าป่าก็จบตามลงไปด้วย
และเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่านมากเกินไป มาลีวัลย์จึงชวนเพื่อนสนิทอย่างพิกุลออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน ที่ที่ทั้งสองเลือกมาคือสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม เสื่อปิกนิกลายน่ารักถูกปูไว้ ตรงหน้าทั้งสองคืออาหารง่าย ๆ ที่พิกุลทำมา วางอยู่คู่กับขนมคุกกี้ที่มาลีวัลย์เตรียมมา
“คิดถึงยัยรักเนอะ” เมื่อได้ใช้เวลาสบาย ๆ ก็ชวนให้มาลีวัลย์คิดถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ภาคเหนือกับคนรักและลูกสาว
“นั่นสิ ว่าง ๆ เราไปเยี่ยมยัยรักหน่อยดีไหม” พิกุลพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันไปชวนมาลีวัลย์เพราะนานแล้วที่พวกเธอไม่ได้ไปเยี่ยมเพื่อนอีกคน
“แหม ไปกับพวกเธอฉันก็กลายเป็นส่วนเกินน่ะสิ” มาลีวัลย์ส่ายหน้าเบา ๆ ทั้งพยัคฆ์ทั้งอัศวินต่างก็ติดคนรักเสียยิ่งกว่าอะไร มีแต่เธอที่โสดอยู่หัวเดียวกระเทียมลีบ
“ส่วนเกินอะไรกัน เธอก็อยู่กับฉันไง”
“พี่วินคงยอมให้เธอไปคนเดียวหรอก”
“...” พิกุลนิ่งไปแปบหนึ่งก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ เพราะลืมไปเลยว่าคนรักคงไม่มีทางยอมให้เธอไปคนเดียวแน่
“เธอก็รีบหาแฟนซะสิ” พิกุลเท้าคางมองเพื่อนสนิท ทั้งที่มาลีวัลย์ทั้งสวยทั้งน่ารัก คนเข้ามาจีบก็เยอะแยะแต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ยอมตกลงปลงใจกับใครสักที
“มันหาง่ายที่ไหนล่ะ” ใช่ว่ามาลีวัลย์จะไม่เคยลองคุยกับคนอื่น แต่ทุกครั้งใบหน้าของเจ้าป่าก็จะลอยเข้ามาราวกับพันธนาการที่มองไม่เห็นทว่ากลับผูกมัดหัวใจเธอไว้แน่นเหลือเกิน
ทั้งสองพูดคุยกันต่อไม่นานท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีเทาเสียก่อน และก็เหมือนว่าชายหนุ่มที่เธอไปแย่งตัวแฟนเขามาจะรอเวลานี้อยู่แล้ว
เพราะทันทีที่ฝนตั้งเค้า รถยนต์ของอัศวินก็แล่นมาจอดเกยข้างฟุตพาทอย่างกับรู้ล่วงหน้า
“มาด้วยกันสิมาร์”
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวฉันเรียกรถที่บ้านมารับ” มาลีวัลย์มีรถยนต์ส่วนตัว แต่เพราะวันนี้เป็นวันหยุดที่รถบนท้องถนนแน่นขนัดเธอจึงเลือกที่จะใช้ขนส่งสาธารณะแทน
“แต่ฝนจะตกแล้วนะ” พิกุลกวาดตามองทั่วท้องฟ้าก่อนจะหันมาบอกเธอที่ไม่ยอมขึ้นรถเสียที
“ขึ้นมาสิ” เสียงเข้มของอัศวินดังขึ้น เพราะแม้เขาจะไม่ได้สนใจคนอื่นนักแต่สำหรับมาลีวัลย์ที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งอีกฝ่ายก็ยังเป็นถึงเพื่อนสนิทเมียรัก ถ้าปล่อยให้เจ้าหล่อนลำบากตากฝนกลับเองพิกุลก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อกี้ฉันโทรบอกที่บ้านแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมา” มาลีวัลย์โกหกเพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง
“อีกอย่างคอนโดฯ เธอกับฉันก็อยู่คนละทางโน่น เทียวไปเทียวมาเสียเวลาเปล่า ๆ”
“แต่ว่า-”
“เอาน่า”
“เดี๋ยว ! เฮ้อ...ยัยมาร์นะยัยมาร์ ดูสิฝนจะตกอยู่แล้วเนี่ย” พิกุลบ่นพึมพำกับคนรักเมื่อพูดไม่ทันจะจบยัยเพื่อนตัวแสบก็เล่นปิดประตูใส่หน้ากัน ก่อนที่เธอจะเห็นว่าคนข้างตัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน
“คุณโทรหาใคร”
อัศวินไม่ตอบแต่หันกลับมายกยิ้มให้คนรักแทน...
“ว่า” เจ้าป่ารับสายด้วยเสียงกวนประสาทเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคืออัศวิน เพราะนานปีดีดักกว่าไอ้เพื่อนคนนี้จะโทรหาเขา
(“มารับเด็กมึง”)
“ฮะ”
(“กูส่งโลเคชันไปให้ละ”)
“เดี๋ยวนะ ใครเด็กกู”
(“ก็คนที่มึงตามตูดเขาไปถึงห้องน้ำอะ”)
“หึ” ใบหน้าคมเหยียดยิ้มมุมปาก ถึงว่าทำไมวันนั้นอัศวินถึงมองเขาแปลก ๆ ที่แท้มันดันหูตาไวมารู้เรื่องนี้เข้าจนได้
“เรื่องของพวกกูมันจบลงบนเตียง จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”
(“งั้นเหรอ กูจะได้ไม่ต้องห่วงเพราะเหมือนมีคนจะไปส่งมาร์อยู่เยอะเหมือนกัน แค่นี้นะ”) ไม่รอให้เจ้าป่าพูดอะไร ปลายสายก็กดวางปล่อยให้อีกคนมองโทรศัพท์อยู่นิ่งหลายนาที
“มีคนอยากไปส่งเยอะ แล้วเกี่ยวอะไรกับกูล่ะ” คิดแค่นั้นโทรศัพท์เครื่องสวยก็ถูกโยนลงโต๊ะกว้างเพราะประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ทำเขาเสียอารมณ์ไม่น้อย และกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ขับรถยนต์คู่ใจมาตามโลเคชันที่อัศวินส่งให้แล้ว
“แม่งเอ๊ย” ขณะที่เจ้าป่ากำลังสับสนกับตัวเองอยู่นั้น ตาคมก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาต้องมาที่นี่กำลังยิ้มหน้าระรื่นกับชายอื่นไม่มีท่าทางกังวลอย่างที่อัศวินบอกเลยสักนิด
“ไปตามที่บอกได้เลยนะคะ อ๊ะ พี่ป่า” มาลีวัลย์ที่กำลังบอกทางชายแปลกหน้าอยู่ดี ๆ ก็โดนมือหนาของคนมาใหม่กระชากลากถูกให้ขึ้นมาบนรถยนต์ที่จอดอยู่ไม่ไกล
“พี่มาได้ไง”
“ทำไม ถ้าฉันไม่มาเธอคงระริกระรี้ไปกับคนอื่นแล้วใช่ไหม” เจ้าป่าแดกดันเมื่อเอาตัวเองขึ้นมานั่งข้างหญิงสาวแล้ว
“ไม่ใช่นะ มาร์แค่ถามเฉย ๆ” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเพราะน้ำเสียงเจ้าป่าเมื่อครู่มันทั้งแข็งขึงและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ทั้งที่มาลีวัลย์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปทำอะไรให้เขา อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าเจ้าป่ามาที่นี่ได้อย่างไรจริง ๆ ที่ถามเพราะสงสัยเท่านั้นเอง
“ไม่เห็นต้องว่ากันเลย”
ตาคมเหลืบมองคนข้างตัวเรียบนิ่ง และสายตานั้นทำให้มาลีวัลย์เงียบปากในฉับพลัน สายตาของเขาราวกับมองเด็กที่ทำความผิด ทั้งที่เธอไม่ทันทำอะไรด้วยซ้ำ
ไม่นานรถยนต์คันสวยก็แล่นมาจอดยังคอนโดมิเนียมหรูที่ช่วงนี้เธอได้อาศัยรถเขามาที่นี่บ่อยเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ้าป่าหลงลืมที่อยู่เธอไปแล้วหรือเปล่าถึงได้พาเธอมาที่นี่ตลอด
“ขึ้นมา” มาลีวัลย์เอาแต่ยืนหันรีหันขวางจนเจ้าป่าต้องเป็นคนเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
ร่างเล็กเดินตามแผ่นหลังกว้างเข้ามาในห้องที่คุ้นเคย คอนโดมิเนียมของเจ้าป่าใหญ่โตเสมือนบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งและมีการจัดสัดส่วนเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีมุมต่าง ๆ ที่แบ่งแยกไว้อย่างเป็นระเบียบ
ปกติมาลีวัลย์จะมาที่ห้องนี้ก็ตอนที่เจ้าป่าต้องการทำเรื่องอย่างว่า แต่เพราะวันนี้เธอขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้มีเรื่องบนเตียงมาเกี่ยวข้องจึงชวนให้มาลีวัลย์ทำตัวไม่ถูก
“ดื่มตั้งแต่หัววันเลยเหรอคะ”
มาลีวัลย์ถามขึ้นเพราะเมื่อเข้ามาในห้องร่างสูงก็เดินตรงไปที่ตู้เย็นก่อนจะกระดกเบียร์ราวกับน้ำเปล่า
ตากลมเหลือบมองนาฬิกาพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นย่ำแล้ว และดูจากชุดก็เหมือนว่าเจ้าป่าจะเพิ่งกลับจากบริษัทยังไม่น่าได้ทานอาหารเย็นแล้วยังไปดื่มแอลกอฮอล์รัว ๆ แบบนั้นอีก ไม่รู้จักห่วงสุขภาพตัวเองหรือไง
“ไม่ให้ดื่มแล้วจะให้ทำอะไร เธอมีอะไรน่าสนใจกว่านี้ไหมล่ะ” เจ้าป่าไม่พูดเปล่า นัยน์ตาคู่คมยังไล่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าอกกลมกลึงอย่างสื่อความหมาย !!